Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1195 เจตนาที่แท้จริง
ซีอีโอหวังเป็นคนที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
หลังจากวันที่เขาได้พบกับลู่โจว เขาก็ติดต่อทุกคนในเครือข่ายของเขาที่มีคุณสมบัติครบในการเป็น ‘ผู้ประกอบการที่ดีเลิศ’ และล่อลวงพวกเขาให้มา ‘ลงทุน’
ในทันใดนั้นมีหนึ่งคนที่ลงทุน 100 ล้านหยวนขณะที่อีกคนหนึ่งลงทุน 200 ล้านหยวน จากนั้นเงิน 1 หมื่นล้านหยวนก็ปรากฏขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ ซึ่งทำให้ลู่โจวตกตะลึง
แต่เดิมนั้นแผนการของลู่โจวคือต้องการจะรวบรวมเงินให้ได้ประมาณ 5 หมื่นล้านหยวน จากนั้นเขาก็จะหาธนาคารสักที่หนึ่งเพื่อขอกู้เงิน 5 หมื่นล้านหยวน แล้วออกพันธบัตรบริษัทสัก 2-3 พันล้าน แล้วในที่สุดเขาก็จะมีเงินหนึ่งหมื่นสองพันล้านหรือประมาณนั้น
แต่ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องออกพันธบัตรบริษัทใดๆ แล้ว เขาเพียงแค่ต้องกู้เงิน 2 พันล้านดอลลาร์จากธนาคารและเขาอาจจะรวบรวมเงินทุนสำหรับสนับสนุนโครงการทั้งหมด
แล้วทันใดนั้นบริษัทแห่งหนึ่งที่ชื่ออีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นที่มีเงินทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวนและบริษัทอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่เหลือก็ได้รับการจัดตั้งขึ้นในเซี่ยงไฮ้อย่างเงียบๆ
ถ้าพวกเขายังคงไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจ บางทีอาจจะไม่มีใครสังเกตเห็นบริษัทนี้เลย
อย่างไรก็ตามหลังจากการจัดตั้งบริษัทไม่นาน เหตุการณ์สะท้านโลกก็เกิดขึ้น
โปรเจกต์เคเบิลออปติกใต้น้ำเอเชียแปซิฟิกหยุดนิ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุให้อุตสาหกรรมทั้งหมดตกสู่สภาวะตกต่ำ จู่ๆ บริษัทที่ไม่มีชื่อเสียงก็มาจากไหนไม่รู้และใช้เงิน 5 พันล้านหยวนในการเข้าครอบครองบริษัทเคเบิลออปติกใต้น้ำในประเทศเกือบ 80%
นี่ไม่ใช่แค่ทำให้คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์จีนตื่นกลัว แม้แต่คณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีนก็ยังล่วงรู้ข่าวนี้
อย่างไรก็ตามเพราะพวกเขาได้วางแผนงานเรื่องกฎหมายไว้แล้ว เรื่องนี้จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบรรลุผลการเข้าถือสิทธิ์บริษัท 12 แห่งหรือราวๆ นั้นของอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่น
เพื่อที่จะแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ต่างชาติที่มีอำนาจผูกขาด อุตสาหกรรมในประเทศจึงจำเป็นจะต้องสร้างการผูกขาดของตัวเองด้วย ซึ่งรัฐเองก็รับรู้กลยุทธ์นี้
ยังไม่ต้องพูดถึงว่ารัฐนั้นก็ถือหุ้นส่วนในอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นด้วย
นี่เป็นเพราะอุตสาหกรรมการสื่อสารนั้นเป็นแวดวงที่อ่อนไหว
การปรากฏขึ้นมาของอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นนั้นได้กระตุ้นอุตสาหกรรมตลาดเคเบิลใต้น้ำ
ทั้งบริษัท NEC ของญี่ปุ่น บริษัทอัลคาเทล-ลูเซ่นของยุโรป และบริษัท SubCom ของอเมริกาต่างก็รู้สึกกดดันกับความเคลื่อนไหวนี้
ในความเป็นจริงแล้วอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ตามหลังพวกเขาอยู่ไกลในแง่ของอำนาจและเทคโนโลยี พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกของอุตสาหกรรมที่นำทางมาไกลมากกว่าครึ่งศตวรรษ
แต่ใครจะบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต?
