Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1398 ดาวเคราะห์ของวันพรุ่งนี้
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1398 ดาวเคราะห์ของวันพรุ่งนี้
กลุ่มคนจากสตาร์ไลท์เคลื่อนย้ายไปที่ปราสาทจันทราและอยู่ที่นั่นนาน 24 ชั่วโมง
หลังจากที่เชื้อเพลิงเต็มแล้วพวกเขาจะใช้สะพานนกกางเขนในการเดินทางไปดาวอังคาร ซึ่งสะพานนกกางเขนมีความสามารถในการเร่งความเร็วและเหมาะสำหรับผู้โดยสารและสิ่งของจำนวนมาก พวกเขาจะลงจอดยังพื้นผิวของดาวอังคารด้วยซูฟูที่ลอยอยู่ในวงโคจรของการบินดาวอังคารในฐานะสถานีอวกาศชั่วคราว
เวลาผ่านไปแล้ว 15 วันตั้งแต่เดินทางออกจากปราสาทจันทรา
ตั้งแต่ที่ดาวอังคารและโลกเคลื่อนตัวออกจากกัน พวกเขาก็ใช้เวลานานกว่ากลุ่มที่เดินทางกลุ่มแรกประมาณสองถึงสามวัน
แต่แม้จะเป็นแบบนั้น พิกัดของพวกเขาตอนนี้ก็ค่อนข้างใกล้กับดาวอังคาร
ถ้าองศาถูกต้อง คนสามารถมองเห็นจุดสีแดงสดซ่อนอยู่ในทะเลดาวผ่านหน้าต่างบ้านของพวกเขา…
“สองคู่ ผมชนะ”
หลังจากที่โยนไพ่สองใบลงบนโต๊ะ ลู่โจวเอนตัวลงบนเก้าอี้อย่างมีความสุข คนที่นั่งตรงข้ามเขาคือโจแอล ออเบรย์ ศาสตราจารย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาลัยสแตนฟอร์ด รวมถึงคูโบ โลโมนอฟ วิศวกรการบินและอวกาศจากมหาวิทยาลัยมอสโก
ทั้งคู่จ้องมองไพ่ของพวกเขาด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย
หวังเผิงที่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดของลู่โจว รวมไปถึงศาสตราจารย์ชูลทซ์และเวอร์นัลที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกเขาสามคน ยืนดูเกมด้วยความสนใจ
ศาสตราจารย์ออเบรย์และศาสตราจารย์โลโมนอฟมองหน้ากันและถอดใจ
“โทษทีนะทุกคน…”
ลู่โจวยิ้มแล้วเอื้อมมือไปหยิบชิป
“ดูเหมือนว่าผมจะชนะ”
การเดินทางยาวนานครึ่งเดือนค่อนข้างน่าเบื่อ
ไพ่โป๊กเกอร์ หมากรุก และเกมกระดานเป็นเพียงสิ่งที่ช่วยในการฆ่าเวลาเท่านั้น ในตอนแรกพวกเขาทั้งเก้าคน (รวมไปถึงนักบินหลักสองคนและผู้ช่วยนักบินหนึ่งคน) ใช้เวลาไปกับการเล่นหมากรุก ลู่โจวรู้สึกเบื่อก็เลยใช้หลักพีชคณิตเชิงเรขาคณิตในการจำลองกระดานหมากรุก เขาค้นพบวิธีการที่ทำให้เขาชนะเกือบทุกครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจที่จะเล่นหมากรุกอีกเลย
ในทางกลับกันไพ่โป๊กเกอร์ที่ต้องใช้ดวงเข้ามาช่วยทำให้พวกเขามีโอกาสชนะลู่โจวได้บ้าง
แต่พวกเขาจะชนะก็ต่อเมื่อพวกเขาตั้งหมดเล่นเกมโดยใช้ทฤษฎีที่เหมาะสมที่สุด
