Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 117 มาถึงพรินซ์ตัน!
หลังจากกลับมาจากเซี่ยงไฮ้ ลู่โจวก็ใช้พลังทั้งหมดเพื่อเตรียมประชุมทางวิชาการในเดือนหน้า เขาทบทวนวิทยานิพนธ์การกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนแล้วตรวจสอขทฤษฎีนับครั้งไม่ถ้วน
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นตัวแทนเกียรติยศของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยจินหลิงให้การสนับสนุนทริปพรินซ์ตันของเขาอย่างมาก ไม่เพียงแต่พวกเขาจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องให้เขาเท่านั้น แต่พวกเขายังมอบเงินให้เขาสองพันเหรียญดอลล่าให้เป็นค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้คณบดีฉินยังบอกอีกว่าถ้าเงินสองพันเหรียญน้อยเกินไป ลู่โจวยังสามารถนำใบเสร็จกลับมาแล้วไปขอเงินคืน
อย่างไรก็ตามลู่โจวรู้สึกว่าสองพันเหรียญเพียงพอสำหรับระดับการใช้จ่ายของเขาแน่นอน
เนื่องจากผู้จัดงานเป็นผู้จัดการเรื่องที่พักและอาหารให้แล้ว ลู่โจวจึงคิดไม่ออกแล้วว่าเขาจะเสียค่าอะไรอีกนอกจากค่าเดินทาง
และแล้วเวลาก็ผ่านไป และในที่สุดก็ถึงวันที่ยี่สิบเก้ามกราคม
ศาสตราจารย์ถังขับรถไปส่งลู่โจวถึงสนามบินด้วยตนเอง
“จำไว้ว่าระมัดระวังให้มาก และอย่าเข้าไปในสถานที่ที่เป็นอันตราย อย่าไปแถวสลัม อย่าคุยกับคนสวมชุดแปลกๆ…”
ระหว่างการเดินทางไปสนามบิน ศาสตราจารย์ถังก็พูดเรื่องความปลอดภัยกับลู่โจวตลอดทาง มันเกือบทำให้ลู่โจวคิดว่าเขากำลังไปแอฟริกาแทน
แม้ลู่โจวจะรู้ว่าศาสตราจารย์ถังเจตนาดี แต่ได้รับคำเตือนไม่หยุด เขาก็รู้สึกรำคาญเหมือนกัน
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ผมเข้าใจแล้วครับศาสตราจารย์ ผมจะรอดกลับมา!”
ทันทีที่คำพูดหลุดจากปากของลู่โจว เขาก็รู้สึกเสียใจทันที
เดี๋ยวก่อนนะ ฉันปักเดธแฟล็กให้ตัวเองรึเปล่า?
“เธอหมายความว่าไงรอดกลับมา? เธอกำลังพูดเรื่องอะไร?” ศาสตราจารย์ถังกล่าวอย่างเคืองๆ เขาเขกหัวลู่โจวแล้วกล่าว “ฟังอาจารย์นะ อาจารย์คุยกับนักศึกษาปริญญาเอกของอาจารย์ที่อยู่ที่นั่นแล้ว เขาชื่อหลัวเหวินเซวียน หลังจากที่เธอลงจากเครื่อง เธอก็ขึ้นรถบัสสายที่อาจารย์บอก หลังจากไปถึงพรินซ์ตัน เขาจะมารับเธอที่สถานีรถบัส”
ลู่โจวเกาหัว “ศาสตราจารย์ ศิษย์ของอาจารย์กระจายไปอยู่ทั่วทุกมุมโลกจริงๆ”
“ฮ่าๆ ธรรมดาๆ”
ศาสตราจารย์ถังยิ้ม
เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้ค่อนข้างภูมิใจ
พวกเขามาถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
ลู่โจวลากกระเป๋าเดินทางไปสนามบินแล้วโบกมือลาศาสตราจารย์ถัง จากนั้นเขาก็หันหลังกลับแล้วเข้าไปในจุดตรวจความปลอดภัย
เครื่องบินเคลื่อนตัวไปเหลือทิ้งไว้แต่เส้นสีขาวบนท้องฟ้าสีครามและค่อยๆหายลับสายตาไป
และลู่โจวก็เริ่มต้นทริปอเมริกาเหนือด้วยประการฉะนี้
…
พรินซ์ตันตั้งอยู่ระหว่างนิวยอร์กกับฟิลาเดลเฟีย มันเป็นมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยชนบทที่มีเอกลักษณ์
