Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1242 โดรนที่เป็นกระแส!
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1242 โดรนที่เป็นกระแส!
ณ เมืองเซินเจิ้น
ในตึกที่สวนอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชายสวมแว่นตากรอบทองกระแทกรายงานในมือลงบนโต๊ะแล้วตะโกนใส่ผู้ช่วยของเขาเสียงดัง
“ดีลเกือบหนึ่งพันล้านหยวน! สิ่งที่เราได้กลับมามีแค่ค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าราคาไม่กี่ล้านหยวนเท่านั้นเอง! ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมเพิ่งจะมาได้ยินรายงานเรื่องนี้ในตอนนี้ ไปหามาว่าใครเป็นคนขโมยออเดอร์ของพวกเราไป! ผมต้องการให้คุณเอาข้อมูลของบริษัทคู่แข่งมาวางบนโต๊ะผมในเวลาสามนาที! ”
และที่นี่ก็คือสำนักงานใหญ่ของนิวไซเอินซ์แมนูแฟกเจอริง ชายวัยกลางคนที่กำลังหัวเสียคนนี้ชื่อกวนเชาอู่ เขาเป็นประธานและซีอีโอของบริษัท
พวกเขาเป็นบริษัทไฮเทคที่ชำนาญในการทำโดรนโลจิสติกส์และการพัฒนาซอฟต์แวร์อัจฉริยะ พวกเขาเซ็นสัญญาออเดอร์มูลค่าหนึ่งร้อยสิบล้านหยวนกับซุนเฟิงไปเมื่อสองเดือนก่อน
มูลค่าของดีลนั้นเกือบจะสูงกว่าอัตราหมุนเวียนสินทรัพย์รวม[1]ของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วเสียอีก
เมื่อพวกเขาได้รับออเดอร์นี้มา กวนเชาอู่ก็ตื่นเต้นเสียจนนอนไม่หลับไปหลายคืน เขาจะตื่นขึ้นมาตอนกลางดึกพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าแทบทุกคืน แต่จู่ๆ พวกเขากลับได้รับข่าวจากซุนเฟิงมาว่าอีกฝ่ายยอมจ่ายค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแลกกับการแคนเซิลออเดอร์ราคาหนึ่งร้อยสิบล้านหยวนไป
นี่แทบจะทำให้เขาอ้วก
มองผิวเผินแล้วพวกเขาเพียงแค่เสียดีลราคาหนึ่งร้อยสิบล้านหยวนไปแค่ดีลเดียวและยังได้รับค่าเสียหายที่กำหนดไว้ล่วงหน้ามาด้วยซ้ำ แต่จริงๆ แล้วความสูญเสียมันใหญ่กว่านี้มาก
สิ่งที่พวกเขาเสียไปคือโอกาสในการโปรโมตโมเดลการส่งโดรนของพวกเขาให้กับซุนเฟิงได้เห็น นั่นเป็นตลาดราคาพันล้านดอลลาร์เลยนะ!
ผู้ช่วยของเขาพูดด้วยเสียงสั่นๆ
“บอสครับ…”
กวนเชาอู่คำรามด้วยความโกรธ
“นี่ไม่ได้ยินที่สั่งไปหรือไง?”
“ไม่ครับ คือผมจะบอกว่า พวกเราไม่ต้องสืบข้อมูลแล้วครับ” ใบหน้าของผู้ช่วยของเขามีความขมขื่นเจืออยู่ตอนที่เขาพูดขึ้นว่า “ซีอีโอของซุนเฟิงไปที่จินหลิงเมื่อไม่กี่วันก่อนและเขาก็เปลี่ยนใจในทันทีหลังจากที่กลับมาจากการเดินทางครั้งนั้นครับ เขาถึงกับโน้มน้าวทั้งบอร์ดบริหารเลยด้วยซ้ำ”
“ไม่ต้องสงสัยเลยครับ มีอยู่เพียงบริษัทเท่านั้นที่จะขโมยดีลของพวกเราไปได้…”
ผู้ช่วยของเขาไม่ได้พูดชี้ชัดว่าเป็นบริษัทไหน แต่กวนเชาอู่ก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว
“สตาร์สกายเทคโนโลยี…มีแผนกโดรนด้วยอย่างนั้นเหรอ? ”
“เรื่องนี้…ผมเองก็ไม่ทราบครับ แต่ดูเหมือนว่าซุนเฟิงจะมอบสิทธิ์เอาต์ซอร์ซเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะทั้งหมดให้กับพวกสตาร์สกายเทคโนโลยีเลยครับ”
“เครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะทั้งหมดของพวกเขาจะใช้เอาต์ซอร์ซเหรอ? หวังเหว่ยบ้าไปแล้วหรือเปล่า?!”
