Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1283 อาวุธใหม่?
โทรศัพท์สายนี้มาจากหลี่เกาเหลียง
ไม่กี่วันก่อน ลู่โจวคิดจะหาโอกาสโทรไปขอบคุณเขา แต่หลี่เกาเหลียงอาจจะยังลอยอยู่ที่ทะเลบนเรือสินค้า เขาจึงพักเรื่องนี้ไปก่อน
มันเพิ่งผ่านมาแค่สัปดาห์เดียว แต่เขากลับมาแล้ว?
ลู่โจวถามทันทีเมื่อสายโทรศัพท์ต่อติด “คุณกลับมาแล้วเหรอ?”
“เรือสินค้าเพิ่งผ่านทะเลเบอริ่งไป แต่มันถูกกองทัพเรือจัดการไป มันกำลังถูกลากไปท่าเรือของเรา เราไม่ต้องยุ่งอะไรกับมัน เราก็เลยกลับมา”
“ตราบใดที่คุณปลอดภัย” ลู่โจวพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มและพูดว่า “ผมควรต้องขอบคุณจริงๆ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น”
“โอ้ ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมเป็นแค่ทหาร แล้วก็ผมอยากพูดขอบคุณคุณมากกว่า คุณให้ขาทั้งสองข้างกับผม ถ้ามันไม่มีเทคนิคเชื่อมต่อเส้นประสาทผมคงถูกปลดจากกองทัพแล้ว ผมต้องขอบคุณคุณสักกี่ครั้งดี?”
“โอเคครับ ผมจะไม่พูดอะไรอีก ผมจะเลี้ยงเหล้าคุณสักหน่อย จะว่าไปพวกคุณโอเคกันใช่ไหม? ไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นใช่ไหม?”
จู่ๆ หลี่เกาเหลียงหัวเราะและพูดว่า “จะมีการสูญเสียเกิดขึ้นกันได้อย่างไรล่ะ? พวกเรามีอุปกรณ์พวกนี้แล้วไง
นอกจากนี้ทหารของกองรบได้ฝึกเป็นหลายพันครั้งในระบบความจริงเสมือน พวกศัตรูรู้สึกช็อกเมื่อพวกเราลงจอด แล้วพวกนั้นไม่มีวิธีสู้กลับได้เลย”
หลี่เกาเหลียงเล่าสถานการณ์ให้ลู่โจวฟังอย่างชัดเจน
ถึงแม้ว่ามันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างสมรภูมิรบจริงกับความรู้สึกในการเล่นเกม FPS ในระบบเสมือนจริง แต่ด้วยชุดเกราะเสริมและปืนไรเฟิลอานุภาพรุนแรง ทั้งการรบก็เกิดขึ้นจากเพียงฝ่ายเดียว
ก่อนที่เขาจะมีเวลาได้ทดสอบอุปกรณ์ทั้งหมด ทุกอย่างก็จบลงแล้ว
“อ่อ ผมเกือบลืมเรื่องสำคัญไปเลย”
จู่ๆ หลี่เกาเหลียงนึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้ เขาลูบหน้าผากตัวเองแล้วพูดว่า “คนที่โจมตีคุณถูกพบตัวแล้ว เขาเป็นขุนศึกที่ทำงานในแอฟริกาตะวันออกที่เขตชายแดนระหว่างเคนย่ากับโซมาเลีย ตำรวจสากลได้ตามติดพวกนั้นมานาน คนพวกนั้นได้ให้ข้อมูลทั้งหมดมาทันที หลังจากได้ยินว่าเราตั้งใจจะติดตามพวกนั้น”
ลู่โจวถาม “ผมไปทำอะไรให้พวกขุนศึกแอฟริกาตะวันออกเหรอ?”
