Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 119 อากัปกิริยาของสุภาพบุรุษ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 119 อากัปกิริยาของสุภาพบุรุษ
ลู่โจวมองไปยังชายอินเดียที่สังเกตเห็นเขาเช่นกัน
เมื่อลู่โจวเดินเข้าไปหา สีหน้าของชายอินเดียก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เขาทักทายลู่โจวทันทีด้วยสำเนียงอินเดีย
“เฮ้ สหาย คุณวิจัยทฤษฎีจำนวนด้วยเหรอ?”
“ใช่ ผลการวิจัยน่าตกใจมาก” ลู่โจวกล่าวแม้ว่าเขาจะแทบไม่เข้าใจสำเนียงของชายคนนี้เลยก็ตาม เขามองไปรอบๆ แล้วเมื่อเขาสังเกตว่าไม่มีใครสนใจโปสเตอร์นี้เลย เขาก็กล่าว “ทำไมถึงไม่มีคนมาเลยล่ะ?”
“เพราะความทระนงและอคติของคนที่พรินซ์ตัน พวกเขารับไม่ได้ที่ชาวอินเดียพื้นเมืองเอาชนะพวกเขาในด้านคณิตศาสตร์ พวกเขากระทั่งปฏิเสธไม่ยอมให้ฉันไปพรีเซนต์บนเวทีโดยไม่มีเหตุผล ดูเหมือนว่าจะมีแต่สหายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกเท่านั้นที่เข้าใจความรู้สึกของฉัน” ชายชาวอินเดียกล่าวด้วยผิวสีดำมืด เขาเอื้อมมือออกมาด้วยรอยยิ้ม “ดิจาน นักศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเนห์รู คุณชื่ออะไร?”
อันที่จริงลู่โจวอยากพูดว่าฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณ เพราะฉันมาพรีเซนต์ในวันที่ห้า อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจไม่ไปกระตุ้นเพื่อนชาวต่างชาติคนใหม่
“ลู่โจว มหาวิทยาลัยจินหลิง” ลู่โจวกล่าว เขาไม่ได้พูดถึงระดับการศึกษา กลับกันเขาจับมืออีกฝ่ายแล้วถามแทน “ผมอ่านวิทยานิพนธ์ของคุณได้ไหม?”
“วิทยานิพนธ์อยู่นี่ แต่ฉันไม่แนะนำให้คุณอ่าน” ดิจานกล่าวขณะตบลงบนกองกระดาษบนมือ จากนั้นเขาก็โยนกระดาษไว้ด้านข้างก่อนจะเริ่มเขียนบนไวท์บอร์ดขนาดใหญ่ “กระบวนการยุ่งยากเล็กน้อย แต่หลักการมันง่าย ฉันอธิบายได้และไม่ช้าคุณจะได้เข้าใจความลึกลับของคณิตศาสตร์ผันกลับ”
“คณิตศาสตร์ผันกลับ?” ลู่โจวกล่าว ขณะที่เขามองไปยังชายอินเดียอย่างสงสัย เขาก็ถาม “คุณใช้คณิตศาสตร์ผันกลับเพื่อพิสูจน์? ฉันคิดว่าคุณกำลังเรียนทฤษฎีจำนวนเชิงพีชคณิตเสียอีก”
“พีชคณิตเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้เรียนทฤษฎีจำนวนเท่านั้น มันไม่ได้มีเพียงวิธีเดียว…ฉันรู้ว่าคุณอาจไม่อยากฟังเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้วคุณอาจได้พบวิธีดีๆ ที่จะพิสูจน์ระยะห่างของจำนวนเฉพาะ”
ลู่โจวกล่าวอย่างใจร้อน “ฉันอยากได้ยิน ช่วยพูดออกมาได้ไหม?”
ดิจานวางกระดานนดำแล้วอันไปมองลู๋โจว
“ฉันพร้อมแล้ว!”
