Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1304 งานแถลงข่าวครื้นเครง
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1304 งานแถลงข่าวครื้นเครง
ณ เซี่ยงไฮ้
ที่สำนักงานใหญ่ ILHCRC?
ทาง ILHCRC เคลียร์พื้นที่ห้องประชุมของชั้นแรกล่วงหน้าหนึ่งวันและแปลงมันเป็นพื้นที่งานแถลงข่าวเพื่อให้คำตอบชัดเจนกับสื่อจากทั่วโลกและผู้คนทุกคนที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่ได้คาดคิดคือถึงแม้ว่าพวกเขาเตรียมการมากพอแล้ว ภาพงานแถลงข่าวยังตกอยู่ในความวุ่นวาย
รถบรรทุกของสื่อจอดเต็มลานจอดรถ ทุกคนแออัดที่ทางเข้าและแทรกตัวตามบันไดเลื่อน
ทุกคนอยากยื่นในจุดที่สะดวกและนักข่าวกังวลว่ากล้องจะไม่สามารถถ่ายภาพดีที่สุดได้ ผู้จัดงานการประชุมพูดย้ำว่าทุกคนจะสามารถเข้างานแถลงข่าวได้ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ช่วย
เอาตามตรงนี่เป็นครั้งแรกที่หลัวเหวินเซวียนตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง
ก่อนหน้านี้ ILHCRC ก็ได้ประกาศผลลัพธ์ที่น่าทึ่งออกมา อย่างเช่น อนุภาคซี และทฤษฎีวอยด์ แต่ไม่มีอะไรบ้าคลั่งเท่ากับวันนี้…
“มันเหมือนกับตอนที่เซิร์นค้นพบอนุภาคฮิคส์ใช่ไหม?”
หลัวเหวินเซวียนยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เขามองดูบันไดข้างล่างที่หนาแน่นและหันไปมองชายผอมร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างเขา
ชายร่างผอมยักไหล่และพูดว่า “ไม่… แต่สถานการณ์ที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นมาก่อน”
ชายคนที่พูดกับเขาคือ เอ็ปตัน โอเล็ท ศาสตราจารย์ฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญสี่ภาษา
เขาเคยเป็นผู้อำนวยการห้องแล็บเซดที่เซิร์น แต่ช่วงนี้ เซิร์นไม่ได้ดำเนินการโปรเจกต์ใหญ่ นักวิจัยเซิร์นส่วนใหญ่ทำงานที่สถาบันวิจัยอื่น ดังนั้นเขาจึงย้ายฝั่งไป ILHCRC ทันที
สำหรับตอนนี้เขาเป็นผู้อำนวยการของห้องแล็บอนุภาคซี
พูดตามตรงแล้วโปรเจกต์วิจัยที่ศาสตราจารย์ด็อบริกค้นพบว่าความผิดปกติของแรงโน้มถ่วงที่เกิดจากอนุภาคซีเป็นหนึ่งในหัวข้อวิจัยในห้องแล็บนี้
สำหรับการทดลองที่จินหลิงเมื่อวาน เขาเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ได้ประจักษ์ช่วงเวลาประวัติศาสตร์กับตัว
“เมื่อไหร่?”
ศาสตราจารย์โอเล็ทตอบว่า “OPERA นิวทริโนที่ถูกส่งจากฝรั่งเศสไปห้องแล็บแกรนแซสโซที่ห่างออกไป 732 กิโลเมตร เร็วกว่าความเร็วแสง 60 นาโนวินาที คุณน่าจะเคยได้ยินเรื่องนี้”
“…มันไม่ได้ถูกปัดตกไปแล้วเหรอ?”
“ใช่ครับ แต่ก่อนที่มันถูกปัดตก มีกี่คนล่ะที่แน่ใจว่ามันเป็นเท็จ? ผู้คนยังหวาดกลัวกับผลลัพธ์นี้”
“ครั้งนี้ก็เหมือนกัน”
ศาสตราจารย์โอเล็ทยิ้มให้และพูดอย่างเปี่ยมอารมณ์
“เร็วกว่าความเร็วแสง…มันฟังดูเหมือนกับนิทาน แต่เราอาจจะใช้ชีวิตอยู่ในนิทานแล้ว”
เขายื่นมือไปแตะไหล่ของหลัวเหวินเซวียน
“คิดเรื่องจะอธิบายให้คนทั่วไปฟัง พวกเขาคงไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ”
เมื่อหลัวเหวินเซวียนคิดถึงกลุ่มคนบ้าคลั่งด้านนอก เขาเริ่มรู้สึกขนลุก
นี่น่าจะเป็นงานของลู่โจว
แต่ลู่โจวไปเก็บตัวอยู่
ใช่แล้ว เก็บตัว!
เก็บตัวหลังการทดลองเสร็จสิ้น!
เหลวไหล!
“ทำไมถึงไม่ช่วยคิดไอเดียให้ผมล่ะ?”
