Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 140 ค้อนแห่งความยุติธรรม
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 140 ค้อนแห่งความยุติธรรม
ลู่โจวไม่คิดเลยว่ามันจะผ่านไปแค่วันเดียว
คืนที่สอง เขาก็ได้รับอีเมลจากคุณฟรานซิส
[…ไฟล์ PDF ของการพรีเซนต์แนบอยู่ในอีเมล แต่เธออาจไม่ต้องการแล้วมั้ง? ยังไงก็ขอให้โชคดี]
ลู่โจว “???”
ทำไมผมไม่ต้องการ?
หรือวารสารคณิตศาสตร์ประจำปีตีพิมพ์แล้ว?
ลู่โจวรีบเข้าเว็บไซต์คณิตศาสตร์ประจำปี แต่เขาก็ไม่พบวารสารเล่มใหม่
มันก็สมเหตุสมผล วารสารคณิตศาสตร์ประจำปีตีพิมพ์ทุกสองเดือน
คำนวณจากวันที่ถูกตีพิมพ์ครั้งล่าสุด วิทยานิพนธ์ของเขาจะถูกตีพิมพ์สิ้นเดือน แล้วทำไมคุณฟรานซิสถึงบอกว่าเขาไม่ต้องการแล้วล่ะ?
ลู่โจวมึนงง แต่แล้วจู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เมื่อเขาเห็นว่ามันเป็นสายจากศาสตราจารย์ถัง เขาก็รับสายแล้วเอาแนบหู
ศาสตราจารย์ถังพูดก่อน
“เธอไปทำอะไรมาอีกแล้วล่ะ?”
ลู่โจวประหลาดใจหลังถูกถามกะทันหัน เขาถาม “ศาสตราจารย์รู้?”
เขาไม่อยากให้เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใครในมหาวิทยาลัยเลย เขาไม่คิดเลยว่าศาสตราจารย์ถังจะรู้เรื่องนี้
ศาสตราจารย์ถังตอบด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าอาจารย์รู้ เธอคิดว่าอาจารย์โง่เหรอ? อาจารย์ก็ท่องเน็ตเหมือนกันนะ”
อะไรนะ?
ดูเหมือนศาสตราจารย์ถังจะไม่ได้โกรธมากใช่มั้ย?
ก่อนที่ลู่โจวจะได้ตอบ ศาสตราจารย์ถังก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“พูดตามตรง เรื่องนี้เริ่มใหญ่โตแล้ว แถมตาเฒ่าหวังอี้ผิงก็ไว้ใจไม่ค่อยได้ เขาเอาเรื่องของเธอไปคุยโม้ทั้งเมือง บอกว่ารางวัลโคลเป็นของเธอ เดาซิว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น?”
ศาสตราจารย์ถังยิ้มแล้วกล่าวต่อ
“อาจารย์ไม่รู้ว่าสื่อได้ข่าวมาจากไหน รางวัลโคลเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่! เหรินเหรินไดอารีได้เขียนบทความไว้รอแล้ว พวกเขาจะตีพิมพ์ตอนที่วิทยานิพนธ์ของเธอออกมา โชคร้ายอะไรอย่างนี้นะ”
มันไม่ใช่ลู่โจวที่โชคร้าย แต่เป็นฝ่ายบรรณาธิการของเหรินเหรินไดอารี
แต่รายการทีวีวาไรตี้โชว์ทิ้งถิ่นดันลอกเลียนแบบเพื่อความบันเทิง
มันไม่สำคัญหรอกว่าเวลานั้น ผู้ที่พิสูจน์ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดได้เป็นใคร ถ้าหากมีอะไรผิดพลาด มันต้องมีคนรับผิดชอบ!
ตอนนี้คาดว่าไม่เพียงแต่สีหน้าของกองบรรณาธิการเหรินเหรินไดอารีเท่านั้นที่น่าเกลียด แม้แต่ฝ่ายโฆษณาก็เกรงว่าสีหน้าคงดูไม่ดีนัก แต่ที่น่าเกลียดที่สุดก็คงเป็นสีหน้าของตาเฒ่าหวังแห่งมหาวิทยาลัยเยี่ยน
ไม่ว่ายังไงมันต้องมีคนที่กำลังจะจบเห่
ศาสตราจารย์ถังอดพูดไม่ได้ “พอเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้น ให้บอกอาจารย์ไม่ก็คณบดีฉิน! อย่าพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียว! ถ้าไม่ใช่เพราะหลัวเหวินเซวียนบอกอาจารย์ คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าอาจารย์จะรู้ข่าวนี้ตอนไหน!”
ลู่โจวกล่าว “หลัวเหวินเซวียน?”
ศาสตราจารย์ถัง “หลัวเหวินเซวียนได้ข่าวนี้ก็รีบไปเอาบันทึกจากสมาคมคณิตศาสตร์สหรัฐทันที จากนั้นเขาก็ติดต่อกับสื่อจีนหลายสำนักแล้วส่งอีเมลบอกเรื่องนี้แก่อาจารย์ ไว้ไปขอบคุณเขาด้วย!”
ลู่โจวกล่าวทันที “ครับ! เดี๋ยวผมจะโทรไปหาเขา!”
ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมคุณฟรานซิสถึงบอกว่าเขาไม่ต้องการบันทึกงานประชุมแล้ว ปรากฏว่ามีคนส่งบันทึกไปให้สื่อจีนแล้ว
เขาเป็นหนี้หลัวเหวินเซวียนครั้งหนึ่ง
ลู่โจววางแผนว่าจะเลี้ยงมื้อเย็นให้เขาครั้งหน้าในพรินซ์ตัน
ลู่โจววางสายแล้วเปิดเว่ยป๋อ ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
สือช่างนั่งเล่นกีตาร์อยู่บนเตียง เขาตกใจเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ
“โจว เกิดอะไรขึ้นอีก?”
