Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1326 การเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่!
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1326 การเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่!
ช่วงเช้าตรู่
ณ ทางออกสถานีรถไฟใต้ดินในเซี่ยงไฮ้
มีชายในชุดสูทหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกำลังจะเรียกรถไปที่ออฟฟิศ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เปิดแอปขึ้นมา เขาก็ต้องแปลกใจเพราะไม่มีรถอยู่ใกล้ๆ เขาเลยซักคัน
“แปลกจัง ทำไมไม่มีรถเลยล่ะ”
วันนี้คนนั่งแท็กซี่เยอะอย่างนั้นเหรอ?
ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่รู้เหรอ? ว่าการประชุมจะจัดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว ถนนสายหลักในวงแหวนที่สองก็จะถูกปิดไป”
“ปิดถนน? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้ล่ะ?”
“มันก็มีข้อความแจ้งเตือนบอกนะ คุณเมินมันเหรอ? ไม่ได้สังเกตว่าไม่มีรถอยู่บนทางหลวงเลยเหรอ?”
ชายในชุดสูทเงยหน้าขึ้นและตกใจ
“โอ้ จริงด้วย ไม่มีแม้แต่คันเดียวจริงๆ ด้วย!”
“แน่นอน แค่รอรถเมล์ก็พอ”
คนที่ดูแก่กว่าเล็กน้อยยืนอยู่ข้างพวกเขาและได้ยินการสนทนานั่น จากนั้นเขาแทรกตัวเองเข้าไปในการสนทนาด้วยความสงสัย
“ประชุมอะไรเหรอ? ทำไมฉันไม่ได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย”
“การประชุมฟิสิกส์ศตวรรษ… ทุกคนในเว่ยป๋อกำลังพูดถึงเรื่องนี้ คุณไม่ได้เข้าอินเทอร์เน็ตเลยหรือไง?”
“การประชุมฟิสิกส์ศตวรรษอย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่ได้ศึกษาฟิสิกส์น่ะฉันเลยไม่รู้… นอกจากนี้ยังดูน่าเบื่อเหมือนกับพิธีมอบรางวัลโนเบลยังไงยังงั้น”
“มันมีชีวิตชีวายิ่งกว่าการมอบรางวัลโนเบลสิบรางวัลเสียอีก! คุณรู้ไหมว่าการประชุมครั้งนี้หมายถึงอะไร? หมายถึงนักฟิสิกส์มากกว่าหนึ่งแสนคนจากทั่วทุกมุมโลกมาที่เซี่ยงไฮ้เพื่องานนี้ยังไงล่ะ! นอกจากการหารือเกี่ยวกับหัวข้อฟิสิกส์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกแล้ว ยังมีการประกาศสมการฟิสิกส์หนึ่งร้อยข้ออีกด้วย! แน่นอนว่าใครก็ตามที่สามารถพิสูจน์สมการหนึ่งในร้อยได้จะได้รับโบนัสอย่างต่ำๆ ก็หนึ่งล้านหยวน”
ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างเขาต่างตกตะลึงตามกัน
“ถามจริง! นี่มันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?!”
“จริงเหรอ?” ชายใส่แว่นหัวเราะคิกคักและพูดว่า “ก็อาจจะ! แต่ฉันคิดว่าสำหรับคนที่พิสูจน์สมการพวกนี้ได้ แค่หนึ่งล้านก็ถือว่าไม่มากหรอก”
ไม่ต้องพูดถึงว่าเงินเดือนประจำปีของเหล่านักวิจัยอาวุโสของสถาบันฟิสิกส์ที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงน่าจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
นี้มันราวกับรางวัลโนเบลชัดๆ
แต่เมื่อเทียบกับตัวเหรียญ ทุกสิ่งก็แค่โบนัส
โดยเฉพาะสำหรับนักวิชาการ
ถ้าพวกเขามีศักดิ์ศรีและมีชื่อเสียง พวกเขาจะกังวลเรื่องเงินไปทำไม?
เมื่อเวลาผ่านไปความรู้จะเป็นสิ่งเดียวในโลกที่จะไม่ขยายตัว
“แต่มันเป็นแค่การประชุมวิชาการ… มันจะจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ชายใส่แว่นพูดขึ้น
“คุณไม่รู้อะไรเลยสินะ! นี่เป็นช่วงเวลาสำหรับชุมชนฟิสิกส์ของจีนที่จะได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกเชียวนะ แน่นอนว่าแม้แต่ประธานาธิบดีก็จะมาจากปักกิ่งด้วย แค่การปิดถนนนี่มันมากไปเหรอ?”
