Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1210 สัญชาตญาณทางวิทยาศาสตร์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1210 สัญชาตญาณทางวิทยาศาสตร์
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่โจวก็ยืนอยู่หน้าสำนักงานใหญ่ ILHCRC แล้ว
หลัวเหวินเซวียนโบกมือให้เขาขณะที่เดินเข้ามา ลู่โจวรอให้เขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“จริงๆ ฉันอยากให้นายโทรหาฉันตอนเช้ามากกว่า”
“ทำไมเหรอ?”
“เพราะเมื่อเช้านี้ฉันอยู่ที่แถวท่าเรือฝั่งตะวันออกและมันก็ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงจากที่นั่นมาถึงที่นี่ แต่ตอนนี้ ฉันคิดว่าฉันคงต้องอยู่กินมื้อเย็นที่เซี่ยงไฮ้”
“ท่าเรือฝั่งตะวันออกเหรอ? ที่ตั้งสตาร์โวยาจวันน่ะเหรอ?”
“ใช่”
หลัวเหวินเซวียนมองลู่โจวด้วยท่าทางที่อยากรู้อยากเห็นแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าคุณคำนวณค่าพายเป็นเลขโดด 10^100 ใช่ไหม?”
“ในทางเทคนิคแล้วสตาร์โวยาจวันเป็นคนทำการคำนวณ… ทำไมเหรอ?”
“เปล่า… ฉันแค่คิดว่ามันเจ๋งไปเลย เพื่อน! มันเป็นเรื่องน่าอายที่เราทั้งหมดกำลังทำการทดลองในตอนนั้น และเราก็ไม่มีโอกาสจะได้เห็นมันแบบสดๆ…” หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า เขาพูดด้วยความรู้สึกผิดหวัง “ให้ตายเถอะ ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันพลาดโอกาสในการเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์”
“ถ้านายอยากเห็น นายก็เป็นสักขีพยานในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ได้ทุกวันนะ…” ลู่โจวเดินเข้าไปในทางเดินภายในสำนักงานใหญ่ IMCRC เขาเหลือบมองนาฬิกาสีเงินบนข้อมือของเขาและพูดว่า “เอาล่ะ กลับมาเรื่องธุระของเรากันเถอะ บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น”
หลัวเหวินเซวียนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนักและพูดว่า “ได้สิ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้…”
เขาใช้เวลาสิบนาทีในการเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลู่โจวฟัง
อันที่จริงเมื่อสามวันก่อนพวกเขาได้ทำการทดลองการชนกันของอนุภาคพลังงานสูงในขอบเขตพลังงาน 1.13-1.14 เทระอิเล็กตรอนโวลต์โดยใช้เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ พวกเขาหวังว่าจะค้นพบหลักฐานเพิ่มเติมสำหรับทฤษฎีอนุภาคมิติสูงที่ลู่โจวเสนอ รวมทั้งข้อพิสูจน์สำหรับทฤษฎีไฮเปอร์สเปซที่ไอน์สไตน์ฝันถึง
แต่หลังจากพวกเขาทำการทดลองชุดสุดท้ายเสร็จสิ้น พวกเขาก็ค้นพบอะไรบางอย่างที่ผิดปกติอย่างมาก…
“เดิมแล้วการทดลองสามชุดสุดท้ายตั้งใจจะให้เป็นกลุ่มควบคุม อย่างไรก็ตามข้อมูลพลังงานที่ถูกสังเกตโดยเครื่องตรวจจับทั้งหมด 4 เครื่องแสดงความผันผวนอย่างรุนแรง… ความผันผวนเหล่านี้ไม่สามารถจะอธิบายได้ด้วยความผันผวนเชิงควอนตัม มันคือลำดับขนาดที่ทรงพลังยิ่งกว่านั้น!”
“มันดูเหมือน…”
หลัวเหวินเซวียนพยายามคิดหาคำเปรียบเทียบ แต่ลู่โจวกลับพูดออกมาแทน
“มันเหมือนกับตอนที่นายกำลังเล่นสนุกเกอร์ และใครบางคนเอาไม้คิวมาชนลูกบอลสีขาวที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ใช่ไหม?”
“ถูกเผงเลย!” หลัวเหวินเซวียนดีดนิ้วและพูดว่า “มันให้ความรู้สึกแบบนั้นเป๊ะเลย! แต่มีความแตกต่างนิดหน่อย ไม่ใช่แค่มีใครบางคนชนลูกบอลตรงกลาง แต่พวกเขายังเพิ่มลูกบอลสีดำอีกลูกหนึ่งขึ้นมาบนโต๊ะด้วย”
ลู่โจวเลิกคิ้ว
ถ้าเพียงแต่มีพลังงานเพิ่มขึ้นมาก็มีคำอธิบายทางทฤษฎีมากมายที่กล่าวถึงหลักการพื้นฐานไว้ อย่างไรก็ตาม ทั้งพลังงานและมวลก็ขยายใหญ่ขึ้นในเวลาเดียวกัน ทำให้มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างผิดปกติ
“นายแน่ใจนะว่าอ่านข้อมูลถูกต้องแล้ว?”
