Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1295 การเสียเวลาเป็นเรื่องน่ารังเกียจ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1295 การเสียเวลาเป็นเรื่องน่ารังเกียจ
ถนนด้านนอกสำนักงานใหญ่ ILHCRC ทั้งหมดถูกปิดกั้น
นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์รายใหญ่และหนังสือพิมพ์ปิดกั้นทางเข้า เหตุนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพนักงานที่ทำงานที่นี่
ถึงแม้ว่าทีมรักษาความปลอดภัย ILHCRC ได้กั้นคนจำนวนหนึ่ง แต่ยังมีกลุ่มนักข่าวบางส่วนยังสามารถเล็ดลอดเข้าไปที่ลานจอดรถได้
หลัวเหวินเซวียนและกดล็อกไฟฟ้าเพื่อเตรียมขึ้นข้างบนไป เขาหันไปมองดูกลุ่มนักข่าวที่แบกกล้องและถือไมโครโฟน เมื่อนักข่าวพวกนี้ล้อมเขาเหมือนฝูงซอมบี้ เขารู้สึกทำอะไรไม่ถูก
“สวัสดีครับ ผมเป็นนักข่าวจากหนังสือพิมพ์อ็อบเซิร์ฟเวอร์ ผมขอถามได้ไหม ท่านเลขาหลัว งานวิจัยล่าสุดจาก ILHCRC นั้นหมายถึงการเดินทางวาร์ปเป็นไปได้ใช่ไหม?”
“มันเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ความเป็นไปได้มีน้อยมาก”
“ท่านเลขาหลัว นั่นหมายความว่าจีนจะเริ่มสำรวจระบบดาวเคราะห์ที่ห่างไกลใช่ไหม? เราสามารถเข้าแอนโดรเมด้าได้ในชีวิตนี้ใช่ไหม?”
“เป็นคำถามที่ดี เราอาจจะทำได้ ถ้าเราอยู่ได้อีกสองศตวรรษ”
“ท่านเลขาหลัว—”
“ขอตัวก่อนนะครับ งานประชุมจะเริ่มในอีกไม่นาน ถ้าคุณมีคำถามกรุณาติดต่อโฆษกของ ILHCRC นั่นเป็นช่องทางสื่อทางการของเรา”
หลัวเหวินเซวียนพยายามเดินแทรกฝูงคนออกไป เขาวิ่งเข้าตึกโดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุ้มกันอยู่
เขามองดูประตูไม้ปิดตามหลัง ฝูงคนค่อยๆ สลายตัวจากการเข้าคุมของพนักงานรักษาความปลอดภัย เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก
“ดูเหมือนว่าพวกนักข่าวจะรักนายนะ”
หลัวเหวินเซวียนได้ยินเสียงคุ้นเคย เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นลู่โจวที่ยืนอยู่ข้างเขาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
จู่ๆ หลัวเหวินเซวียนมีสีหน้าเซอร์ไพรส์ เขากวาดตามองลู่โจวอย่างไม่เชื่อสายตา เขาพูดขึ้นพร้อมด้วยสีหน้าแปลกๆ
“เข้ามาได้อย่างไร…ไม่ได้มีนักข่าวขวางทางเหรอ?”
“ฉันมีวิธีของฉัน” ลู่โจวยิ้มเบาๆ จากนั้นเขาหันกลับไปมองแล้วพูดว่า “การประชุมกำลังจะเริ่มแล้ว เราไปพร้อมกันเลยดีกว่า”
ถึงแม้ว่าหลัวเหวินเซวียนมีคำถามอยู่มาก แต่ก็ไม่มีเวลาให้เขาได้ซักถามรายละเอียด
หลังจากเก็บความอยากรู้ไว้ หลัวเหวินเซวียนสูดลมหายใจเฮือกหนึ่งและเขาก็รีบเดินตามลู่โจวไป พวกเขาได้เดินไปทางห้องประชุม…
…
การประชุมบอร์ดบริหาร ILHCRC กำลังจะเริ่มขึ้น
แม้ว่าการหารือเป็นประเด็นวิชาการที่น่าเบื่อ แต่ด้วยความมหัศจรรย์ของอนุภาคซี การประชุมครั้งนี้ดึงดูดความสนใจจากทั้งโลก
แต่ถึงผู้คนอยากรู้ถึงข้อมูลวงใน ลู่โจวก็ไม่อนุญาตให้นักข่าวจากสื่อสำนักไหนเข้ามาฟังการประชุม เขาจึงจัดให้สื่อเข้าร่วมงานแถลงที่อีกอาคารหนึ่งแทน
โฆษกทางการของ ILHCRC จะรายงานผลการประชุมอย่างเร็วที่สุดและตอบคำถามของนักข่าว
ลู่โจวมองดูผู้อำนวยการที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะประชุมแล้ว เขากระแอมลำคอและพูดขึ้น “เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ”
เขาคลิกเครื่องชี้เลเซอร์ในมือ แผนที่ระบบสุริยะปรากฏขึ้นบนหน้าจอใหญ่ข้างหลังเขา
สมาชิกบอร์ดบริหารที่นั่งตรงโต๊ะประชุมหันมองหน้ากัน ซึ่งไม่รู้ว่าลู่โจววางแผนจะทำอะไร มีคนจำนวนหนึ่งซึ่งรวมถึงหลัวเหวินเซวียนคาดเดาอยู่บ้างในใจ
ลู่โจวพูดว่า “การสาธิตทฤษฎีเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทดลอง เราต้องส่งนาฬิกาอนุภาคซีไปที่วงโคจรพ้องคาบโลก วงโคจรดาวอังคาร แล้วก็—”
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนนะ คุณหมายความว่าทฤษฎีเสร็จสมบูรณ์แล้วเหรอ?”