อีกอย่างคือ จีนมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในการครองอุตสาหกรรมใดๆ ก็ตามที่พวกเขาได้เห็นเป็นครั้งแรก
นี่คือสิ่งที่ทำให้คู่แข่งของอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นกังวลมาก…
…
อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้กำลังซื้อกิจการเคเบิลออปติกใต้น้ำในประเทศด้วยวิธีการที่ดึงดูดความสนใจ โดยเป็นการเข้าสู่ตลาดระดับสากลอย่างอุกอาจ ในทางกลับกันงานด้านการเปลี่ยนอัลกอริทึมการเข้ารหัสระดับชาติและการสนับสนุนมาตรฐานอัลกอริทึมการเข้ารหัสระดับสากลก็ยังก้าวหน้าไปในอัตราที่สม่ำเสมอด้วย ซึ่งต้องขอบคุณการสนับสนุนจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ
อย่างไรก็ตามภารกิจอย่างหลังนั้นเป็นเรือหินเมื่อเทียบกับการเดินเรืออย่างราบรื่นของภารกิจแรก
ไม่นานหลังจากตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาก็ไม่มาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เอเชียแปซิฟิกซึ่งจัดขึ้นที่ปักกิ่ง ไพน์ส แล็บ ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์เบิร์กลีย์ได้เผยแพร่รายงานการวิจัยที่อ้างว่าการนำเสนออัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม QN2000 ของจีนที่การประชุมสุดยอดนั้นอาจมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยสูง พวกเขาได้แนะนำให้อุตสาหกรรมการเงินใช้มันอย่างระมัดระวัง
แม้ว่ามันจะเป็นแค่คำเตือน แต่มันก็ยังคงก่อให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายในอุตสาหกรรมมากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ไพน์ส แล็บ ก็เป็นห้องปฏิบัติการที่เป็นที่รู้จักซึ่งริเริ่มขึ้นมาโดยอเล็กซ์ ไพน์ส ผู้สร้างเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านิวเคลียร์แบบโซลิดสเตต
ขอบเขตการวิจัยของไพน์ส แล็บ ครอบคลุมหลายสาขาวิชา อย่างเช่น วิทยาการสารสนเทศเชิงควอนตัม การประมวลผลแบบควอนตัม เคมี ชีววิทยาเชิงโครงสร้าง และการแพทย์ ที่นี่เป็นหนึ่งในผู้นำในหัวข้อการวิจัยที่หลากหลาย หนึ่งในนั้นก็คืออัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัม
ดังนั้นผู้คนจึงยึดถือคำเตือนนี้อย่างจริงจัง
“ดูเหมือนว่าคนอเมริกันไม่ต้องการรักษาความปลอดภัยให้ตู้นิรภัยของพวกเขาเอง” นักวิชาการเกาจุนเหวินวางหนังสือพิมพ์ในมือลงและนั่งไขว่ห้างขณะที่เขาพูดขึ้นว่า “และไม่ใช่แค่พวกเขาจะปล่อยให้ตู้เซฟตัวเองไม่ปลอดภัย พวกเขายังต้องการให้ตู้เซฟของคนอื่นๆ ไม่ปลอดภัยด้วยเหมือนกัน”
นับตั้งแต่เขากลับมาจากทริปจินหลิง ในที่สุดเขาก็เข้าใจความกังวลของนักวิชาการเสวี่ยจินฮุย เพื่อนเก่าของเขา สุดท้ายเขาก็รู้ว่าทำไมผู้บริหารระดับสูงถึงตัดสินใจเรื่องเหล่านี้
ถ้าประสิทธิภาพการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะสามารถไปถึงมากกว่า 500 คิวบิตได้จริงๆ…
ถ้าประสิทธิภาพการประมวลผลประเภทนี้ถูกนำเข้าสู่ตลาดโดยไม่มีการเตรียมการใดๆ มันอาจคุกคามความปลอดภัยทางการเงินและการสื่อสารของโลกอย่างร้ายแรง มันไม่ใช่การพูดเกินจริงเลยว่าอัลกอริทึมการเข้ารหัสปัจจุบันนั้นอาจจะไม่มีประสิทธิภาพเมื่อต้องเจอกับคอมพิวเตอร์ควอนตัมระดับ 500 คิวบิต
