Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1409 การเตือนภัย
ณ จุดปล่อยยานอวกาศจินหลิง
จู่ๆ สัญญาเตือนก็ดังมาจากดาวเทียม ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินทั้งหมดเริ่มหวั่นวิตก
แผ่นดินไหวบนดาวอังคาร!
ภาพถ่ายที่ถูกถ่ายโดยเสาอากาศดาวเทียมแสดงให้เห็นลมและทรายลอยอยู่บนฟ้าสลับกับกระแสลมแรง เนินทรายที่อยู่รอบๆ ถูกทำลายและปล่องภูเขาไฟถูกเติมเต็มทำให้เห็นรอยลึกอยู่บนผิวดินของดาวอังคาร ชายขอบภูเขาทั้งหมดพังทลายไปหมด ฝุ่นปกคลุมทั่วท้องฟ้า…
โชคยังดีที่บนดาวอังคารไม่มีทะเล หรือมีภูเขาไฟที่สามารถระเบิดได้ สถานีวิจัยวิทยาศาสตร์บนดาวอังคารที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนจากภูเขาอยู่สักพัก นอกจากตู้ที่ของพังลงมาและกระจกที่แตก ก็ไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการพังทลายของเดอะเกตส์ออฟเฮลล์ได้กระตุ้นปฏิกิริยาลูกโซ่ซึ่งรวมไปถึงพายุทรายด้วย
ศูนย์กลางของจุดเหนือศูนย์แผ่นดินไหวที่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรถูกปกคลุมด้วยฝุ่น
ดาวเทียมไม่สามารถมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบนพื้นดิน และไม่สามารถรับสัญญาณจากที่นั่นได้เลย
ภายในห้องบัญชาการศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดิน มีรายงานเข้ามาเรื่อยๆ
หัวใจของทุกคนหล่นฮวบขณะที่กำลังสวดภาวนาเพื่อคนร่วมชาติที่อยู่บนดาวอังคาร
“แผ่นดินไหวถูกพบที่ละติจูดใต้ 15 องศาและลองจิจูดตะวันตก 128.1 องศา! จากผลการสำรวจของสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ดาวอังคารพบว่า แรงสั่นสะเทือนสูงกว่า 9.5!”
“แนวภูเขาเดอะเกตส์ออฟเฮลล์พังลงมา! พื้นที่ตรงนั้นถูกปกคลุมด้วยพายุทราย!”
“คาดว่าพายุทรายน่าจะยาวนานประมาณหนึ่งอาทิตย์…”
“รายงานล่าสุด! บุคลากรสองคนขาดการติดต่อในระหว่างการปฏิบัติการ”
“หนึ่งในนั้นคือ…นักวิชาการลู่!”
ตอนที่ผู้อำนวยการหลี่ได้ยินข่าวร้ายนี้ ความดันของเขาสูงขึ้นทันที ดวงตาของเขาแดงก่ำ
เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้าตัวเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ตรงคอนโซล ดูเหมือนว่าชายวันหกสิบคนนี้จะเสียสติไปแล้ว เขาคว้าคอเสื้อของเจ้าหน้าที่ผู้น่าสงสารและพูด “เกิดอะไรขึ้น?! นักวิชาการลู่หายตัวไปเหรอ?! นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”
นักวิจัยที่ถูกคว้าคอเสื้อตัวสั่นเทา เขาไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ
ไม่ใช่ว่าเขากลัวว่าชายแก่คนนี้จะทำร้ายเขา
แต่เขากลัวว่าหลังจากอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นไปตรงๆ หัวใจของชายแก่คนนี้จะรับข่าวร้ายที่เกิดขึ้นไม่ไหว
ชีวิตของนักวิชาการลู่ยังไม่แน่นอน ผู้อำนวยการหลี่คือชายสูงวัยที่ติดตามลู่โจวมาตั้งแต่วิจัยเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผางกู่ครั้งแรก ดังนั้นการสูญเสียคงจะมีผลกับเขาเป็นอย่างมาก
ผู้อำนวยการฉางเหอจือที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้อำนวยการหลี่รับจับตัวเขาไว้
“ท่านผู้เฒ่าหลี่ ใจเย็นๆ อย่าใจร้อนสิ! ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นบนดาวอังคารยังคงไม่ชัดเจน แล้วถ้ามันเกิดเป็นสัญญาณหลอกล่ะ”
“ใจเย็นเหรอ?! คุณมาบอกให้ผมใจเย็นได้อย่างไร!” ผู้อำนวยการหลี่มองผู้อำนวยการฉาง กรามของเขาสั่นเทาขณะที่พูด “เขาอยู่บนดาวอังคาร! ไม่ใช่โลก!”