ศาสตราจารย์วิทเทล สมาชิกของบอร์ดบริหาร ILHCRC อเมริกาและผู้อำนวยการสมาคมวิทยาศาสตร์บรูคเฮเวน ยกมือขวาขึ้นขัดลู่โจว เขาลุกขึ้นยืนขึ้นพร้อมสีหน้าคลางแคลงใจในขณะที่พูด
“โดยปกติแล้วเราควรพูดคุยเรื่องงานวิจัยและตัดสินว่ามันถูกต้องหรือไม่ แล้วก็ถกกันว่าจะออกแบบการทดลองแบบไหนเพื่อพิสูจน์มันใช่ไหม?”
ลู่โจวไม่ได้โกรธเพราะเขาโดนขัดระหว่างพูด เขาพยักหน้าให้และพูดว่า “ครับ ถ้าคุณมีคำถามเกี่ยวกับงานวิจัย ถามมาตอนนี้ได้เลย”
ศาสตราจารย์วิทเทิลนิ่งไปชั่วครู่ หลังจากครุ่นคิดไปสักพัก เขาพูดด้วยความเกรี้ยวกราด “ผมยังไม่เจอปัญหาอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นไม่ได้พบเจอ ผมคิดว่าอย่างน้อยเราควรจะ—”
ลู่โจวมองไปรอบห้องประชุมและถามว่า “มีใครมีคำถามอีกไหมครับ?”
ผู้คนในห้องประชุมมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครลุกขึ้นยืน
เรื่องถามคำถามลืมไปได้เลย
คนส่วนมากยังไม่เข้าใจงานวิจัยด้วยซ้ำ และถึงจะมีคนบางส่วนเข้าใจ พวกเขาก็คงเข้าใจได้ในระดับผิวเผิน
“จากที่เห็น เราไม่ควรเสียเวลาอีกแล้ว” ลู่โจวยักไหล่ในขณะที่เขามองศาสตราจารย์วิทเทิลที่มีสีหน้าซีด ลู่โจวพูดต่อ “ถ้าเรารอจนกระทั่งแวดวงฟิสิกส์จดจำทฤษฎีนี้ก่อนเราออกแบบการทดลอง เราคงต้องรอไปอีกอย่างน้อยห้าปี”
ศาสตราจารย์วิทเทิลถาม “มันมีปัญหาตรงไหน?”
ลู่โจวพูดตอบ “สิ่งที่เป็นปัญหาคือเราจะผลาญเวลาไป ถ้าคุณเจอปัญหาอะไรก็ช่วยบอกผมด้วย ถ้าไม่มีก็นั่งดูอย่างเงียบๆ ผมจะพิสูจน์เองว่าผมถูกต้อง”
ศาสตราจารย์วิทเทิลยังอยากจะพูดต่อ แต่เขาจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอนุภาคซีครั้งล่าสุด เขาจึงกลืนคำร้องเรียนลงคอไปในที่สุด
ศาสตราจารย์วิทเทิลนั่งลงที่เก้าอี้ในที่สุด ลู่โจวพยักหน้าและมองดูที่โต๊ะประชุม
“มีใครมีคำถามอีกไหม?”
“ผมมีคำถาม”
“ถามมาได้เลยครับ”
“ช่างเรื่องงานวิจัยไปนะ…แต่ทำไมถึงไม่เป็นดวงจันทร์? ทำไมเป็นดาวอังคาร?”