ฉันไม่เคยไปแอฟริกา
“ผู้คนที่มุ่งร้ายต่อคุณไม่ใช่ขุนศึกแอฟริกาหรือโจรสลัดแน่นอน คนพวกนี้ถูกคนอื่นว่าจ้างมา ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียดกรุณาถามหวังเผิง พวกเขากำลังสอบสวนอยู่ มันไม่ใช่ธุระของพวกเรา แน่นอนว่าถ้าเราไม่ให้พวกนั้นชดเชยมันจะทำให้เราดูอ่อนแอ”
เมื่อลู่โจวได้ยินน้ำเสียงอำมหิตของหลี่เกาเหลียง เขาถามด้วยความสงสัย “คุณมีแผนจะโจมตีพวกมัน?”
หลี่เกาเหลียงพูดพร้อมรอยยิ้ม “ประมาณนั้น ถึงเราจะไม่ได้ส่งกองพลไปโจมตีโดยตรง แต่เราจะสั่งสอนพวกนั้นอย่างแน่นอน เราก็จะได้ทดสอบอาวุธใหม่ของกองทัพ”
ลู่โจวถามอีก “อาวุธใหม่?”
หลี่เกาเหลียงตอบ “มันไม่ปลอดภัยที่จะพูดผ่านโทรศัพท์ ถ้าคุณสนใจก็มาที่นี่พรุ่งนี้สิ!”
สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงมีหน้าที่หลักในการวิจัยวิทยาศาสตร์เชิงทฤษฎีและเทคโนโลยีพลเรือน มีเพียงสถาบันวิจัยความลับสูงไม่กี่แห่งที่ทำการวิจัยเพื่ออุตสาหกรรมทหาร พวกเขาร่วมมือกับสถาบันวิจัยการป้องกันราชอาณาจักรแห่งอื่น
ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาทำงานด้านการลดขนาดแบตเตอรี่ฟิวชั่นและติดตั้งแบตเตอรี่ที่เรือบรรทุกอากาศยานและเรือดำน้ำ รวมไปถึงการวิจัยวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการรบของกองทัพอากาศและกองทัพเรือ
สำหรับโปรเจกต์เฉพาะเจาะจง ลู่โจวไม่ได้รู้รายละเอียดมากและเขาก็ไม่ได้เข้าร่วมด้วย
เขาไม่ได้ยินใครพูดถึงอาวุธใหม่ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดว่ามันคืออะไร
เนื่องจากว่ามีแขกอยู่ที่บ้าน เขาจึงไม่ได้พูดคุยกับหลี่เกาเหลียงนานมาก เขาวางสายหลังจากที่พูดคุยเล็กน้อย
เมื่อเขาเก็บโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ศาสตราจารย์ฟิสิกส์สองคนดื่มกาแฟเสร็จ แล้วลุกขึ้นจากโซฟา ศาสตราจารย์เว่ยพูดขึ้นก่อน
“มันดึกแล้ว เราจะไม่รบกวนพวกคุณต่อ”
ลู่โจวถาม “พวกคุณไม่อยู่กินมื้อเย็นด้วยกันก่อนเหรอ?”
