Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1112 เสียงแห่งลม
ลู่โจวยังคงจำได้ว่า…
ในตอนแรกระบบได้บอกเขาว่าเมื่อวิชาทั้งหมดของเขาถึงระดับสิบเขาจะปลดล็อกโลก…
ซึ่งหมายความว่าเขาสามารถเลือกได้ว่า ‘ยุคอนาคต’ ของระบบจะเป็นอย่างไรก็ได้
ลู่โจวไม่ได้คิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตอนที่เขาเปิดการ์ดภารกิจสีทองในตำนาน เขานั้นตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับทั้งคืน
และตอนนี้คณิตศาสตร์ของเขาถึงระดับสิบแล้ว เขาได้ก้าวไปสู่อนาคตใกล้กว่าเดิมอีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว…
ลู่โจวสูดหายใจเข้าลึกๆ และมองดูพระอาทิตย์ขึ้นจากไกลๆ เขากำหมัดแน่นก่อนที่ผ่อนคลายเบาๆ
ความรู้สึกตื่นเต้นตอนนี้นั้นเป็นของจริง
แต่ในทางตรงกันข้ามกับความตื่นเต้นและอะดรีนาลีน มันคือการตรัสรู้ที่มาเติมเต็มหัวใจของเขา
ราวกับว่าเขาสามารถสัมผัสได้ว่าระบบกำลังพยายามจะบอกอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่ายุคแห่งอนาคต…
…
หลังจากที่ลู่โจวบอกลาชายชราในการเดินตอนเช้า เขาก็มุ่งหน้ากลับบ้านไป
ลู่โจวไปที่ห้องทำงานชั้นสองและนั่งลงที่โต๊ะทำงานตัวเอง เขาตรวจสอบอีเมลเป็นอย่างแรก
ผ่านมากว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านตั้งแต่เขาส่งอีเมลไป ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ก็ยังไม่ได้ตอบกลับมา ลู่โจวคิดว่าฟาลติ้งส์คงจะกำลังยุ่งกับอะไรบางอย่างหรือไม่ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
ลู่โจวส่ายหัวเบาๆ และยิ้ม เขาเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วเปิดแล็ปท็อปขึ้นมา
จากนั้นเขาก็ดื่มขวดยาพลังงานของระบบเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะตัวเอง เขารู้สึกว่าความเหนื่อยล้าที่มีได้จางหายไปจากร่างกายเพื่อพร้อมสำหรับการทำงานในวันนี้
ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวไอ ลู่โจวได้ใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายในการแปลงเนื้อหาในจดหมายร่างลงไปในคอมพิวเตอร์ของเขา
วิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์มีความยาวถึงสี่สิบหน้า ซึ่งเยอะกว่าที่เขาคาดเอาไว้
นอกเหนือจากการรวมกันของพีชคณิตและเรขาคณิตแล้ว ยังมีโครงสร้างโครงร่างของอนาคตของคณิตศาสตร์ รวมถึงการคาดเดาบางอย่างที่เขาค้นพบตอนค้นคว้าเกี่ยวกับสมการนี้ด้วย
เนื้อหาเสริมเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการเป็นฉบับพิเศษในวารสาร Future Mathematics
จริงแล้วๆ ถ้าเขามีเวลามากพอ เขาก็คงสามารถพิสูจน์ประพจน์เหล่านี้ได้เกือบทั้งหมดอย่างแน่นอน เขามีความคิดที่ยอดเยี่ยมในการพิสูจน์สมการเหล่านี้อยู่แล้ว
แต่มันไม่ใช่หัวข้อหลักของบทความนี้
อย่างไรก็ตาม มันก็จะมีสมการอีกมากมายไม่รู้จบ
แทนที่จะเสียเวลากับสมการที่ไม่สำคัญ เขาเลือกทำประพจน์ที่สำคัญมากกว่า
สำหรับปัญหาพื้นฐานนั้น เขาจะปล่อยให้นักวิชาการในอนาคตเป็นคนทำต่อเอง…
หลังจากที่ลู่โจวกดปุ่มเอนเทอร์ เขาก็เอนหลังพิงเก้าอี้
เขาไม่ต้องรอนาน
วินาทีที่เอกสารของเขาถูกอัปโหลด กล่องโต้ตอบสีน้ำเงินที่คุ้นเคยก็เด้งขึ้นมาทันที
[ขอแสดงความยินดี ผู้ใช้งาน สำหรับการที่ได้ทำภารกิจในตำนานสำเร็จ!]
