Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1230 หนื่งแสนล้านเยน?!
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1230 หนื่งแสนล้านเยน?!
ตั้งแต่ที่ผู้อำนวยการหลี่มาช่วยให้คำแนะนำที่รังนกเมื่อคราวก่อน ผู้อำนวยการโอวก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้งานนี้จะยังเป็นงานที่โหดหิน แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองได้คว้าเอากุญแจที่จะช่วยแก้ปัญหามาได้แล้ว
จะประสบความสำเร็จในด้านการนำเสนอสุดไฮเทคและภาพฉายที่น่าประทับใจได้อย่างไรน่ะเหรอ
ง่ายมากเลย ก็หาเทคโนโลยีเจ๋งๆ มาโชว์ให้ผู้ชมก่อนสิ
หลังจากคุยกับหลิวเหว่ย ผู้กำกับชื่อดังที่สร้างหนังแอ็กชันทำเงินของจีน โอวไห่เฟิงก็ฟังคำแนะนำของเลขานุการตัวเองและติดต่อกับ NTT บริษัทที่รับผิดชอบการออกแบบระบบโฮโลแกรมให้งานโอลิมปิกในโตเกียว
พอ NTT ได้ยินว่ามีคำสั่งใหญ่มาจากหน่วยงานรัฐของจีน พวกเขาก็กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก พวกเขาส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานใหญ่ที่โตเกียวมาสำรวจแบบออนไซต์ ณ ที่จัดงานในทันที
รถโตโยต้าแล่นมาจอดที่ทางเข้ารังนก
อู๋หยวนหาง เลขานุการของโอวไห่เฟิง เริ่มกล่าวสวัสดีชายญี่ปุ่นสองคน
“คุณนากาโอกะ มาถึงแล้วสินะครับ! ขอแนะนำให้รู้จักนะครับ คนที่อยู่ข้างหลังผมคือหัวหน้าแผนกเรา ผู้อำนวยการโอวไห่เฟิง”
“สวัสดีครับ ผู้อำนวยการโอว” นากาโอกะ เคย์อิจิ วิศวกรอาวุโสของ NTT กรุ๊ป พูดด้วยภาษาจีนคล่องปร๋อ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“สวัสดี สวัสดี ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์มาถึงที่นี่เลย”
“ไม่เป็นไรครับ” หลังจากที่ทักทายกันอย่างสุภาพแล้ว นากาโอกะ เคย์อิจิ ก็หันไปสนใจรังนกข้างหลังผู้อำนวยการโอวแล้วพูดขึ้นว่า “นี่คือสถานที่ที่คุณวางแผนจะติดตั้งระบบโฮโลแกรมเหรอครับ?”
“ในทางเทคนิคแล้วมันเป็นตรงข้างในสนามกีฬาน่ะ” ผู้อำนวยการโอวพูดต่อ “พวกเราต้องการระบบโฮโลแกรมที่สามารถครอบคลุมพื้นที่ 250,000 ตารางเมตร และที่นั่ง 80,000 ของทั้งสนามกีฬาทั้งหมดครับ”
“ผมอ่านเรื่องความต้องการเฉพาะของโครงการนี้มาแล้ว ช่วยพาผมเข้าไปดูข้างในหน่อยสิครับ”
เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้เป็นวิศวกรของบริษัทใหญ่ ทำงานได้มืออาชีพจริงๆ
ผู้อำนวยการโอวมองวิศวกรที่ท่าทางจริงจังแล้วตัวเขาเองก็รู้สึกผ่อนคลาย
เขาแอบยกนิ้วโป้งให้เลขาฯ ของตัวเอง
“ไม่มีปัญหา! ตามผมมาเลยครับ”
พวกเขาพาวิศวกรอาวุโสจาก NTT เข้าไปดูรอบๆ สนามกีฬา
ระหว่างเดินไปนั้น นากาโอกะ เคย์อิจิก็มีสีหน้าจริงจังไปตลอดทาง เขาไม่ได้พูดอะไรเลย หากไม่นับที่เขาคุยกับพนักงานญี่ปุ่นอีกคนที่เดินอยู่ข้างๆ นิดหน่อย
ในระหว่างที่นากาโอกะ เคย์อิจิกำลังตรวจสอบโครงสร้างของสนามกีฬาอย่างถี่ถ้วน ผู้อำนวยการโอวก็แอบมองการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของอีกฝ่าย
ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาในสนามกีฬา คุณนากาโอกะก็มีแต่ใบหน้าที่จริงจังและสุขุมอยู่ตลอด
ถึงแม้โอวไห่เฟิงจะไม่เข้าใจเรื่องเทคโนโลยีโฮโลแกรมอะไรเท่าไร สัญชาตญาณก็บอกเขาว่ามันอาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้ในตอนแรก
