Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1215 บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็เป็นมากกว่าแค่ความคิดหนึ่ง
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1215 บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็เป็นมากกว่าแค่ความคิดหนึ่ง
ภายในร้านกาแฟ
ลู่โจวนั่งลงตรงข้างหน้าต่างและบุ้ยใบ้ให้หวังเผิงรอเขาอยู่ด้านนอก แล้วเขาก็มองมาที่ศาสตราจารย์มิโรและถามว่า “คุณอยากจะดื่มอะไร?”
“อะไรก็ได้ที่เย็นๆ”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วสั่งกาแฟเย็น 2 แก้ว
จากนั้นเขาก็หันมามองศาสตราจารย์มิโรและถามว่า “พูดตามตรงว่าผมไม่ค่อยเข้าใจว่าการขยายมวล 53% เกี่ยวข้องกับ… จิตวิญญาณแห่งจักรวาลยังไง?”
“คุณเป็นคนแรกเลยที่ถามคำถามนี้กับผม” ศาสตราจารย์มิโรพูดว่า “ปฏิกิริยาแรกที่เกิดกับคนส่วนใหญ่คือผมกำลังพูดเรื่องเหลวไหล พวกเขาคิดว่าผมเป็นนักทฤษฎีสมคบคิด”
“ความเห็นของผมไม่ได้ต่างไปจากพวกเขา” ลู่โจวยักไหล่และพูดต่อไปว่า “ความอยากรู้ของผมตั้งอยู่ในความเชื่อมโยงระหว่างเรื่องสองเรื่องล้วนๆ “
ศาสตราจารย์มิโรไม่ได้พูดอะไรระหว่างที่เขาค้นดูกระเป๋ากางเกง
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้หวังเผิงรู้สึกกังวลเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ชาวอเมริกันคนนี้ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยแต่อย่างใด แต่เขากลับหยิบกระดาษโน้ตและปากกาเซ็นชื่อมาจากกระเป๋ากางเกงแทน
“เพราะคุณเก่งเรื่องคณิตศาสตร์ ผมจะแสดงให้คุณเห็นโดยใช้การพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์”
ลู่โจวผายมือเป็นทำนองเชื้อเชิญ
“ผมชอบความคิดนั้น คณิตศาสตร์จะไม่ทำให้ใครผิดหวังอย่างแน่นอน”
ศาสตราจารย์มิโรเขียนการคำนวณลงไปหลายบรรทัด
[MN=m0-4c1Mπ2+O(Mπ3)]
“นี่คือมวลนิวคลีออนที่ได้มาจากการประมาณค่านอกช่วงของไครัล m0≈880 MeV; c1≈-1GeV-1; Mπ2 คือมวลสแควร์ของไพออน…”
ลู่โจวหยิบแก้วกาแฟมาจากถาดของพนักงานเสิร์ฟและพูดอย่างใจเย็นว่า
“แล้วยังไงครับ? ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟังคำอธิบายธรรมดาๆ ของคุณในเรื่องควอนตัมโครโมไดนามิกส์”
“ผมแค่อยากจะทบทวนคอนเซปต์พื้นฐานอีกครั้งเพื่อจะได้อธิบายมุมมองของผมให้ดีขึ้น”
ศาสตราจารย์มิโรกระแอมแล้วพูดต่อว่า “จากสูตรนี้เราจะเห็นได้ชัดว่ามวลส่วนมากของสิ่งที่มองเห็นได้ในจักรวาลสามารถจะกำหนดได้ด้วยควอนตัมโครโมไดนามิกส์แบบล้วนๆ โดยไม่มีการเพิ่มมวลควาร์กเข้าไป… เว้นแต่ส่วน 7% ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ชั่วคราว มันอาจจะมาจากนอกแบบจำลองมาตรฐานหรือจากข้อผิดพลาดทางสถิติ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
ลู่โจวพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา รอให้มิโรพูดต่ออย่างเงียบๆ
“อย่างไรก็ตามการทดลองเมื่อไม่นานนี้ได้ล้มล้างการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมดของผมไปโดยสิ้นเชิง ผมคิดว่าการชนกันในระดับพลังงานที่สูงกว่าอาจจะเป็นการเปิดเผยความลับ 7% ให้แก่เรา
“แต่การทดลองกลับเผยให้เห็นมวลพลังงานที่ไม่สามารถอธิบายได้ในระบบของเรา 53% แทน!”
“มันน่าตกใจใช่ไหมล่ะ? เราควรมีสสารน้อยกว่าตอนที่เราเริ่ม แต่ในความเป็นจริงคือเราสังเกตเห็นมากกว่าตอนที่เราเริ่มและมันไม่ได้เป็นปริมาณที่น้อยเลย!
