Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1278 เหรียญรางวัลที่สาม
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1278 เหรียญรางวัลที่สาม
งานซัมมิทเมื่อวานประสบความสำเร็จอย่างมาก
มีเพียงข้อเสียเดียวคือมันดูเป็นการห้ำหั่น
ท้ายที่สุดแล้วช่องว่างระหว่างความรู้และตรรกะไม่สามารถถูกเติมเต็มด้วยอารมณ์และแพชชั่นได้
แต่สิ่งที่ลู่โจวไม่ได้คาดคิดคือการพูดของเขากลับเป็นที่นิยม?
ครึ่งแรกของการพูดคือการนำเสนอการ์ดรายงานของจีนให้โลกรับรู้ รายงานครึ่งหลังเป็นการตอบคำถามที่เด็กหญิงถามเขาเป็นชุด ซึ่งนั่นเกี่ยวข้องโดยตรงกับแผนโซนเศรษฐกิจพิเศษกว่างฮั่น
นอกจาก ‘เหรินเหรินเดลี่’ ที่ชื่นชมการพูดของเขาในหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ สื่อรอบโลกก็ยังได้รายงานอย่างเข้มข้นในเรื่องการกล่าวพูดของเขา
ยกตัวอย่างเช่น หนังสือพิมพ์ ‘จิลแลนด์-โพสเทน’ ของชาวเดนิช ได้เขียนว่ามันเป็นการปราศรัยที่โง่เง่าและนำเสนอไอเดียใหม่สำหรับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ ‘วอลล์ สตรีท เจอร์นัล’ เรียกว่ามันเป็น ‘โฆษณาชวนเชื่อสำหรับการล่าอาณานิคมดวงจันทร์’ การกล่าวพูดได้แสดงถึงความทะเยอทะยานของจีนในโปรเจกต์ดวงจันทร์ และนาซาควรระมัดระวังไว้
แน่นอนว่านอกจากการรายงานอย่างเป็นกลาง มันก็มีแง่มุมจำนวนหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นความเห็นส่วนตัว
ยกตัวอย่างเช่น ‘นิวยอร์กไทมส์’ ได้เขียนไปในเชิงทฤษฎีสมคบคิดว่าสิ่งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไตร่ตรองมาแล้ว และเรียกมันอย่างไม่เห็นใจว่า ‘การกล่าวปราศรัยชะตาฟ้าใหม่’ พวกเขาเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นวิธีการที่จีนใช้ผูกขาดทรัพยากรดวงจันทร์
ลู่โจวเพียงแค่ยืนอยู่บนเวทีและพูดไปไม่กี่ประโยค เขาไม่คิดว่ามันจะมีผลกระทบใหญ่ขนาดนี้ ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลย เขาเพียงแค่พูดประเด็นต่างๆ ในระดับผิวเผิน
ในเวลาต่อมา เขาคิดถึงเรื่องนี้ สาเหตุที่มีการโต้ตอบใหญ่ขนาดนี้มีเหตุผลหลักมาจากคำพวกนี้ที่เขาพูดออกมาเอง และเขามีตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาของคณะกรรมการการโคจรรอบดวงจันทร์
แต่ว่าเมื่อจากเขาเพิ่งรู้สาเหตุที่แท้จริงก็มีเรื่องที่ไม่คาดฝันกว่านี้เกิดขึ้นในทันที
คืนต่อมาหลังการกล่าวปราศรัย เขากลับมาที่ห้องพักแล้วนอนเหยียดบนเตียงหลังจากร่วมงานเลี้ยง อยู่ดีๆ เขาพบว่าเขาบังเอิญเริ่มภารกิจลับและทำมันสำเร็จ
…
[ภารกิจลับ: การกล่าวพูดเรื่องความจำเป็น (สำเร็จ)]
[คำอธิบาย: “ที่รัก นี่เป็นเรื่องจากอดีตนานมาแล้ว”]
[รางวัล: เทรนด์วัตถุนิยมอารยธรรมโลก +10 ค่าประสบการณ์ฟรี +100,000 เหรียญนักปราศรัย]
“เหรียญรางวัลอีกแล้ว? เหรียญนี้มีไว้ทำอะไร?”