“ทำไม่ได้ครับ” โอเล็ทหันมองเลขาหลัว เขาหัวเราะอย่างไร้ปรานีและพูดด้วยความมั่นใจ “ผมไม่ใช่ประธานคนต่อไป ทำไมผมต้องทำล่ะ?”
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินจากไปโดยไม่หันมองกลับมา
หลัวเหวินเซวียนมองดูเขาเดินไปจนถึงสุดทางเดินและหายไปหลังประตูลิฟต์
“ผมเข้าใจแล้ว…”
หลัวเหวินเซวียนนึกไม่ออกว่าทำไมนักวิชาการลู่เลือกจะหายไปตอนนี้และใช้คำว่า ‘เก็บตัว’ เป็นข้ออ้าง
แต่ตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่างในทันที
สาเหตุที่ลู่โจวเลือกจะจากไปในช่วงเวลาสำคัญและให้งานหนักกับเขาไม่ได้เป็นเพราะเขาไปเก็บตัว มันเป็นเพราะว่าลู่โจวอยากบ่มเพาะและฝึกฝนเขา!
ไม่เช่นนั้นทำไมคนอย่างลู่โจวที่ชอบโอ้อวดถึงปล่อยให้เขาประกาศความสำเร็จระดับประวัติศาสตร์ของ ILHCRC ล่ะ?
นอกจากนี้งานวิจัยเกือบทั้งหมดก็ล้วนเป็นฝีมือของลู่โจว
หลัวเหวินเซวียนรู้สึกซึ้งใจเมื่อเขาคิดถึงว่าลู่โจวใส่ใจและรอบคอบมากแค่ไหน
เมื่อเขาคิดถึงความรำคาญและความเกลียดชังต่อลู่โจว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด
ผมช่าง…
ไร้เดียงสาเสียจริง!
“แต่ทว่าศาสตราจารย์โอเล็ทรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? มันชัดเจนขนาดนั้น?”
ลู่โจวไม่ได้บอกว่าประธาน ILHCRC คนต่อไปเป็นใครอย่างแน่นอน
แต่ดูเหมือนว่าทุกคนนอกจากเขารู้เรื่องนี้
เอาจริงแล้วหลัวเหวินเซวียนรู้สึกดีใจเล็กน้อย
ILHCRC มีคนเก่งที่โดดเด่นหลายคน แต่ความยอดเยี่ยมของพวกเขามักถูกศาสตราจารย์ลู่บดบังไว้
และเขาเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น
ไม่ว่าเขาจะพูดที่งานประชุมแนวหน้ามากแค่ไหน และไม่ว่าเขาเผยแพร่งานเขียนที่ดีเยี่ยมมากแค่ไหน หรือว่าการวิจัยของเขาล้ำหน้าแค่ไหน ผู้คนสนใจแค่ว่าใครคือประธาน ILHCRC ไม่มีใครให้ความสนใจกับเลขา
ถึงเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้มาก เนื่องจากว่าเขายินดีที่จะเกาะหลังลู่โจว เขาก็แอบเศร้าอยู่ในใจเล็กน้อย
ด้วยเหตุบางประการ คำพูดของศาสตราจารย์โอเล็ทเป็นการยืนยันความสามารถของเขา
ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่พูดออกมา…
หลัวเหวินเซวียนค่อยๆ รู้สึกพลังงานในใจ
ผมต้องทำตามความคาดหวังของเพื่อนให้ได้!
ผมต้องทำได้จากที่ลู่โจวไว้ใจ!
ผมจะโฮสต์งานประชุมนี้และทำตามความรับผิดชอบในฐานะเลขาของ ILHCRC
มันเป็นความรับผิดชอบของผมต่อมวลมนุษยชาติ!
…
งานแถลงข่าว ILHCRC เริ่มขึ้นตามตาราง
หลัวเหวินเซวียน เลขาแห่ง ILHCRCสวมชุดสูท เขาเดินไปที่เวทีของงานแถลง จัดโน้ตในมือเบาๆ และพูดด้วยเสียงดังฟังชัด
“สวัสดียามเย็น ทุกท่าน ผมคือเลขาของ ILHCRC หลัวเหวินเซวียน”
“เนื่องจากติดภาระหน้าที่ นักวิชาการลู่ไม่สามารถเข้าร่วมงานแถลงได้ ผมจะพูดแทนนักวิชาการลู่และขยายความบางประเด็นสำคัญ”
หน้าที่ของเขาคือการอ่านตามสคริปต์และตอบคำถามนักข่าวน่ารำคาญ เหมือนกับงานแถลงส่วนใหญ่
ความสนใจของทั้งโลกพุ่งไปที่การทดลองของ ILHCRC เมื่อวันก่อน มันจึงจะมีคำถามชวนปวดหัวเกิดขึ้น
หลัวเหวินเซวียนใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในการอ่านสคริปต์ในมือ และเขายังใช้โอกาสนี้คิดถึงคำถามที่อาจจะโดนถามที่งานแถลงข่าว
หลังจากนั้นเขากลับมาให้ความสนใจกับผู้ชม
“ต่อไปคือช่วงตอบคำถาม… ”
“ถ้าคุณมีคำถามอะไร คุณสามารถถามได้ตอนนี้”
ทั้งห้องแถลงข่าวตกอยู่ในความชุลมุน มีหลายมือชูขึ้นมาทันที
“สวัสดีครับ ท่านเลขาหลัว ผมมาจาก CTV การค้นพบครั้งล่าสุดของ ILHCRC หมายความว่าอย่างไร? คุณช่วยอธิบายอย่างละเอียดให้ผู้ชมตรงหน้าจอทีวีทราบได้ไหม?”
