Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1385 สมองคุณทำด้วยอะไร?
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1385 สมองคุณทำด้วยอะไร?
“ชายคนนี้นี่มันปีศาจชัดๆ …”
ณ ห้องสมุดมหาวิทยาลัยจินหลิง
ประตูถูกผลักเปิดออกขณะที่ชินอิจิ โมจิซูกิเดินออกมาจากห้องพร้อมกองกระดาษในมือ ดวงตาของเขาแดงก่ำขณะที่พึมพำกับตัวเองราวกับเป็นคนบ้า
“ไม่…เขาเองนั่นแหละที่เป็นนรก”
นี่ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วตั้งแต่ชูลทซ์บอกว่าเขาอยากจะลองดู
เพเรลมานไม่ได้มีส่วนร่วม แต่เขาและชูลทซ์เดินเข้าห้องไปพร้อมกับลู่โจวด้วยความมั่นใจ ประตูปิดอยู่หลายวัน
ก่อนการเก็บตัวจะเริ่มขึ้น ทั้งสามคนได้ทำข้อตกลงกันว่าพวกเขาจะพยายามทำให้ถึงที่สุดถ้าทำได้ แต่ตราบใดที่พวกเขายังไม่ยอมแพ้ พวกเขาต้องทำตามคำสั่งของลู่โจว
ในตอนแรกชินอิจิ โมจิซูกิไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้ขนาดนั้น เขาไม่เคยคิดถึงสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถทนกับงานหนักด้วยซ้ำ เพราะสุดท้ายในความคิดของเขาอะไรก็ตามที่สามารถเอาชนะด้วยความพยายามได้ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่อะไร
แต่หลังจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองใสซื่อเกินไป…
พวกเขาสั่งอาหารมาทานสามมื้อต่อวัน นี่ไม่ใช่ปัญหายิ่งใหญ่อะไรสำหรับเขาที่อยู่ในห้องสมุดทั้งวันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่าแม้แต่การนอนก็กลายเป็นเรื่องสุดหรูสำหรับเขา
ลู่โจวเคยบอกว่าถ้าเขาง่วง การที่ได้เอนตัวบนโต๊ะก็เพียงพอแล้ว เมื่อความเหนื่อยล้ามาถึงขีดจำกัด เขาก็เข้าสู่ดินแดนที่คาดไม่ถึงมาก่อน
นี่มันไม่ใช่ความพยายามอีกต่อไป มันคือการทำลายตัวเองชัดๆ !
ตอนแรกเขาคิดว่าการพักผ่อนมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่แรงบันดาลใจที่ระเบิดออกมากลับทำให้เขารู้สึกเป็นอบอุ่นใจมากกว่าที่เคยเป็น แต่หลังจากที่ใช้ชีวิตแบบนี้ได้ประมาณห้าวัน เขาก็เริ่มเสียสติ
ตอนแรกใจเขาเริ่มขาดสมาธิ หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มส่งสัญญาณเตือน
ในที่สุดวันที่เจ็ดนั่นก็คือวันนี้ เขารู้สึกว่าถ้าเขาไม่ออกไปข้างนอกบ้าง เขาคงต้องตายอยู่ในห้องสมุดแน่ๆ
ชูลทซ์ที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะเห็นชินอิจิ โมจิซูกิเดินออกมาจากห้อง เขาแสดงสีหน้าที่พอใจ
“ออกมาได้แล้วเหรอ ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณคงทนไม่ไหว คนธรรมดาจะไม่หลับไม่นอนเลยนาน 24 ชั่วโมงได้อย่างไรกัน ผมไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นมาก่อน”
ไม่เหมือนโมจิซูกิ เขาทนได้อยู่สามวันหลังจากนั้นก็ยอมแพ้ไปเลย แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายอะไร เพราะสุดท้าย แม้แต่วิธีการทางวิชาการที่ดีที่สุดก็ไม่ได้เหมาะสมสำหรับทุกคน เขาไม่ได้รู้สึกถึงแรงบันดาลใจที่ระเบิดออกมาเหมือนที่ลู่โจวอธิบาย แต่เขาก็ยังอยากดำดิ่งลงไปในปัญหาคณิตศาสตร์ที่น่าสนใจเหล่านี้ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายกว่านี้
เพเรลมานนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ห่างออกไปไม่มากนัก เขาหมุนปากกาในมือและมองทั้งคู่ สีหน้าของเขามีความประหลาดใจซ่อนอยู่
“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
ชูลทซ์และโมจิซูกิมองหน้ากัน รอยยิ้มเหน็บแนมปรากฏบนใบหน้าของพวกเขาในเวลาเดียวกัน
“ใช่ไง…”
“ไม่มีใครสามารถไล่ตามจังหวะการทำวิจัยของเขาทันหรอก…นอกจากตัวเขาเอง”
ในขณะนั้น จู่ๆ ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง
ปีศาจที่พวกเขากำลังพูดถึง จู่ๆ ก็เดินมาพร้อมกองกระดาษเอสี่
