Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1161 สถานีไฟฟ้าฟิวชั่นคาดาราช
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1161 สถานีไฟฟ้าฟิวชั่นคาดาราช
เช้าวันถัดไป ลู่โจวและคณะผู้มาเยือนจากประเทศจีนไปที่สถานีพลังงานฟิวชั่นที่ควบคุมได้ที่คาดาราช เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส
ประธานาธิบดีจีน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้บริหารจากการไฟฟ้าแห่งประเทศฝรั่งเศส และวิศวกรจากอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ต่างก็อยู่ที่นี่
ครั้งนี้นักวิชาการหวังไม่ได้เป็นผู้นำทีม แต่เป็นวิศวกรสูงวัยที่ลู่โจวไม่เคยเห็นมาก่อน รวมไปถึงกลุ่มคนหนุ่มเช่นกัน
ตอนที่พวกเขาเจอกัน วิศวกรสูงวัยจับมือลู่โจวด้วยความตื่นเต้นทำให้ลู่โจวรู้สึกอาย
แม้ว่ามันจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตามตั้งแต่ที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องในการวิจัยสาขาวิศวกรรมนิวเคลียร์ แต่เกียรติศักดิ์และชื่อเสียงของเขาในสาขานี้ก็ยังไม่ลดลง
เขารู้สึกว่าคนจากอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ปฏิบัติกับเขาราวกับว่าเขาเป็นอมนุษย์ในตำนาน
ในความคิดของเขา ความสำเร็จอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผางกู่เป็นของคนในทีมโปรเจกต์
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงที่หมาย กลุ่มคนถ่ายรูปด้านหน้าประตูทางเข้าก่อนที่จะเดินเข้าไปในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
การออกแบบภายนอกของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้แบบจำลองมาจากผางกู่ และการก่อสร้างใช้เวลาสามปีเต็ม ข้างๆ คือรากฐานของโปรเจกต์ ITER ที่ยังไม่เสร็จ
เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ในตัวจับหลักของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผางกู่และโปรเจกต์ ITER เป็นเทคโนโลยีที่แตกต่างกันสิ้นเชิง ทางทีมก่อสร้างฝรั่งเศสจึงต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกที่ต้องขุดรากฐานออกมาและสร้างใหม่หรือไม่ก็ทิ้งไปเลย
ทางเลือกแรกอาจจะแพงกว่าและมีความเสี่ยงที่อาจไม่ได้รับการอนุมัติจากอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกทางเลือกที่สอง
ตอนที่คนที่ดูแลพูดว่าเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสใช้ทักษะความรู้และความฉลาดในการเอาชนะปัญหามากมายจนในที่สุดก็สามารถสร้างดวงดาวที่จะส่องสว่างไปทั่วฝั่งตะวันตกของยุโรป วิศวกรจากอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้หัวเราะเบาๆ
สิ่งนี้ใช้เวลาในการสร้างสามปีเหรอ
แล้วพวกเขายังภูมิใจกับมันเนี่ยนะ
โชคยังดีที่การก่อสร้างไม่ล่าช้าทำให้ได้รับเสียงปรบมือจากคณะผู้มาเยือนชาวจีน
ในระหว่างการเยี่ยมชม ลู่โจว ซึ่งเป็นหัวหน้านักออกแบบโปรเจกต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้จีนดูเหมือนจะเหม่อลอย
ไม่ใช่เพราะเขาหงุดหงิดประสิทธิภาพในการทำงานของคนฝรั่งเศส แต่เพราะเขาศึกษาสมุดนั่นทั้งคืน จนกระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังคงคิดถึงสูตรคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนนั่น
