Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1410 จุดจบของโลก
ไม่ทำงานเหรอ?!
อะไรวะเนี่ย?!
ตอนที่ลู่โจวได้ยินคำพูดของนายพลเรนฮาร์ท จู่ๆ เขาก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นทันที
“คุณหมายความว่าอย่างไร คุณลากผมมาที่นี่เพื่อดูเศษเหล็กพังๆ พวกนี้เหรอ”
ดูเหมือนว่าเรนฮาร์ทจะไม่พอใจกับคำว่าเศษเหล็กผุพัง จู่ๆ เสียงของเขาก็โกรธเกรี้ยวขณะที่พูดด้วยความโมโห “เศษเหล็กเหรอ คุณคิดว่านี่คืออะไร ลองนึกถึงชิ้นส่วนที่คุณนำออกไปจากร่างผมดูสิ ถ้าไม่มีชิ้นส่วนพวกนั้นคุณคิดเหรอว่าคุณจะบินมาถึงที่นี่ได้ด้วยสมองที่เชื่องช้าของคุณ”
ลู่โจวอยากปฏิเสธ เพราะสุดท้ายเขาก็ได้รับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ขับดันไฟฟ้าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมมาจากระบบ แต่เขาเป็นคนสร้างฟิวชั่นที่ควบคุมได้ด้วยตัวเอง อีกอย่างเศษซากทั้งสองชิ้นที่เขาได้มาก็ย้อนรอยวิศวกรรมไม่ได้ อย่างมากที่สุดมันก็ชี้ให้เห็นเส้นทางความเป็นไปได้ทางเทคนิค เขาเป็นคนออกแบบการทดลองเกือบทั้งหมด รวมไปถึงเครื่องขับดันพลังไอออนและแบตเตอรี่ลิเธียม
แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันปฏิเสธ จู่ๆ เขาก็หันไปสนใจสิ่งที่สำคัญกว่าแทน
“คุณหมายความว่าอย่างไรที่ว่าร่างกายของคุณ มันนำออกจากตัวคุณเหรอ แล้ว…”
“ผมคือยานอวกาศ”
เสียงนั้นเปิดเผยความจริง
แม้ว่าลู่โจวจะมองไม่เห็นสีหน้าของนายพลเรนฮาร์ท เขารู้สึกว่าเรนฮาร์ทพูดด้วยสีหน้าที่สับสน
เขาแทบจะระเบิดหัวเราะออกมา
“คุณยิ้มทำไมกัน”
“ไม่มีอะไร ก็แค่ประหลาดใจ…” หลังจากกระแอม ลู่โจวแสดงสีหน้าจริงจังและพูด “คุณพาผมไปดูด้านในท้องของคุณได้ไหม”
“แน่นอน”
ลู่โจวสัมผัสได้ว่าเรนฮาร์ทกำลังควบคุมความโกรธของตัวเองอยู่
ลู่โจวไม่สนใจถ้าจะทำให้ชายคนนี้โกรธ เขาเดินเข้าไปในยานอวกาศโดยไม่พูดอะไรเลย
โดยทั่วไปแล้วพื้นที่ภายในของยานอวกาศเรนฮาร์ทกว้างใหญ่มากๆ ในความคิดของลู่โจว มันสิ้นเปลืองเล็กน้อย
“สิ่งอำนวยความสะดวกในนี้ค่อนข้างใหม่ มีคนทำความสะอาดมันเหรอ”
“เปล่า ก็แค่ต้องขอบคุณชิ้นส่วนปริภูมิสี่มิตินั่นที่ถูกเก็บรักษามาหลายพันปี”
“แต่แล้วทำไมเครื่องยนต์พลาสมาและแบตเตอรี่ลิเธียมแอร์ที่ผมได้มาจึงดูเหมือนตากแดดตากฝนมานานล่ะ”
“เพราะของพวกนั้นถูกรื้อถอนออกจากตัวผมเมื่อนานมาแล้ว” นายพลเรนฮาร์ทพูดต่อผ่านช่องทางสื่อสาร “เช่นเดียวกับเครื่องยนต์หลัก”
ลู่โจว “เครื่องยนต์หลักเหรอ ผมขอถามว่ามันคือเทคโนโลยีวาร์ปไดรฟ์หรือเปล่า”
เรนฮาร์ท “ใช่”
เข้าใจแล้ว!