ศาสตราจารย์เฟอร์นันโดเป็นสมาชิกถาวรของบอร์ดบริหาร ILHCRC อังกฤษ เขาลุกขึ้นยืนพร้อมถามขึ้นด้วยสีหน้าลังเล
แต่หลังจากได้ยินคำถามนี้ ลู่โจวถอนหายใจ
“ถ้านั่นเป็นคำถามของคุณแปลว่าคุณไม่ได้อ่านงานวิจัยผมแน่นอน”
ศาสตราจารย์เฟอร์นันโดหน้าแดงและพูดต่อ “ผมสาบานว่าอ่านมันแล้ว แต่แค่บางส่วน… ผมยังอ่านไม่จบ”
ในความเป็นจริงเขาไม่ได้เข้าใจงานวิจัยเลยแม้แต่น้อย
คณิตศาสตร์ไม่ใช่สาขาที่เขาเชี่ยวชาญ
ถึงแม้ว่าเขาสามารถใช้เครื่องมือคณิตศาสตร์แพ้แก้ปัญหาที่เจอระหว่างการวิจัยฟิสิกส์เชิงทฤษฎี เครื่องมือส่วนมากมักตกยุคไปแล้ว
ลู่โจวไม่สนใจข้ออ้างของศาสตราจารย์เฟอร์นันโด เขายืนเท้าโต๊ะประชุมและลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาหันตัวแล้วเดินไปที่ไวท์บอร์ด หยิบปากกามาร์กเกอร์ขึ้นมาและเขียนสมการลงไป
[L=Ψαεαμνβγ5γμ(∂ν+imγν/2)Ψβ]
[…]
ทุกคนมองดูสมการบนไวท์บอร์ดด้วยสีหน้างุนงง
แทบไม่มีใครเข้าใจว่าลู่โจวอยากจะทำอะไร
แต่หลังจากที่ลู่โจวเขียนการคำนวณบรรทัดสุดท้ายเสร็จ ศาสตราจารย์บางคนมีท่าทีกระจ่างขึ้น
ซึ่งรวมถึงหลัวเหวินเซวียนและนักฟิสิกส์ชาวยุโรปอีกคนจากเซิร์น
หลังจากที่เขียนบนกระดานเสร็จลู่โจวหันไปมองดูผู้คนในห้องประชุม จากนั้นเขาพูดว่า
“อนุภาคซีเองไม่มีพลังงานพอที่จะเปลี่ยนโค้งของอวกาศ และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเจาะรูในอวกาศ…รูหนอนเป็นไปไม่ได้”
“แต่มันสามารถรบกวนสนามแรงโน้มถ่วง”
ลู่โจวมองดูสมาชิกบอร์ดที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะประชุม เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “สิ่งนี้สำคัญมาก”
“กาลอากาศถูกบิดเบือนภายใต้การแทรกแซงของแรงโน้มถ่วง และการบิดเบือนนี้ถูกกระจายไปรอบเราอย่างไม่เท่ากัน การเปลี่ยนสนามแรงโน้มถ่วงเทียบเท่ากับการเปลี่ยนความโค้งของกาลอากาศโดยทางอ้อม”
“ลองจินตนาการว่าถ้าเราอยากเที่ยวแบบวาร์ป เราจะย่นระยะอวกาศหลายปีแสงได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนในตอนนี้ แต่ว่า—”
ด้วยปากกามาร์กเกอร์ในมือ ลู่โจวเคาะไวท์บอร์ดเบาๆ
“แต่เราสามารถใช้พลังความโน้มถ่วงของดาว หรือใช้พันธะความโน้มถ่วงระหว่างระบบดาวเคราะห์ กาลอากาศจะถูกบิดโดยพลังความโน้มถ่วงระหว่างระบบดาวเคราะห์! จากนั้นเราจะสามารถหาเส้นทางที่ใกล้จุดหมายเราที่สุด”
“แน่นอนว่าสำหรับการทดลอง เราไม่จำเป็นต้องส่งโพรบอวกาศไปพร็อกซิม่าเซนทูรี่ซึ่งห่างไปไม่กี่ปีแสง การทดลองนี้สามารถทำได้ที่ระบบสุริยะของเรา”
“ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถใช้พันธะแรงโน้มถ่วงระหว่างดาวเคราะห์เพื่อเปิดช่องทางไฮเปอร์สเปซระหว่างดาวเคราะห์แล้วหาทางลัด”
ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องส่งอุปกรณ์ทดลองไปดาวอังคาร”
“เราต้องการแรงโน้มถ่วงของมัน”
“มวลของดวงจันทร์มีเพียงแค่ 1% ของโลก ถึงมันจะใกล้กว่า แต่มันก็ยากที่จะสร้างช่องทางไฮเปอร์สเปซที่มั่นคงจากการคำนวณ”
“ในทางทฤษฎีแล้วดาวพฤหัสเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า แต่ระยะทางห่างเกินไป และวงแหวนดาวเคราะห์น้อยตรงกลางก็เป็นปัญหา”
“เมื่อพิจารณาทุกปัจจัยแล้ว ดาวอังคารที่มีมวลเป็น 14% ของโลก ซึ่งนั่นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
“มีคำถามอะไรอีกไหมครับ?”
ศาสตราจารย์เฟอร์นานโดลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะส่ายหน้าและนั่งลง ศาสตราจารย์วิทเทนกลืนน้ำลายและอ้าปากขึ้น เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีคำพูดหลุดมาจากปากของเขา
เขารู้สึกเหมือนเพิ่งโดนลู่โจวอบรมมา…
“ดูเหมือนว่าไม่มีการคัดค้าน”
ลู่โจวพึงพอใจกับผลของการประชุม เขาพลิกเอกสารประชุมในมือ กระแอม แล้วพูดต่อ “ต่อไปเราจะคุยกันเรื่องโครงสร้างของนาฬิกาอนุภาคซี… ”
“และวิธีการทำการทดลองครั้งนี้”