Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1122 ความทรงจำที่สอง
เป็นครั้งที่สองที่สหพันธ์คณิตศาสตร์นานาชาติได้ยอมรับทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ซึ่งทำให้ข่าวดังกล่าวก็แพร่กระจายไปทั่วโลกในทันที
โลกแห่งคณิตศาสตร์ทั่วทั้งโลกต่างพากันตกใจกับข่าวที่น่าตื่นเต้นนี้
เที่ยวบินของศาสตราจารย์เถาเจ๋อเซวียนยังไม่ได้บินออก เขากำลังรออยู่ในสนามบินขณะที่เขาเปิดบล็อกเวิร์ดเพรสส์และโพสต์ความคิดของเขาบนเอกสารใหม่นั้น
แม้แต่นักศึกษาปริญญาโทก็สามารถเข้าใจโพสต์ของเขาได้ไม่ยาก นี่เป็นโอกาสสำหรับนักวิจัยที่ไม่ค่อยเก่งที่จะสามารถเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในรายงานสะเทือนโลกนี้
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่บล็อกถูกเผยแพร่ออกไป ลิงก์ดังกล่าวก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งวงการคณิตศาสตร์ราวกับการลุกลามของไฟป่า คนในชุมชนคณิตศาสตร์กลายเป็นบ้ากันอีกครั้ง!
แต่อีกด้านหนึ่ง การสนทนาเริ่มมีมากขึ้นจนเรียกได้ว่ามันกำลังท่วมฟอรัมเว็บไซต์แมทโอเวอร์โฟลวแล้ว
ทุกโพสต์นั้นเกี่ยวกับลู่โจวและทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่ของเขา
ลู่โจวยังไม่ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการให้กับทฤษฎีนี้ ดังนั้นผู้คนจึงต้องยืมชื่อนี้จากทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่อันโด่งดังจากฟิสิกส์อนุภาคมาใช้ก่อน
[ข่าวด่วน! สมาพันธ์คณิตศาสตร์ระหว่างประเทศเพิ่งประกาศในหอประชุมมหาวิทยาลัยจินหลิงว่าพวกเขายอมรับทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่แล้ว!]
[ฮ่าๆ! นั่นคือโรงเรียนเก่าของฉันเอง!]
[ฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ศาสตราจารย์ลู่จะไม่ประกาศสิ่งใดๆ เว้นแต่เขาจะพูดถูก100% ตอนเขาประกาศที่งานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติว่าเขากำลังจะรวมพีชคณิตและเรขาคณิตเป็นโปรเจกต์วิจัยครั้งต่อไปของเขา ฉันรู้ได้เลยว่าเขามีบางที่เขาต้องแอบซ่อนอะไรไว้แน่ๆ]
[ฉันได้ยินมาว่าฟาลติ้งส์ และชูลทซ์ก็เข้าร่วมในโปรเจกต์นี้ด้วยไม่ใช่เหรอ?]
[พวกเขาทำงานร่วมกันในการวิจัยเกี่ยวกับวิธีการพับ แต่ฉันได้ยินจากเพื่อนร่วมชั้นที่มหาวิทยาลัยบอนน์ว่าพวกเขาไม่ได้ร่วมมือในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาของการวิจัย พวกเขาตัดสินใจที่จะแข่งขันกันเอง…]
[ฉันอยากรู้จังว่าใครเสนอไอเดียแบบนั้นขึ้นมากันนะ]
[แน่นอนว่าต้องเป็นศาสตราจารย์ฟาลติงส์อยู่แล้ว…]
[โชคไม่ดีที่ลู่โจวสามารถพิสูจน์สมการได้สองเดือนหลังจากแยกทางกับพวกเขาไป… ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ช่วยอะไรเลยใช่มั้ย?]