ลู่โจวส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่มีอะไร ดีนะที่มีเส้นสาย ฉันไม่ต้องทำอะไรเลย”
หลิวรุ่ยถามขณะยังอ่านหนังสืออยู่ “ห๊ะ? มีคนแก้ปัญหาให้นายแล้วเหรอ?”
ลู่โจวเสียบสายชาร์จโทรศัพท์แล้วกล่าว “จะว่าแบบนั้นก็ได้”
…
ณ ห้องประชุม สถานีโทรทัศน์
อู๋ผิงดูกระอักกระอ่วน
อันที่จริงทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมต่างก็มีสีหน้ากระอักกระอ่วน
พวกเขาไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้มันจะบานปลาย แผน’การตลาดที่สมบูรณ์แบบ’ของพวกเขาพังแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอู๋ผิง เขาดูเหมือนกำลังจะกระอักเลือด
ตอนที่พวกเขาดูคลิปวิดีโอ พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าชายคนที่ยืนอยู่บนเวทีทำอะไร แต่พวกเขาก็ดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์จากเว็บไซต์งานประชุมทางวิชาการ
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจเนื้อหาวิทยานิพนธ์ แต่พวกเขาก็เข้าใจบทคัดย่อของวิทยานิพนธ์ การพรีเซนต์เป็นเรื่องของจำนวนเฉพาะของแมร์แซนอย่างเห็นได้ชัด พวกเขากระทั่งถามผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว
ดังนั้นผู้จัดการของอู๋เหยียนจึงบอกอู๋เหยียนว่าไม่ต้องกังวล เพราะมันไม่มีการเผยแพร่ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดบนโลกออนไลน์
ตอนนี้? ความน่าเชื่อถือของรายการหายไปแล้ว
อู๋เหยียนนั่งอยู่ที่โต๊ะประชุม เขากระแอมเบาๆแล้วกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน
“…ไม่พูดเกินไปหน่อยเหรอ? มันก็แค่รายการ ไม่ใช่การส่งวิทยานิพนธ์ นี่ไม่นับเป็นการขโมยผลงานวิชาการใช่ไหม?”
ผู้กำกับจางโกรธมาก “ทำไมคุณไม่บอกเราว่าคัดลอกกระบวนการพิสูจน์มา?”
หยางเฟิงพยายามปลอบใจ “ผู้กำกับจาง เราเป็นทีมเดียวกัน นี่ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกัน ฉันถามอู๋เหยียนแล้ว เขาได้รับแรงบันดาลใจจากงานประชุม แต่เขาก็เพิ่มรายละเอียดของตนเองลงไปด้วย เราอ้างได้ว่าทั้งคู่ต่างก็แก้ปัญหาระดับโลก”
เลขาของผู้กำกับจางกล่าว “พูดแบบนั้นไปก็ไร้ประโยชน์ กุญแจสำคัญตอนนี้ก็คือเราจะแก้ปัญหานี้ยังไง คำแนะนำของฉันคือเริ่มซ่อมความเสียหายทันที บางทีเราอาจหาวารสารคณิตศาสตร์แล้วยัดเงินพวกเขาให้พวกเขาโพสต์การพิสูจน์ของเราก่อน แบบนี้ไหม?”
ผู้กำกับจางคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า
“มีเหตุผล”
น่าเสียดายที่ต้องยกเลิกการปั้นดาวบนรายการ อย่างไรก็ตามวิทยานิพนธ์ของอีกฝ่ายยังไม่ได้ตีพิมพ์ด้วยซ้ำ แค่คลิปวิดีโอคุณภาพต่ำจะพิสูจน์อะไรได้? แค่สิ่งที่เขียนบนไวท์บอร์ดก็เห็นได้ไม่ชัดแล้ว
หรือคุณจะบอกว่าคุณเผยแพร่สู่สาธารณะแล้ว คุณไม่ต้องตีพิมพ์วิทยานิพนธ์?
ฉันจะใช้เงินฟาด!
ทันใดนั้นเองประตูห้องประชุมก็เปิดออก มีชายสวมชุดสูทเดินเข้ามา
ผู้กำกับจางหยวนเจี๋ยเลิกคิ้ว “คุณมาจากแผนกไหน? ฉันอนุญาตให้เข้ามาแล้วเหรอ?”
ชายคนนั้นเมินผู้กำกับจางแล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะ
“ประกาศจากเบื้องบน ตั้งแต่นี้ไป รายการของคุณจะถูกยกเลิก”
บรรยากาศในห้องประชุมเหมือนถูกแช่แข็งไปชั่วครู่
มันเงียบมากจนแทบได้ยินเสียงหายใจ
แววตาของผู้กำกับจางหยวนเจี๋ยเบิกกว้าง เขาไม่อยากจะเชื่อเลย เขาผุดลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ
“เกิดอะไรขึ้น? นี่มันไม่มีเหตุผลเลย! ฉันจะไปคุยกับพวกเขา”
มันเกือบรอบไฟนอลแล้ว แถมพวกเขายังซ้อมไปแล้ว หยุดรายการตอนนี้จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก
ผู้กำกับจางหยวนเจี๋ยซีดขาว เขาไม่อยากจะเชื่อเลย
ชายคนนั้นมองผู้กำกับจางหยวนเจี๋ยด้วยใบหน้าว่างเปล่า
“ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครช่วยคุณได้ เอกสารนี้มาจากเบื้องบน”
……………………………………..