Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1388 คำถามที่น่ากลัว

ลู่โจวประหลาดใจ

คณิตศาสตร์คือวิทยาการทางวิชาการที่บริสุทธิ์ที่สุด เดิมทีเขาคิดว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาจะรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบไม่มากก็น้อย แต่หลังจากที่เขาสารภาพเรื่องทั้งหมด เขาก็ได้รับการให้อภัยอย่างง่ายดาย

“จริงๆ แล้ว…คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษเลยด้วยซ้ำ” ชูลทซ์พูด “คุณรับผิดชอบกับการแก้ข้อคาดการณ์นี้อย่างน้อย 50% ….หรือ 60% ด้วยซ้ำ ผมคิดว่าไม่ใช่แค่ผมนะ แต่เพเรลมานและศาสตราจารย์โมจิซูกิเองก็เห็นด้วยเหมือนกัน”

แม้ว่าชูลทซ์ยังคงสับสนอยู่ แต่เขาก็มีสติจากการตกใจในตอนแรก

หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ชูลทซ์พูด ชินอิจิ โมจิซูกิพยักหน้าเห็นด้วย

“จุดจุดนี้ผมเห็นด้วยกับศาสตราจารย์ชูลทซ์ การปรับแต่งทฤษฎีบทของเบเกอร์เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างภาษาคณิตศาสตร์ใหม่เป็นความคิดที่ฉลาดมาก”

เพเรลมานยืนข้างๆ พวกเขา เขาพูดอย่างรวบรัดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“ผมไม่สนใจหรอก แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าบอกพวกเขาล่วงหน้า”

ลู่โจวตอบ “ผมเองก็อยากทำแบบนั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับสุดยอดจนถึงตอนนี้ แม้กระทั่งตอนนี้ก็มีการเปิดเผยข้อมูลเพียงบางส่วนเท่านั้น อีกอย่างผมมัวแต่จดจ่ออยู่กับการวิจัยข้อคาดการณ์ ABC ผมก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้”

“แต่ผมยังสับสนอยู่เล็กน้อย” ชูลทซ์มีน้ำเสียงที่เหลือเชื่อขณะที่พูด “อารยธรรมจากนอกโลก…พระเจ้า ผมเคยเห็นแต่ในหนังฮอลลีวูด มันมีอยู่จริงๆ เหรอ คุณแน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่วันเมษาหน้าโง่”

ลู่โจวพูดด้วยท่าทีที่ประหม่า

“วันเมษาหน้าโง่นั่นมันเดือนที่แล้ว…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบนดาวอังคารก็ตาม ผมมั่นใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นวันเมษาหน้าโง่แน่ๆ ”

เพเรลมานยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขาไม่สนใจเรื่องมนุษย์ต่างดาว ดวงตาของชินอิจิ โมจิซูกิเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

ไหล่ของเขาสั่นเทา เขาถอดแว่นของตัวเองออก

“มันเหมือน…”

ลู่โจว “เหมือนอะไร”

ศาสตราจารย์โมจิซูกิพยักหน้าและพูดด้วยความตื่นเต้น “มันสุดยอดไปเลย!”

“…”

ลู่โจวไม่มั่นใจว่ามันสุดยอดอย่างที่ว่า

แต่สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจก็คือคนทั้งโลกช็อกกับข่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปผ่านการแถลงข่าวจีน

อารยธรรมมนุษย์ไม่ใช่อารยธรรมเดียวในจักรวาล!

แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นการคาดเดาของนักดาราศาสตร์และนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์หลายคนมาโดยตลอด และได้รับการยอมรับจากคนธรรมดาจำนวนมากจนกระทั่งเกิดการติดต่อครั้งแรกขึ้น เรื่องนี้เปลี่ยนจากการคาดเดาที่ไม่มีมูลเป็นข้อสรุปตามข้อเท็จจริง

ไม่เพียงแค่นั้น แต่หลังจากที่ประเทศจีนได้ปล่อยการบันทึกการติดต่อครั้งแรกออกไปก็ทำให้เกิดความวุ่นวายบนโลก

ข้อคาดการณ์ ABC!

มนุษย์ต่างดาวมักจะใช้ข้อคาดการณ์ ABC เป็นจุดเริ่มต้นในการสื่อสาร?!

หมายความว่าอย่างไร…

มันหมายความว่าพวกเขาไม่สื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่โง่เขลาที่แม้แต่ข้อคาดการณ์ ABC ก็ไม่สามารถแก้ได้

ไม่ว่าจะเป็นเว่ยป๋อหรือทวิตเตอร์ทวิตเตอร์ การค้นหาที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอารยธรรมดาวอังคาร ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีคนแสดงความเห็นมากมาย

นี่เป็นการติดต่อครั้งแรกระหว่างอารยธรรมมนุษย์และอารยธรรมที่อยู่นอกโลก มันคือการติดต่อเดียวที่ได้รับการตอบสนอง ความคิดในเรื่องของมนุษย์ต่างดาวกลายเป็นการระบายความรู้สึกที่รุนแรง ราวกับน้ำท่วมที่พัดออกมาจากริมฝั่งแม่น้ำ

“อย่าตอบพวกเขา มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้! นี่ผมเป็นคนเดียวที่รู้ว่าป่ามืดมิดมีอยู่จริงเหรอ หากสิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์ แสดงว่าอีกฝ่ายมีแรงจูงใจที่จะทำลายพวกเรา แต่ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ก็แสดงให้เห็นว่าเราอ่อนแอ! ไม่ว่าจะอย่างไรเราก็ตายอยู่ดี”