[เอ๊ะ ดูจากการบรรยายของลู่โจวแล้ว พวกเขาก็มีส่วนสนับสนุนเหมือนกันนะ แต่ฉันก็เห็นด้วยว่านั่นคงเป็น… โชคไม่ดีสำหรับพวกเขา]
นักคณิตศาสตร์ต่างพากันนินทาและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราววงในของทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่
นอกจากเรื่อง ‘การแข่งขัน’ แล้วยังมีเรื่องเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเพเรลมานซึ่งเป็นบุคคลที่สันโดษอีกด้วย
ผู้คนต่างสงสัยว่าอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาเข้าร่วมในโปรเจกต์นี้ และสงสัยว่าเขาจะกลับไปที่ชุมชนคณิตศาสตร์อีกหรือไม่ หรือว่าเขาจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ
ตามที่นักศึกษาปริญญาเอกกล่าว ตอนนี้เพเรลมานยังอยู่ที่นี่ ราวกับว่าเพเรลมานโดนมนต์อะไรสักอย่างเพราะเขาไปที่ออฟฟิศทุกวันๆ
แต่ว่าตอนนี้ลืมเรื่องพวกนี้ไปก่อน…
เพราะอิทธิพลของทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่นั้นได้แผ่ขยายออกไปนอกวงการคณิตศาสตร์แล้ว
สมาพันธ์คณิตศาสตร์ระหว่างประเทศไม่เพียงแค่เผยแพร่บทความไปบนเว็บไซต์ของพวกเขาเท่านั้น เพราะแต่แม้เซิร์นซึ่งเป็นองค์กรวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เน้นเรื่องฟิสิกส์พลังงานสูงก็ได้กล่าวถึงชื่นชมบทความนี้ในการแถลงข่าวครั้งล่าสุดเช่นกัน
อันที่จริงคณิตศาสตร์และฟิสิกส์นั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมุมมองทางประวัติศาสตร์แล้ว ความก้าวหน้าทางคณิตศาสตร์ทุกครั้งจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาฟิสิกส์ด้วยเช่นกัน
และไม่ใช่แค่ฟิสิกส์อย่างเดียวเท่านั้น
หนึ่งสัปดาห์หลังจากการประกาศโดยสมาพันธ์คณิตศาสตร์ระหว่างประเทศ ภาพเหมือนของลู่โจวก็ได้ถูกโพสต์บนหน้าปกของนิตยสารไทม์พร้อมกับชื่อที่ไม่แปลกๆ
[‘บุรุษแห่งศตวรรษ’ – ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21]
ในอดีต การให้เกียรติเช่นนี้มักให้แก่นักการเมือง นักธุรกิจหรือคนดัง มันยากมากๆ ที่นักวิชาการจะได้รับตำแหน่งนี้
นอกจากนี้ บทความก็ได้รับการประเมินในเชิงที่เยี่ยมมากๆ …
[… สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว คณิตศาสตร์เป็นวินัยที่ซับซ้อนมากๆ เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจแก่นแท้ของคณิตศาสตร์และพัฒนามันให้กลายเป็นศิลปะได้
[แต่ไม่ใช่สำหรับลู่โจว คณิตศาสตร์เป็นธรรมชาติที่สองของลู่โจวเลยก็ว่าได้
[มันเป็นวิธีที่เขาสามารถเชื่อมต่อกับจักรวาลได้ วิธีที่จะค้นพบความจริงต่างๆ แม้ว่างานของเขาจะห่างไกลจากชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก แต่งานวิจัยของเขาจะเปลี่ยนสังคมและอารยธรรมไปตลอดกาล
[ต้องขอบคุณสติปัญญาและปัญญาของเขาที่ทำความฝันในอนาคตได้กลายเป็นความจริง
[อารยธรรมของเราจะขึ้นไปสูงขึ้นกว่าที่เคยเป็น
[ตอนนี้มนุษยชาติได้ข้ามภูเขาไปอีกลูกแล้ว
[นี่คือจุดสูงสุดของจิตใจมนุษย์]
บอร์ดแคสต์ได้เริ่มออกอากาศในอเมริกาเหนือ
แม้แต่ซีเอ็นเอ็นที่ค่อนข้างมีอคติทางการเมืองต่อการทดลองการจำลองภาพเสมือนจริงของลู่โจวเมื่อสองเดือนก่อนก็ยังมีความคิดเห็นที่เป็นกลาง
พวกเขาไม่ได้ชมเชยและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง… เพราะยังไงแล้วมันก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงได้แน่นอน
มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากที่คนที่ชอบโกหกกลับพูดเรื่องจริงมาซะอย่างนั้น
ภายในห้องปฏิบัติเยือกแข็ง ณ บอสตัน
อีลอนกำลังนั่งอยู่ตรงที่บริการเครื่องดื่ม เขากำลังอ่านนิตยสารไทม์อยู่ จากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้น
“ถ้าเขาอยู่กับคณิตศาสตร์ได้ล่ะก็”
ลอว์เรนซ์ที่นั่งตรงข้ามเขาและกำลังดื่มกาแฟ เขายิ้มและพูดว่า “มีข้อคาดการณ์คณิตศาสตร์ไม่พอให้เขาที่จะพิสูจน์หรอก”
“ใครสนล่ะ? ตราบใดที่เขาไม่มายุ่งกับธุรกิจของเราก็พอแล้ว”
ลอว์เรนซ์ยิ้มและพูดว่า “โอ้ จริงเหรอ? ผมหวังว่าเขาจะผลิตสิ่งที่น่าสนใจออกมานะ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่จะมาขัดผลประโยชน์ของเรา และสิ่งที่เขาคิดค้นนั้นมีประโยชน์มากสำหรับแผนการของผม”
อีลอนขมวดคิ้วและพูดว่า “จริงเหรอ? ผมภาวนาให้ชายคนนี้หยุดบ้างนะ”
ลอว์เรนซ์พูดอย่างไม่ใส่ใจ
“บางทีคุณควรลองเปลี่ยนวิธีการโต้ตอบกับเขาดูนะ”
อีลอนส่ายหัวและไม่ตอบ
เปลี่ยนวิธีการโต้ตอบของฉันเหรอ?
ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็ดีน่ะสิ
ตอนนี้ซิลิคอนแวลลีย์กำลังเละเทะ และมีบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งต้องปิดตัวลงไปเพราะลู่โจว
ตอนนี้ผู้คนไม่ได้พูดถึงแนวโน้มในอนาคต แต่กำลังพูดถึงสิ่งที่ลู่โจวจะทำวิจัยเรื่องต่อไป และวิธีลดความน่าจะเป็นในการแข่งขันกับสตาร์สกายเทคโนโลยี
มันอาจจะฟังดูไร้สาระ แต่นี่คือความจริง
ผู้ประกอบการหลายแห่งในซิลิคอนแวลลีย์ต้องจัดศาสตราจารย์ลู่เข้าไปในการประเมินความเสี่ยงของโปรเจกต์ และพวกเขายังเพิ่มการวิเคราะห์เกี่ยวกับศาสตราจารย์ลู่ลงในพาวเวอร์พอยต์แหล่งเงินทุนของพวกเขาด้วย
สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ เหล่านักลงทุนดูเหมือนจะกลัวเขามากที่สุดแล้วในตอนนี้?!
นี่มันช่างไร้สาระ!
ในขณะที่คนทั้งโลกกำลังพูดถึงศาสตราจารย์ลู่ แต่เขากำลังอยู่ในห้องทดลองใต้ดินที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง โดยไม่สนใจบทความเกี่ยวกับเขาในนิตยสารไทม์เลยสักนิด
ลู่โจวกำลังยืนอยู่หน้าอุปกรณ์การจำลองภาพเสมือนจริงตัวใหม่ เขาสูดลมหายใจเข้าและพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“เสี่ยวไอ พร้อมหรือยัง?”
ข้อความปรากฏขึ้นบนแว่นตา AR ของเขา
[พร้อมมากเลย เจ้านาย! (1 • ᄇ • ) و ✧ ]
ลู่โจวพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรตอบ เขาเดินไปที่อุปกรณ์เสมือนจริงของเขาแล้วนอนลงบนเครื่อง
เขาถอดแว่นแล้ววางลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปสวมแว่นตาของเขา
เวลาในพื้นที่นั้นถูกเซ็ตให้ตรงกับเวลาจริง เขายืนยันเรื่องนี้มานานแล้ว
และจะใช้เวลาสองสามวินาทีในการบูตเครื่อง
ดังนั้นถ้าเขาคิดถูกต้อง…
ลู่โจวหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขากระซิบกับตัวเอง จากนั้นจิตสำนึกของเขาปรากฏขึ้นในพื้นที่ระบบสีขาวบริสุทธิ์
ลู่โจวเดินไปข้างหน้าแผงโฮโลแกรมโดยไม่ลังเล และคลิกที่รายการของเขา
วัตถุทรงกลมสีม่วง-ดำ ล้อมรอบด้วยกลุ่มควัน มันกำลังลอยอยู่ในช่องเก็บของของเขาอย่างเงียบๆ
ไม่มีคำอธิบายรายการใดๆ ราวกับมันไม่ได้อยู่ในนั้น
ไม่มีข้อมูลอื่นใดนอกจากชื่อ ‘ความทรงจำ วอยด์บี’
ลู่โจวมองดูทรงกลมอย่างเงียบๆ หลังจากนับหนึ่งถึงยี่สิบ เขาก็เอื้อมมือไปคว้ามัน
ทันทีที่มือของเขาสัมผัสวัตถุทรงกลมสีม่วง-ดำอันนั้น ควันก็เริ่มขยายออกเป็นหมอกสีดำออกมา
“ มาดูกันว่ามันมีความลับอะไรอยู่กันแน่…”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่โจวได้สัมผัสทรงกลมนี้ เขามองดูมันพันรอบมือของเขาขณะที่เขาค่อยๆ ดึงเข้าไปในความมืดพร้อมกับควัน…
………………………