Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1219 การดำรงอยู่ของวอยด์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1219 การดำรงอยู่ของวอยด์
เปอร์โซ เฟอร์นันโด เป็นช่างก่อสร้างสะพานจากแคลิฟอร์เนียและเป็นผู้ศรัทธาในกาแลตต์ มิโร รายใหญ่
ด้วยความสัตย์จริงเนื่องจากเขาไม่ได้รับการศึกษาระดับอุดมศึกษา เขาจึงไม่สามารถที่จะเข้าใจทฤษฎีของศาสตราจารย์กาแลตต์ มิโร ได้อย่างเต็มที่
แต่โชคดีที่ศาสตราจารย์มิโรผู้ยิ่งใหญ่ดูแลใส่ใจเหล่าสามัญชนและบรรยายทฤษฎีที่ซับซ้อนและเข้าใจยากของเขาในแบบที่เรียบง่าย
ต้องขอบคุณสิ่งนี้ที่ทำให้แม้แต่คนอย่างเขาสามารถที่จะได้ยินเสียงที่ลึกซึ้งที่สุดของจักรวาล
หลังจากได้ยินเรื่องการเสียชีวิตของศาสตราจารย์มิโร เขาและผู้ศรัทธาในจิตวิญญาณแห่งจักรวาลคนอื่นๆ ต่างก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
พวกเขาเชื่อว่า ILHCRC ข่มเหงเขา พวกนักวัตถุนิยมใจแคบและเจ้าหน้าที่ด้านฟิสิกส์พวกนั้นฆ่าเขาและปิดบังการตายของเขาโดยบอกว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
ในความเป็นจริง มันมีร่องรอยที่ดูมีพิรุธจริงๆ มากมายเกี่ยวกับการตายของมิโร ยกตัวอย่างเช่น สองชั่วโมงก่อนที่เขาจะฆ่าตัวตาย เขากำลังตอบคำถามจาก “เหล่าผู้ศรัทธา” ของเขาในบล็อกและยังสั่งพิซซ่าแฮมมาด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าคนที่ร่าเริงและฉลาดขนาดนี้จะจบชีวิตของเขาด้วยวิธีนี้
ความสงสัยเหล่านี้ทำให้เกิดช่องทางสำหรับทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เพื่อทำการปลุกปั่น
เมื่อถูกกระตุ้นด้วยความรู้สึกยุติธรรม ความศรัทธา และอารมณ์ เฟอร์นันโดจึงขึ้นเครื่องบินเดินทางมายังเซี่ยงไฮ้และมาที่ตึกของ ILHCRC เขายืนอยู่ตรงแนวหน้าของการรักษาไว้ซึ่งอารยธรรมมนุษย์พร้อมกับเหล่าพี่น้องชายหญิงของเขา
ผู้ประท้วงเหล่านี้แตกต่างจากคนส่วนใหญ่
พวกเขาไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่เพราะเงิน พวกเขาเชื่อจริงๆ ว่านักฟิสิกส์โง่เง่าพวกนั้นจะทำลายโลก อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟอร์นันโดทำเรื่องแบบนี้
เมื่อนานมาแล้ว เขาทำสิ่งที่ ‘น่าประหลาดใจ’ เขาไปที่สวิตเซอร์แลนด์โดยใช้เงินของเขาเองและแอบเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดินของ LHC ซึ่งทำให้การทดลองที่วางแผนไว้ต้องถูกระงับ
แม้ว่าเขาจะถูกเซิร์นฟ้องร้องหลังจากนั้นและถูกแบนอย่างถาวรจากกรมศุลกากรของสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด
เขารู้สึกเหมือนว่านี่เป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศ
ยิ่งไปกว่านั้น องค์กรปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งหนึ่งที่ต่อต้านการทดลองเครื่องชนอนุภาคยังออกค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายให้เขาทั้งหมดอีกด้วย
ไม่ถึงห้านาทีหลังจากที่พวกเขาเข้ามายึดถนน กองกำลังตำรวจก็เริ่มรวมตัวกันตรงบริเวณใกล้เคียง พวกเขาสามารถสลายฝูงชนไปได้อย่างง่ายดาย
ก่อนที่เขาจะถูกจับ เขาดูเหมือนจะได้ยินคำที่ไม่สามารถเข้าใจได้แบบไม่ค่อยชัดนัก
อย่างไรก็ตาม เพราะเขาไม่เข้าใจภาษาจีนกลาง เขาจึงนึกไม่ออกว่าคำเหล่านั้นหมายความว่าอะไรจนกระทั่งเขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายคุมตัวเข้าไปยังสำนักงานใหญ่ของ ILHCRC
เขาถูกให้เข้าไปรวมกับพวกผู้ประท้วงที่หัวรุนแรงที่สุดอีกหลายคนและถูกนำมาที่ห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งเพื่อทำการแถลงการณ์ เขากำลังจะร้องขอทนายความเมื่อตอนที่ชายหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
เฟอร์นันโดไม่ชอบวิธีการที่ชายคนนี้มองมาที่เขา
อย่างไรก็ตาม จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนว่าคนคนนี้ดูคุ้นตา ลูกตาของเขาขยายกว้างขึ้น
“ลู่โจว?”
