Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1274 เบาะแสสุดเหลือเชื่อ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1274 เบาะแสสุดเหลือเชื่อ
ลงจอดสนามรบจากความสูงหลายร้อยกิโลเมตรและจบการสู้รบในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที…
ประสิทธิภาพการรบที่แสดงโดยกองพลอากาศได้ทำให้หน่วยรบพิเศษอังกฤษอึ้งไปหมด รวมทั้งหน่วยป้องกันสหราชอาณาจักร และผู้ชมที่นั่งดูข่าว BBC อยู่หน้าทีวี
มันเป็นการสู้รบครั้งแรกของกองพลอากาศ
ถึงแม้ว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่องในโลกอินเทอร์เน็ตในเรื่องประสิทธิภาพการรบที่แท้จริงของกองพลนี้ในประเด็นว่าทหารที่กระโดดมาจากที่สูงสามารถรักษาประสิทธิภาพการสู้รบปกติได้และอาวุธของพวกเขายังยิงได้ปกติหรือไม่…
จู่ๆ ความสงสัยทั้งหมดได้หายไป
พวกนั้นแข็งแกร่ง
ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาแข็งแรงมาก…
ผู้คนรอบโลกกำลังย่อยข้อมูลใหม่นี้ อารมณ์ของผู้โดยสารที่เรือสำราญ ‘ออโรร่าโบเรลิส’ ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ
ที่โถงทางเดิน เจ้าชายเฟรเดอริกไปรับเจ้าหญิงลิเลีย โดยเขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“โอ้ พระเจ้า ลิเลีย! ลูกหายไปไหนมา?”
เจ้าหญิงลิเลียเอาไหล่พ่อของเธอ เจ้าหญิงลิเลียหันไปมองดูลู่โจวและกระซิบข้างหูพ่อเธอ “คุณนักวิชาการแสดงเวทมนตร์ให้หนูดูด้วย!”
เจ้าชายเฟรเดอริกอึ้ง
“เวทมนตร์?”
“ใช่ค่ะ! เรือโจรสลัดลำใหญ่” ลิเลียพูดเจื้อยแจ้ว ทำไม้ทำมือใหญ่โต “หมอกควันตกมาจากฟ้า แล้วเรือโจรสลัดหายไปเลย”
“เรือโจรสลัด…เรือสินค้าที่ตามเรามาเหรอ? ถ้าอย่างงั้น…เราควรจะขอบคุณเขานะ” เจ้าชายเฟรเดอริกไม่รู้เลยว่าลูกสาวของเขากำลังพูดอะไรอยู่
แต่อย่างไรก็ดี เธอก็ได้กลับมาหาเขาอย่างปลอดภัย
นอกจากเจ้าชายเฟรเดอริก เจ้าหญิงโซเฟียก็ตื่นเต้นเช่นกัน
เธอรีบวิ่งออกมาจากห้องแล้วดึงตัวเจ้าหญิงลิเลียไปจากสามีของเธอ เธอกอดและหอมลูกสาว จากนั้นเธอก็ผละตัวออกจากเด็กหญิงที่แทบหายใจไม่ออก
เธอวางเจ้าหญิงลิเลียลงและรีบเดินไปหาลู่โจว เธอพูดกับเขาด้วยความซาบซึ้งใจ
“นักวิชาการลู่ ฉันไม่รู้ว่าจะขอบคุณอย่างไรดี! ขอบคุณมากค่ะ!”