ถ้านี่เป็นโลก ลืมเรื่องแผ่นดินไหวไปได้เลย แม้แต่สงครามโลกก็ตาม พวกเขาจะต้องทำทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อพานักวิชาการลู่กลับบ้าน
แต่บนดาวอังคาร แม้ว่าพวกเขาอยากจะทุ่มเงินช่วยเขามากขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
อายุของหลอดเลือดของผู้อำนวยการหลี่ไม่สามารถรั้งไว้ได้แล้ว จู่ๆ เขาก็หายใจไม่ออก
ผู้อำนวยการฉางรีบเข้าไปช่วยเขาทันที เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ๆ ก็เข้าไปช่วย
“ผู้เฒ่าหลี่! คุณโอเคไหม”
“ผู้อำนวยการหลี่หมดสติไป”
“เร็ว! เรียกรถพยาบาลหน่อย”
“หมอ! มีคนเป็นลม!”
จุดปล่อยยานอวกาศเกิดความวุ่นวาย มันยิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีกเนื่องจากจู่ๆ ผู้อำนวยการหลี่ก็เป็นลมในห้องบัญชาการ
ผู้อำนวยการหลี่ถูกส่งขึ้นเปลหามและถูกหามออกไป หัวใจของทุกคนต่างช็อก
นี่คือช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดแห่งประวัติศาสตร์การบินและอวกาศจีน
ไม่มีวันไหนเลยที่เลวร้ายเท่าวันนี้…
…
“โอเค ผมเข้าใจ”
ณ สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
ยางสวี่ รองคณบดีนั่งอยู่ในออฟฟิศของเขา เขาวางโทรศัพท์ในมือด้วยสีหน้าที่หนักหน่วง ผู้อำนวยการเฉียนจงหมิง ผู้อำนวยการสถาบันวัสดุเชิงคำนวณถามขึ้นทันที “เกิดอะไรขึ้น มีข่าวจากจุดปล่อยยานบ้างไหม”
ยี่สิบนาทีก่อนสถาบันดาราศาสตร์ของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้ทำการสำรวจพายุฝุ่นบนดาวอังคารผ่านดาวเทียมสำรวจดาราศาสตร์ที่อยู่ในวงโคจรพ้องคาบโลก
เนื่องจากไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทางผู้เชี่ยวชาญของสถาบันจึงประมาณการเบื้องต้นจากไหวพริบที่มีว่ามันเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว
และความแรงของแผ่นดินไหวก็สูงมากๆ
จากที่นักวิชาการลู่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่นั่น ยางสวี่จึงโทรหาจุดปล่อยยานจินหลิงทันที แต่ทางจุดปล่อยยานจินหลิงกลับเงียบและไม่ได้ตอบอะไร
สัญชาตญาณของยางสวี่บอกเขาว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น
“…กำหนดการปล่อยยานทั้งหมดถูกระงับ น่าจะเป็นเพราะแผ่นดินไหวบนดาวอังคาร” หลังจากที่เงียบไปสักพัก ยางสวี่พูดต่อ “แม้ว่าคนที่อยู่ที่นั่นไม่อยากจะเปิดเผยข้อมูลมากกว่านี้ แต่จากที่ออฟฟิศกำหนดการเดินทางไปดาวอังคารได้ประกาศไปก่อนหน้านี้…ทีมสำรวจอาจกำลังเจอปัญหา”
สีหน้าของเฉียนจงหมิงผงาดขึ้นในขณะที่ตอบ
“มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน หรืออาจจะเป็นอารยธรรมนอกโลก…”
