Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 115 เทียบอีกฝ่ายไม่ได้เลย
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 115 เทียบอีกฝ่ายไม่ได้เลย
หลังสอบสองอาทิตย์ ผลสอบก็ออกมา
อ่าน : สามสิบ ฟัง : สามสิบพูด : ยี่สิบเก้า เขียน : ยี่สิบเก้า รวม หนึ่งร้อยสิบแปด คะแนน
ฉันไม่ได้คะแนนเต็ม?
หนึ่งคะแนนที่ถูกหักในส่วนเขียนยังพอเข้าใจได้ แต่พูดนี่มัน…
ลู่โจวสงสัยว่าทำไมเขาถึงโดนหักไปหนึ่งคะแนนในส่วนพูด
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญมากขนาดนั้น คะแนนโทเฟลหนึ่งร้อยสิบแปด คะแนนก็สูงมากพอแล้ว มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการเพียงหนึ่งร้อยคะแนนเท่านั้น ถ้าเขาอยากไปเรียนต่อปริญญาโทต่างประเทศ เขาใช้ใบรับรองนี้ได้แน่นอน
วันหลังจากที่เขาได้หลักฐานการสอบโทเฟล ลู่โจวก็ได้รับอีเมลจากสถานทูตแจ้งให้เขาไปเซ็นสัญญา
ลู่โจวนั่งรถไฟไปเซี่ยงไฮ้พร้อมกับเอกสารแสดงตัวตน
จะว่าไป มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาไปเซี่ยงไฮ้
เขาจองโรงแรมใกล้สถานทูตแล้วพักค้างคืน
เช้าวันถัดมา ลู่โจวก็หยิบเอาเอกสารแล้วเดินทางไปสถานทูต
เนื่องจากมันเป็นช่วงวันหยุด อาคารจึงเต็มไปด้วยผู้คน และมีคนเข้าแถวเรียงรายออกมานอกถนน มีทั้งมนุษย์เงินเดือน ครอบครัวที่วางแผนไปเที่ยว และนักศึกษาที่เดินทางไปเข้าค่ายฤดูร้อนที่ต่างประเทศ
ลู่โจวรออยู่ในแถวตลอดทั้งเช้า เขาทานมื้อเที่ยงตอนเข้าแถวก่อนจะเข้าไปในอาคารได้ตอนบ่าย
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเข้าไปในอาคาร เขาก็ตระหนักว่าแถวข้างในยาวกว่าข้างนอกเสียอีก
…
การมาขอวีซ่าถือเป็นการทรมานชัดๆ
ลู่โจวเล่นโทรศัพท์ไม่ได้ แถมเขาก็ไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือการส่องสาวฆ่าเวลา
ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินชายหญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังกำลังพูดเรื่องไปเรียนต่อต่างประเทศ แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ แต่ด้วยเสียงอันดังของชายคนนั้น ลู่โจวจึงได้ยินที่เขาพูด
ชายคนนั้นตัวสูงผอม และเขาอาจเป็นนักศึกษาต่างชาติ
หญิงสาวที่ยืนข้างเขาอาจเป็นแฟนที่มาเรียนที่จีน
ชายคนนั้นพูดด้วยความรู้สึกเหนือกว่าและเย่อหยิ่งจองหอง
“ตอนที่ฉันเรียนอยู่ที่เวอร์จิเนีย ฉันก็ตระหนักว่าคุณเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยจีนนั้นเป็นขยะ คุณเลยกลายเป็นขยะไปด้วย เมื่อคุณมาอเมริกา ฉันจะพาคุณไปเดินดูมหาวิทยาลัยของฉัน หลังจากฟังการบรรยายสักสองสามครั้ง มหาวิทยาลัยอเมริกามีระดับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”
สหาย…นี่เป็นการตัดสินแบบไหนกัน
ถ้าคุณกระซิบ ฉันจะไม่ว่าเลย แต่คุณดันพูดเสียงดังขนาดนี้
ลู่โจวอดขัดจังหวะไม่ได้ “ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป ฉันคิดว่าคุณยังต้องดูตัวบุคคลด้วย”
เมื่อชายคนนั้นได้ยินที่ลู่โจวพูด เขาก็หยุดพูด
จากนั้นเขาก็หันมามองลู่โจว เขาเลิกคิ้วแล้วถามอย่างหงุดหงิด “โอ้ นายมาจากมหาวิทยาลัยไหน?”
“มหาวิทยาลัยจินหลิง”
“มหาวิทยาลัยจินหลิง? โอ้ ไม่เลว” ชายคนนั้นกล่าวพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีการถากถางรวมอยู่ด้วย “ถ้าในประเทศมันก็โอเค แต่จากทั่วโลกมันอยู่อันดับต่ำกว่าหนึ่งร้อยใช่ไหม? ดูเหมือนนายกำลังจะไปเที่ยวต่างประเทศ พอนายไปต่างประเทศ นายจะรู้เองว่าคะแนนสอบตอนมัธยมปลายหกร้อยคะแนนของนายมันไร้ประโยชน์”
ลู่โจวเบื่อ เขาจึงยิ้มแล้วกล่าว “อันที่จริงผมได้รับข้อเสนอให้ไปทำวิจัยจากสาขาคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก แต่ผมไม่ได้ไป”
ชายคนนั้นยิ้ม “น่าขัน นายไม่ได้ไปลงสมัคร แต่พวกเขามาชวนนายใช่ไหม? สหาย อย่างน้อยนายโกหกให้มันเนียนกว่านี้ได้ไหม?”
