Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1237 มันถูกโพสต์ลงออนไลน์เหรอ?
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1237 มันถูกโพสต์ลงออนไลน์เหรอ?
การเสียโปรเจกต์มูลค่าหมื่นล้านดอลลาร์ทำให้นากาโอกะ เคย์อิจิรู้สึกอับอาย
เขาไม่คิดว่าภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สนามกีฬาจะถูกคนบางคนถ่ายคลิปเอาไว้แล้วเอาไปโพสต์ลงออนไลน์
เมื่อเขาเห็นใบหน้าตัวเองที่ตื่นกลัวอยู่ในคลิปวิดีโอ ใบหน้าของเขาในปัจจุบันก็ซีดเผือด เขาแทบจะอยากหยิบมีดมาฆ่าตัวตายตรงนี้เลย
มันไม่ใช่แค่เรื่องน่าอายอย่างเดียว
มันทำลายภาพลักษณ์ของ NTT กรุ๊ปไปจนหมดสิ้น
วิดีโอนี้เป็นสาเหตุให้ซีอีโอของบริษัทเรียกเขาเข้าไปในออฟฟิศแล้วตำหนิเขาอย่างแรง ซีอีโอบอกว่าไม่เพียงแต่นากาโอกะจะทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงเท่านั้น แต่เขายังทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศอับอายขายขี้หน้าอีกด้วย
สำหรับคนที่ให้ค่าความสนใจส่วนรวมมากกว่าชีวิตของตัวเองแล้ว นี่เป็นสิ่งที่น่าขายหน้ามากจริงๆ
แต่จริงๆ สิ่งที่นากาโอกะ เคย์อิจิกังวลก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเท่าไร
คนที่ได้ชมวิดีโอดูจะไม่สนใจในตัวเขาเลย
[พระเจ้า! นั่นใช่เวทมนตร์หรือเปล่า? ต้องเป็นเวทมนตร์แน่เลย!]
[เวทมนตร์อะไร? เวทมนตร์บ้านแกเป็นแบบนี้เหรอ? ไอ้นี่มันของเก๊…ของตบตาโว้ย!]
[ศาสตราจารย์ลู่บ้าไปแล้ว!]
[หลังจากเทคโนโลยีโลกเสมือนแล้ว สตาร์สกายเทคโนโลยียังสร้างของใหม่ให้เทคโนโลยีภาพฉายโฮโลแกรมไปอีก แต่ฉันน่ะ ไม่ใช่แค่ไม่มีเครื่องฉายโฮโลแกรมนะ ขนาดแว่น VR ก็ยังไม่มีเลย! (ร้องไห้) (ร้องไห้)]
[ฉันสนใจอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละตอนนี้ เจ้านี่มันราคาเท่าไรกันนะ? ไปซื้อได้ที่ไหนมั่ง?]
[ถ้าเจ้านี่วางขายเมื่อไรนะ ฉันจะรีบซื้อให้เร็วที่สุดเลย อย่าถามนะว่าจะซื้อไปทำอะไร! ฉันจะเอามันไปวางไว้บนกระโปรงรถเว้ย! จะได้เป็นรถที่เจ๋งที่สุดบนถนน!]
[ฮ่าฮ่า! แต่ฉันว่าพวกตำรวจจราจรคงแจกใบสั่งให้แน่ๆ ว่ะถ้าทำงั้น!]