มันเงียบสงบและสง่างาม เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการเรียนรู้…ในขณะเดียวกันมันก็แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งก็คือการขนส่งสาธารณะที่ย่ำแย่
อเมริกาใช้ใบขับขี่เป็นบัตรประชาชน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงมีรถยนต์เป็นของตัวเอง นี่เป็นสาเหตุที่การเดินทางในประเทศนี้โดยไม่มีรถยนต์นั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ศาสตราจารย์ถังบอกลู่โจวให้ขึ้นรถไฟจากฟิลาเดลเฟียไปพรินซ์ตัน และลู่โจวก็ต้องเปลี่ยนรถไฟถึงสองครั้ง
บนเครื่อง ลู่โจวดูแผนที่แล้วพยายามศึกษาเส้นทางเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตามสุดท้ายเขาก็ยอมแพ้แล้วใช้แท็กซี่แทน
ท้ายที่สุดแล้วมหาวิทยาลัยก็จะจ่ายค่าเดินทางคืนให้เขา เขาจึงไม่จำเป็นต้องประหยัดเงิน
ด้วยความคิดนี้ ลู่โจวจึงขี้เกียจเกินไปที่จะศึกษาเส้นทาง ดังนั้นเขาจึงงีบหลับบนเครื่องแทน
หลังจากบินเกือบยี่สิบห้าชั่วโมง ในที่สุดเขาก็มาถึงสนามบินนานาชาติฟิลาเดลเฟีย
เนื่องจากความต่างของเวลา ตอนที่เขามาถึง ท้องฟ้าจึงกำลังสว่างสดใส
ลู่โจวเดินผ่านฝูงชนที่แออัดแล้วไปเอากระเป๋าเดินทางมาจนได้ จากนั้นเขาก็รีบออกจากสนามบินแล้วไปเรียกแท็กซี่
บังเอิญคนขับเป็นคนจีน ภาษาจีนของเขาออกแนวสำเนียงเจียงเฉิง
แววตาของคนขับเปล่งประกายเมื่อได้คุยกับลู่โจว
แม้ว่าพวกเขาจะมาจากต่างเมือง แต่พวกเขาก็ยังมีความสุขที่ได้เห็นคนที่มาจากเชื้อสายเดียวกันในต่างประเทศนี้
คนขับช่วยลู่โจวเอากระเป๋าใส่ท้ายรถอย่างกระตือรือร้น จากนั้นเขาก็กลับไปนั่งบนที่นั่งคนขับแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “มาเรียนต่อหรือ? คุณจะไปไหน?”
ลู่โจวไม่ได้อธิบายอะไรนัก “มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน คุณไปได้ไหม?”
“อ่า ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงไม่ไปไกลขนาดนั้น แต่สำหรับคุณ ผมจะไป” คนขับกล่าวแล้วหัวเราะก่อนจะกดมิเตอร์ เขาเตือนให้ลู่โจวคาดเข็มคัดนิรภัยก่อนจะสตาร์ทรถ
บางทีอาจเป็นเพราะลู่โจวมาจากจีนเช่นเดียวกัน คนขับจึงคุยกับลู่โจวมากมาย พวกเขาคุยกันเรื่องการใช้ชีวิตในอเมริกาและปัญหาด้านความปลอดภัย
“อันที่จริงมันไม่อันตรายเท่าการบรรยายของอาจารย์ของคุณ พรินซ์ตันอยู่เขตชนบท ดังนั้นมันจึงดีกว่าในเมืองมาก แต่ถึงกระนั้นคุณก็อย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวตอนกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากคุณไม่มีรถ คุณอาจตกเป็นเป้า ถ้ามีคนมาปล้น คุณก็แค่ส่งกระเป๋าเงินให้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าคุณบังเอิญเจอคนที่น่าขนลุก…”
ลู่โจวยิ้ม “ผมเป็นผู้ชาย ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้สักหน่อย ผูหญิงแบบไหนกันจะมาคุกคามทางเพศผม?”
คนขับหัวเราะแล้วกล่าว “โอ้ มันอาจไม่ใช่ผู้หญิงก็ได้”
ลู่โจว “?”
อะไรนะ?!
สังคมชาวตะวันตกเป็นแบบนี้เหรอ?