“ผมไม่รู้ ผมเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน” ยางสวี่ส่ายหัวและพูด “ผมเกรงว่าจะแผนการเดินทางไปดาวอังคารจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ตอนนี้เราไม่มีข้อมูลอะไรเลย เราอย่าเดากันไปเองดีกว่าครับ อีกอย่าง…”
จู่ๆ สีหน้าที่ประหม่าของยางสวี่ก็ผ่อนคลายขึ้น เขายิ้มอย่างใจเย็น
“ตอนนี้เรากำลังพูดถึงนักวิชาการลู่กันอยู่นะ”
“ผมมั่นใจว่าความสามารถของเขา ถ้าเกิดเขาเจอปัญหาใหญ่จริงๆ เขาก็ต้องไม่เป็นอะไร”
แต่เขาอยู่บนดาวอังคาร
เฉียนจงหมิงยิ้มอย่างขมขื่นในหัวใจ
แม้ว่าเขาจะรู้ว่ารองประธานหยางกำลังปลอบใจเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเลย หลังจากที่ถอนหายใจเบาๆ เขาก็ถามอย่างจริงจัง “แล้วเราควรจะทำอย่างไรกันต่อดี”
หลังจากที่คิดเรื่องนั้น ยางสวี่พูด “ในตอนนี้ก็ปิดข่าวกันไปก่อน ผู้เชี่ยวชาญที่สถาบันจะได้ไม่ปล่อยข่าวลือออกไป ไม่ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม เราจะต้องทำตามคำแนะนำจากออฟฟิศการเดินทางบนดาวอังคาร”
เฉียนจงหมิงพูด
“ผมเกรงว่าเราจะไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้ได้นาน มันไม่ใช่แค่เรานะครับ…โลกทั้งโลกก็กำลังจับจ้องไปที่ดาวอังคาร ผมเกรงว่าจะมีคนรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติพรุ่งนี้”
นักวิชาการลู่คือเสาหลักของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
นักวิชาการอย่างน้อย 80% มาที่นี่เพราะออร่าของเขา ถ้าเขาเกิดเจอปัญหาขึ้น คนเหล่านี้อาจจะไม่ลาออกจากสถาบัน แต่พวกเขาคงเสียขวัญกันน่าดูเลย
โดยเฉพาะสถาบันวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณ
เหตุผลที่พวกเขาสามารถเอาชนะ MIT และสแตนฟอร์ดได้ก็เพราะลู่โจว ถ้าพวกเขาสูญเสียพลังของนักวิชาการลู่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ร่วงลงพื้น แต่การรักษาตำแหน่งที่ดีที่สุดของโลกก็เป็นเรื่องยาก
“เก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ให้นานเท่าที่จะทำได้” ยางสวี่มองนาฬิกาบนผนัง หลังจากที่เงียบไปสักพัก ยางสวี่พูดต่อ “สถานการณ์บนดวงจันทร์ตอนนี้ยังคลุมเครืออยู่
“อย่างน้อยๆ เราก็ไม่ควรสร้างปัญหาเพิ่ม”
ในอีกมุมหนึ่ง…
สำนักงานใหญ่สตาร์สกายเทคโนโลยี
เฉินยู่ซานที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วและวางมือทาบอก
“แปลกมาก…”
อาการปวดตุบๆ แปลกๆ ในอกของเธอทำให้เธอสงสัย
“หรืออาจจะเป็นเพราะมีเรื่องที่ต้องทำเยอะเกินไป”
“ปลายปี..ฉันน่าจะคิดเรื่องฝึกคนที่จะมารับช่วงต่อ”
เฉินยู่ซานถอนหายใจและหยิกระหว่างคิ้วตัวเอง หลังจากนั้นเธอหยิบปากกาลูกลื่นบนโต๊ะและพยายามฝืนตัวเอง
เธอนอนหลับสนิทเมื่อคืน แต่เพราะอะไรสักอย่างเธอรู้สึกปวดที่อกเหมือนบีบหัวใจ
ราวกับว่า…
เศษเสี้ยวของหัวใจเธอได้หายไป…