กวนเชาอู่มีท่าทีไม่เชื่อ ในขณะที่หันไปสบตาผู้ช่วยที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่ข้างหน้าเขา เขารู้สึกถึงความขมขื่นและความคับแค้นใจอยู่ในอก
สตาร์สกายเทคโนโลยี…
ถ้าเป็นบริษัทอื่นแล้วล่ะก็ เขาอาจจะลองรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับซุนเฟิงไว้ แล้วยอมถอนดีลนี้คืน
แต่พอเขาได้ยินว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีคือบริษัทที่แย่งดีลของพวกเขาไป เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะสู้เรื่องนี้ต่อแล้ว เขายอมทิ้งไอเดียนี้ทันที
เพราะขนาดบริษัทต่างชาติอย่างเทสล่า โมบิล และแม้แต่กระทรวงการค้าของสหรัฐอเมริกาก็ยังต้องยอมก้มหัวให้กับสตาร์สกายเทคโนโลยี
แล้ว ‘บริษัทเล็กๆ ‘ อย่างพวกเขาจะไปเหลืออะไร
ถ้าพวกเขาสู้กลับล่ะก็ มันจะไม่ใช่การต่อสู้แล้ว
มันจะเหมือนช้างเหยียบมดจนตายมากกว่า…
…
การคาดเดาของกวนเชาอู่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เขาเดาว่าลู่โจวคงจะไปอวดอ้างอะไรให้ซีอีโอหวังฟัง จนซีอีโอหวังปิ๊งไอเดียอะไรขึ้นมาแน่ๆ แล้วก็ตามมาด้วยการที่ออเดอร์ของตลาดที่มีมูลค่าหลักพันล้านถูกมอบให้สตาร์สกายเทคโนโลยี
แต่ก็นั่นแหละ ตัวลู่โจวเองคนเดียวก็มีมูลค่าหลักหมื่นล้านหยวนอยู่แล้ว ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นไอเดียของหวังเหว่ย แต่ลู่โจวก็เป็นคนที่ทำให้ไอเดียพวกนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้
อย่างเรื่องไอเดียเชื่อมลูกค้าเข้ากับห่วงโซ่การผลิตโดยตรงก็เป็นไอเดียที่ลู่โจวกับผู้อำนวยการหลี่คุยกันระหว่างดื่มชา
ความแตกต่างจุดที่ใหญ่ที่สุดระหว่างอุตสาหกรรมในอนาคตกับอุตสาหกรรมแบบเก่าก็คือบทบาทของพวกมัน
ถึงแม้พวกมันจะมีจุดที่คล้ายกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ไม่นานหลังจากนั้นสตาร์สกายเทคโนโลยีกับซุนเฟิงก็ทำข้อตกลงในเรื่องโปรเจกต์โดรนโลจิสติกส์และวิดีโอโปรโมตที่สร้างโดยซุนเฟิงก็ปล่อยลงอินเทอร์เน็ตเรียบร้อย
ในวิดีโอนั้นมีโดรนรูปทรงโดดเด่นไม่เหมือนใครลอยออกมาจากรถยนต์ที่ศูนย์โลจิสติกส์ มันบินผ่านหอคอย H700 ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ในเซินเจิ้น จากนั้นก็บินข้ามจงอิงสตรีท ผ่านแถบภูเขาและชนบท สุดท้ายโดรนก็บินไปส่งจดหมายถึงมือของเด็กคนหนึ่ง จดหมายนั้นเป็นจดหมายจากพ่อของเด็กคนนั้นที่ทำงานอยู่ห่างออกไปในเมืองใหญ่
หลังจากทุกคนได้เห็นวิดีโอโปรโมตนั้น โลกอินเทอร์เน็ตก็เริ่มมีกระแสตอบรับอย่างมากในทันที
การพูดคุยเรื่องนี้บนโลกอินเทอร์เน็ตไม่ได้มีแค่เรื่องอารมณ์ซึ้งกินใจและองค์ประกอบทางศิลปะของวิดีโอเท่านั้น แต่มันกลับโฟกัสไปที่โดรนรูปทรงโดดเด่นไม่เหมือนใครที่บินอยู่บนฟ้าต่างหาก
“นี่หมายความว่าอย่างไร ซุนเฟิงจะผลิตพวกยูเอวี[2]อย่างนั้นเหรอ? ”
“สรุปแล้วนี่เป็นโฆษณายูเอวีหรือโฆษณาบริการส่งของกันแน่? ”
“เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่าโลโก้บนยูเอวีนั่นเป็นโลโก้ของสตาร์สกายเทคโนโลยีเหรอ? ”
“สตาร์สกายเทคโนโลยีอีกแล้วเหรอ? พวกเขามาเกี่ยวอะไรด้วย? ”
“พระเจ้า! เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันยังช็อกเรื่องเทคโนโลยีโฮโลแกรมของสตาร์สกายเทคโนโลยีไม่หายเลย นี่จะเอาอีกแล้วเหรอเนี่ย! ”
“ก็แค่อยากจะบอกว่า ศาสตราจารย์ลู่โคตรเทพเลย!”