ประธานาธิบดีมา!
ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ ต่างตกพากันตกตะลึง
คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจอย่างว่าการประชุมวิชาการครั้งนี้มีความหมายต่อโลกและจีนอย่างไร แต่ถึงขนาดที่ประธานาธิบดีมาถึงเซี่ยงไฮ้ นี่ต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก…
…
ลู่โจวอยู่ที่เซี่ยงไฮ้มาได้เกือบครึ่งเดือนแล้ว
ในช่วงเวลานี้เขากำลังยุ่งอยู่กับการประชุมสุดยอดฟิสิกส์ระดับโลกที่เรียกว่า ‘ฟิสิกส์ศตวรรษ’
ในที่สุดก็เป็นวันเริ่มประชุม
ลู่โจวมองดูฝูงชนนอกศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติ เขารู้สึกโล่งอก
ลู่โจวมองดูผู้คนที่มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็มองไปหาคนที่รับผิดชอบองค์กรการประชุมและพูดขึ้น
“เปิดงานได้”
ผู้รับผิดชอบองค์กรการประชุมพูดขึ้น
“แต่… ยังอีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มนะครับ”
ลู่โจวมองออกไปนอกหน้าต่างและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใครจะรู้ว่าในครึ่งชั่วโมงจะมีคนมาที่นี่อีกกี่คน หากเราเริ่มการตรวจสอบความปลอดภัยในตอนนี้เราก็จะผ่อนคลายได้ทีหลัง จำไว้ว่านี่คือวิชาการ ดังนั้นยกเลิกพิธีการไปได้เลย ไปร่วมยินดีต้อนรับนักวิชาการทุกท่านที่มาจากทุกที่เถอะ”
“ครับท่านประธาน”
บุคคลนั้นพยักหน้าหันหลังแล้วเดินออกไป
ประตูศูนย์การประชุมและนิทรรศการถูกเปิดออก คิวก่อตัวเป็นเขาวงกตด้านหน้าศูนย์การประชุม
แม้ว่าการประชุมระดับนานาชาติครั้งสำคัญแบบนี้จะเคยจัดขึ้นที่นี่มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติเซี่ยงไฮ้ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมสุดยอดฟิสิกส์แบบนี้
เซี่ยงไฮ้ไม่เคยมีนักฟิสิกส์มากมายขนาดนี้ในเมืองนี้มาก่อน
ไม่เท่าแม้แต่ตอนที่ลู่โจวจัดการบรรยายของเขาที่นี่ด้วยซ้ำ
โชคดีที่พนักงานที่นี่มีความสามารถอยู่ ทำให้สามารถควบคุมผู้คนจำนวนมากได้ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ
ณ เวลาแปดโมงเช้า
ตอนนี้ถึงเวลาเปิดสถานที่อย่างเป็นทางการแล้ว
การหลั่งไหลของผู้คนที่ทางเข้าศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติมาถึงจุดสูงสุดแล้ว
ตั้งแต่นักฟิสิกส์ชั้นนำของโลกตลอดไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยฟิสิกส์ชั้นนำของโลกต่างก็มารวมตัวกันที่นี่
ถ้ามีคนบอกว่าให้หยิบก้อนหินขึ้นมาแล้วขว้างออกไป มันอาจจะโดนหัวผู้ได้รับรางวัลโนเบลคนใดคนหนึ่งก็ได้ นี่อาจจะไม่เกินจริงเลยด้วยซ้ำ
ณ ชั้นแรกของสนามหลัก
ลู่โจวมองนักฟิสิกส์ที่มีลักษณะต่างกันขณะที่เขาพูดอย่างอารมณ์
“ฉันไม่คิดว่าจะมีคนค้นคว้าเกี่ยวกับฟิสิกส์มากขนาดนี้”
หลัวเหวินเซวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“อันที่จริงมันไม่ได้มากขนาดนั้นหรอก ถ้าเราแจกจ่ายที่ดินให้ทุกคนเท่าๆ กัน นักฟิสิกส์แต่ละคนก็จะมีที่ดินได้มากกว่าหนึ่งพันตารางกิโลเมตรล่ะมั้ง”
“นั่นรวมถึงแอนตาร์กติกาด้วยหรือเปล่า?”
