Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1316 ความแข็งแกร่งเป็นการการันตีที่เยี่ยมที่สุดสำหรับสันติภาพ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1316 ความแข็งแกร่งเป็นการการันตีที่เยี่ยมที่สุดสำหรับสันติภาพ
ชื่อของลู่โจวปรากฏในข่าวเป็นประจำในช่วงนี้
จากการเป็นผู้ก่อตั้งกองทุนอาณานิคมระบบดาวไปถึงของขวัญวาเลนไทน์ที่แพงที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์…ตำแหน่งของเขาทั้งหมดเตะตามาก
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาคุ้นชินกับการมีชื่อเสียง ลู่โจวเองไม่ได้รู้สึกอะไรมากเกี่ยวกับคอมเมนท์เกี่ยวกับตัวเขาและกองทุนหมื่นล้านหยวน
เขาตั้งใจทำมันเป็นธุรกิจระยะยาวจริงๆ ซึ่งต่างจาก ‘กองทุนปลอม’ ที่เป็นโอกาสสร้างรายได้
ถึงแม้ว่าเงินหมื่นล้านหยวนไม่ใช่เงินจำนวนมาก มันไม่เพียงพอที่จะสร้างตึกในเซี่ยงไฮ้ และมันไม่อาจเทียบได้กับโปรเจกต์ระดับโลกจากที่เงินไม่ได้อยู่นิ่งเฉยๆ ในธนาคาร เงินส่วนหนึ่งถูกใช้ลงทุนในบริษัทการบินและอวกาศที่มีแนวโน้มเติบโตสูงและให้รางวัลกลุ่มหรือผู้คนที่มีความก้าวหน้าในการวิจัยที่โดดเด่นในด้านการบินและอวกาศ
เหมือนกับที่ศาสตราจารย์ครุกแมนพูดไว้ ถึงแม้ว่าผู้ได้รับผลประโยชน์ของกองทุนนี้เป็นแค่บุคคลเดียว มีมากกว่าหนึ่งคนที่ได้รับประโยชน์จากกองทุนนี้
เป้าหมายของพวกเขาคือการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและมุ่งหน้าสู่เป้าหมายสูงสุดของการตั้งรกรากอินเตอร์สเตลลาร์ ตราบใดที่รายได้ประจำปีสูงกว่าเงินเฟ้อเงินจำนวนนี้จะเป็นเงินจำนวนมากในเวลาหนึ่งร้อยปี กองทุนนี้สามารถถูกลงทุนในอนาคตเพื่อช่วยคนให้ทำตามฝันฝนการตั้งรกรากในกาแล็กซี่
สิ่งนี้ก็ยังเป็นสัญญาของเขาต่อเธอในวันวาเลนไทน์
เขากำลังจะทิ้งตำนานที่เป็นของเขาทั้งสอง บนดวงดาวที่ไม่มีใครสนใจ…
“ฉันรู้สึกว่าเธอกำลังมีเรื่องกลุ้มใจ”
เฉินยู่ซานมองหน้าลู่โจวและพยักหน้า
“คนนั้นแหละ”
“เล่าให้ฉันฟังได้ไหม?”
“ไม่ใช่ความลับอะไร… ฉันแค่กังวลเกี่ยวกับเสี่ยวถงนิดหน่อย” เฉินยู่ซานนั่งเท้าคางตัวเอง เธอถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “เธอไม่เคยทำงานด้านธุรกิจมาก่อน… แต่ตอนนี้เธอได้ทำงานแล้ว มันโอเคจริงๆ ใช่ไหมที่เธอเรียนต่อที่พรินซ์ตัน?”
เธอไม่ได้กังวลอย่างไร้เหตุผล เนื่องจากมีเรื่องแนวนี้เกิดขึ้นมาก่อน
ลู่โจวคิดอยู่สักพักแล้วจึงให้คำตอบกับเธอ
“ฉันไม่สามารถบอกได้พรินซ์ตันพิเศษ มันไม่ได้เป็นเอกเทศจากอุตสาหกรรมทั้งหมด… แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเสี่ยวถง”
เธอไม่ได้พึงพอใจกับคำตอบของเขาโดยชัดเจน
เฉินยู่ซานมองลู่โจวด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะพูดว่า “นั่นคือน้องสาวนาย นายควรกังวลเกี่ยวกับเธอมากกว่านี้นะ”
เฉินยู่ซานเป็นลูกคนเดียว เธออยากที่จะมีน้องสาวหรือน้องชายมาตลอด แต่นั่นคงไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีกแล้ว
เธอไม่เคยจินตนาการว่าเสี่ยวถงจะเป็นน้องสาวของเธอ เธอจึงดีใจมากกับเรื่องนี้
ดังนั้นเธอเลยกังวลว่าเสี่ยวถงอาจจะตกอยู่ในอันตราย
แต่หลังจากที่เห็นว่าลู่โจวนิ่งมากแค่ไหน เธอรู้สึกโง่เง่าที่ตัวเองกังวล
ลู่โจวพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเสี่ยวถง แต่ว่ามันไม่มีเรื่องอะไรต้องเป็นห่วง”
“ทำไม? ถ้าเกิดว่ามีคน—”
“ไม่ ไม่เป็นไร” ลู่โจวส่ายหน้าและพูดว่า “สาเหตุที่ผมพูดว่าไม่ต้องกังวลไปคือเรื่องมันต่างจากเมื่อไม่กี่ปีก่อน”
โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชั่นในลอสแอนเจลิสถูกสร้างเสร็จแล้ว เส้นเลือดของระบบไฟฟ้าตะวันตกทั้งหมดถูกควบคุมโดยอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ จีนมีอิทธิพลอย่างมากในระบบพลังงานของอเมริกาเหนือด้านตะวันตก
อเมริกาจะไม่เสี่ยงอะไรจนกว่าจะมีวิกฤตการณ์ด้านการทูต ถ้าจีนถอนตัวช่างเทคนิคและคอร์นิวเคลียร์ของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ค่าไฟฟ้าในลอสแอนเจลิสจะสูงขึ้นอย่างมาก
นั่นจะกลายเป็นหายนะ
อุตสาหกรรมพลังงานเก่าถูกกำจัดไป ถึงแม้ว่าพวกเขาเตรียมรับมือกับวิกฤต มันก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะกู้คืนพลังงานสู่ระดับก่อนหน้าทั้งหมด
และถ้ามันเป็นการขัดแย้งทางการทหาร และถ้าพวกเขายึดคอร์นิวเคลียร์และช่างเทคนิค…
จากนั้นเพนตากอนและทำเนียบขาวจะกังวลเรื่องหน่วยรบอากาศ
“ความแข็งแกร่งของชาติเราคือการการันตีที่ดีที่สุดสำหรับความปลอดภัยของประชาชนนอกประเทศ และฉันไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยของเสี่ยวถงเลย”
“เสี่ยวถงสามารถทำการวิจัยได้ตามใจและมันจะปลอดภัยมากๆ ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน… จริงๆ แล้วคนอเมริกันน่าเป็นห่วงมากกว่าเรา”
เฉินยู่ซานพูดว่า “นายนี่มันช่างเย่อหยิ่งจริงๆ”
“ไม่ได้เย่อหยิ่ง ฉันมั่นใจว่าความแข็งแกร่งเป็นการการันตีสันติภาพที่เยี่ยมที่สุด” ลู่โจวยิ้มให้และพูดเสียงอ่อน “ฉันมั่นใจว่าผมจะรักษาข้อได้เปรียบของเราได้”
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็เริ่มดังขึ้น
ลู่โจวมองดูหน้าจอโทรศัพท์ เขาเดาว่าผู้อำนวยการหลี่เป็นคนโทรมาจึงไม่คาดคิดว่าจะเห็นชื่อหลัวเหวินเซวียน เขารับโทรศัพท์และเอาโทรศัพท์ไปแนบหู
“ว่าไง?”
“ฉันเอง!”
“ฉันรู้ว่าเป็นนาย มีเรื่องอะไรเหรอ?”
หลัวเหวินเซวียนตอบว่า “…นายลืมเรื่องสำคัญอะไรหรือเปล่า?”
ลู่โจว “…?”
เมื่อเห็นว่าลู่โจวไม่ได้ตอบอะไร หลัวเหวินเซวียนรู้ว่าเขาคิดถูก หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจและพูดว่า “งานประชุมวิชาการศตวรรษแห่งฟิสิกส์… นายไม่ได้พูดใช่ไหมว่าจะเลื่อนมันไปหลังเทศกาลโคมไฟ? ตอนนี้เทศกาลโคมไฟจบลงแล้ว…”
ลู่โจวตีหัวตัวเองและพูดว่า “อ่อ ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก…”
ลู่โจวยิ้มอย่างประหม่าและลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับไอแห้งๆ เขาตอบว่า “ไม่ต้องกังวล เราจะไปเซี่ยงไฮ้พรุ่งนี้”
“ฉันเดาว่านายยังไม่ได้ส่งจดหมายเชิญไปสถาบันวิจัยรายใหญ่”
“ไม่เป็นไร ฉันเขียนมันตอนนี้ได้”
“เดี๋ยวฉันเขียนเอง” หลัวเหวินเซวียนพูดขึ้นพร้อมความรู้สึกปวดหัว เขาพูดว่า “นายเซ็นมันได้นะ”
“โอเคได้”
ทำไมคุณถึงไม่บอกผมตั้งแต่แรกล่ะ?
หลังจากนั้นลู่โจววางสายและหันไปมองเฉินยู่ซานที่นั่งตรงข้ามเขา
“ฉันมีเรื่องงานต้องสะสาง”
“นายต้องไปใช่ไหม?”
ไม่ ฉันแค่ต้องไปห้องทำงาน”
เฉินยู่ซานยิ้มและพูดว่า “โอเค แล้วอยากดื่มอะไรไหม?”
ลู่โจวตอบ “กาแฟก็ได้… จริงๆ แล้วฉันทำเองก็ได้”
“ฉันจะชงให้ นายยุ่งเรื่องงาน… ฉันจะได้มีโอกาสดูแลนายด้วย”
ลู่โจวรู้สึกว่าหน้าแดงขึ้นในขณะที่เขารีบเดินขึ้นชั้นสองไป
เฉินยู่ซานมองดูลู่โจวลับหายไปที่มุมบันได เธอลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมหัวเราะและเดินเข้าครัว
แต่เมื่อเธอกำลังก้าวเท้าเข้าครัว เธอได้ยินเสียงหึ่ง จากนั้นเธอเห็นโดรนตัวเล็ก ‘ถือ’ แก้วกาแฟ โดรนบินเหนือหัวเธอและบินขึ้นชั้นบนไป
เธอสังเกตเห็นข้อความบนหน้าจอโดรน…
นั่นคืออิโมจิเหรอ?
[(⃔*`꒳́*)]
เฉินยู่ซานรู้สึกตะลึงระหว่างที่เธอมองดูโดรนลับหายไปที่มุมบันได เธอเงียบไปอยู่นานก่อนจะพึมพำว่า “มันฉลาดมาก… สุดยอดไปเลย!”