“ไม่หลับไม่นอน 24 ชั่วโมงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผมก็คนปกตินะ ผมยังต้องหลับต้องนอน โอเคนะ”
หลังจากนั้นเขาโยนกองเอกสารในมือลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ที่สุดลู่โจวก็อดที่จะหาวไม่ได้
“ผมทำส่วนของผมเสร็จแล้ว แล้วพวกคุณล่ะ”
ดวงตาของชูลทซ์เป็นประกายขณะที่มองกองกระดาษบนโต๊ะ
แต่เขาไม่มีเวลาในการวิจัยการค้นพบใหม่ๆ เหล่านี้แล้ว เขายังทำส่วนของตัวเองไม่เสร็จด้วยซ้ำ เขาไม่อยากเป็นคนที่ทำให้ทีมทั้งทีมล่าช้า
ชูลทซ์ “ผมใกล้เสร็จแล้ว”
ชินอิจิ โมจิซูกิพูดทันที “ผมเองก็เหมือนกัน”
เพเรลมานคิดอยู่สักพักและพูด “ผมใกล้จะเสร็จแล้ว น่าจะเสร็จประมาณช่วงบ่าย”
ลู่โจวพยักหน้าและพูด “ถ้าอย่างนั้นเรามาเจอกันบ่ายนี้ เรามาสรุปผลของงานวิจัยของพวกเรากัน ถ้าทุกอย่างราบรื่นดี นี่ก็น่าจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะทำโปรเจกต์งานวิจัยนี้เสร็จ”
“เดี๋ยวนะ” ชูลทซ์ยกมือและพูดด้วยความอาย “แล้วพรุ่งนี้บ่ายล่ะ ผมมีบางอย่าง…ผมจะต้องกลับไปคิดก่อน”
ชินอิจิ โมจิซูกิพยักหน้า
แม้ว่าตัวเขาจะไม่อยากยอมรับ แต่เขาเองก็เหมือนกัน…เขาไม่น่าจะทำเสร็จทันพรุ่งนี้
ลู่โจวเลิกคิ้วและมองเขาด้วยความสนใจ
“คุณเจอคอขวดหรือยัง”
ชูลทซ์กระแอมเบาๆ
“ทำนองนั้น”
“นั่นเป็นเรื่องปกติ” ลู่โจวพูดต่อ “ส่วนที่คุณต้องรับผิดชอบมันยากพอตัวเลยนะ ผมทำส่วนของผมเสร็จแล้ว ถ้าคุณคิดอะไรไม่ออกคุณเล่าปัญหาให้ผมฟังได้นะ ผมจะได้ช่วยคุณคิด”
ชูลทซ์หยิบปากกาและเดินไปที่ไวท์บอร์ด เขาขีดเขียนการคำนวณ
[D
ชูลทซ์ยื่นปากกาให้ลู่โจวและพูด
“นี่คือผลลัพธ์ที่ผมขัดเกลามาจากทฤษฎีบทของเบเกอร์ ผมใช้ไอเดียที่คุณให้มาและพยายามปรับใช้กับข้อคาดการณ์ ABC แต่…ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ง่ายขนาดนั้น”
“น่าสนใจดี ผมจะลองดู”
สีหน้าแห่งความสนใจปรากฏบนหน้าของลู่โจว เขารับปากกาจากมือชูลทซ์และจ้องไปที่การคำนวณที่อยู่บนไวท์บอร์ดเงียบๆ ขณะที่หมุนปากกา
จู่ๆ เขาก็ดูเหมือนจะคิดอะไรออก เขาเอื้อมมือออกไปขีดฆ่าการคำนวณที่อยู่บนไวท์บอร์ดด้วยท่าทีตกตะลึงที่ปรากฏบนใบหน้า และเขียนผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
[D
ลู่โจวก้าวถอยหลังออกมาครึ่งก้าวจากไวท์บอร์ด
“ผมพยายามตรวจสอบการคำนวณ มันน่าจะพิสูจน์ได้ มันแม่นยำกว่าผลลัพธ์เดิม คุณลองหาค่าอนุพัทธ์ก็ได้นะ ขั้นตอนการพิสูจน์ไม่น่าจะต้องการความช่วยเหลือจากผม”
ชูลทซ์จ้องไปที่สูตรคำนวณบนไวท์บอร์ด เขาสับสน
หลังจากนั้นประมาณ 10 วินาที ในที่สุดเขาก็ตั้งสติได้และมองลู่โจวราวกับกำลังเห็นผี
“อะไรวะเนี่ย?! คุณทำได้อย่างไรกัน?! เดี๋ยวนะ…นี่คุณรู้คำตอบแล้วเหรอ”
เพราะเขาประหลาดใจสุดๆ ก็เลยอดที่จะสบถออกไปไม่ได้
“ฮ่าฮ่า แน่นอนว่าไม่” ลู่โจวคืนปากกาในมือให้ชูลทซ์ เขายิ้มอย่างสุภาพและพูด “จู่ๆ ผมก็แค่คิดออกขึ้นมา มันเป็นแค่สัญชาตญาณเฉยๆ ผมมั่นใจว่าบางครั้งพวกคุณก็เป็นเหมือนกัน”
ชูลทซ์ “ไม่นะ ผมไม่เคยเป็น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเพิ่งจะได้ยินสัญชาตญาณที่แม่นยำขนาดนี้”
ชินอิจิ โมจิซูกิที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาพยักหน้าและอดไม่ได้ที่จะถามต่อ
“สมองคุณทำมาจากอะไรกันแน่”
ลู่โจวตอบอย่างกวนๆ
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ต้องทำมาจากวัสดุแบบเดียวกับของพวกคุณอยู่แล้ว”
ชูลทซ์กระแอมและมองไปที่ชูลทซ์
“ไหนๆ ปัญหาก็ได้รับการแก้แล้ว คุณมั่นใจเหรอว่าที่เหลือจะเสร็จทันค่ำพรุ่งนี้”
ชูลทซ์ยิ้มอย่างมั่นใจและพยักหน้า
“ไม่มีปัญหา มันน่าจะเสร็จภายในคืนนี้! ”
“จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย” ลู่โจวยิ้ม พยักหน้าและพูด “ผมจะรอฟังข่าวดีจากคุณ”
“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำคุณผิดหวังหรอก”