Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1183 ไม่มีที่ให้ซ่อนตัว
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1183 ไม่มีที่ให้ซ่อนตัว
เสวี่หยงเป็นผู้จัดการของบริษัทการค้าของต่างประเทศ
หลังจากที่เรียนจบจากมหาลัยนิวยอร์กเมื่อห้าปีที่แล้ว เขาได้งานที่ปักกิ่งและอยู่ที่นั่นตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
ในช่วงเวลาห้าปี จากเด็กอายุ 20 เขากลายเป็นผู้ใหญ่ประสบความสำเร็จ เขามีอะพาร์ตเมนต์ในเมือง มีรายได้ต่อปีสูงถึงเจ็ดหลัก ขับ BMW 730 มีสาวๆ สวยๆ มานั่งด้วยเสมอ ดูเหมือนว่าเขาจะมีชีวิตที่ดี
อย่างน้อยก็ภายนอก
ญาติขี้อิจฉาและเพื่อนไม่รู้ว่าเขามีอีกตัวตนหนึ่ง
เขาคือเจ้าหน้าที่ข่าวกรองจากซีไอเอ…
หรือที่รู้จักกันในนามสายลับ
มันฟังดูน่าหัวเราะหรือเลวร้าย แต่สุดท้ายแล้วทำไมอภิสิทธิ์ชนจึงอยากมาเป็นสายลับกัน
แต่ก็นั่นแหละ เหตุผลที่เขาประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากตัวตนอีกตัวตนของเขา
ต้องขอบคุณการสนับสนุนจากซีไอเอ ในช่วงเวลาห้าปีเขาสามารถสร้างเครือข่ายอัจฉริยะในประเทศจีน โดยเฉพาะในเขตตะวันออก เหตุผลก็เพื่อรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง จินหลิง และเทียนจิน เขามีเส้นสายกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
บ่ายวันอาทิตย์ เขาจะชงกาแฟแสนอร่อยดื่ม ดาวน์โหลดไฟล์บีบอัดข้อมูลหัวข้อ รายงานการสืบสวนวัสดุจินหลิง และพิมพ์รหัสผ่านลงไป
ทุกสุดสัปดาห์คนของเขาจะเข้ามารับข้อมูลจากเขา หลังจากที่ตรวจสอบและคัดกรองข้อมูลแล้ว เขาจะรายงานต่อหัวหน้า นั่นก็คือซีไอเอ
ในเวลาเดียวกัน เขาจะใช้เวลาสองสามชั่วโมงในการจัดเตรียมงานใหม่ให้บริษัทของเขาจากคำสั่งของซีไอเอ
เขาเป็นคนที่ระวังตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารออนไลน์หรือออฟไลน์ เขาจะต้องใช้อีเมลที่มีการเข้ารหัสและบัญชีธนาคารต่างประเทศ แม้แต่เจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ทำงานกับเขามาห้าปีก็ไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา
เขามีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะทัศนคติของเขา
“โปรเจกต์คอมพิวเตอร์ควอนตัมจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนเหรอ เข้าใจแล้ว”
เสวี่หยงอ่านอีเมลจากหัวหน้า
เขาได้ยินเกี่ยวกับงานนี้ในช่วงนี้ อย่างที่เห็นว่ามันทำให้เกินเสียงวิจารณ์มากมายในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ คนอเมริกามากมายกลัวว่ารัฐบาลจีนจะใช้มันเป็นอาวุธในสงครามไซเบอร์ สื่อต่างๆ อย่างเช่น CNN อาจจะมีส่วนรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงมติมหาชน
พิจารณาจากที่ทำเนียบขาวให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขาเริ่มรวบรวมข้อมูล Intel ในบริเวณนี้ แต่การหาข้อมูลเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์วิจัยนี้กลับเป็นเรื่องยาก
อย่างแรก งานนี้คือโปรเจกต์งานวิจัยวิทยาศาสตร์ที่ได้รับทุนจากรัฐ และการพยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยลับจึงเป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดาแบบเขา ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ที่ปรึกษา มันคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการตัวนักวิจัยวิทยาศาสตร์…
หลังจากที่อ่านอีเมล เขาลบอีเมลทิ้งและได้ยินเสียงกริ่งประตู
เสวี่หยงลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปที่โต๊ะ เขาเห็นคนส่งไปรษณีย์ยืนอยู่ตรงกล่องนอกบ้าน
“มีใครอยู่บ้านไหมครับ มีพัสดุมาส่งครับ”
เสวี่หยงพูดผ่านประตู
“ผมไม่ได้สั่งอะไรนะครับ ที่อยู่ถูกต้องหรือเปล่า”
“117 ถนนจินซิ่ว คุณเสวี่…น่าจะถูกนะ” คนส่งไปรษณีย์พูดขณะที่อ่านตัวเลขบนกำแพง
เสวี่หยงขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะสงสัยเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้กังวล
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขานั้นปิดบังตัวตนของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครเคยสงสัยตัวตนที่แท้จริงของเขา ถ้าเขาไม่เปิดประตู มันอาจจะน่าสงสัยกว่าเดิม