“คิดดูสิ เราสามารถเก็บสมการทั้งสองฝั่งไว้ได้ด้วยการเพิ่มอนุภาคที่มีมวลลบ จักรวาลดั้งเดิมอันสมบูรณ์แบบเป็นเหมือนชิ้นส่วนของดินน้ำมันที่ถูกปั้นแต่งโดยมือที่มองไม่เห็น…”
“ความสมบูรณ์แบบขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล” ลู่โจวพูดแทรกขึ้นมาว่า “ผมไม่คิดว่าจักรวาลสมบูรณ์แบบ”
“เหรอครับ? ฮ่าฮ่า อาจจะเป็นได้! แล้วถ้าผมบอกคุณว่า ผมเห็นผีตัวนั้น… ลืมมันไปเถอะ มันประหลาดเกินกว่าจะพูดออกมา ผมคิดว่าผมไม่ควรทำให้คุณคิดว่าผมเป็นคนบ้า”
คุณไม่ได้เป็นคนบ้าเหรอ?
ภายในจิตใต้สำนึกลู่โจวคิดว่ามิโรเป็นบ้า แต่เขาไม่ได้แสดงมันออกมาให้เห็น
ทันใดนั้นศาสตราจารย์มิโรก็รีบก้มหัวลงแล้วเขียนการคำนวณสองสามบรรทัดลงบนกระดาษ
หลังจากเขียนทั้งหมดเสร็จ เขาก็บรรจงพับกระดาษแล้วส่งให้ลู่โจว
“สมมติฐานที่เด่นชัดและการพิสูจน์ความจริงอย่างรอบคอบเป็นสิ่งที่นำเรามาสู่ฟิสิกส์ที่ล้ำสมัยในวันนี้ เหมือนอย่างที่เราได้พิสูจน์การมีอยู่ของแรงโน้มถ่วงจากลูกแอปเปิลที่ตกลงมา การคิดในเชิงวิทยาศาสตร์ทำให้เราได้กำจัดความไม่รู้ออกไปและได้เรียนรู้การสร้างแบบจำลอง… และทำให้เราลืมการไร้ซึ่งความสำคัญของพวกเราเอง”
“คุณรู้ไหม? “
“จักรวาลนั้นเหมือนกับเกมที่ถูกออกแบบมา โดยปกติมันจะตอบรับความคาดหวังของเรา จนกระทั่งวันหนึ่งพารามิเตอร์ที่เราป้อนข้อมูลเข้าไป ในที่สุดก็ไปเกินกว่าจุดเริ่มต้น และสุดท้ายมันก็ไม่สามารถตอบรับความคาดหวังของเราได้ ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดพังทลายลงที่ภาวะเอกฐานนี้”
“การชนกันมากกว่า 5 เทระอิเล็กตรอนโวลต์ไม่ได้เพียงทำลายการเก็บรักษามวลพลังงานแต่ยังทำลายฟิสิกส์ทั้งหมดด้วย”
ลู่โจวมองดูเขาอยู่เงียบๆ
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมนักวิชาการหนุ่มผู้นี้ซึ่งมีพรสวรรค์พิเศษจึงตกอยู่ในสภาพหวาดระแวงและมีความคิดที่พิลึก
ฟิสิกส์เป็นสาขาวิชาในการศึกษากฎการเคลื่อนไหวของวัตถุที่ธรรมดาที่สุดและโครงสร้างพื้นฐานของวัตถุ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การค้นพบของลู่โจวก็ได้เปิดเผยต่อพวกเขาแล้วว่าจักรวาลไม่มีกฎเกณฑ์
มันอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากถ้ามีทฤษฎีบททางฟิสิกส์เพียงทฤษฎีเดียวที่ถูกพิสูจน์ว่าผิด แต่สิ่งนี้ได้เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างไป
สิ่งนี้เปลี่ยนแปลงความจริงของตัวมันเอง
เรือของมนุษย์ที่สำรวจความจริงของจักรวาลกำลังถูกลากเข้าไปสู่มหาสมุทรด้วยมือที่มองไม่เห็น
ในที่สุดลู่โจวก็เข้าใจว่าทำไมเรื่องนี้จึงพัฒนามาถึงขอบเขตที่ระบบต้องคืบหน้าและส่ง [ภารกิจฉุกเฉิน] มาให้เขา
ด้วยความสัตย์จริง ถ้าเขาไม่ได้ยินเสียงจากวอยด์ เขาคงจะสับสนยิ่งกว่าศาสตราจารย์มิโรในตอนนี้
“จักรวาลเองก็ผิดปกติ ความไม่รู้และความไม่สำคัญของเราทำให้เราคิดว่าท้องฟ้าที่เราเห็นเป็นสีฟ้า”
“มันเหมือนมีผีล่องหนตัวหนึ่งที่เตร็ดเตร่อยู่ในจักรวาลนี้ มันเด็ดแอปเปิลออกมาจากต้นและบีบคอแมวของชเรอดิงเงอร์ด้วยมือของมัน ทำให้แสงเป็นอนุภาคหรือคลื่น ปรับแต่งทุกสิ่งอย่างตามที่มันต้องการ… แต่เรายังอยากอธิบายพฤติกรรมของมันด้วยทฤษฎีที่ขัดแย้งกัน”