ในความเป็นจริงแล้ว นอกจากชูลทซ์ที่ชนะลู่โจวเป็นครั้งคราวแล้ว นักโบราณคดีอย่างเวอร์นัลที่ยืนดูอยู่ข้างหลังลู่โจว ก็แพ้เขาตาแล้วตาเล่า
“บ้าเอ๊ย…ผมไม่น่าเล่นกับคุณเลย”
โจแอล ออเบรย์โยนไพ่ในมือบนโต๊ะพลางสบถออกมา เขาฉีกกระดาษและค่อยๆ แปะบนหน้าผากของตัวเองอย่างระมัดระวัง
จริงๆ แล้วนี่คือบทลงโทษหลังจากที่แพ้ไพ่โป๊กเกอร์ และสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดไม่ใช่เพราะกระดาษบังสายตาของพวกเขา แต่เพราะสภาพแวดล้อมที่มีไร้แรงโน้มถ่วง ถ้ากระดาษเกิดหลุดมือ คนคนนั้นก็จะต้องไล่จับกระดาษชิ้นนั้น
โจแอล ออเบรย์เคยทำแบบนั้นมาแล้ว เขาจึงไม่อยากทำอีก
หลังจากที่เวอร์นัลตบบ่าออเบรย์ เขาให้กำลังใจ “ยอมแพ้เถอะเพื่อน คุณจะเล่นเกมน่าจะเป็นกับนักคณิตศาสตร์เพื่ออะไรกัน”
ออเบรย์พูดอย่างไม่เต็มใจ “ผมรู้…ผมก็แค่อยากชนะ”
ศาสตราจารย์เวอร์นัลพูดด้วยรอยยิ้ม
“ผมเห็นคนแบบคนอยู่บ่อยครั้งที่ลาสเวกัส อยู่ให้ห่างจากคาสิโนไว้นะ”
“ผมเข้าไปปีละครั้ง…และบางครั้งผมก็ได้เงินกลับมา”
ลู่โจวส่ายหัวและวางไพ่โป๊กเกอร์ลงบนโต๊ะ
“บนหน้าคุณไม่มีพื้นที่เหลือให้แปะกระดาษแล้ว ยกเว้นแต่ว่าคุณอยากจะยัดใส่รูจมูก พอแค่นี้เถอะ”
โลโมโนฟที่เงียบขรึม ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เขาดึงเก้าอี้และยืนขึ้น แต่ออเบรย์พูดอย่างไม่พอใจ
“นี่ ผมต้องแปะไอ้นี่ไว้บนหน้าอีกนานแค่ไหน”
“สิบชั่วโมง”
จู่ๆ ออเบรย์ก็ขมวดคิ้ว
“คุณเมตตากว่านี้ไม่ได้เหรอ”
ลู่โจวยิ้มเบาๆ และพูด “แน่นอน ผมเมตตาก็ได้ แต่คุณต้องทิ้งโอกาสที่จะไปชั้นใต้ดินและต้องอยู่ในสถานีเท่านั้นในวันสำรวจ”
“ขอโทษนะพวก แต่ผมไม่มีทางทำแบบนั้นแน่” ออเบรย์ดันเก้าอี้และยืนขึ้น เขาพูด “ผมไม่กลัวกระดาษพวกนี้หรอก!”
ลู่โจวมองไปที่ศาสตราจารย์ออเบรย์แล้วยักไหล่
“ผมก็แค่ล้อเล่น
“แต่จำไว้นะว่าคุณแพ้ราบคาบ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องโดนลงโทษ”
จริงๆ แล้วลู่โจวไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิด
และแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาคงไม่ยอมทำตาม
ฉันเดาว่าฉันคงต้องหาวิธีกำจัดพวกที่ลงใต้ดิน
ลู่โจวจับคอมพิวเตอร์ตรงข้อมือขวาและเริ่มคิด
…
วันที่ 18 ของการออกเดินทางจากปราสาทจันทรา
ในที่สุดดาวเคราะห์สีแดงเพลิงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน
“เรามาถึงแล้ว”
“วู้วววว!”
