Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1169 การนัดหมายออนไลน์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1169 การนัดหมายออนไลน์
ณ สำนักงานใหญ่สตาร์สกายเทคโนโลยี
รถเก๋งสีดำจอดอยู่ที่ทางเข้า
ลู่โจวยืนอยู่ตรงประตูรถและพูด “เดี๋ยวผมกลับมา คุณจะอยู่ที่ตรงนี้หรือขึ้นข้างบนไปกับผม”
“ผมจะอยู่รอคุณที่นี่”
หวังเผิงหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ลู่โจวยิ้มพลางส่ายหัว หลังจากที่บอกให้หวังเผิงสูบบุหรี่ให้น้อยลง เขาหันหลังและเดินตรงไปทางเข้าตึก
เขาเดินไปที่แผนกต้อนรับ
หญิงสาวตรงโต๊ะเพิ่งจะคุยโทรศัพท์เสร็จ เธอมีรอยยิ้มที่เป็นมืออาชีพบนหน้า
“สวัสดีค่ะ คุณมีนัดใช่ไหมคะ นักวิชาการลู่”
ตอนที่ลู่โจวเห็นว่าเธอประหลาดใจแค่ไหน เขายิ้มและถาม “คุณช่วยโทรหาซีอีโอเฉินให้ผมหน่อยได้ไหม เธอว่างไหมครับ”
พนักงานต้อนรับยิ้มทันที
“โอ้ คุณไม่ต้องทำการนัดหมายก็ได้ค่ะ คุณเฉินบอกเราว่าคุณสามารถขึ้นไปด้านบนได้ตลอดเวลา”
ลู่โจวส่ายหัว
“น่าจะโทรหาเธอก่อนนะครับ ผมแค่แวะมาเยี่ยมเฉยๆ ผมไม่อยากไปรบกวนการทำงานของใคร ถ้าเธอติดประชุมผมก็สามารถรอได้อีกสักพัก”
…
เวลาเร่งรีบกำลังจะหมดลงแล้ว หลังจากที่พนักงานต้อนรับโทรหาซีอีโอ ลู่โจวขึ้นไปโดยใช้ลิฟต์ เขามองลงไปเห็นวิวย่านไฮเทคจินหลิงผ่านกระจกลิฟต์
ตั้งแต่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงและสตาร์สกายเทคโนโลยีย้ายออฟฟิศมาอยู่ที่นี่ บริษัทและโรงงานไฮเทคหลายที่ก็ย้ายมาที่นี่เช่นกัน ราวกับว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีคือดวงดาวที่มีดาวเคราะห์โคจรรอบๆ พวกเขา
มูลค่าการส่งออกของย่านไฮเทคต่อปีสูงถึง 100,000 ล้านหยวน ทำให้ย่านนี้เป็นเสาหลักสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของเมืองจินหลิงและแม้แต่มณฑลเจียงซูทั้งหมด
ขณะที่ลู่โจวมองออกไปนอกหน้าต่าง เขายิ้มราวกับเป็นพ่อที่ภาคภูมิใจ
แม้ว่าการเอาหน้าคนเดียวจะดูโง่เง่าเกินไป แต่อย่างน้อยเขาก็ควรได้รับคำชมสักครึ่งหนึ่ง ถูกไหม
หลังจากที่มาถึงชั้น 30 ลู่โจวเคาะประตูออฟฟิศของซีอีโอและเดินเข้าไป
เฉินยู่ซานเห็นลู่โจวอยู่ตรงประตู เธอวางปากกาในมือและพูดด้วยท่าทีไม่สนใจ
“นี่มันเรื่องอะไรกัน นายเป็นเจ้าของบริษัท แล้วจะโทรมาเพื่ออะไร”
“ก็ฉันกลัวว่าจะขัดจังหวะการทำงานของเธอ” ลู่โจวยิ้มขณะที่นั่งลงตรงโซฟา
“นายขัดจังหวะการทำงานของฉันไปแล้ว ฉันกำลังคิดไอเดียดีๆ อยู่ จู่ๆ นายก็โทรเข้ามาขัดจังหวะความคิดฉัน”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะอยู่เงียบๆ จนกว่าเธอจะจำไอเดียนั้นได้ก็แล้วกัน”
เฉินยู่ซานยิ้มมุมปากและพูด “ฉันจำไม่ได้หรอกเว้นแต่ว่านายจะเลี้ยงข้าวฉัน”
ลู่โจวยิ้มและพูด “ได้สิ ไปทานมื้อเที่ยงกัน”
เฉินยู่ซานก็แค่ล้อเล่น เธอพร้อมที่จะถูกปฏิเสธอยู่แล้ว เธอไม่คิดว่าลู่โจวจะตกลง
เธอมองเขาด้วยตาที่เบิกกว้างพลางถามด้วยความสงสัย “จริงเหรอ ฉันก็แค่ล้อเล่นเองนะ นี่นายมีเวลาจริงๆ เหรอ เยี่ยมเลย ฉันขอรับข้อเสนอ จำไว้นะว่านายตกลงแล้ว ห้ามกลับคำ”
“ได้ ฉันเพิ่งแก้โจทย์ระดับโลกได้สำเร็จ…แต่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์เลย” ลู่โจวมองไปที่นาฬิกาบนผนังและพูด “แต่ฉันน่าจะว่างทั้งวัน”