ลู่โจวหัวเราะเบาๆ
“ผมไม่คิดว่าคุณจะจำผมได้”
เฟอร์นันโดกัดฟันแล้วพูดว่า “บาปของคุณทรยศมนุษยชาติ ผมน่าจะจำคุณได้แม้แต่ตอนที่คุณถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน”
ลู่โจวยิ้ม เขาไม่ได้สนใจคำพูดที่หยาบคายของเฟอร์นันโด เขาชำเลืองมองไปที่คำแถลงการณ์บนโต๊ะและพูดว่า “เปอร์โซ เฟอร์นันโด ชาวแคลิฟอร์เนียแต่กำเนิด ผมเดาว่าคุณน่าจะเป็น… บิชอปของลัทธิจิตวิญญาณแห่งจักรวาลใช่ไหม?”
เฟอร์นันโดยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง
“บิชอป? นั่นคือสิ่งที่มีแต่พวกที่บ้าศาสนาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเท่านั้นที่จะเชื่อ เราก้าวหน้าไปพร้อมกัน เราไม่ต้องการการชี้แนะจากใครทั้งนั้น!”
ลู่โจวฟังคำพูดของเขาแล้วพยักหน้า
“คุณพูดจบแล้วใช่ไหม?”
เฟอร์นันโดตอบ
“จบแล้ว!”
ลู่โจวพูดว่า “งั้นก็มากับผม”
เฟอร์นันโดนิ่งไปชั่วครู่
“ไปไหน?”
ลู่โจวตอบว่า “เดี๋ยวก็รู้”
…
จริงๆ แล้วไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเป็นนักวัตถุนิยมหรือนักอุดมคติ พวกเขาก็ไม่ได้สนใจในเรื่องพระเจ้าหรือเวทมนตร์ลี้ลับใดๆ ทั้งสิ้น
นี่เหมือนอย่างความเชื่อของกาแลตต์ มิโร ที่ไม่ได้ขัดแย้งกับอาชีพของเขาในฐานะนักฟิสิกส์คนหนึ่ง ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักวิชาการด้านฟิสิกส์ของอนุภาค แต่เขายังเป็นผู้ศรัทธาใน ‘จิตสำนึกแบบนิยัตินิยม’
ความแตกต่างระหว่างวัตถุนิยมกับอุดมคตินิยมก็อยู่ที่เพียงว่าวัตถุหรือจิตสำนึก เรื่องไหนที่จะมาก่อน…
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากาแลตต์ มิโร เป็นนักฟิสิกส์ที่ดีคนหนึ่งและเป็นชายคนหนึ่งที่ฉลาดหลักแหลม
ลู่โจวยอมรับในเรื่องนั้น แม้ในตอนแรกเขาจะคิดว่าชายคนนี้ดูไม่เหมือนคนฉลาด แต่อันที่จริงเขาประเมินมิโรต่ำเกินไป
บางทีสิ่งที่ฉลาดที่สุดที่มิโรทำก็คือการแยกทฤษฎีทางวิชาการของเขากับแนวคิดด้านปรัชญาออกเป็นสองส่วนและเปิดเผยทฤษฎีของเขาต่อกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
เขาพัฒนากลุ่มผู้สนับสนุนเรื่องจิตวิญญาณแห่งจักรวาลกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ ILHCRC
เขายังพัฒนากลุ่มผู้ศรัทธาใน ‘จิตวิญญาณแห่งจักรวาล’ ในรูปแบบของศาสนาผ่านวิทยาศาสตร์สำหรับคนทั่วไปและอินเทอร์เน็ตด้วย แม้ว่านี่จะไม่ได้เป็นศาสนาเลย แต่ผู้ศรัทธาในจิตวิญญาณแห่งจักรวาลก็ปฏิบัติต่อมันเหมือนกับเป็นศาสนา
แม้ว่า ‘จิตวิญญาณแห่งจักรวาล’ และ ‘วิญญาณนิยมจักรวาล’ จะเป็นสิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่จริงๆ แล้วทั้งสองอย่างก็เติมเต็มกันและกันได้ในระดับหนึ่ง
อย่างแรกนั้นให้อาวุธทางทฤษฎี ขณะที่อย่างหลังให้อาวุธทางวัตถุ
สิ่งนี้เหมือนไม่ได้เป็นศาสนาหนึ่ง แต่มันเกือบจะเหมือนเป็นการปฏิวัติ…
ด้วยสิ่งนี้ สองวันหลังจากมิโรเสียชีวิต เหล่าผู้ประท้วงจึงผุดขึ้นมาในทุกมุมโลกยกเว้นจีน
ยุโรปตะวันออกถูกโจมตีหนักที่สุด
เซิร์นและสถานีพลังงานฟิวชั่นคาดาราชได้รับผลกระทบในระดับที่แตกต่างกัน