เสียงเชียร์ตื่นเต้นดังก้องไปทั่วห้องเครื่อง พวกเขายืนมองดาวเคราะห์สีแดงดวงใหญ่จากทางหน้าต่าง แม้ว่าจะมีการสำรวจดาวเคราะห์ผ่านดาวเทียมและกล้องโทรทรรศน์นับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อพวกเขามาถึงวงโคจรของการบินและเข้าสู่แรงโน้มถ่วงของดาวอังคาร คลื่นความตื่นเต้นลุกโชนในใจของพวกเขา
ราวกับว่ากำลังค้นพบพื้นที่ใหม่อยู่
“…โทรหาศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดิน นี่คือฮัมมิงเบิร์ด เราเข้าสู่ระบบแรงโน้มถ่วงของดาวอังคารได้สำเร็จและเรากำลังเปลี่ยนวงโคจรพ้องคาบดาวอังคาร์…
“เปลี่ยนวงโคจรเรียบร้อยแล้ว ลดระดับความสูง…
“นี่คือฮัมมิงเบิร์ด โทรหาศูนย์ปฏิบัติการ เรามาถึงเขตชั้นบรรยากาศดาวอังคารแล้ว! ระยะทางจากซูฟูคือ 1.27 กิโลเมตร เรากำลังจะถึงแล้ว”
ประตูโลหะของห้องเครื่องเปิดออก นักบินผู้ช่วยสวมชุดอวกาศเดินมาตรงหน้าลู่โจวและทำความเคารพพวกเขา
“เรามาถึงสถานีแล้ว คุณตามผมมาผ่านซูฟู ผมจะบอกคุณเองว่าต้องทำอย่างไร”
“เดี๋ยวนะ แล้วทำไมเราต้องเข้าซูฟูด้วย” เวอร์นัลยกมือขึ้นและถามด้วยความประหม่า “อีกอย่าง เราจะลงไปอย่างไร”
หลังจากที่ได้ยินคำถามโง่ๆ นี้ ลู่โจวยิ้มและพูด
“คุณจำเป็นต้องถามด้วยเหรอ แน่นอนว่าเราต้องกระโดดลงไปอยู่แล้ว”
สีหน้าของเวอร์นัลกลายเป็นสีเขียว หน้าของชูลทซ์และออเบรย์ซีดเผือด มีแค่โลโมนอฟเท่านั้นที่เป็นวิศวกรการบินและอวกาศยิ้มเยาะให้กับมุกตลกของลู่โจว
กระโดดลงไปเหรอ
ลองคิดดูนะว่ามันฟังดูสมจริงหรือเปล่า
หลังจากที่พยายามเทียบท่าด้วยความระมัดระวังอยู่ 20 นาที ในที่สุดแบบจำลองสะพานนกกางเขนที่ใช้ชื่อรหัสว่าฮัมมิงเบิร์ดก็เชื่อมต่อกับเฉลียงสีเงินขาวและซูฟูและจอดเทียบท่าได้สำเร็จ
แม้ว่าเวอร์นัลจะคิดอยากยอมแพ้ในนาทีสุดท้าย แต่เขาก็ตัดสินใจกัดฟันและตามคนทั้งหมดไปยังเฉลียงสีเงินขาวอย่างกล้าหาญ
ภายในห้องที่กว้างใหญ่ นักบินมองกลุ่มคนที่กำลังจะลงไปยังพื้นดิน
“โอเคเพื่อน เรามาถึงแล้ว…ใต้เท้าของคุณคือชั้นนอกของโลกใบใหม่ที่ที่ความฝันกำลังจะเกิดขึ้น คุณจะลงไปยังแผ่นรองรับพร้อมของใช้ที่จำเป็นและโมดูลฟังก์ชันใหม่ และจะมีคนรอรับคุณอยู่ที่นั่น”
“ตอนที่คุณอบรม พวกคุณก็น่าจะรู้วิธีใช่แผ่นรองรับกันอยู่แล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องไปแล้ว”
“ก่อนอื่นเลยให้เชื่อมต่ออินเตอร์เฟสที่อยู่ในชุดอวกาศกับระบบดำรงชีพของโมดูลลงจอด หลังจากนั้นให้ตรวจสอบปุ่มแต่ละปุ่มและเข็มขัดว่าเชื่อมต่อดีไหม คิดดูก็แล้วกันว่าคุณอยากฝากผมไปบอกอะไรบนโลกไหม”
“ถ้าทุกอย่างโอเค ให้ยกมือบอกผม”
นักบินพยักหน้าด้วยความพอใจขณะที่มองไปที่ยังมือที่ยกขึ้น
“ดีแล้ว
“ไปกัน!”