“เอาจริงแล้วคุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก” ลู่โจวเกรงกลัวผู้หญิงคนนี้เล็กน้อยว่าเธอจะเข้ามากอด หลังจากถอยหลังไปครึ่งก้าว เขาพูดอย่างสุภาพ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับ”
เจ้าชายเฟรเดอริกเดินเข้ามาใกล้และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่ได้ เราต้องขอขอบคุณคุณ เราก็ต้องขอบคุณคนกลุ่มนี้ที่ช่วยเราจากโจรสลัด เราจะขอบคุณทั้งคุณและประเทศของคุณในโอกาสที่เป็นทางการกว่านี้”
“อ่อ ได้ครับ…”
ลู่โจวรู้ว่าเขาโน้มน้าวโซเฟียกับเฟรเดอริกและโซเฟียได้ เขาเลยยอมแพ้
เนื่องจากการปะทะโจรสลัดโดยไม่ได้ตั้งตัว การเดินเรือทั้งหมดนี้ถูกลดเวลาไปหนึ่งวันเต็ม
เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือและเร่งความเร็ว แต่การหยุดจอดบางที่ถูกยกเลิก ซึ่งรวมไปถึงการแวะชมมัลโม่
นอกจากนี้งานเลี้ยงอาหารเย็นก็ถูกยกเลิก
หลังจากเจอเรื่องราวมาเยอะ ผู้โดยสารเหนื่อยกันทั้งกายและใจไปหมดแล้ว สิ่งเดียวที่คนพวกนี้อยากทำคือนอนพักผ่อน พวกเขาจะพูดคุยเรื่องการพักผ่อนพรุ่งนี้
ทุกคนกินอาหารกันเงียบๆ ที่ห้องอาหารก่อนที่จะแยกย้ายกลับห้อง กัปตันของกองกำลังราชวงศ์กำลังตำหนิทหารเรื่องการขโมยอาวุธ ส่วนหวังเผิง เขาวุ่นวายกับศพไม่ทราบตัวตนที่ด้านล่างของเรา
มีเวลาเหลือบนเรือแค่หนึ่งวัน
ลู่โจวไม่ได้อยู่ที่ดาดฟ้าเรือเป็นเวลานาน เขากลับไปที่ห้องแล้วดูสมุดบันทึกที่ถูกสแกนอย่างเงียบๆ ซึ่งเป็นสมุดเล่มที่หวังเผิงเก็บมาจากชายปริศนา
ระหว่างที่ลู่โจวอ่านข้อความบนแท็บเลตทีละบรรทัด คิ้วของเขาค่อยๆ ขมวดขึ้น
“ไม่แปลกใจเลยที่หวังเผิงบอกว่า เขาอ่านสิ่งนี้มาก่อน…”
มันเป็นงานหลังการเสียชีวิตของนักวิจัย ILHCRC ผู้ล่วงลับ ศาสตราจารย์กาแลตต์ มิโร มันเป็นงานเขียนเรื่องทฤษฎี ‘จิตวิญญาณแห่งจักรวาล’
มันเป็นฉบับที่ถูกปรับปรุงแล้ว
ธีสิสเวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่ธีสิสอีกต่อไป มันเป็นเหมือนเอกสารทางศาสนา มันยากที่จะจินตนาการว่าคนพวกนี้ถูกมีแรงจูงใจและมีความแน่วแน่ในการเสียชีวิตลง
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหัวรุนแรงที่ประท้วงบนท้องถนนลอนดอนไม่อาจเทียบกับสิ่งนี้ได้
“ก็คือกลุ่มคนที่เชื่อในจิตวิญญาณแห่งจักรวาลวางแผนการโจมตีครั้งนี้? ”
“แต่นี่มันดู…เสียสติเกินไป”
“หรือว่ามีใครบางคนอยากจะบ่ายเบี่ยงความสนใจของเราด้วยระเบิดควันนี้?”
มีความเป็นไปได้สองอย่าง
แต่ถ้าสถานการณ์หลังเป็นจริง…
จะมีใครคิดโทษการโจมตีนี้กับองค์กรศาสนาใหม่ไหมนะ?
บางทีถ้าซีไอเออยู่เบื้องหลังเรื่องนี้…
ลู่โจวปิดแท็บเลต เขาโยนแท็บเลตไปที่โต๊ะข้างเตียงและขยี้ตาที่อ่อนล้า
“ขอให้ฉันคิดผิดเถอะ…”
เขารู้สึกว่าการทดลองนั้นน่าจะเปิดเผยเรื่องมหัศจรรย์
แต่การกังวลถึงเรื่องพวกนี้ในตอนนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่
ตอนนี้หวังเผิงได้รายงานสถานการณ์ให้เบื้องบนทราบ แผนกเจ้าหน้าที่ทั่วไปของกองทัพประชาชนคงได้ทำการสืบสวนเรื่องนี้แล้ว
เขาควรจะรอผลการสอบสวนเงียบๆ
แผนกข่าวกรองจีนน่าจะเจอข้อมูลที่มีค่าระหว่างการสอบสวน ถ้าเขายังใส่ใจกับเหตุนี้ เขาก็น่าจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในเวลานั้น
ลู่โจวหลับตาลง คืนนี้เขาตัดสินใจเข้านอนเร็ว
หลังจากเขาหลับตาได้ไม่นานก็มีเสียงวิญญาณเบาๆ ก้องอยู่ในความคิดของเขา