แม้แต่ตัวเขาเอง การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ในสมุดเล่มนั้นก็ถือเป็นเรื่องยาก
ส่วนที่ยากก็คือนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ ปัญหาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับจำนวนนามธรรมแทนที่จะเป็นเลขทศนิยมธรรมดา แม้ว่าทฤษฎีแรงจูงใจจะเป็นวิธีที่มีประโยชน์ แต่การจับคู่รูปแบบทางคณิตศาสตร์นามธรรมกับการแปลงตรรกะที่ซับซ้อนยิ่งกว่า ทฤษฎีทั้งหมดก็พัวพันกันไปหมด
โชคยังดี หลังจากที่ใช้ทฤษฎีการรวมของพีชคณิตและเรขาคณิต มันทำให้เขาสามารถเพิ่มพื้นที่ในทฤษฎีแรงจูงใจ
ถ้าเขาจะต้องใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์จากสิบปีที่แล้วเท่านั้น การเขียนประพจน์ 2 ในสมุดนี้ก็คงยากพอๆ กับการสร้างการคาดคะเนของรีมันน์ แล้วทำไมนักวิชาการที่โดดเด่นอย่างศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กถึงติดอยู่กับปัญหาพวกนี้ล่ะ
แต่เพราะทฤษฎีคณิตศาสตร์สมัยใหม่ที่ก้าวล้ำ ทำให้ลู่โจวใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงในการพิสูจน์ประพจน์นี้เมื่อวาน
แต่ส่วนที่ง่ายเพิ่งจะจบลง
หลังจากใช้เวลาทั้งคืน ในที่สุดเขาก็สามารถพิสูจน์ประพจน์ 3 ได้ ความยากของประพจน์ 4 เพิ่มขึ้นหลายเท่า และลู่โจวใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงพยายามที่จะพิสูจน์มันแต่ก็ไม่เป็นผล
และประพจน์ทั้งหมดมีอยู่สิบข้อ…
แค่นึกถึงมันก็ทำให้เขาปวดหัวแล้ว
ผู้อำนวยการจัคโกบิโน คนที่ร่วมเดินทางไปโบสถ์แซงต์ลิซิเยร์กับเขาเมื่อวาน เดินใกล้ๆ ลู่โจวอย่างสุขุมและพูดกับเขาพร้อมรอยยิ้ม
“นักวิชาการลู่ คุณคิดอย่างไรกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์”
ลู่โจวมองไปรอบๆ แล้วพูด
“ก็ดีครับ”
ผู้อำนวยการจัคโกบิโนพูด “เทียบกับผางกู่ล่ะ”
ลู่โจว “ก็เหมือนๆ กันครับ”
ผู้อำนวยการจัคโกบิโนแสดงสีหน้ามีความสุข
ลู่โจวไม่รู้ว่าจะต้องคิดอะไร
ผางกู่คือการทดลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ มันมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฝูซีที่ดาย่าเบย์มากกว่าครึ่ง ผางกู่แจกจ่ายไฟฟ้าไปที่ชานตงและตอนเหนือของมณฑลเจียงซู ในขณะที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฝูซีทำหน้าที่จ่ายไฟฟ้าให้กับกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง
พวกเขาใช้เวลาแค่ปีเดียวในการก่อสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผางกู่ ซึ่งถูกสร้างเพื่องานวิจัย
พวกเขาใช้เวลากว่าสามปีในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีกำลังการผลิตพอๆ กับผางกู อีกทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ด้วย ลู่โจวไม่รู้ว่าพวกเขาภาคภูมิใจอะไรนัก…
ลู่โจวเดินตามกลุ่มผู้มาเยือนจนจบพิธีการการส่งมอบแกนนิวเคลียร์
ราคาของมันอยู่ที่หลายหมื่นล้านยูโรในขณะที่ต้นทุนเพียงแค่หนึ่งต่อสิบของราคา สิ่งนี้สร้างกำลังมากกว่าการขายเครื่องบินรบ 100 ลำเสียอีก
