Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1257 เขตพิเศษก่วงฮั่น
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1257 เขตพิเศษก่วงฮั่น
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของช่วงวันหยุดยาวหนึ่งสัปดาห์ของวันชาติจีน
ในที่สุดยานพัสดุสีขาวเงินก็เข้ามาในชั้นบรรยากาศเป็นครั้งที่สามหลังจากวงโคจรคงที่มีการเปลี่ยนแปลง มันใช้แรงต้านอากาศในการชะลอความเร็ว ในที่สุดมันก็ลงจอดที่ลานกว้างของจุดปล่อยยานจินหลิงได้อย่างปลอดภัย
ยานพัสดุนี้เกิดขึ้นมาจากเทคโนโลยีทางวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง หากไม่นับความเสียหายบริเวณพื้นผิวรอบนอกของยานที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางกลับแล้ว ยานพัสดุลำนี้ก็ยังอยู่ในสถานะสมบูรณ์และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลังจากซ่อมแซมเล็กน้อย
ในทางกลับกันสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพัสดุที่ถูกเก็บไว้ในยานยังอยู่ในสภาพดี
หลังจากที่ได้ยินข่าว สถาบันการบินและอวกาศแห่งสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงก็มีบรรยากาศเหมือนกับกำลังจัดเทศกาลเฉลิมฉลองไม่มีผิด สถาบันการบินและอวกาศอื่นๆ ในประเทศจีนก็ตกอยู่ในลักษณะเดียวกัน ในที่สุดภาระหน้าที่ของผู้นำทีมโปรเจกต์ก็จบลงเสียที พวกเขาต่างมีความสุขสุดๆ กันหมดเมื่อได้ทราบข่าว
ในช่วงเวลาก่อนจะหมดวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้
คณะกรรมการวงโคจรของดวงจันทร์ได้หาวิธีในการมอบของขวัญให้กับคนทั้งประเทศได้แล้ว
ของขวัญที่ว่าประกอบไปด้วยแร่ดวงจันทร์ 4.27 ตัน ข้าวสาลี 50 กิโลกรัม สารตั้งต้นทางชีววิทยาบางส่วน และตัวอย่างวิจัยวิทยาศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นบนดวงจันทร์
เมื่อผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการสูงวัยทั้งหลายขององค์การอุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศของประเทศจีนได้เห็นของขวัญชิ้นนี้แล้วล่ะก็ พวกเขาจะต้องหลั่งน้ำตาแห่งความตื่นเต้นออกมา
มันผ่านมานานแล้วเหลือเกิน
ตั้งแต่ที่โปรเจกต์การบินและอวกาศเริ่มต้นขึ้นครั้งแรก มันก็แทบจะผ่านไปเกือบสองรุ่นแล้ว
พวกเขาไม่เคยได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้จากดวงจันทร์มาก่อน หรือจากอวกาศด้วย!
ในช่วงยุค 1970 ที่ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกายังมีความสัมพันธ์กันหวานชื่น ที่ปรึกษาความมั่นคงในสมัยท่านประธานาธิบดีคาร์เตอร์เคยนำตัวอย่างหินดวงจันทร์มามอบเป็นของขวัญให้กับประเทศจีน
แต่ตัวอย่างนั้นก็มีน้ำหนักแค่ 1 กรัมเท่านั้น
กว่าประเทศจีนจะเชี่ยวชาญเทคโนโลยีการเก็บตัวอย่างหินดวงจันทร์ ก็ตอนยุคสมัยของฉางเอ๋อ 5
จากสมัยฉางเอ๋อ 5 มาจนถึงปัจจุบัน ก็ผ่านมาแค่ 4 ปีเท่านั้น
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการบินและอวกาศภายใต้การแนะนำของนักวิชาการลู่ได้ผ่านกระบวนการเปลี่ยนในระดับสะเทือนโลกมาแล้วหลายต่อหลายอย่าง หลังจากที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการวงโคจรของดวงจันทร์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี ราวกับเป็นความฝันที่เกิดขึ้นจริง
นอกจากตัวอย่างวิจัยและแร่ดวงจันทร์หายากแล้วก็ยังมีของขวัญอีกอย่างหนึ่งด้วย
ในระหว่างช่วงเที่ยงวันของวันสุดท้ายของวันหยุดยาววันชาติ จู่ๆ รัฐบาลจีนก็จัดแถลงข่าวประกาศว่าหลังจากที่คนเบื้องบนได้มีการประชุมหารือกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาตกลงกันว่าจะจัดตั้ง ‘เขตการปกครองพิเศษก่วงฮั่น’ ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ!