“เมื่อคุณกำลังจ้องมองวอยด์ วอยด์ก็กำลังจ้องคุณเช่นกัน…”
…
เช้าวันต่อมาท้องฟ้าแจ่มใส
เมื่อดูจากดาดฟ้าเรือ ทิวทัศน์เลือนรางของท่าเรือที่โคเปนเฮเกนสามารถเห็นได้ชัดเจน
หลังจากนั่งรับประทานมื้อเช้าที่โต๊ะ ลู่โจวเอาผ้ารองกลับไปวางไว้บนโต๊ะ ต้นหนที่ยืนอยู่ตรงราวกั้นพูดเสียงดังฟังดูกระตือรือร้นกับแขก
“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี พวกเรากำลังเข้าจอดที่ท่าเรือโคเปนเฮเกน พวกเราได้ประสบกับ…เรื่องพลิกผันระหว่างการเดินทาง แต่โชคดีที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
“ในฐานะตัวแทนออโรร่าโบเรลิส ผมอยากขอยินดีต้อนรับและขอบคุณทุกคนสำหรับการเดินทางครั้งนี้…”
เสียงปรบมือดังกระจายไปทั่วพื้นที่ โดยส่วนมากมาจากตัวลูกเรือเอง
มันดูชัดเจนว่าการอธิบายนี้ไม่ได้ทำให้ผู้โดยสารหลายคนพึงพอใจ
แต่อย่างไรก็ดี การเดินทางอันน่าเร้าใจนี้ได้สิ้นสุดลงเสียที
หลังจากมื้อเช้า บรรดาแขกกลับไปเก็บกระเป๋าที่ห้องพัก เมื่อลูกเรือทุกคนมาคอยส่งจนเสร็จ แขกทุกคนลงจากเรือสำราญลำนี้
รถยนต์จากสถานทูตจีนที่โคเปนเฮเกนมารอคอยอยู่ที่ท่าเรือแล้ว
บอดีการ์ดในชุดสูทสีดำเดินก้าวมาเปิดประตูรถให้ลู่โจว เมื่อเขากำลังจะก้าวเข้ารถไปก็มีกลุ่มนักข่าวเห็นเขาและเข้ามาล้อมทันที
“สวัสดีครับ ผมเป็นนักข่าวจากเดอะซัน เราได้ยินมาว่าคุณเห็นโจรสลัดไวกิ้งที่ท้องทะเล? จริงใช่ไหมครับ?”
“มันบอกได้ยากว่าพวกนั้นเป็นโจรสลัดไวกิ้งหรือเปล่า แต่พวกนั้นเป็นโจรสลัดแน่นอน…คุณควรไปสัมภาษณ์รายละเอียดจากทูตและกงสุล หรือหน่วยงานลาดตระเวนพื้นที่ทางน้ำแถวนี้ ผมไม่ค่อยรู้มากเท่าไหร่”
“พวกนั้นตั้งเป้าหมายที่คุณเหรอ? คุณคิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง?”
“ผมไม่รู้เหมือนกัน”
หลังจากที่รับมือกับนักข่าวหนึ่งคน ก่อนที่ลู่โจวจะได้พักหายใจก็มีไมค์อีกอันถูกจ่อมาหน้าเขา
“สวัสดี ผมเป็นนักข่าวจากนิวยอร์กไทมส์ ผมได้ข่าวว่าคุณจะเป็นตัวแทนประเทศจีนที่จะพูดในงานซัมมิทสภาพอากาศโลก จริงใช่ไหมครับ?”
“ถูกต้องครับ”
นักข่าวถามว่า “แต่ผมได้ยินว่าคุณนั่งเรือสำราญมา”
ลู่โจวหัวเราะขึ้นทันทีและถามว่า “เครื่องบินเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าหรือครับ? ถ้าเกิดผมว่ายน้ำมาที่นี่ล่ะ?”
นักข่าวนิ่งไป เขาไม่คิดว่าลู่โจวจะโยนคำถามกลับใส่เขาแบบนี้
ใครเป็นคนสัมภาษณ์กันแน่?
แต่นักข่าวพูดต่อโดยไม่แสดงท่าทีอ่อนแอ “แต่…ในฐานะนักวิชาการผู้มีอิทธิพล คุณไม่คิดหรือว่าคุณต้องเป็นตัวอย่างสำหรับการป้องกันสิ่งแวดล้อม?”
ลู่โจวรู้สึกรำคาญ เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าไมค์มา เขาตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพและชัดเจน “เนื่องจากผมเป็นนักวิชาการผมจึงไม่ต้องอธิบาย ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่”
“สำหรับการเป็นแบบอย่าง ผมคิดว่าฟิวชั่นที่ควบคุมได้เป็นตัวอย่างที่ดี จากการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน เราได้ลดการปล่อยคาร์บอนและความร้อนอย่างน้อย 50% ”
“จะมีผลลัพธ์ถูกแสดงอีกที่งานซัมมิทสภาพอากาศโลก คุณจะเห็นหรือไม่ มันไม่ใช่ปัญหาของผม”
“แล้วก็ผมเห็นว่าเสื้อผ้าคุณทำจากใยสังเคราะห์ แล้ววัสดุของมันเกือบทั้งหมดมาจากปิโตรเลียม”
“ผมจะพูดแค่นี้ล่ะครับ”
หลังจากนั้นเขายื่นไมค์คืนนักข่าว แล้วเขาก็ขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างถนนซึ่งขับออกไปเลย