…
เอกสารของเขาถูกอัปโหลดไปตอนเที่ยง
พื้นที่ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนนิดๆ
สถาบันเคลย์ที่สว่างไสวในยามราตรีเป็นจุดเด่นสำหรับแถบชานเมืองที่เงียบสงบและมืดมิด
ในฐานะสถาบันการศึกษาเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร วัตถุประสงค์หลักของสถาบันก็คือเพื่อการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ทางคณิตศาสตร์ ตลอดจนมอบรางวัลและเงินเพื่อช่วยเหลือแก่นักคณิตศาสตร์ที่มีศักยภาพทั้งหลาย
ที่นี่ต่างจากสถาบันวิจัยคณิตศาสตร์อื่นๆ ที่ต้องกังวลเรื่องเงินทุน เพราะสถาบันนี้กังวลสิ่งที่ตรงกันข้ามไป
เช่นตอนนี้
ผู้อำนวยการดีตันกำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศ เขากังวลว่าจะกำจัดเงินเหล่านี้อย่างไรดี
นับตั้งแต่สมมติฐานของรีมันน์ได้รับการพิสูจน์ที่งานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติ พวกเขาเริ่มก็กังวลเกี่ยวกับการให้เงินรางวัลรางวัลมิลเลนเนียม
ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีเงิน แต่เพราะผู้ชนะรางวัลเป็นคนพิเศษมากๆ
สมการหยาง-มิลส์ และสมการเนเวียร์สโตรกส์ ก็ถูกผู้ชายคนนี้พิสูจน์สมการรางวัลมิลเลนเนียมมาแล้ว!
และเขากำลังจะชนะอีกครั้ง
ไม่ต้องพูดถึงว่าสำหรับสมมติฐานของรีมันน์ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีค่าที่สุดในเจ็ดข้อนี้
ราวกับว่ารางวัลนี้มีมาเพื่อเขาคนเดียว!
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะดี
เพราะมันเป็นแค่เพียงรางวัล ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นๆ
ศาสตราจารย์ลู่กลับไม่ชอบรับรางวัล เขามักจะรำคาญกับรางวัลเหล่านั้น
แน่นอนว่าเพราะลู่โจวไม่ได้ขาดเรื่องชื่อเสียงหรือเงินทอง จากครั้งล่าสุด เขาไม่ได้สนใจแม้แต่จะรับรางวัลสำหรับสมการหยาง-มิลส์ด้วยซ้ำ นักฟิสิกส์จากสถาบันของลู่โจวกลับได้รับรางวัลและเช็คมูลค่าหลายล้านเหรียญของเขาไปแทน
ตอนนี้ทั้งสถาบันเคลย์ ไล่ตั้งแต่สมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาไปจนถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังหารือกันว่าควรออกรางวัลหรือไม่…
“พอแล้ว! ผมไม่ได้เป็นบอร์ดที่ปรึกษาสาขาวิทยาศาสตร์แล้วนะ คุณควรหานักวิชาการที่มีความสามารถมากกว่านี้เพื่อรับตำแหน่งนี้สักที! อย่าโยนปัญหาของคุณมาที่ผมทุกครั้งสิ!”