“ถ้าพวกเขาปฏิเสธ แล้วยังไงล่ะ?” นักวิชาการเสวี่ยหรี่ตาแล้วยิ้ม เขาจิบชาแบบเรื่อยๆ แล้วพูดว่า “เราเตือนพวกเขาด้วยความหวังดีแล้ว ถ้าพวกเขาไม่เห็นคุณค่าของเรา นี่ก็ไม่ใช่ความผิดของเรา”
สิ่งแวดล้อมของตลาดระดับสากลที่คงที่นั้นเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของจีน ด้วยผลประโยชน์ของจีนเองและจุดยืนทางศีลธรรม จีนก็หวังว่าสหรัฐอเมริกาจะนำอัลกอริทึมการเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยมากกว่านี้มาใช้
แต่อย่างไรก็ตาม…
ถ้าทำเนียบขาวยืนกรานที่จะต่อต้าน จีนก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอ้อนวอนพวกเขา
ในทางกลับกันถ้าสหรัฐอเมริกาต้องการที่จะอยู่อย่างไม่มีการรักษาความปลอดภัย เช่นนั้นแล้วฝ่ายจีนก็จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้…
นี่เป็นสิ่งที่จริงอย่างยิ่งสำหรับธนาคารกลางของจีน
“คุณพูดถูก แต่เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของอัลกอริทึมการเข้ารหัส เป็นไปได้ว่าพวกเขาคงจะไม่ปล่อยให้เราวางสายเคเบิลออปติกใต้น้ำของเราบนแผ่นดินของพวกเขาเหมือนกัน”
นักวิชาการเสวี่ยยิ้มให้เพื่อนเก่าของเขา
“มหาสมุทรแปซิฟิกนั้นกว้างใหญ่ ชายฝั่งตะวันออกก็ไม่ได้มีแค่สหรัฐอเมริกา ถ้าพวกเขาไม่ต้องการให้มีสายเคเบิลออปติกควอนตัมของเราอยู่บนแผ่นดินพวกเขา ฉะนั้นเราก็ควรจะมอบโอกาสนี้ให้กับประเทศอื่นๆ”
นักวิชาการเกาจุนเหวินมีสีหน้าที่ประหลาดใจ
“คุณหมายความว่า… เลี่ยงสหรัฐอเมริกาไปงั้นเหรอ? แต่ว่า…”
นักวิชาการเสวี่ยยิ้มและพูดว่า “ก็มันไม่มีเหตุผลที่จะติดตั้งสายเคเบิลในที่แรกจริงไหม?”
นักวิชาการเกาพยักหน้า
แม้ว่าจะมีความขัดแย้งในการร่วมมือ แต่เห็นได้ชัดว่าจีนไม่อยากจะละทิ้งตลาดอเมริกาเหนือ
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าศูนย์กลางของอินเทอร์เน็ตนั้นอยู่ในอเมริกา ถ้าเคเบิลออปติกนี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับอเมริกาเหนือ มันก็คงจะไร้ค่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะติดตั้งสายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำบนชายฝั่งของประเทศเล็กๆ ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้แทน
นักวิชาการเสวี่ยยิ้มแล้วส่ายหัว
“คุณต้องมองที่ภาพรวม คอมพิวเตอร์ควอนตัมอยู่ที่แค่ระดับ 500 คิวบิต แล้วอนาคตล่ะ? พวกเขาจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการรักษาความปลอดภัยกับความทะนงตน แล้วก็…”
เขายันที่วางแขนแล้วลุกขึ้นยืน
นักวิชาการเสวี่ยเดินไปยังแผนที่โลกที่แขวนอยู่บนผนังห้องทำงาน เขาเอื้อมมือไปแล้วหยิบปากกาสีแดง จากนั้นก็วาดเส้นตามทิศทางของเส้นทรอปิกออฟแคนเซอร์
เส้นนี้เริ่มจากเซี่ยงไฮ้ ตรงไปยังอเมริกากลาง ผ่านคลองปานามา ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก แล้วผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์ คลองสุเอซ ทะเลแดง และสุดท้ายก็ลากผ่านมหาสมุทรอินเดียและช่องแคบมะละกา แล้วกลับมาที่เอเชียตะวันออก
นักวิชาการเกาจ้องไปที่เส้นนี้บนแผนที่แล้วทำหน้าตาตกตะลึง
เขาตกตะลึงยิ่งกว่าตอนที่เขาอยู่ที่สถาบินจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงด้วยซ้ำ
หลังจากนักวิชาการเสวี่ยวางปากกาคืนลงที่โต๊ะ เขาก็พูดขึ้นว่า
“นี่คือ…”
นักวิชาการเสวี่ยมองดูเพื่อนเก่าของเขาแล้วพูดว่า
“คุณช็อกไปเลยเหรอ?”