“ฮ่าๆ ยังมีสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในแอนตาร์กติกาด้วยสินะ”
“ถ้าอย่างนั้นนายก็นับรวมแผ่นดินบนดวงจันทร์และดาวอังคารได้เหมือนกัน”
“จริงสิ… เดี๋ยวก่อน ดาวอังคาร?” หลัวเหวินเซวียนมองไปที่ลู่โจวด้วยความประหลาดใจ เขาพูด“สถานการณ์ของดาวอังคารเป็นอย่างไรบ้าง? มันจะเป็น-”
“ชู่ว”
ลู่โจววางนิ้วชี้ไว้ตรงริมฝีปากของเขา
หลัวเหวินเซวียนเข้าใจทันทีและเขาก็พยักหน้า
“โอเค เข้าใจแล้ว”
“ดี ไม่ต้องพูดอะไร” ลู่โจวเห็นว่าหลัวเหวินเซวียนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เขาถามว่า “มีอะไรผิดปกติเหรอ?”
หลัวเหวินเซวียนยิ้มอย่างเจื่อนๆ เขาเอื้อมมือออกไปและเกาหลังศีรษะของเขา
“เปล่า ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะบอกว่านายเยี่ยมมาก…”
ลู่โจว “…”
แม้ว่าประตูศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติจะเปิดขึ้น แต่ไฮไลท์การเปิดงานของการประชุม ‘ฟิสิกส์ศตวรรษ’ จะไม่เริ่มจนกว่าจะถึงเวลาต่อไป
หลัวเหวินเซวียนและลู่โจวเดินดูที่นิทรรศการโปสเตอร์
ที่นี่คนเยอะและแออัดมากๆ
ทั้งล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่งเต็มไปด้วยโปสเตอร์มากมาย บูธโปสเตอร์แต่ละแห่งมีพื้นที่น้อยกว่าห้าตารางเมตร
ถึงแม้ว่าพื้นที่ที่จะมีจำกัด แต่ก็ไม่มีใครไม่พอใจ
ในฐานะการประชุมสุดยอดฟิสิกส์ชั้นนำของโลก สำหรับผู้มาใหม่ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้แสดงงานของพวกเขาให้โลกได้เห็นและได้พูดคุยกันแบบต่อหน้า
ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาปริญญาโทหรือศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงในสาขาฟิสิกส์อยู่แล้ว สถานะพวกนั้นไม่ได้สำคัญที่นี่
พวกเขาล้วนเป็นนักวิชาการเช่นกัน
เนื่องจากผู้คนหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากทำให้นอกจากปัญหาความแออัดแล้ว ยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอีกด้วย
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยเท่าไหร่
เพราะนักวิชาการบางคนที่เข้ามาในสถานที่นี้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกฟิสิกส์ แม้แต่กระดาษหรือคลิปหนีบกระดาษก็ไม่ผ่านด่านรักษาความปลอดภัยทั้งสองจุด
อีกทั้งหวังเผิงและเพื่อนร่วมงานของเขากระจัดกระจายไปทั่วงาน ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ลู่โจวสามารถเพลิดเพลินกับงานวิชาการนี้อย่างสบายใจ
โปสเตอร์ที่แสดงในล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่งนั้นน่าสนใจมาก
แม้ว่ามุมมองทางวิชาการของโปสเตอร์จำนวนมากจะยังดูซื่อๆ อยู่บ้าง แต่ก็มีข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจซึ่งหาได้ยากในการประชุมวิชาการเช่นนี้
สำหรับลู่โจวแล้วความคิดที่น่าสนใจเหล่านี้ในบางครั้งอาจมีประโยชน์มากกว่าแนวคิดทางวิชาการทั่วไปเสียด้วยซ้ำ ถ้าเขาเห็นโปสเตอร์ที่น่าสนใจลู่โจวก็จะหยุดและแลกเปลี่ยนกับคนหนุ่มสาวข้างๆ บูธ เพราะบางทีนักฟิสิกส์ชั้นแนวหน้าคนต่อไปอาจยืนอยู่ตรงนั้นก็เป็นได้
ยังไงซะทุกคนต้องเริ่มจากที่ไหนสักแห่งอยู่แล้ว
หลังจากเดินไปรอบๆ ในล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่งแล้ว หลัวเหวินเซวียนก็เหลือบมองที่นาฬิกาของเขาและพูดขึ้น
“การประชุมใกล้จะเริ่มแล้ว”
“ไม่ต้องเป็นห่วง มันยังเหลืออีกสิบห้านาที”
หลัวเหวินเซวียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ
“จะไม่เตรียมตัวล่วงหน้าหน่อยเหรอ?”
“ไม่มีอะไรต้องเตรียม ก็มันไม่ใช่การบรรยายวิชาการนี่” ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันทำได้น่า”