ทันใดนั้นลูกตาที่แดงก่ำด้วยเส้นเลือดของศาสตราจารย์มิโรเบิกกว้างขึ้น
เขาเคาะนิ้วชี้บนกระดาษแผ่นเล็กระหว่างที่เขาลดเสียงต่ำลง
“นี่คือการคาดการณ์ของผม ศาสตราจารย์ลู่ที่เคารพ”
“ปรากฏการณ์การขยายของมวลในบริเวณที่มีพลังงานสูงนั้นผิดปกติ เรากำลังทำสิ่งที่โง่เง่ามากสำหรับครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา”
“เราจะเริ่มทำการทดลองใหม่อีกครั้งในอีกครึ่งเดือน และอีกไม่นานนี้คุณจะได้พิสูจน์ว่าผมคิดถูก
“ทั้งหมดนี้วางแผนไว้แล้ว”
หลังจากนั้นศาสตราจารย์มิโรยืนขึ้นแล้วเดินออกไป
…
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าผลการทดลองกระทบมิโรเข้าอย่างรุนแรง
ไม่ว่าจะในทางจิตใจหรือทางร่างกาย
หลังจากที่ได้พบกับศาสตราจารย์มิโร ลู่โจวก็กลับขึ้นรถแล้วนั่งอยู่ที่เบาะหลังโดยไม่ได้พูดอะไร เขามองกระดาษในมือของเขาและเริ่มครุ่นคิด
เมื่อหวังเผิงมองลู่โจวผ่านกระจกมองหลัง เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
“ศาสตราจารย์คนนั้น…”
“กำลังทำลายตัวเขาเอง”
หวังเผิง “…?”
ลู่โจวพูดว่า “ถ้าวันหนึ่งผมบอกคุณว่าคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี และแม้แต่ภาษาจีน… จริงๆ แล้วทุกอย่างมันไม่ใช่เรื่องจริง คุณจะรู้สึกยังไง?”
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ศาสตราจารย์ลู่ถามคำถามแปลกๆ แบบนี้ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจมากกว่าปกติ
หวังเผิงคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบว่า
“ผมนึกไม่ออก… ไม่ว่าจะยังไง ภาษาก็ไม่มีทางเป็นเรื่องไม่จริง”
“ผมแค่ยกตัวอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตามคุณก็ไม่ได้ศึกษาเรื่องควอนตัมโครโมไดนามิกส์และคุณก็ไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตคุณในการเขียนบทความวิจัย”
ลู่โจวถอนหายใจและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดต่อไปว่า “ขอผมยกตัวอย่างให้คุณฟังอีกเรื่องหนึ่ง สมมติว่าวันหนึ่งคนที่คุณชื่นชมมากที่สุดเปลี่ยนจากนักบุญไปเป็นปีศาจร้ายหรืออะไรทำนองนั้น แล้วผลักดันโลกไปสู่ความหายนะ”
หวังเผิงพูดออกมาโดยแทบจะไม่ได้ลังเล “เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้”
“จริงเหรอ?” ลู่โจวยักไหล่แล้วพูดว่า “ผมก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่คุณสามารถจินตนาการได้ว่าเรื่องนี้มันจะมีความหมายต่อคุณอย่างไร ถ้าหากเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น”
“ศาสตราจารย์มิโรกำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้ สิ่งที่เขาคิดอยู่เสมอว่ามันเป็นไปไม่ได้กำลังจะเป็นจริงต่อหน้าต่อตาเขา”
“การวิจัยสองทศวรรษที่ผ่านมาของเขากลายเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ ฟิสิกส์และชีวิตไร้ซึ่งความหมายไปแล้วสำหรับเขา”
“ในแง่หนึ่ง บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็เป็นมากกว่าแค่ความคิดหนึ่ง”
“มันยังเป็นความเชื่ออีกด้วย”
…
ศาสตราจารย์มิโรถูกสั่งให้พักการทำงาน
นี่เป็นคำแนะนำของแพทย์
สภาวะปัจจุบันของเขาทำให้เขาเหมาะสมในการเข้าร่วมในการวิจัย
ไม่เพียงแต่เขาจะทำให้ตัวเขาเองกระทบกระเทือน แต่เขายังสร้างผลกระทบต่อคนอื่นๆ ในทีมโปรเจกต์ด้วย