มีแตรทองแดงขนาดเท่าเล็บมืออยู่ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้งของลู่โจว
ถึงแม้ว่าอารยธรรมที่เหนือกว่าให้รางวัลนี้มา เมื่อเทียบกับสองเหรียญรางวัลแรกที่ใช้เทคโนโลยีต้านแรงโน้มถ่วงและเทคโนโลยีฉายภาพโฮโลแกรม เหรียญนี้เป็นเหมือนของที่ระลึกเสียมากกว่า
แต่ลู่โจวสนใจค่าประสบการณ์ 100,000 แต้มเสียมากกว่า
ระดับพลังงานของเขาต้องการค่าประสบการณ์ 100,000 แต้มพอดีในการเลื่อนขั้น มันจึงเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบมาก
[
A. คณิตศาสตร์ เลเวล 10
B. ฟิสิกส์ เลเวล 9 (13,215/???)
C. ชีวเคมี เลเวล 7 (410,000/1.2 ล้าน)
D. วิศวกรรม เลเวล 7 (1 ล้าน/1.2 ล้าน)
E. วัสดุศาสตร์ เลเวล 7 (763,000/1.2 ล้าน)
F. วิทยาศาสตร์พลังงาน: เลเวล 7 (0/1.2ล้าน)
G. วิทยาการสารสนเทศ เลเวล 7 (100,000/1.2 ล้าน)
แต้มทั่วไป: 24,335 แต้ม
]
ลู่โจวถ่ายโอนค่าประสบการณ์ทั้งหมด 100,000 แต้ม ไปที่วิทยาศาสตร์พลังงาน หลังจากที่เขายืนยันว่าระดับวิทยาศาสตร์พลังงานเพิ่มจาก เลเวล 6 ไป เลเวล 7 เขาเอื้อมนิ้วชี้ไปปัดหน้าจอโฮโลแกรม แล้วปิดแถบคุณลักษณะ
ภารกิจลับพวกนี้เป็นเหมือนไข่อีสเตอร์ในระบบ มันไม่กฎเกณฑ์ของภารกิจแนวนี้เลย มันเป็นภารกิจลับมากกว่าภารกิจเร่งด่วน การทำงานวิจัยที่น่าทึ่งให้เกิดผลลัพธ์ไม่จำเป็นที่จะเปิดใช้งานภารกิจลับเสมอไป แต่การกระทำที่ไม่ตั้งใจอาจจะเปิดใช้งานภารกิจลับเหล่านี้ ตัวรางวัลเองก็น่าฉงนใจ
สถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลังจากลู่โจวออกจากพื้นที่ระบบ เขาวางหัวไว้ที่หมอนแล้วกำลังจะเข้านอนเร็ว แต่จู่ๆ โทรศัพท์มือถือที่โต๊ะข้างเคียงดังขึ้นพร้อมรีเควสวิดีโอคอลล์
เมื่อเขาเห็นว่าเฉินยู่ซานโทรมาหา เขาก็ขยี้ตาง่วงซึมของตัวเอง เขาหยิบแว่นตาเออาร์ขึ้นมาแล้วสวมมันเข้า จากนั้นเขาแตะนิ้วที่กรอบแว่น
“ถ่ายโอนวิดีโอคอลล์…”
เสี่ยวไอ: [ได้เลย เจ้านาย! (๑•̀ᄇ•́)و✧]
อนุภาคไฟสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นต่อหน้าลู่โจว หน้าต่างวิดีโอปรากฏขึ้น คลื่นแสงสีฟ้าอ่อนกวาดไปทั่วหน้าเขา โดยจับข้อมูลใบหน้าและลักษณะการแสดงสีหน้า
ถึงแม้ว่าลู่โจวชอบใช้แท็บเลตมากกว่า การโทรเข้ามาแบบนี้ทำให้เขารู้สึกเชื่อมต่อได้มากกว่า มันคล้ายกับการสื่อสารกันต่อหน้า
“นี่ฉันปลุกนายหรือเปล่า?”