“ไม่เอาน่า นายคิดว่าฉันสะเพร่าจริงเหรอ?” หลัวเหวินเซวียนพูดขึ้นขณะที่เขามองมายังลู่โจวที่แสดงสีหน้าเคลือบแคลงใจออกมาอย่างชัดเจน หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจและพูดว่า “ไม่เป็นไร ถึงนายจะไม่เชื่อฉัน นายก็ควรจะเชื่อทีมวิศวกรและนักฟิสิกส์ที่ ILHCRC”
ลู่โจวพูดว่า “แล้วนายได้ตรวจสอบเครื่องที่ทำการทดลองหรือเปล่า?”
หลัวเหวินเซวียนตอบว่า “นั่นคือคำถามเหรอ? วินาทีหลังจากการทดลองเสร็จสิ้น ฉันก็ขอให้วิศวกรที่สถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ดวงจันทร์ทำการตรวจสอบเครื่องทำการทดลองแล้ว ไม่พบสิ่งผิดปกติบนแม่เหล็กตัวนำยวดยิ่งและเครื่องปล่อยอนุภาคพลังงานสูง”
“เรื่องนี้ดูเหมือนจะผิดปกติเล็กน้อย…” ลู่โจวถูคางอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ถามว่า “แล้วเรื่องการประชุมล่ะ? พวกนายได้จัดการประชุมไหม?”
“ฉันโทรหานายทันทีหลังประชุมเสร็จ”
อันที่จริงแล้วการโทรหาลู่โจวเป็นหนึ่งในข้อสรุปสำหรับการประชุม
แม้ว่า ILHCRC จะมีนักวิชาการระดับรางวัลโนเบลมากมาย แต่ประสบการณ์ในการทดลองที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ของพวกเขาไม่สามารถนำมาใช้ได้กับข้อสังเกตที่ผิดปกติครั้งใหม่นี้
แทนที่จะมีการถกเถียงอย่างไม่สิ้นสุด คนส่วนใหญ่กลับอยากฟังความคิดของศาสตราจารย์ลู่มากกว่า
อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ของการทดลองนี้ก็คือเพื่อให้ทฤษฎีอนุภาคมิติสูงของเขาออกมาสมบูรณ์แบบ
หลัวเหวินเซวียนมองมาที่ลู่โจวแล้วพูดว่า
“…ข้อคาดการณ์ของศาสตราจารย์วิทเทนก็คือการขยายแบบมิติต่ำของวัตถุที่มีมิติสูงไปรบกวนความโค้งของกาลอวกาศในบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดความผิดปกติในข้อมูลการสังเกตการณ์ และในความเป็นจริงไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงในมวลและพลังงานภายใต้ระดับกาลอวกาศ จริงๆ แล้ว ผมก็คิดเหมือนกัน แต่ศาสตราจารย์วิลกเซคมีมุมมองที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง นักวิชาการอู๋จากสถาบันฟิสิกส์พลังงานสูงที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนมีความเห็นที่ต่างไปอีก… จะว่าไปแล้วก็ไม่มีใครที่สามารถโน้มน้าวให้คนอื่นเชื่อได้เลยในประเด็นนี้”
ลู่โจวพูดว่า “ถ้าพูดถึงสิ่งที่เป็นสาเหตุให้เกิดความผิดปกติจริงๆ มันต้องมีร่องรอย… ก่อนอื่นขอฉันดูข้อมูลการทดลองหน่อย”
“มากับฉัน”
หลังจากเดินเข้าไปในออฟฟิศของหลัวเหวินเซวียน หลัวเหวินเซวียนก็วางโน้ตบุ๊คบนโต๊ะทำงาน ใส่รหัสผ่านการทำงานของเขาแล้วล็อกอินเข้าไปในฐานข้อมูล
ไม่นานนักเขาก็ดึงข้อมูลการทดลองขึ้นมาและพูดว่า “นายลองดูด้วยตาตัวเอง… นายอยากดื่มอะไรไหม?”
