Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 110 ผมขอให้คุณมีอนาคตที่สดใส
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 110 ผมขอให้คุณมีอนาคตที่สดใส
การสอบสมการเชิงอนุพันธ์เชิงสามัญเป็นจุดเริ่มต้นของสัปดาห์สอบ ถัดไปเป็นคณิตวิเคราะห์ การวิเคราะห์เชิงซ้อนและคณิตศาสตร์ดิสครีต นักศึกษาทุกคนต่างก็โอดครวญ สอบวิชาสุดท้ายเป็นฟิสิกส์และนั่นก็เป็นอะไรที่แย่มากสำหรับพวกเขา
อันที่จริงสอบเหล่านี้มันก็โอเค
อย่างน้อยมันก็โอเคสำหรับลู่โจว เขากังวลเรื่องสอบการเมืองการปกครองมากกว่า
เทอมก่อนเขาเกือบตกประวัติศาสตร์สมัยใหม่ สอบครั้งนี้เกี่ยวกับสถานการณ์และนโยบาย และเขาก็อาจจะตกได้ ปกติแล้วเขาจะแค่เขียนอะไรเหลวไหลให้มันจบๆไป แต่เขาไม่มีเรื่องเหลวไหลให้เขียน…
ด้วยเหตุนี้หัวหน้าห้องจึงมาคุยกับเขาเป็นการเฉพาะ
“…ลู่โจว ถ้าเธอตกวิชาการเมือง มันคงไม่ดีนัก วิชานี้มีหน่วยกิตเยอะมาก คณบดีเขียนชื่อเธอลงในพรรคแล้ว แต่คณะกรรมการมหาวิทยาลัยมีความเห็นเกี่ยวกับเกรดของเธอ ดังนั้นทางภาควิชาจึงมีแผน เราจะส่งใบสมัครเข้าพรรคให้เธอก่อน จากนั้นก็ไปกับนักเคลื่อนไหวพรรคคนอื่นเพื่อเข้าร่วมพรรคของชั้น เธอคิดว่าไง?”
พรรคมีที่ว่างจำกัด และทุกห้องจะมีที่อยู่สองที่ ปกติแล้วหัวหน้าห้องกับเลขาของห้องจะได้ที่ว่างนั้น
ถ้าลู่โจวขโมยไปที่หนึ่ง นั่นหมายความว่าไม่หัวหน้าห้องก็เลขาของห้องจะถูกตัดสิทธิ์
ไม่มีทางอื่น อัจฉริยะมีความสำคัญมากกว่า
ไม่มีใครในคณะเลยที่แก้ปัญหาอย่างข้อคาดการณ์ของโจว ต่อให้คณะกรรมการมหาวิทยาลัยจะไม่พอใจกับเกรดการเมืองการปกครองเขา แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่พอใจ
ทำไมคุณต้องตัดสินใจให้ผม?
ผมเคยขอเข้าร่วมเหรอ?
ลู่โจวกระแอมแล้วตอบอย่างสุภาพ “อาจารย์ ผมไม่ร่วมได้ไหม? ผมไม่สนใจจริงๆ”
เขาไม่สนใจข้าราชการเลย เขาไม่สนใจเลยว่าเขาจะเข้าร่วมหรือไม่
ในโลกวิชาการ คุณสมบัติและประสบการณ์มีความสำคัญ ปูมหลังมีความสำคัญ ผู้แนะนำมีความสำคัญ…แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความสามารถ
ถ้าเขาได้เหรียญฟิลด์ เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ
“เธอไม่เข้าร่วม?” อาจารย์จางถามด้วยสายตาเบิกกว้าง เขากล่าว “โอกาสดีแบบนี้! เธอแน่ใจเหรอ?”