นักวิชาการเกาพยักหน้าอย่างซื่อๆ
“… ใช่เลย”
นักวิชาการเสวี่ยยิ้มแล้วมองไปนอกหน้าต่างระหว่างที่เขาพูดขึ้นด้วยสายตาที่กำลังรำลึกถึงความหลัง
“ก่อนหน้านี้ผมได้พูดคุยกับนักวิชาการลู่หลายชั่วโมง พวกเราเห็นด้วยว่าไม่ว่ามันจะเป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสควอนตัมหรืออัลกอริทึมการเข้ารหัสแบบดั้งเดิม อัลกอริทึมการเข้ารหัสแบบอสมมาตรใดๆ ก็ตามก็มีข้อจำกัดเสมอ อัลกอริทึมการเข้ารหัสมีประโยชน์แค่ตอนที่เรามีประสิทธิภาพการประมวลผลในปริมาณที่จำกัด แต่ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศยังคงพัฒนาต่อไปและประสิทธิภาพการประมวลผลยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เราเข้าสู่ยุคควอนตัม อัลกอริทึมการเข้ารหัสก็ไม่ได้มีประโยชน์มากอีกต่อไป”
“การหาปัญหาที่แก้ไขได้มักจะยากกว่าการแก้ปัญหาด้วยตัวมันเอง สิ่งที่เราต้องการในวันนี้คือ ปัญหาแบบ NP[1] และพรุ่งนี้เราก็จะต้องการปัญหาแบบ n^2P ถ้าทุกสิ่งยังคงพัฒนาต่อไปในทิศทางนี้ วันหนึ่งเราก็จะไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างนี้ได้”
“การสื่อสารอย่างมั่นคงปลอดภัยที่ไม่อาจถูกทำลายได้เป็นวิธีแก้ปัญหาเดียวเท่านั้น นี่เป็นวิธีการสื่อสารเพียงอย่างเดียวที่จะเหมาะสมกับการเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณของประสิทธิภาพการประมวลผลและความต้องการของการสื่อสารในอนาคต”
“เราไม่ได้กำลังเลือกอนาคต แต่อนาคตกำลังเลือกเรา”
“ทัศนคติที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่แย่สำหรับเราเสียทีเดียว”
เคเบิลใต้น้ำภาคพื้นแปซิฟิกเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น อเมริกากลางก็เป็นแค่จุดปล่อย เคเบิลออปติกใต้น้ำของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้กำลังจะเดินทางไปในทุกทิศทางของโลก ซึ่งนี่คือแผนการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับชาติของจีน
เมื่อพิมพ์เขียวนี้มีชีวิตขึ้นมา มันก็จะไม่ได้มีแค่คณะกรรมการบริหารจัดการเคเบิลใต้น้ำภาคพื้นแปซิฟิก แต่จะยังมีคณะกรรมการภาคพื้นแอตแลนติก ภาคพื้นเมดิเตอร์เรเนียน และภาคพื้นอินเดีย…
หรือบางทีพวกเขาอาจจะตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการเคเบิลใต้น้ำโลกขึ้นมาก็ได้
นั่นเป็นเป้าหมายสุดท้ายของพวกเขา…
………….