เฉินยู่ซานนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูด “แปลว่านายพร้อมสำหรับการเก็บตัวแล้วใช่ไหม ครั้งหน้าที่ฉันจะได้เจอนายก็คงจะเป็นหนึ่งปีหลังจากตอนนี้สินะ”
ลู่โจวยิ้มเย้าแหย่และไม่ได้ตอบอะไร
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะเก็บตัวจริงหรือเปล่า
มันก็ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาที่เขาต้องเจอเป็นปัญหาแบบไหน
เฉินยู่ซานดึงสมุดออกมาและหยิบปากกาที่อยู่บนโต๊ะ
“ดูเหมือนว่านายอยากจะคุยเรื่องธุรกิจกับฉัน บอกมาเลย เราจะได้คุยกัน”
ลู่โจว “เธอว่างไหมหลังจากนี้”
เฉินยู่ซานเล่นกับผมตัวเองด้วยปากกาและถาม “ไม่ แต่วันนี้นายว่างไม่ใช่เหรอ ไปดูหนังกันไหม”
ลู่โจว “แน่นอน ว่าแต่งานของเธอล่ะ”
เฉินยู่ซาน “นั่นไม่ใช่ปัญหา นายมาได้ถูกเวลาพอดี สิ่งเดียวที่ฉันต้องทำวันนี้คือฟังสิ่งที่นายกำลังจะบอกฉัน เดือนนี้ฉันยังไม่ได้พักสักวันเลย เพราะฉะนั้นฉันตัดสินใจว่าจะพักวันนี้แหละ”
“โอ้ ได้เลย”
ลู่โจวมองเธอด้วยสายตามีความหวัง เขาหาเหตุผลที่จะไม่ไปดูหนักกับเธอไม่ได้ เขาจึงพยักหน้า
เขามองไปที่ยิ้มสดใสของเฉินยู่ซานและจู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่า นอกจากจะเป็นซีอีโอที่พึ่งพาได้แล้ว เฉินยู่ซานยังมีด้านที่มีเสน่ห์และสดใสอีกด้วย
แน่นอนว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาพูดถึงรายละเอียด
ลู่โจวกระแอมและพูดด้วยท่าทีจริงจัง
“อีกนานแค่ไหนกว่าระบบแฟนท่อมจะได้ใช้งานจริง”
เฉินยู่ซานหมุนปากกาในมือและกลับเข้าสู่โหมดซีอีโอในขณะที่รายงานด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ระบบแฟนท่อมสามารถใช้งานออนไลน์ได้ทุกเมื่อ แต่ฮาร์ดแวร์เชื่อมต่อจะขึ้นอยู่กับหุ้นส่วนของเรา จากที่หัวเหว่ยเคยบอก หมวกแยกสัญญาณประสาทภาพเสมือนรุ่นแรกจะอยู่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ภายในสิ้นปีนี้ ถ้าเร็วที่สุดพวกเขาสามารถปล่อยมากกว่าล้านอันในต้นเดือนหน้า ตอนนี้เรายังคำนวณราคาของและกลยุทธ์ทางการตลาดอยู่”
ลู่โจวถามขึ้นทันที “แล้วเสี่ยวมี่ล่ะ”
เฉินยู่ซาน “พวกเขาก็พูดแบบเดียวกัน น่าจะผลิตได้ประมาณ 800,000 อัน พวกเขาให้ความสนใจที่ตลาดระดับล่างมากกว่า ทำไมเหรอ”
เดือนหน้าก็เหมือนกัน และอาจจะล่าช้าขึ้นไปอีก
ฉันต้องบอกให้พวกเขาเร่งมือ
ลู่โจวพูดขึ้น
“แผนพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะเสร็จแล้ว จากการประเมินเงื่อนไขทางร่างกายและจิตใจของทีมเรสพอน ถ้าผู้เล่นใช้เวลาในการเล่นน้อยกว่า 8 ชั่วโมง ผลกระทบของระบบแฟนท่อมต่อสมองก็ค่อนข้างจำกัด แม้ว่าจะนานกว่า 8 ชั่วโมงก็ตาม ความเสียหายก็ใกล้เคียงกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ “
“ตราบใดที่มีการแบ่งระดับอย่างถูกต้อง การทดลองได้พิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีนี้ปลอดภัยต่อสังคมแน่นอน”
จริงๆ แล้วลู่โจวเกือบจะเสียดายที่ใช้ชื่อร้ายๆ อย่าง ทีมเรสพอนและแผนพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
เขากระแอมขณะที่เฉินยู่ซานยิ้ม และพูดต่อด้วยท่าทีที่จริงจัง “ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว การจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์โดยสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง ฉันต้องการให้เราปล่อยระบบแฟนท่อมออกมาให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องเกม ฉันอยากให้ปล่อยเวอร์ชันทดสอบของเกมคาลานเอ็มไพร์ออกไป”