จู่ๆ ใจของลู่โจวก็ตื่นเต้นขึ้นมา
“มันอยู่ไหนล่ะ? ตอนนี้เครื่องยนต์วาร์ปไดรฟ์อยู่ที่ไหน”
ช่องทางสื่อสารเงียบไป
เวลาผ่านไปเป็นเวลานาน ก็มีเสียงถอนหายใจดังขึ้น
“เรื่องมันยาว…”
นายพลเรนฮาร์ทใช้เวลาห้านาทีในการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ลู่โจวฟังคร่าวๆ ในที่สุดลู่โจวก็เข้าใจสถานการณ์ของเขา
ประมาณสามพันปีที่แล้ว แกนของดาวอังคารเย็นลงเรื่อยๆ เนื่องจากปัจจัยภายนอกต่างๆ จนทำให้การเคลื่อนไหวของเปลือกโลกหยุดชะงัก
ภูเขาไฟจะไม่มีการปะทุอีกต่อไป ส่วนแผ่นดินไหวก็จะไม่เกิดขึ้น ในตอนแรกก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี
แต่ในขณะที่แกนของดาวอังคารเย็นตัว สนามแม่เหล็กของดาวอังคารก็หายไปด้วย!
ในช่วงแรกชาวดาวอังคารก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ จนกระทั่งการแผ่รังสีเกิดขึ้น อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์เริ่มใช้การไม่ได้ อัตราการเกิดมะเร็งสูงขึ้นหลายเท่า และความหนาของชั้นบรรยากาศก็เสื่อมลง ในที่สุดชาวดาวอังคารก็เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของปัญหาที่เกิดขึ้น
แต่กว่าที่พวกเขาจะตระหนักรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ มันก็สายเกินไปแล้ว
ถ้าไม่มีการป้องกันของสนามแม่เหล็ก ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารที่ไม่มีการป้องกันต่อลมสุริยะก็ถูกพัดหายไป ระบบนิเวศที่เคยอุดมสมบูรณ์เกิดการแห้งแร้งในความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เมืองที่อยู่บนพื้นดินก็ค่อยๆ หายไป พวกเขาต้องเก็บตัวอยู่ใต้ดิน ซ่อนตัวในหลุมหลบภัย และใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใต้ดิน
แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการจะอยู่ใต้ดินตลอดไปเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต อารยธรรมดาวอังคารจึงทำการตัดสินใจที่ยากลำบากเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง พวกเขารื้อถอนเรนฮาร์ท ซึ่งเป็นพลังงานหลักของโบราณวัตถุศักดิ์สิทธิ์ และเผาแกนดาวอังคารที่เย็นแล้วขึ้นมาใหม่
เครื่องยนต์เรนฮาร์ทมีพลังงานมากกว่าพลังงานฟิวชั่น
แม้ว่าการจะนำมันมาแทนที่แกนดาวอังคารอย่างเดียวจะเป็นไปไม่ได้ แต่การเผาไหม้แกนที่เย็นแล้วด้วยพลังงานของมันก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้
หลังจากฟังคำอธิบายของเรนฮาร์ท ลู่โจวก็จมดิ่งไปกับความคิดของตัวเองอยู่สักพัก
“ผมไม่ค่อยเข้าใจ…”
“ไม่เข้าใจอะไรเหรอ?”