ลู่โจวกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ความสนใจของเขาทั้งหมดไปอยู่ที่ข้อมูลตรงหน้าเขา แล้วเขาก็พูดอย่างเรื่อยๆ ว่า “แค่กาแฟสำเร็จรูปก็พอ”
“ไม่ใช่ว่าฉันมีกาแฟบดใหม่ๆ อยู่นะ… เดี๋ยวผมมา”
หลัวเหวินเซวียนหันกลับไปแล้วไปชงกาแฟ ขณะที่ลู่โจวมองดูบรรทัดข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอ คิ้วของเขาก็เริ่มย่นขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่แถวหนึ่ง
สามนาทีต่อมา ลู่โจวก็สูดลมหายใจอันเย็นเฉียบแล้วพูดขึ้นว่า
“น่าสนใจ…”
เหมือนอย่างที่หลัวเหวินเซวียนพูดไว้ ข้อมูลการทดลองค่อนข้างประหลาด เครื่องตรวจจับ 4 เครื่องที่กระจายอยู่ในเครื่องชนอนุภาคทั้งหมดตรวจพบมวลที่มีขนาดใหญ่กว่าไอออนตะกั่วเองเสียอีก ทั้งหมดมาจากไอออนตะกั่วที่ชนกับเศษชิ้นส่วนต่างๆ
อันที่จริงในทางควอนตัมโครโมไดนามิกส์ การเพิ่มขึ้นและลดลงของมวลพลังงานนั้นเป็นปกติ อย่างไรก็ตามก็มีสิ่งแปลกประหลาด อย่างเช่น โกลด์สโตนโบซอนที่มีมวลเป็นศูนย์ หรืออาจจะเป็นการแทรกแซงโดยมวลของควาร์กในอนาคต หรืออาจจะเป็นการสร้างบางสิ่งที่ไม่สามารถจะสังเกตได้ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันของมนุษย์
อย่างไรก็ตามมันก็มีข้อจำกัดในเรื่องการผันผวนของพลังงาน
ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้เพื่อคำนวณควอนตัมโครโมไดนามิกส์โดยปกติจะสามารถประเมินการผันผวนได้ประมาณ 93%
แต่ข้อมูลตรงหน้าเขาทั้งหมดกลับแตกต่างออกไป
หลังจากทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมาจากการทดลอง การชนกันที่ตรวจพบด้วยเอกซ์เรย์โฟโตอิเล็กตรอนสเปกโทรสโคปีนั้นเกินกว่าค่าที่คาดการณ์ไว้โดยลำดับขนาดทั้งหมด…
นี่อาจจะไม่ได้มีเหตุมาจากความผันผวนทางควอนตัมเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
สิ่งนี้ไม่ได้แค่ข่มขวัญทฤษฎีอนุภาคมิติสูงของเขา แต่ยังเป็นการข่มขวัญทฤษฎีสัมพัทธภาพ แบบจำลองมาตรฐาน และแม้กระทั่งสมการมวล-พลังงาน… สิ่งนี้สามารถจะทำลายพื้นฐานทั้งหมดของฟิสิกส์สมัยใหม่ได้เลย
บางทีอาจมีบางสิ่งกำลังเข้ามาแทรกแซงในการทดลองนี้ อย่างที่หลัวเหวินเซวียนได้อธิบายไว้ ใครบางคนอาจจะเพิ่มลูกบอลเข้ามาบนโต๊ะสนุกเกอร์…
ทันใดนั้นลู่โจวก็เกิดความคิดขึ้นมา
มันรู้สึกเหมือนเขากำลังฝันกลางวัน
กล่องข้อความสีฟ้าปรากฏขึ้นต่อสายตาเขา
[ภารกิจฉุกเฉิน: สายจากวอยด์]
เมื่อลู่โจวจ้องหน้าต่างแชท เขาก็นิ่งไปเลย
ครั้งสุดท้ายที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นนั้นก็เนื่องมาจากแบคทีเรียบนดาวอังคาร…
หลัวเหวินเซวียนเดินเข้ามาในออฟฟิศพร้อมกับกาแฟ 2 แก้ว
เขามองมาที่ลู่โจวแล้วถามอย่างสงสัยว่า “นายเจออะไรบ้างไหม?”
ลู่โจวผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงคอมพิวเตอร์ ทำท่าทางราวกับเขาเพิ่งจะเห็นผี
ลู่โจวเงยหน้ามองหลัวเหวินเซวียนและหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า
“ฉันคิดว่า… เราอาจจะเจอปัญหา”
หลัวเหวินเซวียนมองเขาแล้ววางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงาน
“ปัญหาเหรอ? ทำไมเหรอ?”
“สัญชาตญาณ…” ลู่โจวขบกรามแล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งที่สัญชาตญาณทางวิทยาศาสตร์กำลังบอกฉัน”
……………