เหมือนราวกับว่าชั่วข้ามคืน จิตวิญญาณแห่งจักรวาลก็กลายเป็นกลุ่มผู้ศรัทธาขนาดใหญ่ขึ้นมากะทันหัน
เหมือนราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นคอยผลักดันกลุ่มผู้ศรัทธาไปข้างหน้า…
นอกจากกลุ่มผู้ประท้วงรอบโลกแล้ว อุดมการณ์ของพวกเขาก็ไม่ได้รุนแรงมาก
ลู่โจวศึกษาข้อความที่ศาสตราจารย์มิโรทิ้งไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
กาแลตต์ มิโร ผู้สร้างจิตวิญญาณแห่งจักรวาลได้ใช้แนวคิดแห่ง ‘ความสามัคคีของมนุษย์’ เป็นอุดมคติสูงสุด เขาเชื่อว่าตราบใดที่จิตสำนึกของมวลมนุษย์ทั้งหมดรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขาก็จะสามารถสื่อสารกับสิ่งที่ดำรงอยู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนเสมือนจริงได้ ซึ่งก็คือ “จิตสำนึกสูงสุดที่สร้างทุกสรรพสิ่งและกำหนดจักรวาล”
สำหรับโลกเสมือนจริง…
จากคำบรรยายของศาสตราจารย์กาแลตต์ มิโร ในสมุดบันทึกของเขา เขาก็ได้กล่าวถึงวอยด์ไว้จริงๆ
ลู่โจวรู้สึกเหมือนว่ามิโรได้ยืมทฤษฎีเรื่อง ‘มิติสตริงพิเศษ’ ของเขาไป
เมื่อบรรยายถึงดินแดนเสมือนจริง มิโรบรรยายว่าจักรวาลเป็นเหมือนกล่อง และเขาก็ใส่จิตวิญญาณแห่งจักรวาลนั้นไว้นอกกล่อง จิตวิญญาณแห่งจักรวาลเป็น ‘จิตสำนึก’ ที่กำหนดกฎเกณฑ์ของ ‘วัตถุ’ ในกล่อง
ในแง่นี้ นอกจากแสดงถึงเอกลักษณ์ของมิโรในฐานะนักฟิสิกส์แล้ว เขายังเป็นนักอุดมคติด้วย
ว่ากันตามตรง ลู่โจวตะลึงกับเหล่าผู้ประท้วง
จากสิ่งที่เขาเข้าใจ นอกจากอารยธรรมมนุษย์แล้ว ยังมีอารยธรรมอื่นๆ อีกมากมายที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าด้วย
ไม่ว่า ‘จิตสำนึกที่ยิ่งใหญ่’ จะมีอยู่จริงหรือไม่ การหวังให้รวมจิตสำนึกของมนุษยชาติทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อที่จะสื่อสารกับ ‘จิตวิญญาณแห่งจักรวาล’ นั้นเป็นเรื่องที่น่าขัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับจักรวาลอันกว้างใหญ่ การดำรงอยู่ของมนุษย์นั้นเล็กกระจิริด
มนุษย์ไร้ความหมายจริงๆ…
ลู่โจวยืนอยู่ในห้องบรรยายที่แออัดด้วยฝูงชนและเขาก็มองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเขา
การสัมมนากำลังจะเริ่มขึ้นในห้านาที
เขารู้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะอธิบายอาจจะสร้างผลกระทบใหญ่ต่อโลกฟิสิกส์ทั้งหมดและทิศทางของอารยธรรมมนุษย์ เขาสงสัยด้วยซ้ำว่าเขาใจร้อนเกินไปหรือไม่
เขายังจำได้ว่าผู้สังเกตการณ์เคยเตือนเขาว่ามันไม่ใช่เรื่องดีที่จะเผชิญหน้ากับวอยด์และมีสิ่งที่ ‘ยากจะหยั่งรู้’ อีกมากมายที่อยู่ในวอยด์
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด
วอยด์กำลังแสดงตัวต่อจักรวาลด้วยความกระตือรือร้น
ถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไป อารยธรรมมนุษย์อาจจะต้องใช้เวลาหลายชั่วอายุคนกว่าที่พวกเขาจะสามารถออกไปสำรวจโลกที่อยู่นอกกล่องของพวกเขาได้
ลู่โจวเอื้อมมือออกไปแล้วค่อยๆ หยิบปากกามาร์คเกอร์บนโต๊ะทำงานขึ้นมา
เขากำลังจะแสดงให้โลกได้ประจักษ์…
การดำรงอยู่ของวอยด์!
……..