“ภายใต้การปกป้องของเศษปริภูมิสี่มิติ ในทางทฤษฎีแล้วชาวดาวอังคารเหล่านั้นก็น่าจะไม่สามารถเข้าถึงตัวคุณได้แล้ว หรือว่า…”
“ไม่จำเป็นต้องเดาหรอก” เสียงที่ดังมาจากช่องทางสื่อสารขัดจังหวะลู่โจว หลังจากนั้นสักพัก เขาพูดต่อ “ผมให้พวกเขาเอง”
“ทำไมล่ะ”
“คุณไม่เข้าใจหรอก ผมถูกส่งมาที่นี่ตั้งแต่ระบบสุริยะถือกำเนิดขึ้น ผมเห็นวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่นี่ ผมเห็นตั้งแต่ความวุ่นวายไปจนถึงความรุ่งโรจน์ ผมมองดูเด็กน้อยตัวเล็กๆ คนแรกโผล่หัวออกมาต่อหน้าผม ผมมองดูพวกเขาเรียนรู้วิธีการจุดไฟ การล่าสัตว์ การสร้างเครื่องมือ แม้แต่ภาษาที่พวกเขาใช้ ผมก็เป็นคนสอนพวกเขาเอง…”
ตอนที่เขาพูด เสียงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
แม้ว่าลู่โจวจะไม่เคยมีประสบการณ์ทำนองนี้มาก่อน เขาก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกที่ซับซ้อนในหัวใจของเรนฮาร์ท
เขาคือชาวคาลาเนียนที่มีจากอารยธรรมที่เหนือกว่า เขามีนิสัยดั้งเดิมที่ชอบดูถูกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ต่ำกว่า
แต่ความโหยหาในเอ็มไพร์ทำให้เขาต้องการหาตัวช่วยในจักรวาลใหม่นี้ แม้ว่ามันจะผ่านภาษาของคาลานเอ็มไพร์ด้วยซ้ำเพื่อที่วันใดวันหนึ่งพวกเขาจะสามารถก้าวออกมาจากดาวเคราะห์ของพวกเขาและมุ่งหน้าไปสู่ทางช้างเผือก
ถ้ามีใครบอกเขาว่าผลสุดท้ายของชีวิตพวกเขาได้ถูกกำหนดไว้แล้วและความเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตรอดน้อยกว่าหนึ่งในหมื่น เขาก็ยังเพิกเฉยต่อคำเตือนนั้นและพยายามช่วยชาวดาวอังคารอยู่ดี
การกระทำที่มีความหมายเช่นนี้นำไปสู่ความเจริญและความเสื่อมโทรมของอารยธรรมชาวดาวอังคารและเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของดาวเคราะห์โดยสิ้นเชิง…
“ถ้าเรามีเวลา ผมก็อยากจะเล่าเรื่องในอดีตให้คุณฟัง แต่ตอนนี้คุณน่าจะหาทางแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นก่อนนะ”
“ผมรู้ ในความคิดของคุณผมก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้ว…”
เครื่องยนต์ถูกแยกส่วน ยานอวกาศลำนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากเศษเหล็ก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขับยานอวกาศลำนี้กลับโลก
แต่ลู่โจวก็ยังไม่หมดหวังไปเสียทีเดียว
เขามองเข้าไปด้านในยานอวกาศขณะพยายามสงบสติอารมณ์ เขาพูด “จนถึงตอนนี้คุณบอกแค่ข่าวร้ายกับผม ผมอยากรู้ว่าพอจะมีข่าวดีบ้างไหม”
เดิมทีลู่โจวคิดว่าชายคนนี้จะใช้โอกาสนี้ในการพูดประชด เขาจึงไม่ได้คิดว่าเรนฮาร์ทจะตอบจริงจังขนาดนี้
“แน่นอนว่ามันเป็นข่าวดี”
ลู่โจวกำลังจะถามว่าข่าวดีคืออะไร แต่ประโยคถัดไปที่เขาพูดออกมาทำเอาหัวใจของลู่โจวหล่นฮวบ
“แต่มันแค่ไม่พัฒนาสถานการณ์ปัจจุบันของคุณ”