ขณะที่ชายอินเดียวางภาพบนไวท์บอร์ด ลู่โจวก็สังเกตว่ามีหลายคนหันมาทางนี้ด้วยความสนใจ
ลู่โจวรู้สึกสนใจ เขาจึงยืนอยู่ข้างโปสเตอร์แล้วทำตามข้อพิสูจน์ของชายอินเดียคนนี้
อันที่จริงความคิดเขาเรียบง่ายมาก
ก่อนอื่นสมมุติว่าจำนวนเฉพาะคู่แฝดมีจำกัดและมีจำนวนเฉพาะคู่แฝดที่ใหญ่ที่สุดเป็น (Pn-1, Pn) เราจะเห็นได้ว่าจำนวนเฉพาะคู่แฝดใน Pn นั้นมีจำกัด และถูกตั้งเป็น P1 P2 Pn-1และ Pn
จากนั้นก็สร้างจำนวนเฉพาะคู่แฝดขนาดใหญ่ P = (P1P2P3*…*Pn)+1
เห็นได้ชัดว่า P ไม่สามารถหารด้วยจำนวนเฉพาะคู่แฝดทั้งหมดจาก P1 ถึง Pn ทั้งหมดได้ลงตัว และมันจะเหลือ 1 เสมอ ดังนั้น P เป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝด ในทำนองเดียวกันมันก็พิสูจน์ได้ว่า P-2=(P1P2P3*…*Pn)-1 เป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝดอย่างชัดเจน
เนื่องจาก P เป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝด P-2 จึงเป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝดเช่นกัน ทั้งสองอย่างต่างประกอบขึ้นโดยจำนวนเฉพาะคู่แฝด
ปัญหาก็จะมาถึงเมื่อคู่แฝดของจำนวนเฉพาะคู่แฝดที่ถูกสร้างขึ้นโดย P และ P-2 ใหญ่กว่า’จำนวนเฉพาะคู่แฝดที่ใหญ่ที่สุด’ ดังนั้นมันจึงลบล้างข้อที่ว่า (Pn, Pn-1) เป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝดที่ใหญ่ที่สุด
มันก็เหมือนกับการปีนบันได ไม่สำคัญว่า(Pn-1, Pn) จะใหญ่แค่ไหน เราก็สามารถหาคู่แฝดที่ใหญ่กว่าได้เสมอ
ดังนั้น’คู่แฝดไม่มีที่สิ้นสุด’จึงถูกต้อง
ยังมีอีกหลายขั้นตอนอยู่ตรงกลาง แต่สรุปก็ประมาณนี้
ลู่โจวมองกระบวนการทั้งหมดบนกระดานดำ
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือชายคนนี้ไม่ได้ใช้ผลการวิจัยที่น่าตื่นเต้นในการแก้โจทย์
การคิดนอกกรอบนั้นน่าสนับสนุน
แต่…
ในที่สุดลู่โจวก็เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มีใครสนใจชายอินเดียคนนี้
“จำนวนเฉพาะขนาดใหญ่ P ที่คุณสร้างสามารถรับประกันได้ไหมว่าจะไม่สามารถหารด้วยชุดจำนวนเฉพาะคู่แฝดจาก P1 ถึง Pn ลงตัว แล้ว PN ก็เป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝดที่ใหญ่ที่สุด คุณตกหลุมพรางตรรกะอย่างชัดเจน คุณพิสูจน์ได้ยังไงว่า Pn คือจำนวนเฉพาะที่ใหญ่ที่สุด?”
ดิจานเลิกคิ้วแล้วกล่าว “คุณไม่เห็นที่ฉันเขียนบรรทัดแรกเหรอ? กรณีที่จำนวนคู่แฝดมีจำกัด ให้ใช้คู่แฝดคู่ที่ใหญ่ที่สุดเป็น (Pn-1, Pn)…”
ลู่โจว “2*3*5*7*11*13+1=30031”
เมื่อผู้คนโดยรอบได้ยินการคำนวณของลู่โจว พวกเขาก็หัวเราะ บางคนก็เดาได้แล้ว
บางคนก็…
เริ่มปรบมือ
ดิจานอึ้ง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “คุณหมายความว่ายังไง?”