จากเอกสารที่สนับสนุนการจัดตั้ง ‘เขตการปกครองพิเศษก่วงฮั่น’ นี้ขึ้นมาได้ระบุไว้ว่า พื้นที่ 50 เมตรซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีวิจัยดวงจันทร์จะถูกตั้งเป็นพื้นที่พัฒนาสิ่งก่อสร้างสาธารณะ
พื้นที่พัฒนาสิ่งก่อสร้างสาธารณะที่ว่าคือแนวคิดใหม่ที่คณะกรรมการวงโคจรของดวงจันทร์เสนอขึ้นมา ยานอวกาศลำไหนที่เข้ามาในพื้นที่แห่งนี้มันก็จะอยู่ภายใต้การปกครองของกฎหมายจีนไปด้วย ตราบใดที่สิทธิความเป็นเจ้าของของยานลำนั้นอยู่กับประชาชนชาวจีนหรือองค์กรของประเทศจีน และมันยังอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ประเทศจีนยังวางแผนส่งคนจำนวน 2,000 คนไปในเขตก่วงฮั่น โดยแบ่งเป็น 6 ระลอกในเวลา 3 ปี พวกเขายังจะสร้างอาคารสนับสนุนการใช้ชีวิตที่ใช้งานได้ดีกว่าเดิมและใหญ่กว่าเดิมไว้ใกล้ๆ กับสถานีวิจัยบนดวงจันทร์อีกด้วย
ทันทีที่ข่าวประกาศออกมา มันก็สร้างกระแสอึกทึกครึกโครมให้กับคนทั้งโลก
ผู้คนทั้งประหลาดใจและหวาดกลัวกับความทะเยอทะยานในด้านการบินและอวกาศของคนจีน และการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จของพวกเขา
ส่งคน 2,000 คนไปดวงจันทร์เนี่ยนะ?
แล้วยังจะวางแผนสร้างเมืองขึ้นที่นั่นด้วย?!
ผู้คนเริ่มตื่นตระหนกเมื่อได้ยินข่าวดังกล่าว
บนทวิตเตอร์
“ฉันพร้อมพนันเลยว่าอีกไม่นานเขาก็จะเอาดวงจันทร์ไปใส่ไว้ในแผนที่ประเทศจีนแล้ว! ”
“พวกคนจีนจะครองดวงจันทร์แล้ว! ทำเนียบขาวทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ? ”
“พวกเขาจะมาทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ดวงจันทร์ต้องเป็นของทุกคนสิ! ”
“เดี๋ยวนะ! นี่มัน…ใช่วิธีขู่เอาเงินหรือเปล่า? ฉันพนันว่าพวกเขาไม่มีกำลังพอจะส่งคน 2,000 คนขึ้นไปบนดวงจันทร์หรอก พวกเขาก็แค่อยากเราลงสนามต่อสู้ครั้งนี้เท่านั้นเอง จากนั้นก็พังเศรษฐกิจของประเทศเรา! ”
“ก่อนหน้านี้ผลสรุปเมื่อก่อนบอกว่าการพัฒนาทรัพยากรบนดวงจันทร์ไม่ให้ผลประโยชน์ที่ดีพอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ใครที่ตามตลาดสินค้าล่วงหน้าก็จะรู้ดีว่า ดิสโพรเซียม เทอร์เบียม สแกนเดียม….แร่พวกนี้ที่มีอยู่ในสะพานนกกางเขน ต่างกลายเป็นของมีค่ากันทั้งนั้น…”
“พวกเราน่าจะส่งพวกคนเม็กซิโกไปดวงจันทร์บ้างนะ”
เหล่าปลาต่างก็รู้ดีว่าน้ำอุณหภูมิเท่าไรที่ดีที่สุดกับร่างกายของพวกมัน ถึงแม้ปฏิกิริยาจากตลาดสินค้าล่วงหน้าก็ไม่ได้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมด แต่ก็เป็นการคาดการณ์คร่าวๆ ของตลาดในเรื่องเหตุการณ์ในอนาคต
สะพานนกกางเขน 3 ไม่ได้มีแค่ยานพัสดุเที่ยวเดียวเท่านั้น ประเทศจีนอาจจะสร้างสะพานนกกางเขนเพิ่มมาอีกก็ได้ หลังจากที่ทำระบบรางขนส่งบนดวงจันทร์และจัดตั้งเขตก่วงฮั่นเสร็จแล้ว การพัฒนาทรัพยากรบนดวงจันทร์ก็จะเข้าสู่ระยะถัดไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดแร่หายากพวกนี้จะเกิดขึ้นในระดับเปลี่ยนโลกเลยทีเดียว
แน่นอนว่าสิ่งที่พวกคนอเมริกันกลัวกันก็คือประเทศจีนจะไล่ตามพวกเขาจากข้างหลังทันแล้วเริ่มต้นสร้างอาณานิคมการบินและอวกาศ
ให้ตายสิ!
พวกเราควรจะเป็นประเทศที่ยึดครองดวงจันทร์สิเฮ้ย!