คนส่วนใหญ่ต่างหลงใหลในคลิปโปรโมตที่ออกมา
คนจากเมืองเซินเจิ้นคือกลุ่มคนที่โชคดีที่สุด
เพราะคนที่อยู่ในเขตบินของโดรนคือพวกที่ตามเทรนด์ทันเรียบร้อย พวกเขาเป็นคนกลุ่มแรกของประเทศที่ได้เห็นความสะดวกสบายของการใช้โดรนขนส่งสินค้ากับตาตัวเอง
ต่อไปนี้ตู้ไปรษณีย์จะไม่มีจำเป็นต้องมีอีกแล้ว ตราบใดที่หน้าต่างบ้านยังเปิดอยู่โดรนก็สามารถนำสินค้าไปส่งที่ขอบหน้าต่างหรือระเบียงได้
เส้นทางการบินของโดรนถูกคำนวณด้วยระบบการคำนวณแบบเรียลไทม์ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ควอนตัมจากสตาร์สกายเทคโนโลยีทั้งหมด ตราบใดที่ยังมีการเชื่อมต่อสัญญาณอยู่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเรื่องโดรนสูญหาย
หรือต่อให้การเชื่อมต่อสัญญาณตัดขาดไปก็ไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะโดรนจะเดินทางต่อไปตามข้อมูลเส้นทางที่มันได้รับมาก่อนหน้านี้อยู่ดี เมื่อสัญญาณกลับมาเชื่อมต่ออีกครั้งมันก็จะอัปเดตเส้นทางที่ปรับตามเทคโนโลยีการคำนวณแบบเรียลไทม์
ส่วนเรื่องการทำงานในเขตเมืองนั้น โดรนส่วนใหญ่จะบินอยู่ในความสูงเหนือตึกเพื่อหลบเลี่ยงถนนที่เนืองแน่น และจะส่งของในช่วงเวลาทำงานและช่วงเวลากลางดึกเมื่อการจราจรติดขัดน้อยลง
ซุนเฟิงทำงานร่วมกับสตาร์สกายเทคโนโลยีและกำลังพัฒนาชั้นวางที่สามารถติดตั้งที่ระเบียงบ้านได้ มันเป็นชั้นวางที่มีหน้าตาคล้ายกับขาตั้งคอนเดนเซอร์แอร์ แต่มีไว้ใช้สำหรับให้โดรนลงจอดและวางพัสดุที่ส่งแทน
เพราะก็ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะให้โดรนบินเข้ามาในบ้านตัวเอง
ในมุมมองหนึ่ง นี่จะเป็นการเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และในอีกทางหนึ่ง มันยังเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาไม่จำเป็นที่จะตามมามากมายได้อีกด้วย
การคุยกันเรื่อง ‘เครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะ’ ของซุนเฟิงเกิดขึ้นทั้งในทวิตเตอร์และยูทูบ
อย่าง ยูริฟ แจ๊ก ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่อาศัยอยู่ในจีนมาหลายปีแล้วก็ทำวิดีโอพิเศษขึ้นมาเล่ามุมมองของเขาต่อเรื่องนี้
“ผมเห็นคอมเมนต์ที่ตั้งข้อสงสัยกับเรื่องนี้มากมายในทวิตเตอร์ เพื่อนของผมหลายคนที่อเมริกา อังกฤษ และยุโรปต่างก็คิดว่าเทคโนโลยีนี้มันเป็นไปไม่ได้ พวกเขาคิดว่าประเทศจีนไม่ได้ให้ความเคารพต่อสถานที่ส่วนบุคคลเลยแม้แต่น้อย และพวกเขาก็ไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรด้วย พวกเขาไม่เชื่อในเทคโนโลยีนี้เลย”