“น่ากลัว… ไม่แปลกใจเลยที่มีรายงานเมื่อไม่นานนี้ว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนออกรางวัล 100 ล้านหยวนสำหรับข้อคาดการณ์ ABC กลายเป็นว่าเป็นเพราะแบบนี้นี่เอง”

“100 ล้านหยวนต่อปีเลยนะ! แต่คณิตศาสตร์ไม่ต้องการเงินทุนใช่ไหม เว้นแต่คุณจะตั้งสถาบันวิจัยคณิตศาสตร์ แม้แต่หนึ่งล้านก็ยังมากเพียงพอ”

“ทุกคนจากวงการคณิตศาสตร์เข้าใจสถานการณ์ใช่ไหม ข้อคาดการณ์ ABC ได้รับการพิสูจน์แล้วหรือยัง เหมือนวิกิพีเดียจะบอกว่ามันได้รับการแก้แล้วนะ”

“ไม่ ยังแก้ไม่ได้! แม้ว่าหลายคนอ้างว่าพวกเขาได้พิสูจน์ข้อคาดการณ์ ABC แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ได้รับการยอมรับจากชุมชนวิชาการ งานที่ล้ำสมัยที่สุดในสาขานี้ส่วนใหญ่เป็นของศาสตราจารย์เค เกียวรี เกี่ยวกับการอนุมานเกี่ยวกับสมการหน่วย S ในช่องตัวเลข จากกลุ่มวิจัย LSPM… เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ และศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนก็มั่นใจในผลลัพธ์นี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับเรื่องนี้”

“กลุ่มวิจัย LSPM คืออะไร”

“ลู่โจว ชูลทซ์ เพเรลมาน และชินอิจิ โมจิซูกิ…อักษรตัวแรกของชื่อพวกเขาทั้งสี่คน”

“บ้าเอ๊ย จริงเหรอ?!”

นอกจากการพูดคุยตามปกติแล้วยังมีทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เกิดขึ้น

ตัวอย่างเช่น บางคนสงสัยว่าออฟฟิศการเดินทางบนดาวอังคารจงใจปลอมแปลงเบาะแสขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถเดินทางไปพิสูจน์เรื่องนี้บนดาวอังคารได้อยู่แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างข้อต่อรอง คนอื่นคาดเดาว่าที่จริงแล้วอารยธรรมดาวอังคารยังไม่ได้ล่มสลายเลยด้วยซ้ำ แต่มันอยู่ในระดับที่เหนือจินตนาการแล้ว สิ่งที่เรียกว่าซากปรักหักพังและเบาะแสเกี่ยวกับอารยธรรมนอกโลกถูกเปิดเผยเพื่อปกปิดการมีอยู่ของพวกเขาเท่านั้น

ทฤษฎีเหล่านี้สามารถเขียนเป็นนิยายได้

การถกเถียงกันเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นนอกอินเทอร์เน็ตเช่นกัน

ความคิดเห็นของวงการวิชาการในเรื่องของการติดต่อครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความขัดแย้ง

ศาสตราจารย์ยูวาล ฮารารี่ ศาสตราจารย์ประวัติศาสตร์จากภาคประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮีบรูแห่งเยรูซาเลมถูกสัมภาษณ์โดย BBC

ในฐานะนักประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่มีชื่อเสียง ผลงานของเขารวมถึงไตรภาคเรื่อง ‘เซเปียนส์ : ประวัติย่อมนุษยชาติ’ ซึ่งเกือบจะกลายเป็นหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์เพราะรูปแบบการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์และมุมมองต่อประเด็นต่างๆ

ส่วนเหตุผลที่เขาได้รับเชิญแทนที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอารยธรรมนอกโลกหรือฟิสิกส์ดาราศาสตร์ก็เป็นเพราะผู้ผลิตสารคดีของ BBC รู้สึกว่าการค้นพบประเภทนี้ยังเป็นเรื่องใหม่ทั้งหมด บางทีสมองของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์น่าจะเชื่อได้มากกว่าในสายตาของประชาชนทั่วไป

ศาสตราจารย์ยูวาลพูดด้วยน้ำเสียงมีเลศนัยกับกล้องและไมโครโฟน

“โชคยังดีที่เราพบเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ข้างๆ เรา แต่มันก็เป็นเรื่องโชคร้ายในเวลาเดียวกัน แม้ว่าเราจะค้นพบการมีอยู่ของพวกเขา แต่มันก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจกำลังสำรวจเราบนดาวอังคารมานานแล้ว”

นักข่าวถามคำถามที่พวกเขาเตรียมมาทันที

“ในความเห็นของคุณ คุณไม่ได้มองการติดต่อครั้งแรกระหว่างนักบินอวกาศจีนกับอารยธรรมนอกโลกบนดาวอังคารในแง่บวกใช่หรือไม่”

“การติดต่อครั้งแรกเหรอ การติดต่อครั้งแรกคืออะไร มันคือการติดต่อครั้งแรกระหว่างมนุษย์และแบคทีเรียเมื่อสองล้านปีก่อนหรือหลังจากที่กล้องจุลทรรศน์ถูกประดิษฐ์ขึ้น” ศาสตราจารย์ยูวาลยิ้มและพูดต่อ “จริงๆ แล้วมันเหมือนกับว่าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับภาษาของพวกเขาเลย แต่พวกเขาก็สามารถสื่อสารกับเราได้ด้วยทุกภาษาบนโลก ความแตกต่างระหว่างเรากับพวกเขาอาจมากกว่าความแตกต่างระหว่างเรากับแบคทีเรีย”

“และสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือคุณคิดว่าแบคทีเรียคืออารยธรรมหรือเปล่า”

“นี่คือคำถามที่เราทุกคนต้องเจอ”