ดังนั้นเขาจึงพูด “โอเค รอเดี๋ยวนะ ผมขอใส่เสื้อผ้าก่อน”
เสวี่หยงกลับหลังหันและเดินกลับมา
แต่ทันทีที่เขาหันหลัง เขาได้ยินเสียงระเบิดดังจากด้านหลัง เสียงระเบิดนั้นพังประตูลงมา และเขาได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก
“อย่าขยับ! ยกมือขึ้น! “
กลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบเดินฝ่าควันระเบิดเข้ามาด้านใน ในหูของเสวี่หยงยังคงดังกังวลตอนที่เขาถูกกดลงไปกับพื้นและถูกใส่กุญแจมือ
เสวี่หยงสับสน เขาถามด้วยความหวาดกลัว “พวกคุณเป็นใคร มาทำอะไรกัน”
“เลิกเล่นละครได้แล้ว” ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาพูด ชายคนนั้นนั่งยองๆ และมองเขาอยู่นาน เขาพูด “เสวี่หยง หน่วยสืบราชการลับซีไอเอ หรือจะให้ผมเรียกคุณว่า อดัม หลิว”
ตอนที่เสวี่หยงได้ยินแบบนั้น หน้าของเขาซีดเผือด
อดัม หลิวคือชื่อจริงของเขา
ตั้งแต่กลับมาประเทศจีน เขาก็ไม่ได้ใช้ชื่อนั้นอีกเลย ชื่อของเขาในหนังสือเดินทางและบัตรประชาชนคือเสวี่หยง
ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของเขายกเว้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากซีไอเอ
สิ่งเดียวที่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ก็คือคณะผู้บริหารอาวุโสของซีไอเอถูกแทรกแซง…
สิ่งเดียวที่เขาอยากจะทำตอนนี้คือแจ้งซีไอเอว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่มันเป็นไปไม่ได้
ขณะที่เสวี่หยงสวมกุญแจมือ หมู่บ้านคนมีเงินใกล้ๆ ถูกล้อมด้วยรถตำรวจ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่หมู่บ้านนั่นยืนอยู่ข้างๆ ขณะมองดูเจ้าหน้าที่อาวุธติดอาวุธนำตัวคนขึ้นรถ
คนที่อยู่บริเวณนั้นมองไปที่คนใส่กุญแจมือและเสื้อฮู้ดดำปิดหน้า พวกเขาเริ่มซุบซิบนินทา
“เกิดอะไรขึ้น มิจฉาชีพทางโทรศัพท์เหรอ”
“พวกเขาจับสายลับอยู่”
“สายลับเหรอ ไม่มีทาง สายลับอยู่ในละแวกบ้านที่ดีขนาดนี้เนี่ยนะ”
“ฉันได้ยินมาจากแม่สะใภ้ของลูกชายเพื่อนบ้านว่ากระทรวงความมั่นคงของรัฐได้รับรายงานว่ามีคนตั้งสถานีฐานคลื่นวิทยุแถวๆ บ้านเรา และพวกเขาจะดักฟังโดยใช้สัญญาณโทรศัพท์มาได้ปีหนึ่งแล้ว”
“หนึ่งปีแล้วเหรอ บ้าเอ๊ย นานมากเลยนะ”
ในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน ข่าวลือมากมายแพร่ไปทั่วละแวกนั้น
ภายในห้องสอบสวน
ชายรูปร่างเล็กนั่งอยู่หลังลูกกรงเหล็ก แม้ว่าหลักฐานจะมัดตัวเขา แต่เขาก็ยังยืนกรานว่าเขาเป็นเพียงช่างประปาธรรมดาและไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสายลับหรือกองทุนต่างประเทศเลย
เจ้าหน้าที่สอบสวนโยนเอกสารใส่เขา
ทันทีที่ชายคนนี้เห็นเอกสาร เขานิ่งไป ตาของเขาเริ่มสั่น
ชื่อที่เขารู้จักและไม่รู้จักถูกเขียนลงบนเอกสารนี้ องค์กรทั้งองค์กรของเขาถูกแทรกแซง
หลังจากที่เขาคิดได้แบบนั้น เขาสติแตก
“ไม่มีทาง ไม่ ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”
เจ้าหน้าที่สอบสวนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ผมแนะนำให้คุณพูดความจริงและสารภาพมาดีกว่า เราจับหัวหน้าของคุณได้แล้ว เพราะฉะนั้นปิดบังไปก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องจัดการกับศพ…ไม่ต้องกลัวไป ความผิดของคุณไม่ต้องโทษประหารชีวิตหรอก แต่คุณจะต้องติดคุกอยู่ไม่กี่ปี ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคุณด้วย”
ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้
เขาไม่ใช่คนเดียวที่ถูกจับ เสวี่หยงและสายลับคนอื่นๆ ในประเทศถูกจับทั้งหมดในการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้
หลังจากสืบกันมาหลายปี ในที่สุดพวกเขาก็ได้รายชื่อมา
เจ้าหน้าที่สอบสวนอ่านชื่อในรายชื่อและพูด
“มันต้องสร้างปัญหามากมายแน่”
พวกเขาไม่รู้ว่ามีสายลับที่คณะกรรมการสภา
บางคนถูกญาติที่อยู่ต่างประเทศหลอก ในขณะที่บางคนรับสินบน ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไรก็ตาม แต่อาชญากรรมก็คืออาชญากรรม
ดูเหมือนว่าบรรยากาศทางการเมืองและทางธุรกิจของประเทศจีนจะเปลี่ยนไปเพราะรายชื่อเหล่านี้…
………………………