เฉินยู่ซาน “ระบบแฟนท่อมของเราสามารถทำเป็นระบบออนไลน์ได้ ฉันจะบอกหุ้นส่วนของเราให้เร่งมือกว่านี้ บางทีอาจจะทำสำเร็จภายในสิ้นเดือนนี้ก็ได้ ส่วนในเรื่องของเกม แม้ว่าการปล่อยเกมจะเป็นเรื่องง่าย แต่นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเราอยู่ในธุรกิจคลาวด์คอมพิวติงและการจัดการสิทธิบัตร เราไม่ยุ่งเรื่องของการพัฒนาเกมไม่ใช่เหรอ”
“แผนการเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ และนี่จะเป็นเกมเดียวที่เราปล่อย”
ลู่โจวทำไม้ทำมือและเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังพลางพูดต่อ “มันก็เพื่องานวิจัยเป็นหลัก ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะทำเงินได้หรือเปล่า ฉันไม่ได้ต้องการมากมายอะไรหรอก แค่ผู้เล่นแสนคนก็พอแล้ว”
เฉินยู่ซานเขียนสิ่งที่ลู่โจวพูดลงในสมุด เธอหมุนปากกาในมือและถาม “เกมนี้จะฟรีตลอดไปเลยเหรอ”
ลู่โจวครุ่นคิดและพูด “ทำให้ฟรีสำหรับตอนทดสอบเกมก่อน เราจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ทดสอบเกม ถ้าค่าใช้จ่ายมันสูงเกินไปก็เอาไปใส่ไว้ในค่าใช้จ่ายรายเดือน”
การปล่อยให้ผู้เล่นซื้อไอเทมในเกมจะแทรกแซงความต้องการในการสำรวจความทรงจำของอารยธรรมคาลาเนียนของเขา การเข้าไปแทรกแซงพารามิเตอร์ความทรงจำของเกมจะทำให้เกิดความผิดพลาดในการคำนวณ
ดังนั้นเขาจึงต้องการทำกำไร ซึ่งรูปแบบระบบบริการสมัครสมาชิกก็เป็นทางเลือกที่ดี
จริงๆ แล้ว ถ้าสตาร์สกายเทคโนโลยีต้องการพัฒนาเกมของตัวเอง มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเสียเงิน เพราะท้ายที่สุดแล้วการบริการคลาวด์คอมพิวติงสำหรับเครือข่ายภาพเสมือนก็มาจากพวกเขา ถ้าทรัพยากรคอมพิวเตอร์ควอนตัมบางส่วนถูกส่งไปใช้ในเกมนี้ ค่าใช้จ่ายหลักของพวกเขาก็จะเป็นค่าไฟ
เฉินยู่ซานไม่ได้คัดค้านคำแนะนำของลู่โจว เธอก็แค่สงสัยว่าอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ
“นายสนใจเรื่องเกมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ลู่โจวพูดอย่างดื้อรั้น “ฉันบอกเธอแล้วไงว่ามันเป็นการทดลอง ไม่ใช่เกม”
มันจะไม่ใช่เกมได้อย่างไร
แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีก ชีวิตจริงเหรอ
“ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ ฉันรู้ว่ามันคือการทดลอง”
เฉินยู่ซานยิ้ม ดูเหมือนว่าลู่โจวไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เธอก็เลยเปลี่ยนบทสนทนา
“มีอะไรอีกไหม”
ลู่โจว “ตอนนี้ก็มีแค่นี้แหละ”
เฉินยู่ซานปิดสมุดและยืนขึ้นจากเก้าอี้อย่างมีความสุข
“แปลว่าวันนี้ทั้งวันของนายเป็นของฉัน”
ลู่โจวลุกขึ้นยืนจากโซฟา
“เราจะดูหนังเรื่องอะไรกัน เธอตัดสินใจเลย”
“นี่ไม่ใช่ภารกิจนะ” เฉินยู่ซานกลอกตาและครุ่นคิดอยู่สักพัก ตาของเธอเป็นประกายขณะที่พูด “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
ลู่โจว “…?”
“พาฉันไปที่คาลานเอ็มไพร์” เฉินยู่ซานยิ้มขณะที่มองสีหน้าประหลาดใจของลู่โจว เธอพูด “ฉันไม่เคยเล่นเกมนั้นมาก่อน”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกมประเภทไหนกันที่ทำให้นายติดขนาดนั้น”
……………………