“ได้ครับ”
เมื่อเจอกับแสงแฟลชจากกล้อง หลัวเหวินเซวียนพยายามทำใจสงบนิ่ง เขาพูดเสียงดังขึ้นและพูดว่า “จากการใช้นาฬิกาอนุภาคซีที่ออกแบบโดยศาสตราจารย์ลู่โจว เราสามารถใช้การแทรกแซงของพันธะแรงโน้มถ่วงระหว่างดาวเคราะห์เพื่อสร้างพื้นที่ยาวและแคบซึ่งมีความโค้งกาลอวกาศต่ำ เราสามารถเรียกมันได้ว่าช่องทางไฮเปอร์สเปซ”
“มันเป็นเหมือนทางด่วนระหว่างภูเขา คุณสมบัติทางกายภาพไม่ต่างจากจักรวาลทั่วไป ความแตกต่างเดียวคือมันมีความโค้งสัมพัทธ์ต่ำกว่ากาลอวกาศใกล้เคียง ซึ่งระยะทางของมันในพื้นที่สามมิติสั้นกว่า”
“โดยสรุปจากการเดินทางผ่านช่องทางไฮเปอร์สเปซไปสองจุดสิ้นสุดในจักรวาล โฟตอนที่เรายิงมาจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งนั้นเดินทางในระยะที่สั้นกว่าเราประสบตามปกติ…มันเป็นเหมือนทางลัด”
หลังจากนักข่าว CTV พูดจบ นักข่าวต่างประเทศอีกคนยื่นไมโครโฟนแล้วถามว่า “ขอโทษครับ ท่านเลขาหลัว ถ้าทฤษฎีไฮเปอร์สเปซได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง มันจะส่งผลกระทบอะไรต่อโลกของเรา?”
“ขอแก้หน่อย ไม่ใช่ถ้า แต่มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง” หลัวเหวินเซวียนพูดต่อ “การกำเนิดของทฤษฎีไฮเปอร์สเปซจะมีผลกระทบอย่างมากในด้านการสื่อสาร การสังเกตทางดาราศาสตร์ และแม้กระทั่งกิจกรรมอวกาศระยะไกล แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่ผลกระทบนี้จะส่งผลถึงเรา…”
เกิดความวุ่นวายในกลุ่มผู้ฟัง
เมื่อผู้คนได้ยินคำว่ากิจกรรมอวกาศระยะไกล คนจำนวนมากมีแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
ทันทีที่เขาตอบคำถามเสร็จไมโครโฟนอีกอันก็ถูกยื่นเข้าหน้าเขา โดยไม่ให้เขาได้พักเลย
นักข่าวที่มีผมน้ำตาลยาวสลวยรีบพูดขึ้น
“สวัสดี ท่านเลขาหลัว ฉันเป็นนักข่าวจากเดอะลอสแอนเจลิสไทมส์! ฉันขอถามได้ไหมว่า…การเดินทางอินเตอร์สเตลลาร์จะเป็นความจริงหมายความว่าอะไร!”
มันเป็นสิ่งที่นักข่าวส่วนใหญ่ที่นี่รู้สึกกังวล
แต่หลังจากได้ยินคำถามนี้ หน้าของหลัวเหวินเซวียนดูเหนื่อยหน่ายในระหว่างที่เขาตอบพร้อมถอนหายใจ “มันอาจจะเป็นไปได้”
“แต่ผมต้องย้ำว่าสิ่งนี้จะไม่ได้กลายเป็นความจริงในอีกศตวรรษหรือหลายศตวรรษข้างหน้า”
“ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ทฤษฎีไฮเปอร์สเปซเป็นแค่จุดเริ่มต้น พวกเราเร็วกว่าที่เราคิดไว้ และเราสันทัดวิธีการก้าวผ่านขีดจำกัดของความเร็วแสง”
“แต่ตอนนี้มันดีกว่าที่จะไม่คาดหวังลมๆ แล้งๆ มากเกินไป”
นักข่าวอีกคนยื่นไมโครโฟนและถามว่า “งั้น คุณกำลังจะบอกว่าคุณไม่ค่อยมีความหวังกับการได้ความเร็วกว่าแสงในอนาคตอันใกล้นี้?”
หลัวเหวินเซวียนพยักหน้าโดยไม่ลังเล
“อืมก็ใช่… ”
“ผมค่อนข้างมองโลกในแง่ร้าย”