แต่คอมเมนต์ออนไลน์จิ๊บจ๊อยพวกนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับแผนอยู่แล้ว แผนของประเทศจีนว่าด้วยการสำรวจและพัฒนาอวกาศกำลังดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ
บริษัทเอกชนที่ชื่อ ‘พัฒนาเมืองก่วงฮั่น’ ก็ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ มันได้เงินทุนห้าหมื่นล้านหยวนจากตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ผ่าน IPO หุ้นเอกชน และวิธีหาทุนอื่นๆ มันยังมีหุ้นกู้ที่มีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรายปีถึง 7% อีกด้วย
ข้อเสนอนี้เป็นที่ดึงดูดต่อสาธารณชนเป็นอย่างมาก
เมื่อมีการค้นพบว่าไทเทเนียมและแร่หายากบนโลกจำนวนมากนั้นมีอยู่บนดวงจันทร์ด้วย ต่อให้ผลประโยชน์ระยะสั้นจากการพัฒนาเมืองก่วงฮั่นจะไม่ได้ดีเท่ากับอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ แต่มันก็มีศักยภาพของการเติบโตในอนาคตอยู่
ไม่ใช่แค่พวกยักษ์ใหญ่อย่างสำนักงานประกันสังคมเท่านั้นที่ซื้อหุ้นไป แม้แต่สตาร์สกายเทคโนโลยีก็ยอมลงเงินมาขอมีส่วนร่วมในหุ้นครั้งนี้ด้วย
มีคนจากวงการการเงินว่ากันว่าตราบใดที่ยังมีคนถูกล็อตเตอรี่ พวกเขาก็จะได้กำไรแน่นอน หรือต่อให้พวกเขาซื้อหุ้นของเมืองก่วงฮั่นไม่ได้ หุ้นกู้ที่มีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลรายปีถึง 7% ก็ยังดูดีอยู่ นั่นแทบจะเป็นตัวเลขสองเท่าของอัตราดอกเบี้ยของการฝากประจำแล้ว
ความคิดเห็นของคนต่างประเทศเป็นไปในทางตรงกันข้าม ซึ่งขัดกับคนจีนที่กระตือรือร้นต้องการจะสำรวจอวกาศ
ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ต่างบรรยายความกังวลและเป็นห่วงต่อปัญหานี้ โดยประเทศที่เป็นฝ่ายนำให้ทำแบบนี้ก็คือสหรัฐอเมริกา พวกเขาแทบจะเหมือนคนที่พลาดซื้อตั๋วรถไฟไม่ทัน ก็เลยต้องมองคนที่นั่งอยู่ตู้รถไฟชั้นหนึ่งด้วยสายตาอิจฉาริษยา
แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย
แถลงการณ์การจัดตั้ง ‘เขตการปกครองพิเศษก่วงฮั่น’ ไม่ได้ระบุเป็นพิเศษไว้ว่า จะใช้กับพื้นดินบนดวงจันทร์ มันใช้กับยานอวกาศและสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ถาวรบนดวงจันทร์เท่านั้น
แล้วสิ่งก่อสร้างที่ว่านี่มีอะไรบ้างน่ะเหรอ?
พื้นที่ปลูกพืชก็นับเป็นสิ่งก่อสร้าง รางขนส่งบนดวงจันทร์ก็เหมือนกัน แม้แต่กระเบื้องพื้นหรือธงก็นับเป็นสิ่งก่อสร้าง สิทธิ์ในการตีความทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวงโคจรของดวงจันทร์แต่เพียงผู้เดียว
มีใครมีปัญหาเหรอ?
ไม่ต้องห่วง
มาเจรจาเรื่องนี้กับเราที่ดวงจันทร์สิ!
ผู้คนก็ไม่มีวิธีแก้ปัญหานี้ได้ดีๆ เลยสักอย่าง
ผู้อำนวยการคาร์สันที่เพิ่งลงจากเครื่องบินมาที่สนามบินปักกิ่งรู้สึกว่าการเดินทางมาที่จีนในช่วงเวลานี้อาจจะทำให้ทริปของเขาดูผิดที่ผิดเวลานิดหน่อย
แต่เขาก็ไม่สามารถยกเลิกการเดินทางนี้ได้
ก่อนอื่นเลย เขาไม่สามารถดีเลย์การเดินทางมาประเทศจีนไปมากกว่านี้ได้ เพราะการยกเลิกการมาครั้งนี้จะหมายความว่าเขาจะไม่สามารถพัฒนาความร่วมมืออย่างเป็นมิตรกับประเทศจีนในอนาคตได้เลย เขาต้องคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้…
ผู้อำนวยการคาร์สันมีท่าทีงุนงง
นี่ไม่เหมือนกับเมื่อ 10 ปีก่อนเลย
ไม่สิ ขนาด 5 ปีก่อน เรื่องยังไม่เป็นแบบนี้เลย
ผู้ช่วยของเขาเห็นเจ้านายตัวเองกำลังทำตัวแปลกๆ เขาเลยถามว่า “ท่านครับ? ”
“ไม่มีอะไรหรอก” ผู้อำนวยการคาร์สันมีสีหน้าหนักใจ เขามองผู้ช่วยของเขาแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไปกันเถอะ ไปเจอพวกคนจีนกัน”
คาร์สันภาวนาในใจ
เขาหวังว่าเขาจะทำข้อตกลงที่น่าพึงพอใจกับคนจีนได้
เขาไม่อยากจะทำให้ตัวเองผิดหวังหรือต้องขายหน้าเลย