การสั่งซื้อแค่นี้อย่างเดียวก็เพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนไปสองถึงสามจุดร้อยละ ยังไม่รวมถึงเรื่องของการเมือง การปกครอง และมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ซ่อนอยู่ในการสั่งซื้อนี้
แม้ว่าฝรั่งเศสจะต้องจ่ายหนักก็ตาม แต่สถานีไฟฟ้าฟิวชั่นก็สามารถนำไปใช้ในการกำจัดพลังงานนิวเคลียร์ฟิชชั่นภายในประเทศที่แพงกว่าได้ ค่าใช้จ่ายในอุตสาหกรรมไฟฟ้าก็จะลดลงอย่างมาก ตัวกระตุ้นการผลิตทางเศรษฐกิจยิ่งมีค่ามากเข้าไปอีก
มันเป็นสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสและประธานาธิบดีจีนยิ้มให้กันขณะจับมือกัน
หลังจากขั้นตอนนี้เสร็จสิ้น คณะเยี่ยมชมจากจีนก็กลับไปที่รถ
ลู่โจวนั่งในรถและหยิบสมุดออกมา
ถ้าข้อมูลในสมุดมาจากอารยธรรมนอกโลกจริง เขาก็คงจะขาดความรับผิดชอบเอามากๆ ถ้าเปิดเผยมันโดยไม่รู้ว่าข้อมูลแสดงถึงอะไร
ดูจากที่อาการทางจิตของศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊ก นิพจน์เหล่านี้อาจจะแปลว่าคำพูดของปีศาจหรืออะไรก็ได้
บางทีประพจน์ที่ไม่มีทางแก้นี้อาจเป็นสิ่งที่ทำลายจิตใจของเขา
ลู่โจวอยากคุยกับปีศาจที่อยู่ในสมองของก็อตเท็นดิ๊ก แต่น่าเสียดายที่มันคงเป็นไปไม่ได้
สันตะปาปาแห่งวงการเรขาคณิตเชิงพีชคณิตเสียชีวิตในช่วงเดียวกับที่ลู่โจวทำภารกิจคณิตศาสตร์แรกสำเร็จ
เท่าที่ดูจากสิ่งที่เขาเห็นในระบบวอยด์เมมโมรี่ เห็นได้ชัดว่าวอยด์เมมโมรี่ปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับภาษาของลู่โจว
แต่ข้อความที่ก็อตเท็นดิ๊กได้รับดูเหมือนจะเป็นรหัสทางคณิตศาสตร์อะไรสักอย่าง
บางที…
ข้อความที่ศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊กได้รับไม่ได้มาจากเดอะวอยด์เหรอ บางทีมันอาจจะมาจากอารยธรรมที่มีระดับต่ำกว่าเดอะวอยด์ คล้ายๆ กับคาลาเนียน
นั่นก็เป็นไปได้นะ
ไม่ว่าจะเป็นเดอะวอยด์หรืออารยธรรมที่สูงกว่า ลู่โจวก็ไม่เชื่อว่าปีศาจมีอยู่จริง
ในที่สุดเขาก็พอจะเข้าใจว่าทำไมจู่ๆ อาการทางจิตของชายสูงวัยก็แย่ลง ทำให้เขาทำเรื่องไร้สาระ
การที่จะต้องคิดเรื่องพวกนี้ไม่เหมาะสมสำหรับชายวัย 70
เขายังจำตอนที่ศาสตราจารย์เดอลีงย์ประเมินผลเซอร์อติยาห์ได้ ถ้าอายุขนาดนั้นแล้วไม่ต้องพูดถึงงานวิจัยคณิตศาสตร์เลย แค่จะมีบทสนทนาทั่วไปได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ขนาดลู่โจวเองก็ยังรู้สึกเวียนหัวหลังจากที่มองสูตรคณิตศาสตร์พวกนี้
หวังเผิงนั่งข้างๆ ลู่โจว หวังเผิงมองเขาและพูด
“ดูเหมือนสุขภาพจิตคุณไม่ค่อยดีเลย”
ลู่โจว “บางทีอาจเป็นเพราะผมไม่ได้นอนเมื่อคืน”
หวังเผิง “คุณไม่ได้นอนติดกันสองคืนเลยเหรอ”
ลู่โจว “ไม่เป็นไร ผมงีบไปแล้วห้าชั่วโมง”
หวังเผิง “…หมอเหยียนแนะนำให้คุณนอนแปดชั่วโมงต่อวัน มันสำคัญกับสุขภาพและร่างกายของคุณนะครับ”
“มันยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าร่างกายผม” ลู่โจวยิ้มให้เพื่อนของเขาและพูด “ไม่ต้องห่วง เมื่อเรื่องนี้จบผมจะพัก”
หวังเผิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขามองไปที่สมุดในมือลู่โจว
“…หลังจากที่ศึกษาสมุดเล่มนี้จบเหรอครับ”
ลู่โจวหมุนปากกาในมือและตอบกำกวม
“ก็ประมาณนั้น”
………………………