ลู่โจวถอนหายใจแล้วกล่าว “30031 สามารถถอดเป็นจำนวนเฉพาะคู่แฝดห้าสิบเก้ากับห้าร้อยเก้าดังนั้นจำนวนนี้จึงเป็นจำนวนประกอบ…คุณจ่ายเงินมาพรินซ์ตันเองหรือ? ถ้าผมเป็นศาสตราจารย์ของคุณ ผมจะไม่ออกเงินให้คุณแน่นอน”
ผู้คนโดยรอบก็เชียร์ลู่โจว
“ได้โปรด เงียบเถอะ”
ดิจานตระหนักอย่างชัดเจนว่าเขาทำพลาดในระดับเดียวกับมือใหม่ ดังนั้นหน้าเขาจึงเป็นสีแดงสด เขากระแทกโปสเตอร์ลงบนโต๊ะแล้วยัดของบนโต๊ะใส่ในกระเป๋า จากนั้นเขาก็ทำเป็นเมินฝูงชนแล้วจากไป
ลู่โจวยักไหล่
อันที่จริงเขาอยากบอกชาวอินเดียว่าทำไม (Pn-1, Pn) ถึงไม่อาจเป็นคู่แฝดที่ใหญ่ที่สุด แต่เห็นได้ชัดว่าชาวอินเดียคนนี้ไม่อยากฟังคำอธิบายของเขา ดังนั้นลู่โจวจึงยอมแพ้
ดราม่าเรื่องนี้ก็จบลงแล้วฝูงชนก็แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังอยู่ และเธอก็มองมาทางเขาด้วยรอยยิ้ม
ลู่โจวมองหน้าเธอแล้วรู้สึกคุ้นๆ
นี่เป็นสาวผมบลอนด์ที่พาเขามาโรงแรมเมื่อวาน
โมลิน่ามองลู่โจวแล้วยิ้ม “กำจัดผู้เล่นในวันแรกงั้นเหรอ?”
ลู่โจวยักไหล่แล้วกล่าว “ผมแค่ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาด ผมผิดอะไร?”
“ไม่หรอก เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นตลอด” โมลิน่ากล่าว “นี่คือ’ความทระนง’ของพรินซ์ตัน ถ้าคุณอยากพรีเซนต์งานตัวเองที่นี่ คุณจะฉลาดอย่างเดียวไม่ได้ คุณต้องมั่นใจด้วย”
เห็นได้ชัดว่าเธอได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของพวกเขา
น่าสนใจ…
ลู่โจวไม่ได้สังเกตเลยว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ด้วย
โมลิน่าเห็นว่าลู่โจวไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นเธอจึงถาม “คุณคิดสูตรคำนวณสดเลยเหรอ? หรือคุณเตรียมมาโจมตีเขาล่วงหน้าอยู่แล้ว?”
“ผมคิดสด นี่ควรเป็นการคำนวณง่ายๆของอัจฉริยะในพรินซ์ตันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?”
ลู่โจวไม่ได้ว่างขนาดนั้น เขาไม่ได้เรียนคณิตมาเพื่อโจมตีคนอื่น
โมลิน่าเลิกคิ้วแล้วกล่าว “คุณอาจมีความเข้าใจผิดบางอย่างเกี่ยวกับคำว่าอัจฉริยะ พลังของสมองคือการคิดสร้างสรรค์และคิดเชิงตรรกะ ไม่ใช่แค่การคำนวณดิบๆ ถ้ามีคนในกลุ่มรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมอยู่บ้าง พวกเขาก็คงช่วยเขาหาตัวอย่างโต้แย้งได้ แล้วเขาก็จะไม่เอาตัวเองมาขายหน้าที่นี่”
ลู่โจวกล่าว “ในคณิตศาสตร์ไม่มีคำว่า’อาจ’ใช่ไหม?”
“ใช่” โมลิน่ากล่าว เธอยิ้มแล้วหยิบหมากฝรั่งออกมา “คุณอยากได้สักอันไหม?”
ลู่โจวรู้สึกลังเลก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบชิ้นนึง
“ขอบคุณครับ…”
แม้ว่าตอนเป็นเด็ก พ่อแม่ของเขาจะบอกเขาไม่ให้รับอาหารจากคนแปลกหน้า แต่มันน่าจะไม่เป็นไรใช่ไหม?
โมลิน่าเห็นลู่โจวรับหมากฝรั่ง เธอก็ยิ้ม
“ด้วยความยินดี เนื่องจากคุณยอมรับของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ของฉัน ฉันก็อยากได้ของแลกเปลี่ยน คุณให้อีเมลกับเฟสบุ๊คได้ไหม?”
“ผมให้อีเมลได้ แต่ผมไม่มีเฟสบุ๊ค…นี่เป็นธรรมเนียมของที่นี่เหรอ?”
จู่ๆ ลู่โจวก็รู้สึกเหมือนตัวเองถูกจัดฉาก
โมลิน่ายิ้มแล้วพูดหยอกเย้า “ไม่ นี่เป็นแค่ธรรมเนียมของสุภาพบุรุษ”
……………………………………