“ผมเห็นแม้กระทั่งยูทูบเบอร์ที่ออกมาบอกว่า พอมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมาในจีน พวกเขาก็จะคิดทันทีว่า เทคโนโลยีพวกนั้นน่ะ ไม่มีจะดีกว่า พวกเขาอยากให้คนขับรถเมล์กับคนงานในโรงงานมีงานทำต่อไป แต่ถ้าเทคโนโลยีพวกนี้โผล่ขึ้นมาที่ประเทศตะวันตก พวกเขาก็จะคิดว่ามันเจ๋งชะมัดเลย”
“เอาจริงๆ แล้วนะ เรื่องพวกนี้มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องของอคติกับการเข้าใจผิด ถ้าไม่ใช่พวกคนสมองน้อยแล้ว คนส่วนใหญ่เขาก็มีมุมมองที่เปิดกว้างและมองโลกในแง่ดีต่ออนาคตกันทั้งนั้นนั่นแหละ”
“ตอนนี้ผมอยู่ที่เซินเจิ้น ผมอาศัยอยู่ในเมืองนี้มาเกือบสองปีแล้ว เมื่อวานนะ ด้วยความที่ผมอยากลองใช้เจ้าเทคโนโลยีโดรนส่งของที่น่ามหัศจรรย์นี่ ผมก็เลยสั่งซื้อทุกอย่างลงรถเข็นออนไลน์เลย…ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผมก็เห็นเจ้าโดรนตัวน้อยบินมาที่ขอบหน้าต่างบ้านผม”
ยูริฟแพนกล้องไปที่พัสดุข้างขอบหน้าต่าง จากนั้นเขาก็แพนกล้องกลับมาที่ตัวเองแล้วยักไหล่โชว์
“ผมรู้นะ พวกคุณคิดว่าผมโกหก หรือไม่ก็คิดว่าคำพูดผมเชื่อไม่ได้ล่ะสิ เอาจริงๆ ผมก็เข้าใจนะ ผมรู้ดีว่าพวกคุณรู้สึกอย่างไร ถ้าพวกคุณอาศัยอยู่ในนิวยอร์กล่ะก็ พวกคุณก็จะมองไม่เห็นเลยว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ทั้งบ้าน ทั้งรถ ทั้งเพื่อนบ้าน…ทุกอย่างก็เหมือนๆ เดิมไปหมด”
“แต่ถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองอย่างเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หรือเซินเจิ้นล่ะก็ คุณจะได้เห็นเมืองพวกนี้เปลี่ยนไปทุกวันเลยล่ะ
การใช้โดรนขนส่งสินค้าเป็นแค่จุดเล็กๆ ของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น สำหรับคนอย่างผมที่อาศัยอยู่ในจีนมาหลายปีแล้วน่ะ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นจนหลุดโลกทั้งนั้น อันที่จริงแล้วยังมีเรื่องสำคัญอย่างอื่นอีกที่กำลังเกิดขึ้น”
“อย่างเรื่องโชว์ฉลองวันชาติจีน”
ยูริโบกจดหมายเชิญสีแดงให้กล้อง
“โชคดีที่ผมได้บัตรเชิญมาจากพวกเขา…ผมจะไปที่รังนกแล้วก็ไปชมงานฉลองวันชาติจีนแบบสดๆ ”
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี วล็อกครั้งหน้าของผมก็จะเป็นเรื่องงานฉลองนี่แหละ
ผมพร้อมจะเดิมพันเลยว่า มันจะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและมหัศจรรย์เสียมากกว่าเรื่องโดรนขนส่งสินค้าเสียอีก!”
…………………………
[1] อัตราส่วนทางการเงินที่เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง ยอดขาย (Sale) เทียบกับ ‘สินทรัพย์เฉลี่ย (Average Asset)
[2] ย่อมาจาก unmanned aerial vehicle (UAV) หรือ อากาศยานไร้คนขับ (โดรนอากาศ)