อาจารย์จางหวังว่าลู่โจวจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ท้ายที่สุดแล้วการฟังการบรรยายไม่กี่ครั้งและเขียนเรียงความมันก็ไม่ได้ยากเกินไป…
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนยอมทิ้งโอกาสนี้ไป
อย่างไรก็ตามจากมุมมองของลู่โจว เขาไม่อยากเสียเวลากับวิชาที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ เขาอยากอ่านวิทยานิพนธ์แทนมากกว่า แถมก็ใช่ว่าเขาจะมีเวลาว่าง…
ลู่โจวถามอย่างจริงจัง “ผมต้องเข้าร่วมเหรอ?”
อาจารย์จางส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ ไม่ต้องก็ได้ ถ้าเธอตัดสินใจแบบนั้น…งั้นอาจารย์จะถ่ายทอดการตัดสินใจของเธอ”
ลู่โจวพยักหน้า “ครับ ขอบคุณครับอาจารย์”
อาจารย์จางทนดูนักศึกษาคนนี้ทิ้ง’อนาคตที่สดใส’ไปไม่ได้ เขายังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“ฮัลโหล ศาสตราจารย์อู๋ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“อะไรนะ? โปรเจกต์? แน่นอน! ผมจะไป!”
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”
อาจารย์จางวางสายแล้วแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “โอ้ ที่ปรึกษาปริญญาเอกของอาจารย์ต้องการให้อาจารย์ไปช่วยโปรเจกต์วิจัย เกี่ยวกับการเข้าพรรค ลองพิจารณาอีกครั้ง เอาล่ะอาจารย์ต้องไปแล้ว”
ลู่โจว “…”
ทำไมชายคนนี้ถึงยืนกรานขนาดนี้นะ…
ลู่โจวรับทรานสคริปแล้วกำลังจะออกจากออฟฟิศ แต่จู่ๆอาจารย์จางก็หยุดเขาไว้
“เอ้อ มีอีกเรื่อง”
ลู่โจวหยุดเดินแล้วหันหน้ากลับ “ครับ?”
อาจารย์จาง “วันที่ยี่สิบพอเธอสอบเสร็จ อย่าพึ่งไป รอจนถึงวันที่สิบเดือนมกราคม”
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้วางแผนกลับบ้านเร็วขนาดนั้น เขายังมีประชุมที่พรินซ์ตันอีก แต่เขาก็สงสัยว่าทำไมเขาต้องรอ
ลู่โจวถาม “ทำไมเหรอครับ?”
อาจารย์จางยิ้มแล้วกล่าว “เป็นเรื่องดีสิบรางวัลทุนการศึกษาพิเศษประจำปีของมหาวิทยาลัยจินหลิง เธอได้รับเลือกจากภาควิชาคณิตศาสตร์ จำไว้ว่าให้เตรียมคำพูดต้อนรับรางวัลด้วย”
…..
สอบฟิสิกส์ในที่สุดก็จบลง และทั้งเอกคณิตศาสตร์ก็เปี่ยมไปด้วยความยินดีและความปลดปล่อย
ไม่ว่าผลสอบจะเป็นยังไง แต่สอบก็จบลงแล้ว
ในขณะเดียวกันสอบเข้าปริญญาโทก็จบลงเช่นกัน นักศึกษาปีสี่ในที่สุดก็คลายใจ
เฉินยู่ซานและลู่โจวก็ไปที่ร้านเคเอฟซีใกล้ๆมหาวิทยาลัย พวกเขาสั่งแฮมเบอร์เกอร์มากันคนละชุดและนั่งตรงข้ามกัน
ทั้งสองชอบอาหารขยะเหมือนกันโดยไม่คาดคิด
ลู่โจวถาม “สอบเป็นไงบ้าง?”
เฉินยู่ซานยิ้มแล้วกล่าว “สวยงาม! ฉันคิดว่าฉันเริ่มเตรียมตัวสัมภาษณ์ได้แล้ว”
ลู่โจว “เยี่ยมไปเลย”
เฉินยู่ซานกล่าวด้วยความมั่นใจ “แน่นอน! นายล่ะ?”