เขาเริ่มแอบสงสัยในใจ นากาโอกะ เคย์อิจิหยุดเดินแล้วยืนนิ่งอยู่บริเวณที่นั่งแถวหน้าของสนามกีฬา เขามองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นมา
“มันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องทำตามความต้องการของลูกค้านะครับ แต่ผมต้องขอบอกคุณว่าการจะสร้างระบบโฮโลแกรมที่สามารถครอบคลุมทั้งรังนกนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งเมื่อคำนึงถึงเรื่องความต่อเนื่องของภาพ ความละเอียด และการจำลองแล้ว แม้แต่อุปกรณ์ที่ก้าวหน้าที่สุดของเรา ก็ยังเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากจริงๆ ครับ”
พอผู้อำนวยการโอวได้ยินอย่างนี้เขาก็ตะลึงไป
ถึงในใจเขาจะรู้สึกสงสัยตอนที่มองสีหน้าของเคย์อิจิ แต่เขาก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดจะเป็นเรื่องจริง
ผู้อำนวยการโอวมีสีหน้าของคนทำอะไรไม่ถูก
“…มันยากขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“ประเด็นมันเป็นอย่างนี้ครับ อย่าว่าแต่ NTT เลย แม้แต่บนโลกนี้ยังไม่มีบริษัทไหนเลยที่จะสามารถสร้างระบบโฮโลแกรมขนาดเท่าสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้ได้”
ผู้อำนวยการโอวถามอย่างรวดเร็วว่า “แล้วไม่มีวิธีอื่นเลยเหรอ?”
นากาโอกะ เคย์อิจิสังเกตเห็นความร้อนรนบนใบหน้าของผู้อำนวยการโอว เขามีรอยยิ้มที่เจือความชั่วร้ายบางๆ อยู่บนใบหน้า
วินาทีที่เขาเห็นสีหน้าของผู้อำนวยการโอว เขาก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายถูกล่อติดกับแล้ว
เขายังคงแสดงสีหน้าจริงจังต่อไปตอนที่พูดอย่างสุขุมว่า “หากให้พูดตรงๆ แล้วนะครับ การออกแบบระบบโฮโลแกรมให้เท่าขนาดสนามกีฬาใหญ่ขนาดนี้นี่เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เมื่อพิจารณาจากมิตรภาพของพวกเรา ทางฝ่ายเราก็พร้อมจะยอมรับความเสี่ยง พวกเราสามารถออกแบบเครื่องโฮโลแกรมพิเศษมาให้คุณได้ครับ”
พอผู้อำนวยการโอวได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกมีความสุขเหลือเกิน
“นั่นแหละ…ขอบคุณนะครับ!”
“ด้วยความยินดีครับ” นากาโอกะ เคย์อิจิส่ายหัวแล้วพูดต่อด้วยเสียงของมืออาชีพ “แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าราคาตลาดนะครับ เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้วนี่ก็เป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกคุณอาจจะเป็นผู้ซื้อกลุ่มเดียวก็ได้ที่สั่งระบบโฮโลแกรมมาใช้แบบนี้”
ผู้อำนวยการโอวอดรู้สึกภูมิใจกับสนามกีฬาขนาดใหญ่ของจีนไม่ได้ ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนไปด้วยความตื่นเต้น
เขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังแล้วถามวิศวกรว่า “ผมขอถามหน่อยครับว่ามันจะราคาเท่าไร?”
“หนึ่งแสนล้าน…” พอนากาโอกะ เคย์อิจิเห็นใบหน้าของผู้อำนวยการโอว เขาก็พูดต่ออย่างรวดเร็วว่า “เยนญี่ปุ่นครับ”
“หนี่งแสนล้าน? อะไรนะ..”
อู๋หยวนหางเริ่มคิด
สนามกีฬาจัดโอลิมปิกที่โตเกียวมันราคาแค่หนึ่งแสนสี่หมื่นล้านเยนใช่ไหม?
ราคานี้แม่*มากพอจะสร้างสนามกีฬาได้อีกแห่งหนึ่งแล้ว
เครื่องโฮโลแกรมอะไรกันแพงขนาดนี้?!
ทำมาจากเพชรหรือไงวะ?