ศาสตราจารย์เว่ยส่ายหน้าและตอบว่า “ไม่ครับ ตอนนี้…ผมแค่มีไอเดียเล็กน้อย ผมจะกลับไปที่ ILHCRC เพื่อยืนยันพวกมัน”
ศาสตราจารย์ด็อบริกก็พยักหน้าด้วย
“ผมก็ด้วยครับ”
เมื่อลู่โจวดูสีหน้าของทั้งสองคนนี้ เขารู้ว่าประโยคที่เขาเพิ่งพูดไปน่าจะดลใจสองคนนี้ เขาจึงพูดพร้อมรอยยิ้ม
“งั้นผมขอให้คุณโชคดี ผมหวังว่าจะได้ยินข่าวดีจากพวกคุณในไม่ช้า”
เว่ยฮงพยักหน้าด้วยความซึ้งใจ
“ขอบคุณครับ! พวกเราจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน”
การนำคนอายุน้อยที่มีหวังเป็นเรื่องสนุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่การชี้นำสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้
สำหรับเขาแล้วเกียรติยศไม่ได้มีค่าอะไรมาก
เมื่อเทียบกับความสำเร็จส่วนตัว เขาอยากเห็นคนอายุน้อยที่มีศักยภาพได้สำรวจจุดพีคของฟิสิกส์บนถนนที่เขาได้กรุยทางไว้ก่อนแล้ว
แน่นอนว่าคนอายุน้อยไม่ได้หมายถึงนักวิชาการที่อายุน้อยกว่าเขา นั่นหมายถึงนักฟิสิกส์ที่อายุน้อยกว่าห้าสิบปี ท้ายที่สุดแล้วการตามหานักวิชาการที่มีอายุน้อยและมีแววแบบเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อความผิดปกติของแรงโน้มถ่วงของอนุภาคซีสามารถเป็นกุญแจสำคัญที่จะไปถึงฟิสิกส์ เลเวล 10 ลู่โจวจึงให้ความสนใจกับงานวิจัยนี้อย่างใกล้ชิด
ถึงแม้มันไม่ชัดเจนว่าสมบัติที่อยู่เบื้องหลังมันได้ตรงตามเกณฑ์ของ ‘ความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม’ ลู่โจวได้เห็นศักยภาพปริมาณหนึ่ง
นั่นคือแรงโน้มถ่วงใช่ไหม?
มันเป็นปัญหาฟิสิกส์อายุร้อยปี
ทฤษฎีสูงสุดของการรวมแรงพื้นฐานในธรรมชาติทั้งสี่ยังคงติดขัดในตอนนี้
บางทีงานวิจัยของทั้งสองคนนี้อาจจะนำหลายไอเดียที่แตกต่างมาสู่การเข้าใจฟิสิกส์ในฟิสิกส์สมัยใหม่…
ลู่โจวไปส่งทั้งสองที่ประตูบ้านแล้วบอกลา หลังจากลู่โจวดูสองคนนี้กลับไปเขาก็กำลังจะกลับเข้าบ้าน แต่เขาเห็นรถสีเงินขับมาจากทางแยก
ไฟรถกะพริบ จากนั้นมีสาวสวยคนหนึ่งลงจากรถในเวลาต่อมา
หัวใจของลู่โจวเต้นแรง เขาไม่อาจละสายตาได้
เธอรู้สึกพอใจอย่างมากกับสีหน้าแฟนหนุ่ม เธอมีรอยยิ้มที่ดีใจ ภูมิใจ และค่อนข้างขี้อาย
เฉินยู่ซานรู้สึกอายที่ถูกจ้องมอง เธอกระแอมแล้วพูดว่า “มองเสร็จหรือยัง?”
“ยัง!”
“แล้ว…คิดถึงฉันไหม?”
“อยู่แล้ว!”
ว้าว…
ความรู้สึกแบบนี้!
ทำไมแฟนของฉันช่างละมุน ฉลาด และหล่อจัง…
แถมน่ารักด้วย!
เมื่อเฉินยู่ซานรู้สึกว่าใบหูร้อนขึ้น เธอรู้ว่าตัวเองกำลังหน้าแดง
ลู่โจวที่ยืนอยู่ตรงประตูรู้สึกมึนเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดทำให้เธอหน้าแดงแบบนี้
“เอ่อ เธอโอเคใช่ไหม?”
“อ๊ะ!”
เฉินยู่ซานรีบปิดประตูรถ เธอเดินไปหาลู่โจวแล้วจับแขนเสื้อของเขา ก่อนที่จะพูดว่า “โง่ โง่เอ๊ย…เข้าไปข้างไหนเถอะ”
ลู่โจว “…?!”
ลู่โจวถูกลากเข้าบ้านไป แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงหน้าแดง…