ลู่โจวถอนหายใจแล้วกล่าว “นอกจากการเมืองการปกครอง วิชาอื่นค่อนข้างง่าย อาจได้เต็มหมด”
เฉินยู่ซานถอนหายใจ “คะแนนเต็ม? นายเก่งเกินไป ฉันเกือบลืมไปเลยว่านายเป็นนักศึกษาคณิตศาสตร์ที่ฉลาดที่สุดในมหาวิทยาลัย ถ้าศาสตราจารย์สามารถคิดโจทย์ที่นายแก้ไม่ได้ ศาสตราจารย์คนนั้นคงได้เลื่อนตำแหน่ง”
เมื่อเขาได้ยินแบบนั้น ลู่โจวก็เกือบสำลักโค้ก “คุณพูดเกินจริงไปแล้ว…”
“บางทีอะนะ” เฉินยู่ซานกล่าวก่อนจะจิบโค้กแล้วมองเขาด้วยรอยยิ้ม “จะว่าไป รุ่นน้องน้อย ปีหน้าก็เทอมสองแล้ว นายมีแผนสำหรับอนาคตไหม?”
ลู่โจวคิดแล้วกล่าว “ตอนนี้ ผมยังไม่มีแผนอะไรเลย แต่ผมกำลังคิดจะรับปริญญาฟิสิกส์เหมือนกัน”
เฉินยู่ซาน “ว้าว…ฟิสิกส์กับคณิต? มันค่อนข้างต่างกันใช่ไหม? นายทำสองอย่างพร้อมกันไหวเหรอ?”
ลู่โจว “น่าจะไหว ถ้าคุณเข้าใจคณิตศาสตร์ โจทย์ฟิสิกส์ส่วนใหญ่ก็แก้ได้ไม่ยาก ท้ายที่สุดแล้วสมการฟิสิกส์ก็มาจากคณิตศาสตร์”
“มีอะไรอีกไหม? นายอยากไปเรียนต่างประเทศไหม? ฉันได้ยินว่าพรินซ์ตันมีสถานะสูงในสาขาคณิตศาสตร์ ด้วยความสามารถของนาย นายควรได้รับข้อเสนอใช่ไหม?”
ลู่โจวคิดชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “บางที แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีแผนไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมจะรอจนกว่าผมจะจบปริญญาตรี ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยจินหลิงก็เหมาะกับผมมาก”
อันที่จริงเขาคิดเรื่องเรียนต่อต่างประเทศมานานแล้ว
หลังจากเขาได้รับรางวัลหนึ่งล้านหยวน เขาก็มีเงินเรียนต่อต่างประเทศ ในทางทฤษฎีเขาสามารถไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยอันดับสูงๆอย่างพรินซ์ตันหรือเบิร์กลีย์
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมที่นั่นเหมาะกับเขาไหม เขารู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องไปดูด้วยสายตาตัวเองก่อน
ระหว่างการประชุมทางวิชาการพรินซ์ตันในเดือนกุมภาพันธ์ เขาก็สามารถพูดกับสหายที่เรียนคณิตศาสตร์เหมือนกัน หรือบางทีก็ไปดูรอบๆพรินซ์ตันเพื่อดูว่าสถาบันคณิตศาสตร์ระดับโลกเป็นยังไงบ้าง
ลู่โจวค่อนข้างตั้งหน้าตั้งตารอดู
“เอาล่ะ พอมหาวิทยาลัยเปิดปีหน้า ฉันจะอยู่ที่มหาวิทยาลัยเยี่ยน ฉันดูแลนายไม่ได้แล้ว ดังนั้นฉันขอดื่มให้นายที่นี่!” เฉินยู่ซานกล่าวขณะถือโค้ก “ฉันขอให้นายประสบความสำเร็จในชีวิต!”
ลู่โจวคิด ‘คุณเคยดูแลผมด้วยเหรอ? ผมไม่ใช่เหรอที่เป็นคนสอนคณิตให้คุณตลอด?’
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดออกมาเสียงดัง เขาไม่ได้โง่ขนาดนั้น
ลู่โจวชนแก้วกับเธอแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ผมขอให้คุณมีอนาคตที่สดใสเช่นกัน!”
…………………………………….