ความสนใจของทุกคนพุ่งไปที่ฝูงผีเสื้อและฝูงผึ้งที่บินอยู่ในอากาศ เมื่อผู้ชมได้เห็นภาพโฮโลแกรมเสมือนจริงตรงหน้าแล้ว พวกเขาก็ช็อกกันไปเต็มๆ
แท่งฉายภาพโฮโลแกรมในมือของวิศวกรจากสตาร์สกายเทคโนโลยีเป็นเหมือนกับไม้กายสิทธิ์ที่ควบคุมโลกใบนี้
ผู้คนไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างภาพลวงตากับความเป็นจริงได้
กระแสถกเถียงกันบนโลกอินเทอร์เน็ตเรียกความสนใจจากพวกสื่อใหญ่มาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้เห็นวิดีโออันน่าตื่นตาตื่นใจ ผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการที่ทำงานสื่อทุกคนต่างก็ช็อกและอึ้งไปไม่ต่างกัน
พวกเขาหลายคนถึงกับสงสัยว่าแสงและเงาในวิดีโอ จริงๆ แล้วเป็นสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่เป็น CGI จากคอมพิวเตอร์ทำขึ้นมาหรือเปล่า
แต่ทฤษฎีสมคบคิดนี้ก็ฟังดูไม่เมคเซนส์เท่าไร เพราะใบหน้าตื่นกลัวของชายผู้น่าสงสารที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงผึ้ง และของคนแต่ละคนที่ปรากฏในคลิปก็ดูจะไม่ได้เฟคขึ้นมาเลย
เพื่อจะหาวิธีคอนเฟิร์มว่าวิดีโอนี้เชื่อถือได้ ผู้สื่อข่าวจากสื่อใหญ่ๆ จึงหาช่องทางติดต่อนากาโอกะ เคย์อิจิ และติดต่อเขาไปให้ช่วยยืนยันว่าวิดีโอนี้เป็นของจริง
หลังจากที่ถูกโทรศัพท์หลายสายโทรมาสัมภาษณ์เรื่องราวในคลิปอย่างไม่หยุดหย่อน นากาโอกะ เคย์อิจิก็แทบจะกลายเป็นคนซึมเศร้า
เขาถูกสำนักงานใหญ่ของบริษัทลงโทษที่ทำให้เสียเงินมูลค่าหมื่นล้านเยนไป ชีวิตและหน้าที่การงานของเขาก็ดูซบเซา แล้วตอนนี้ยังมีไอ้พวกผู้สื่อข่าวน่ารำคาญที่มาโรยเกลือซ้ำบนแผลที่เขาได้มาอีก
เกินไปแล้วเฮ้ย!
ในทางกลับกัน ระหว่างที่ผู้คนกำลังคุยว่าเทคโนโลยีภาพฉายโฮโลแกรมนี้อาจจะเป็นของปลอมก็มีข่าวลือผุดขึ้นมาบนอินเทอร์เน็ต
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ประสงค์จะออกนามคนหนึ่งอ้างว่าลูกพี่ลูกน้องของพี่เขยของเพื่อนบ้านของเขาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่สนามกีฬารังนก ทำให้เขารู้มาว่าเหตุผลที่สตาร์สกายเทคโนโลยีนำเทคโนโลยีนี้มาโชว์ที่สนามกีฬารังนกก็เพื่อจะเตรียมโชว์ฉลองวันชาติ ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกห้าเดือนข้างหน้า
ข่าวลือบอกว่าสำนักงานกระทรวงความบันเทิงแห่งรัฐจะใช้เทคโนโลยีโฮโลแกรมจากสตาร์สกายเทคโนโลยีเพื่อสร้างการแสดงที่ไม่เคยมีมาก่อนขึ้นที่รังนก
ทั้งสนามกีฬารังนกจะถูกรายล้อมไปด้วยโชว์ภาพโฮโลแกรม
นี่ทำให้เกิดกระแสพูดคุยกันมาก ไม่ใช่แค่ในระดับประเทศแต่เป็นระดับโลกเลยทีเดียว
…
แปะ แปะ แปะ…
ในห้องแล็บภาพฉายโฮโลแกรมที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง เสียงปรบมือกึกก้องดังอยู่เกือบสามสิบวินาที
เมื่อสามสิบวินาทีก่อน ผู้กำกับหลิวเหว่ยจากสำนักงานกระทรวงความบันเทิงแห่งรัฐได้โชว์สิ่งที่เขาและทีมของเขาทำในช่วงประมาณสัปดาห์ที่แล้วขึ้นมาได้ให้กลุ่มคนเบื้องบนและช่างเทคนิคที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงดู
ถึงแม้คลิปภาพฉายโฮโลแกรมจะมีความยาวเพียงแค่สิบนาที ผู้กำกับหลิวก็สามารถถ่ายทอดเทคนิคการตัดภาพกำกับของเขาโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีโฮโลแกรมนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ผู้อำนวยการโอวยืนอยู่ใกล้ เขาได้มองเห็นทุกอย่าง เขาดีใจมากเสียจนอ้าปากค้าง แล้วเขาก็พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า “เพอร์เฟกต์! นี่มันเพอร์เฟกต์ที่สุด แค่ทำโชว์ตามมาตรฐานนี้ พวกเราจะสามารถมอบโชว์วันชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคนในประเทศเราได้อย่างแน่นอน!”
เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการโอวมีความสุขมากแค่ไหนแล้ว เลขานุการอู๋ก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า
“แน่นอนครับ! เมื่อวานผมลองไปค้นๆ ดูคลิปวิดีโอของเราบนเว็บไซต์หลายแห่งแล้ว หลังจากที่คนได้ดูคลิปสั้นที่ฉายเรื่องเทคโนโลยีโฮโลแกรมแล้ว พวกเขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูโชว์เลยครับ! ”
ลู่โจวที่ยืนอยู่ข้างพวกเขาก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เขาเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าผู้ชมมีความคาดหวังสูงขนาดนี้ มันอาจจะทำตามความคาดหวังพวกเขายากนะครับ”
หลิวเหว่ยมองลู่โจวอย่างภูมิใจ เขาพูดออกมาด้วยความมั่นใจว่า “ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้โชว์นี้ออกมาเพอร์เฟกต์!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมั่นใจมากแค่ไหนแล้ว ลู่โจวก็ยิ้มมุมปาก
“ถ้าอย่างนั้นดูเหมือนผมจะต้องคาดหวังกับงานนี้ให้มากขึ้นแล้วล่ะนะ”
ทุกคนในห้องแล็บหัวเราะ
หลิวเหว่ยยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า
“จะว่าไปแล้วนะนักวิชาการลู่ ผมมีคำขอที่ไม่ค่อยจะมีเหตุผลนิดหน่อย…ระหว่างช่วงโปรดักชันโชว์ ผมขอยืมใช้ห้องแล็บคุณได้ไหมครับ?”
ลู่โจวทวนคำ “แล็บนี้น่ะเหรอ?”
หลิวเหว่ยตอบ “ใช่ครับ”
ลู่โจวตกลง “ผมให้คุณยืมได้นะ แต่ให้คุณใช้นานๆ ไม่ได้ ทุกห้องแล็บที่สร้างขึ้นในสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันทุกห้อง แต่ห้องแล็บระบบฉายภาพโฮโลแกรมมันก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น พวกคุณนัดมาล่วงหน้าสักวันตอนจะขอใช้ก็แล้วกันครับ”
หลิวเหว่ยพยักหน้าอย่างยินดี เขาเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่เข้าไปรบกวนการวิจัยของคุณหรอก! ขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ”
ลู่โจวตอบกลัวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องห่วง ถ้าพวกคุณอยากจะใช้อุปกรณ์ พวกเราก็เช็กได้ว่าต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงไหม ถ้ามีปัญหาก็ติดต่อดร. อันฉางหยางได้เลยครับ เขารับผิดชอบห้องแล็บนี้”
ชายใส่แว่นที่ยืนอยู่ข้างลู่โจวก็พยักหน้าแล้วพูดออกมาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรว่า
“ถ้าคุณต้องการอะไรก็บอกผมได้เลยนะ”
หลิวเหว่ยประกบมือตัวเองเข้าด้วยกันแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณครับ! ”
ลู่โจวพยักหน้าและพูด “ไม่มีปัญหา”
‘ตัวอย่าง’ ของภาพฉายโฮโลแกรมนี้จบลงแล้ว