เสียงของศาสตราจารย์คาร์ลสันดังมาจากห้องผู้อำนวยการ
เมื่อเขาได้ยินผู้อำนวยการดีตันวางแผนที่จะมอบความรับผิดชอบนี้ให้เขา เขาก็โกรธทันที
ผู้อำนวยการดีตันมองไปที่ศาสตราจารย์คาร์ลสัน เขาไม่อยากรบกวนชายชราที่ใกล้เกษียณคนนี้
แต่เมื่อเขานึกถึงสถานะของผู้ชนะและความยากลำบากในการมอบรางวัลให้ลู่โจว เขาก็อดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมให้เขาทำ
“แต่สถาบันวิจัยของเรามีชื่อเสียงอย่างสูง และคุณเป็นคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำสิ่งนี้ได้นะครับ คุณเคยมีปฏิสัมพันธ์กับเขามาก่อน! ได้โปรด! ช่วยด้วยครับ! ผมขอสาบานว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ!”
ดีตันทำอะไรไม่ถูก
เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์ที่ลำบากมากมายเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งนี้
รางวัลมิลเลนเนียมนั้นคือการบอกเป็นนัยว่าต้องใช้เวลาทั้งสหัสวรรษในการพิสูจน์
มันแก้ไม่ได้ภายในศตวรรษ แต่ใครจะรู้ว่าจะมีคนที่สามารถพิสูจน์สามสมการในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้?
ถ้าสมการเหล่านี้ไม่ได้ถูกเลือกโดยนักวิชาการชั้นนำในสาขาต่างๆ แล้วล่ะก็ เขาคงจะเริ่มสงสัยว่ารางวัลมิลเลนเนียมเป็นเรื่องหลอกลวงหรือเปล่า
“อันที่จริงมันไม่ได้ยากอย่างที่คุณคิดหรอกครับ สหพันธ์คณิตศาสตร์นานาชาติยอมรับข้อพิสูจน์ของเขาแล้ว เราแค่ต้อง…”
ศาสตราจารย์คาร์ลสันกล่าวอย่างโกรธเคือง “งั้นก็ให้รางวัลแก่เขาซะสิ!”
ผู้อำนวยการดีตันกล่าวว่า “แต่… แต่เราพยายามให้รางวัลเขาสองรางวัลแล้ว เขาก็ไม่สนใจแม้แต่จะเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลครั้งที่สองด้วยซ้ำ…”
คาร์ลสัน “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าให้รางวัลเขาสิ!”
ดีตัน “แต่นั่นมันผิดกฎนะครับ…”
คาร์ลสัน “บ้าเอ๊ย! แล้วจะให้ทำอะไรกันแน่เนี่ย!”
เสียงคำรามดังมาจากด้านในของออฟฟิศมาถึงทางเดิน
จากนั้นผู้ช่วยเด็กฝึกงานวัยสามสิบได้บังเอิญเข้ามาในออฟฟิศ เขาตกใจกับเสียงตะโกน เขาผลักประตูเข้ามาอย่างเงียบๆ
เขามองไปที่ศาสตราจารย์คาร์ลสันและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกลืนน้ำลายและพูด
“ศาสตราจารย์คาร์ลสันครับ…”
ศาสตราจารย์คาร์ลสันกำลังอารมณ์ไม่ดี เขามองไปที่ผู้ช่วยคนใหม่ที่เขาจ้างมาได้ไม่นาน “มีอะไร? บอกมา”
ผู้ช่วยพูดอย่างรวดเร็ว
“เมื่อไม่นานมานี้ ศาสตราจารย์ลู่ได้โพสต์บทความบน arXiv คุณกำลังทำตามทิศทางการวิจัยนั้น ดังนั้นผมจึงได้รับการแจ้งเตือน”
ศาสตราจารย์คาร์ลสัน “ฉันรู้ ฉันจะดูมันตอนเช้า”
ผู้ช่วยรู้ว่าศาสตราจารย์คาร์ลสันจะพูดแบบนี้
แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้
เขารู้ว่าถ้าเขาปล่อยให้ศาสตราจารย์คาร์ลสันเข้านอนคืนนี้โดยไม่ได้อ่านเอกสารนั้น เขาจะถูกดุในวันพรุ่งนี้แน่นอน
ผู้ช่วยกลืนน้ำลายและพูด
“อันที่จริง ผมอ่านบทคัดย่อของบทความแล้วครับ
“เนื่องจากระดับความรู้ไม่ถึงจึงไม่สามารถประเมินรายงานได้อย่างถูกต้อง แต่เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าบทความนี้เกี่ยวข้องกับสมมติฐานของรีมันน์ ผมจึงตัดสินใจปริ้นท์บทความนี้ออกมา คุณดูได้หากต้องการ… ไม่ได้ว่าอะไรนะแต่ผมคิดว่าคุณจะตกใจถ้าอ่านบทความนี้”
ตกใจ?