ลู่โจวกล่าว “ผมไม่ได้สมัคร พวกเขาส่งข้อเสนอมาให้ผม”
ชายคนนั้นมองลู่โจวแล้วกล่าว “เอ้อ ฉันก็ได้ข้อเสนอจากทำเนียบขาวเหมือนกัน โอบาม่าขอให้ฉันไปเป็นที่ปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ…นายมีอะไรอีกไหม?”
แม่งเอ้ย!
ลู่โจวคล้านจะเถียงด้วย
การอภิปรายอย่างมีเหตุผลนั้นน่าสนใจ แต่การพูดจาเหลวไหลนั้นน่าเบื่อ
ในความเห็นของลู่โจว เมื่อพูดถึงเรื่องเรียน มันก็ยังขึ้นอยู่กับคนด้วย สภาพแวดล้อมอาจมีผล แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด ตราบใดที่คนเราขยัน เราก็กลายเป็นนักศึกษาอัจฉริยะได้ มันไม่สำคัญว่าคนๆนั้นจะมีระบบหรือไม่ หรือมีพรสวรรค์หรือไม่ มันเกี่ยวกับความพยายามมากกว่า
เรื่องนี้เอาไปใช้กับการเรียนต่างประเทศเช่นกัน
ในที่สุดมันก็ถึงตาเขา
มีหญิงสาวผมบลอนด์อยู่ด้านหลังหน้าต่างเคาน์เตอร์ เธอเหมือนจะเป็นเด็กฝึกงานภาคฤดูร้อน แม้ว่าเธอจะเป็นชาวผิวขาว แต่เธอพูดจีนกลางได้คล่องมาก ถ้าไม่มองหน้าเธอ เขาคงดูไม่ออกแน่ว่าเธอเป็นชาวต่างชาติ
หญิงสาวถามโดยปราศจากอารมณ์
“คุณไปอเมริกาทำไม?”
ลู่โจวตอบ “ผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานประชุมทางวิชาการด้านคณิตศาสตร์ของพรินซ์ตัน ผมต้องไปพรีเซนต์สามสิบนาทีในงาน”
“งานประชุมทางวิชาการที่พรินซ์ตัน?” หญิงสาวถาม เมื่อเธอได้ยินว่าพรินซ์ตัน เธอก็ประหลาดใจ จากนั้นเธอก็มองลู่โจวแล้วถาม “ฉันขอดูคำเชิญของคุณได้ไหม?”
“ได้ครับ”
ลู่โจวหยิบจดหมายเชิญออกมาจากกระเป๋าแล้ววางไว้บนเคาน์เตอร์
ผู้หญิงคนนั้นรับจดหมายแล้วตรวจสอบอย่างระมัดระวังก่อนจะพิมพ์ตัวหนังสือบนคอมพิวเตอร์
มันอาจเป็นเพราะเธอยืนยันไม่ได้ เธอจึงไปหาเพื่อนร่วมงานแล้วขอความเห็นจากเขา
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดความถูกต้องของจดหมายเชิญก็ได้รับการยืนยัน
เมื่อเจ้าหน้าที่สาวมอบจดหมายคืนให้ลู่โจว เธอก็ยิ้มแล้วกล่าว “ขอให้เดินทางปลอดภัย”
“ขอบคุณครับ”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วจากไป
ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังลู่โจวก็อึ้ง
พรินซ์ตัน…
แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีความรู้ด้านคณิตศาสตร์ แต่เขาก็เรียนอยู่ในอเมริกามาหลายปี ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าไอวีลีคพรินซ์ตันคืออะไร
พรินซ์ตันคือหนึ่งในแปดไอวีลีค มันไม่เหมือนกับเวอร์จิเนียเทค(สถาบันโพลีเทคนิคและมหาวิทยาลัยรัฐเวอร์จิเนีย)ที่ใช้เงินยัดเข้าไปเรียนได้
ไม่ต้องพูดถึงลู่โจวได้รับเชิญให้เข้างานประชุม
ได้รับเชิญ…
หลังจากนั้นสิบวินาที ผู้หญิงข้างเขาก็กระซิบเบาๆ
“ฉันว่าฉันเคยเห็นเขามาก่อน…”
ชายคนนั้นถาม “ที่ไหน?”
หญิงสาวกล่าวเสียงเบา “บนเว่ยป๋อ…เขาชื่อลู่อะไรสักอย่างนี่แหละ เขาเป็นนักศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยจินหลิงที่แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้”
ชายคนนั้นหน้าแดง เขาไม่อยากขายหน้าต่อหน้าแฟนสาว เขาจึงกล่าว “มันก็แค่ปัญหาคณิตศาสตร์ ใครจะสนกัน มันไร้ประโยชน์…”
ผู้คนรอบข้างหัวเราะเสียงดัง
ชายคนที่อยู่ในแถวยิ้มเยาะแล้วกล่าว “มันไร้ประโยชน์ สิ่งที่เขาทำก็คือการออกข่าวในเหรินเหรินไดอารี่และได้รับรางวัลล้านหยวน”
หลังจากได้ยินแบบนั้น ชายคนนั้นก็หน้าแดง เขาเลิกพูดทันที
เขาตระหนักแล้วว่าเขาเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้เลย
………………………………….