ตามกำหนดการณ์ของสำนักงานกระทรวงความบันเทิงแห่งรัฐแล้ว พวกเขาจะสร้างวิดีโอโปรโมตขึ้นมาในเวลาก่อนวันชาติหนึ่งเดือน เพื่อสร้างกระแสให้กับการเฉลิมฉลองวันชาติครั้งนี้ จะมีการขายตั๋วที่นั่งทั่วไปมากกว่า 70,000 ใบ ในขณะที่ตั๋ว 10,000 ถึง 20,000 ใบที่เหลือจะตกอยู่ในมือของหน่วยงานรัฐและบริษัทใหญ่อื่นๆ
หลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากห้องแล็บแล้วนั้น ผู้อำนวยการโอวก็ดึงตัวลู่โจวกลับมาคุยข้างๆ ด้วยน้ำเสียงยินดีว่า
“นักวิชาการลู่ ขอบคุณเรื่องทุกอย่างมากเลยนะครับ! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเข้ามาช่วยล่ะก็ ป่านนี้พวกเราคงยังเจรจากับ NTT อยู่เลย ผมไม่รู้จะขอบคุณคุณอย่างไรดี! ”
ถึงแม้การพยายามแข่งกับกระแสของพาเหรดทหารจะเป็นเรื่องยากนิดๆ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ถูกอีกฝั่งกลืนหายไปจนหมด
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ก็ไม่ใช่ว่าผมทำเรื่องนี้ฟรีๆ เสียหน่อย อีกอย่าง ถ้าโชว์นี้เป็นไปได้ดีมันก็จะช่วยโปรโมตเทคโนโลยีนี้ได้เป็นอย่างดีด้วย ทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่ ดังนั้นเราจะทำพลาดไม่ได้”
ผู้อำนวยการโอวตบหน้าอกตัวเองเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ผู้กำกับหลิวเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ไซไฟและแอ็กชั่นในประเทศเราที่เก่งที่สุดแล้ว คนที่รู้จักงานของเขาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สเปเชียลเอฟเฟกต์ของงานเขาอยู่ในระดับเดียวกับของฮอลลีวูด ที่เขาต้องการก็มีแค่ช่องทางให้เขาได้แสดงความสามารถตัวเองออกมาเท่านั้น ตอนนี้ โอกาสได้ถูกหยิบยื่นไปตรงหน้าเขาแล้ว เขาจะไม่มีวันทำมันพังแน่ครับ! ”
ลู่โจวพยักหน้า
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็จะถือว่าเยี่ยมไปเลย”
“เทคโนโลยีทำได้เพียงรากฐานข้างนอกเท่านั้น เรื่องการปรับไอเดียให้ออกมาได้ใจผู้ชมมันก็ขึ้นอยู่กับคนที่นำเทคโนโลยีไปใช้ล้วนๆ ก็เหมือนกับที่มีภาพยนตร์ IMAX ทั้งที่ดีแล้วก็ห่วยนั่นล่ะครับ อย่างไรก็แล้วแต่พวกเราก็ทำได้เท่านี้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้ว”
หลังจากที่ผู้อำนวยการโอวเดินออกไป ลู่โจวก็กลับไปที่ออฟิศของเขาที่สถาบันวิจัย
เขารู้สึกหิวน้ำเล็กน้อย เขาเลยบอกให้ผู้ช่วยของเขาไปชงกาแฟให้หน่อย หลังจากที่ได้รับกาแฟมา ลู่โจวก็หยิบถ้วยขึ้นมาแล้วเป่ามันเบาๆ จากนั้นก็ดื่มลงไปอึกใหญ่
รสขมและรสหวานกระจายไปทั่วต่อมรับรสของเขา เขารู้สึกเหมือนร่างกายทั้งร่างกลับมาสดชื่นอีกครั้ง เขาเหยียดแขนออกไป เตรียมพร้อมกำลังจะทำงาน
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะของเขาก็เริ่มสั่น
ลู่โจวมองโทรศัพท์ของตัวเองแล้วเห็นข้อความวีแชท
เป็นข้อความจากเฉินยู่ซาน
ข้อความเป็นข้อความสั้นๆ มีสัญลักษณ์อยู่เพียงสามอันเท่านั้น
[!!!]