วิธีที่เขาพูดมานั้น…
ฉันรู้สึกว่าชายคนนี้มีประวัติ…
หลังจากขับรถมาเป็นชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงพรินซ์ตัน
คนขับเหมือนจะมาที่นี่หลายครั้ง เพราะเขามาที่ทางเข้ามหาวิทยาลัยอย่างสบายๆ
“ผมชื่อจางไห่ นี่เป็นนามบัตรผม ถ้าคุณต้องการแท็กซี่ คุณก็เรียกผมได้”
จากนั้นเขาก็ช่วยลู่โจวเอากระเป๋าเดินทางท้ายรถก่อนจะจากไป
ลู่โจวลากกระเป๋าเดินทางแล้วยืนอยู่ตรงประตูหน้าของพรินซ์ตัน เขารู้สึกเหมือนลืมอะไรไปบางอย่าง
หลังจากคิดอยู่สักครู่ เขาก็พลันจำได้ว่านักศึกษาปริญญาเอกของศาสตราจารย์ถังยังคงรอเขาอยู่ที่สถานีรถบัสที่ไหนสักแห่ง
จู่ๆ ลู่โจวก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วน เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเสียบซิมการ์ดชั่วคราว จากนั้นก็รีบโทรหาหลัวเหวินเซวียนเพื่อขอโทษ
โชคดีตอนที่หลัวเหวินเซวียนรับสาย เขายังไม่ได้ขึ้นรถ
ลู่โจววางสายแล้วมองดูประตูพรินซ์ตันอีกครั้งก่อนจะมองดูถนนโดยรอบ
“โรงแรมที่ผู้จัดงานเตรียมไว้เหมือนจะชื่อ…โรงแรมพรินซ์ตัน? มันอยู่ไหนกัน?”
ที่อยู่โรงแรมถูกเขียนไว้ในจดหมายเชิญ แต่จดหมายอยู่ในกระเป๋าเดินทาง
ฉันควรเปิดกระเป๋าเดินทางตรงนี้เลยไหม?
เหมือนจะลำบาก…
ขณะที่ลู่โจวมองไปรอบๆ ประตูมหาวิทยาลัย หญิงสาวผมบลอนด์สวมเสื้อโค้ทสีเทาผ้าพันคอแดงก็เดินผ่านไป
เมื่อเธอสังเกตเห็นกระเป๋าเดินทางของลู่โจว เธอก็เลิกคิ้วก่อนจะเปิดปากถาม “นักศึกษาใหม่?”
“โอ้ ไม่ ผมไม่ใช่นักศึกษาของที่นี่” ลู่โจวตอบด้วยรอยยิ้ม เขาถาม “ผมมางานประชุมคณิตศาสตร์…ผมต้องไปไหน?”
หญิงสาวจ้องมองลู่โจวแล้วถาม “ชื่อ?”
“ลู่โจว”
“งานประชุมคณิตศาสตร์ของสมาคมคณิตศาสตร์สหรัฐใช่ไหม? คุณมาผิดที่แล้ว” หญิงสาวกล่าว เธอยิ้มแล้วชี้ไปที่ถนนฝั่งตรงข้าม “ที่พักไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน มันเป็นโรงแรมตรงข้ามจัตุรัสพาลเมอร์”
ลู่โจว “ตรงข้ามจัตุรัสพาลเมอร์? ขอบคุณครับ”
หญิงสาวยิ้มแล้วกล่าว “ด้วยความยินดี จะว่าไปลู่โจว…ฉันเคยอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับกฏการกระจายตัวของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนของคุณ มันเป็นวิทยานิพนธ์ที่สง่ามาก แม้แต่ศาสตราจารย์เดอลีงย์ก็ยอมรับ”
ลู่โจวยิ้มอย่างเขินๆ “มันแค่บังเอิญ”
การพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจวถูกมอบโดยระบบ ดังนั้นเดอลีงย์จึงยอมรับอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามลู่โจวเป็นเจ้าของระบบและเขาก็กลั่นกรองข้อมูลด้วยตัวเอง นอกจากนี้เขายังคำนวณทุกอย่างด้วยตัวเองอีก ดังนั้นความดีความชอบก็ควรเป็นของเขาใช่ไหม?
ไม่ว่ายังไงระดับคณิตศาสตร์ของเขาก็เพิ่มขึ้น การที่เขาจะพิสูจน์ข้อคาดการณ์ระดับนี้ได้มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น
หญิงสาวกล่าว “อย่าถ่อมตัวไปเลย ฉันรอดูการบรรยายของคุณ ฉันเตรียมคำถามไว้แล้ว ป่ะ ฉันจะเดินไปที่นั่นเหมือนกัน ฉันจะส่งคุณเอง”
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ขอบคุณครับ…แล้วคุณชื่ออะไรครับ?”
หญิงสาวสะบัดผมบลอนด์แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “โมลิน่า อาเบล ฉันไม่ชอบชื่อท้าย คุณเรียกฉันว่าโมลิน่าก็พอ”
…………………………………..