“ไม่เลย เธอโทรหาฉันได้ตลอดเลยนะ”
ที่ปลายสาย เฉินยู่ซานอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“ฉันอยากจุ๊บหน้าผากนายแล้วบอกว่าหลับฝันดี”
“เอาจริงแล้วเธอทำได้นะ…ขอฉันซูมเข้าไปหน่อย”
“ฉันล้อเล่น มันน่าอายจะตาย…ไว้ตอนเจอหน้าดีกว่า” แก้มของเฉินยู่ซานแดงขึ้นในทันที เธอกระแอมแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “จะว่าไปแล้วนายดูเป็นที่นิยมนะ”
“เป็นที่นิยม?”
“อืม ดูเหมือนนายจะชินกับมันแล้ว”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าเธอปรากฏในพาดหัวข่าวแทบทุกวันในช่วงสามปีที่ผ่านมา เธอคงรู้สึกแบบเดียวกัน”
“อืม…ฉันไม่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะมีโอกาสได้รู้สึกแบบนี้”
ลู่โจวจ้องมองเธอด้วยแววตาอบอุ่น
อาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยู่คนเดียวมานาน ลู่โจวรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ไม่กี่นาทีผ่านไป
เธอยิ้มให้และพูดเสียงอ่อน
“แววตาของคุณบอกว่านายเพิ่งดื่มมา”
“มันเป็นปาร์ตี้ค็อกเทลที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหลายประเทศเข้าร่วม มีคนชวนฉัน ฉันก็เลยไป”
เฉินยู่ซานพูดแซว “ไม่มีใครมาจีบนายเลยเหรอ?”
“เธอไม่เชื่อใจฉัน?”
“ฉันเชื่อใจนายอยู่แล้ว ฉันแค่กังวลเรื่องแฟนหนุ่มนิดหน่อย อย่างไรเสีย…ฉันพยายามหนักกว่าจะได้นายมา
ลู่โจวมีสีหน้าพึงพอใจ เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เขาพูดว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไปจับเธอมาเหรอ?”
เธอพูดสวน “แต่ฉันเป็นคนชวนนายไปทะเลสาบนะ!”
“ฉันจูบเธอก่อน”
“แต่ฉัน…”
พูดไปครึ่งประโยค เฉินยู่ซานก็หน้าแดงอีกแล้ว เธอพูดว่า “ช่างมันเถอะ”
ลู่โจวเห็นความเขินอายในตาเธอ เขายิ้มให้และพูดว่า “ฉันจะกลับในอีกไม่กี่วัน”
เฉินยู่ซานบอกว่า “ดูแลตัวเองด้วย”
“แน่นอน” ลู่โจวพยักหน้า จู่ๆ เขานึกเรื่องสำคัญขึ้นได้และพูดว่า “จะว่าไป พรุ่งนี้เป็นวันเดินทางกลับ”
“ใช่” เฉินยู่ซานพยักหน้า “ทางเรารอให้นายมาคุมงาน เราไม่ได้คาดคิดให้นายไปโคเปนเฮเกนกะทันหัน นายทำได้แค่ดูจากตรงนี้”
ลู่โจวอยากพูดว่า “ขอโทษ” แต่สุดท้ายเขาก็กลืนคำนี้ลงไป
“งั้นนายก็ต้องจัดการมัน”
เมื่อเฉินยู่ซานเห็นความไว้ใจในตาของเขา เธอมีรอยยิ้มสุขใจบนใบหน้า จู่ๆ ลู่โจวนึกขึ้นได้ว่าทำไมเขาถึงชอบเธอตั้งแต่แรก…
“ไม่ต้องกังวลไป”
“เรื่องแค่นี้ง่ายมาก!”