อะไรจะน่าตกใจไปกว่าสมมติฐานของรีมันน์อีกล่ะ?
ศาสตราจารย์คาร์ลสันเลิกคิ้วขึ้น
แม้ว่าสัญชาตญาณทางคณิตศาสตร์ของเขาจะบอกเขาว่าผู้ช่วยคนใหม่นั้นไม่เก่ง แต่เขายังคงหยิบเอกสารที่พิมพ์ออกมาจากมือของผู้ช่วยและอ่านบทคัดย่อนั้น
ดีตันสนใจในสิ่งที่ผู้ช่วยพูด เขาจึงเอนตัวอ่านหนังสือพิมพ์ร่วมกับคาร์ลสัน
จากนั้น…
ทั้งสองก็หยุดอ่านไม่ได้
นาฬิกาบนผนังค่อยดัง ติ๊กๆ
นี่เป็นเสียงเดียวที่มีในออฟฟิศ
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที ความเงียบในสำนักงานก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงอุทานของทั้งสองคน
“เฮ้ย…”
“นี่มัน…”
“นี่… นี่คือ…”
ศาสตราจารย์คาร์ลสันรู้สึกคอแห้งผากไปทั่วทั้งคอ เขาหยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมา หลังจากจิบแล้ว เขาก็รู้อีกทีว่าถ้วยของเขาว่างเปล่าไปแล้ว
“การผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของพีชคณิตและเรขาคณิต…” ผู้อำนวยการดีตันกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เขามองดูนามธรรมและพูดอย่างไม่เชื่อ “นี่หมายความว่า เข- เขาทำมันได้แล้วเหรอ?”
“อย่างน้อยเขาก็อ้างไว้แบบนั้น…”
คอของศาสตราจารย์คาร์ลสันขยับราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่างออกมา เขามองย้อนกลับไปที่ผู้ช่วยของเขาและพูดว่า “โทรหาสถาบันคณิตศาสตร์ฮาร์วาร์ดด่วน! ติดต่อชิวเฉิงถงให้ฉันที”
“ครับ!”
ผู้ช่วยมองไปที่ใบหน้าที่จริงจังของเจ้านายและพยักหน้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากำลังจะออกจากออฟฟิศไป ศาสตราจารย์คาร์ลสันก็หยุดเขาเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน คุณขับรถมาหรือเปล่า?”
“ผมจอดรถในโรงรถ… ทำไมเหรอ?”
“ลืมเรื่องโทรไปก่อน พาผมไปฮาร์วาร์ดที! ตอนนี้เลย!”
ศาสตราจารย์คาร์ลสันยัดเอกสารลงในกระเป๋าของเขาและเดินออกจากออฟฟิศทันที
ผู้อำนวยการดีตันกลับมาสู่โลกความจริงทันทีและพูดขึ้น
“เดี๋ยวนะ เกี่ยวกับรางวัลสมมติฐานของรีมันน์—”
“ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง! สิ่งนี้มันสำคัญกว่า!”
ลืมสมมติฐานของรีมันน์ไปเลย…
แม้ว่าจะมีการเพิ่มข้อคาดการณ์ทุกข้อที่เกี่ยวข้องกับสมมติฐานของรีมันน์ แต่ก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับบทความนี้อีกแล้ว
ศาสตราจารย์คาร์ลสันหายตัวไปจากออฟฟิศอย่างรวดเร็ว เขาทิ้งผู้อำนวยการดีตันไว้เบื้องหลัง…
………………………