เลขาฯ อู๋รู้สึกเสียใจในทันทีที่หลุดพูดออกมา เขาลืมไปว่าชายญี่ปุ่นทั้งสองคนฟังภาษาจีนรู้เรื่อง
แน่นอนว่าวินาทีที่เขาพูดออกมา ชายญี่ปุ่นทั้งสองคนก็หน้านิ่วคิ้วขมวดกันทันที ผู้อำนวยการโอวและเจ้าหน้าที่คนอื่นของทีมผู้นำก็คิ้วขมวดไม่แพ้กัน
“อู๋หยวนหาง! หุบปาก!”
โอวไห่เฟิงกำลังจะด่าเขาต่อ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว
“นี่คุณคิดว่าเทคโนโลยีของพวกเราไม่คุ้มค่ากับราคาอย่างนั้นเหรอครับ?” นากาโอกะ เคย์อิจิเอ่ยขึ้น เขามีท่าทางเหมือนเพิ่งโดนดูถูกมา
เมื่อเห็นว่าแขกต่างชาติมีท่าทีโมโห ผู้อำนวยการโอวจึงอธิบายอย่างรวดเร็ว “พวกเราไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับ แต่ราคาของคุณก็ค่อนข้างสูงทีเดียว พวกเราขอเครื่องที่คล้ายๆ กัน แต่ราคาลดลงมาหน่อยได้ไหม…”
“ต้องขอโทษด้วยครับแต่นี่เป็นราคาที่ดีที่สุดของเราแล้ว ที่คุณบอกว่าเครื่องที่คล้ายๆ กัน ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเท่าไร เพราะเทคโนโลยีของพวกเรามีมาตรฐานเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น พวกเราจะทำให้ดีที่สุดทุกครั้ง การลดมาตรฐานของพวกเราถือเป็นการดูหมิ่นจิตวิญญาณวิศวกรรมของพวกเรา”
ผู้อำนวยการอู๋ “???”
เลขาฯ อู๋ “???”
นากาโอกะ เคย์อิจิมองเหล่าชาวจีนที่กำลังตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก แล้วเขาก็โค้งคำนับให้ จากนั้นเขากับผู้ช่วยจึงเดินจากไป…
หลังจากที่พวกเขาออกมาจากรังนกและเข้ามาในรถโตโยต้าแล้ว ชายที่เป็นผู้ช่วยก็พูดขึ้นมากับนากาโอกะ เคย์อิจิทันทีว่า
“นากาโอกะซัง ถ้าพวกเราไม่ได้งานนี้บอร์ดผู้อำนวยการจะต้องไม่พอใจแน่ๆ นะครับ สภาพเศรษฐกิจของพวกเราตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ พวกเราไม่ควรจะยอมทิ้งดีลใหญ่ขนาดนี้นะครับ”
“ไม่ต้องห่วง คาวาดะคุง พวกเราไม่เสียดีลนี้หรอก”
นากาโอกะ เคย์อิจิมีรอยยิ้มของคนมั่นใจบนใบหน้า เขาหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือ จากนั้นก็โยนมันเข้าไปในถุงพลาสติก
“…นี่แหละ วิธีที่เขาเจรจากัน สิงโตเปิดปากก่อนจากนั้นก็ถอยหลังกลับ พวกเราจะเสนอราคาที่เราต้องการ แล้วพวกเขาก็จะรู้สึกว่าพวกเขาได้สิทธิ์ในการต่อรองแล้ว อย่างที่คุณลกซุนกล่าวไว้นั่นแหละ ถ้าอยากจะโน้มน้าวให้คนจีนเปิดหน้าต่างบ้าน เราต้องทำท่าเหมือนเราจะพังหลังคาบ้านพวกเขาก่อน จากนั้นพอเราแค่เปิดหน้าต่างบ้านเท่านั้น พวกเขาก็จะขอบคุณเราเอง
ชายหนุ่มมีสีหน้านับถืออีกฝ่ายขึ้นมา
“นากาโอกะซัง คุณนี่สุดยอดไปเลย!”
“ขอบใจนะ นายก็น่าจะเรียนรู้เพิ่มบ้างนะ” นากาโอกะพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “ประเทศจีนเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของเรา ในอนาคต พวกเขาจะเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ การเจรจากับคนจีนได้ถือเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่งนะ”
กริ๊ง กริ๊ง!
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเขาก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
นากาโอกะ เคย์อิจิหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาจากกระเป๋าแล้วมองชื่อผู้ที่โทรมาหา เขาเลิกคิ้วขึ้นจนมีร่องรอยของความพอใจอยู่บนใบหน้าของเขา
แต่เขาก็รีบลบความพอใจนั้นออกไปจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้รับสายในทันที เขาส่งแววตาหยิ่งทระนงไปทางคาวาดะคุงที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ดูสิ พวกเขาโทรหาผมแล้วเนี่ย”