แต่ก่อนลู่โจวคิดว่าอัจฉริยะหนุ่มอาจจะไม่ยอมรับการจัดการนี้
อย่างไรก็ตามลู่โจวก็รู้สึกประหลาดใจ หลังจากได้ยินคำแนะนำจาก ILHCRC ที่ให้มิโรไปเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ มิโรกลับมีอารมณ์สงบอย่างไม่น่าเชื่อ เขามีสีหน้าที่ผ่อนคลายระหว่างที่เขากำลังเก็บของของเขาจากในออฟฟิศ
“นี่เยี่ยมเลย ในที่สุดผมก็มีเวลาจะวางแผนการเดินทางที่ผมอยากไปมาตลอด”
เขาอำลาเพื่อนร่วมงานของเขาทีละคนและออกจากออฟฟิศไป
ลู่โจวให้ความสนใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมิโรเป็นพิเศษ มันน่าสนใจทีเดียวที่ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ไม่ได้ออกจากเซี่ยงไฮ้ไปในทันทีทันใด แต่เขากลับยังอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์ที่ ILHCRC จัดเตรียมไว้
มันดูเหมือนว่ามิโรจะไม่แน่ใจมากนักเกี่ยวกับการคาดคะเนของเขาเองเช่นกันและดูเหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะรอจนกว่าจะถึงการทดลองครั้งถัดไปเพื่อดูว่าเขาคิดถูกหรือไม่
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ทำให้ลู่โจวรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
เพราะมันหมายความว่าข้อสรุปของมิโรทั้งหมดเกิดขึ้นในสภาวะที่มีสติ
ลู่โจวยังสังเกตเห็นว่าระหว่างที่อยู่ในช่วงพักงานนี้ ศาสตราจารย์มิโรได้ทำการอัพเดทบล็อกของเขา จากการประเมินอย่างไม่ลำเอียง มิโรก็ค่อนข้างมีความสามารถในด้านการเขียน เขาสามารถจะนำเสนอทฤษฎีฟิสิกส์ที่น่าเบื่อออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่ายได้ ดังนั้นเขาจึงมีแฟนคลับและผู้ศรัทธาในตัวเขามากมาย
ครึ่งเดือนผ่านไป
มันถึงเวลาสำหรับรอบการทดลองครั้งถัดไปของ ILHCRC
ในเวลานี้ ลู่โจวยืนอยู่ด้านในศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดิน
นี่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น เขาเพียงอยากใช้ดวงตาของเขามายืนยันว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่อุบัติเหตุหรือการค้นพบนี้จะเปลี่ยนแปลงฟิสิกส์ไปจริงๆ
เขากำหมัดแล้วก็คลายออกอยู่ตลอดเวลา เขาเดินกลับไปกลับมาหลายรอบในโถงทางเดินของศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดิน ในที่สุดเขาก็รอให้ผลลัพธ์เปิดเผยออกมา
เขามองไปที่ข้อมูลบนหน้าจอตรงหน้าเขา
ความผิดปกติเกิดขึ้นอีกครั้ง!
หลังจากการชนกันของไอออนตะกั่ว 2 ตัวในขอบเขตพลังงานสูง ก็เกิดมวลเพิ่มขึ้นมา!
มีเสียงอึกทึกดังขึ้นในศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดิน ดวงตาของผู้คนเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ พวกเขาต่างเหลือบมองกันและกันและพูดคุยกันเบาๆ ด้วยความกังวลและตื่นเต้นด้วย
ลู่โจวมีสีหน้าที่สงบและนิ่งทื่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
เขาเอื้อมมือไปที่กระเป๋าของเขาแล้วหยิบแผ่นกระดาษออกมา
เขามองไปที่กระดาษและพูดพึมพำว่า “คุณเดามันถูกจริงๆ”
มวลที่เพิ่มขึ้นมาไม่ใช่แค่ไอออนตะกั่ว 0.53 อีกต่อไป
มันคือ 0.71
อีกอย่าง…ข้อมูลที่รวบรวมมาโดยเครื่องตรวจจับทั้งสี่เครื่องในการทดลองสอดคล้องกันมากอย่างน่าประหลาดใจ…
…………………