Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1416 ภารกิจสุดท้าย
“ซีเมนต์ 800 ถุง เหล็กเส้น 70 มัด…พวกคุณเป็นสถาบันวิจัยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมซื้อวัสดุก่อสร้างเยอะแยะขนาดนี้ล่ะครับ”
ณ สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
รถบรรทุกสองคันจอดที่ลานจอดรถ
คนขับรถบรรทุกลงจากรถและมองไปที่เจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบรายการ
“ผมก็ไม่รู้” หลังจากที่ตรวจสอบรายการสินค้าและยืนยันแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่แผนกโลจิสติกส์เซ็นและตอบด้วยท่าทีสบายๆ “บางทีสถาบันวิศวกรรมศาสตร์อาจต้องการใช้มัน อีกอย่างผมเคยเห็นอะไรที่แปลกกว่านี้มาแล้ว”
“เหมือนกับอะไร”
“คุณก็รู้ว่าผมบอกคุณไม่ได้…”
คนขับรถบรรทุกกลอกตาทันที
แล้วจะพูดขึ้นมาทำไม
“ผมไม่จำเป็นต้องช่วยขนของลงใช่ไหม เราไม่รวมบริการถ่ายเทสินค้านะครับ”
เจ้าหน้าที่คลังสินค้าที่กำลังพลิกดูรายการซื้อหัวเราะคิกคัก เขาเหลือบมองและพูด
“คุณวางใจได้เลย ระบบลอจิสติกส์ของเราที่นี่เป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด”
ขณะกำลังพูดคุยกัน จู่ๆ ก็มีเสียงหึ่งๆ ดังมาจากบริเวณใกล้เคียง
รถบรรทุกโลจิสติกส์ขนาดเล็กและขนาดกลางหลายสิบคัน รวมทั้งรถยกที่มีแขนหุ่นยนต์และลิฟต์ต่างรุมเข้ามาหาพวกเขาจากด้านข้าง
โดรนสี่ตัวที่ติดตั้งกล้องอุตสาหกรรมจะคอยนำทาง ส่วนยานพาหนะทางวิศวกรรมเป็นเหมือนมดและพวกมันทั้งหมดมีการแบ่งงานที่ชัดเจน บางคันมีหน้าที่ในการขนถ่ายและบางคันมีหน้าที่ในการวางแผนเส้นทาง
ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที สินค้าบนรถบรรทุกได้รับการขนถ่ายอย่างสมบูรณ์
มีโดรนหนึ่งตัวที่บินขึ้นบินลงไปทางคนทั้งสอง ราวกับว่ามันกำลังพยักหน้าแทนคำขอบคุณ
คนขับตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาเกือบจะหลุดออกจากเบ้า
“โอ้พระเจ้า…ระยะเวลาในการขนถ่ายเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ซีเมนต์บนรถบรรทุกของผมหนักอย่างน้อย 30 หรือ 40 ตันเชียวนะ ถ้าใช้คนสองคนยกก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง”
“มันก็ไม่ได้เร็วขนาดนั้นหรอก ห้านาทีถือว่าเป็นเวลาปกติ” เจ้าหน้าที่โกดังพูดด้วยรอยยิ้ม “บันทึกที่เร็วที่สุดคือการก่อสร้างอาคารภายในสามวัน ในระหว่างกระบวนการก่อสร้างทั้งหมด ยกเว้นวิศวกรที่รับผิดชอบในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมก็ไม่มีใครมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น คนขับรถเงียบอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมา
“…ถ้ามันยังพัฒนาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมเกรงว่าพวกพนักงานขนถ่ายสิ่งของจะตกงานกันหมด”
“มันไม่เกิดขึ้นหรอก ตอนนี้เครื่องมือประเภทนี้ยังราคาสูงอยู่ เราใช้มันสำหรับเพื่อการทดลองเท่านั้น “… หากมันยังพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ผมเกรงว่าพวกคุณจะตกงานกันหมดนะ แต่ในยุคสมัยต่อไปอะไรๆ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ ถ้าคุณทำได้ คุณก็ควรผลักดันให้ลูกของคุณตั้งใจเรียน”
เจ้าหน้าที่หยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปรถบรรทุกที่ว่างเปล่าไว้เป็นข้อมูลสำรอง เขายื่นซองบุหรี่ให้คนขับรถและพูดด้วยรอยยิ้ม
“โอเค รถบรรทุกลงของเรียบร้อยแล้ว คุณไปได้แล้ว”
“โอเค แล้วเจอกันครับ!”
“ลาก่อน จำไว้ว่าอย่าใช้ทางอ้อม มีคนมองอยู่ อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน ถ้าเกิดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดรถของคุณ”
“ไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ได้รับการคุ้มครองระดับประเทศ เจ้านายผมบอกแล้ว”
ประตูรถถูกปิด
หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ รถบรรทุกก็หายไปอย่างรวดเร็วที่ท้ายถนน
เจ้าหน้าที่ปรับหมวกให้ตรงและพลิกดูรายการสั่งซื้อของที่ได้มา เขาพึมพำพร้อมสีหน้าแปลกๆ “สงสัยจังว่าห้องทดลองจะซื้อซีเมนต์มาทำไมตั้งเยอะแยะ หรือว่าพวกเขาอยากจะสร้างบ้านเหรอ”
เขาปิดรายการการสั่งซื้อและใส่ลงไปในกระเป๋าที่เขาถือมาด้วย
คณะผู้บริหารทั้งหมดของสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้การดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนและบรรทัดฐานที่กำหนดไว้ ทุกกองทุนและทุกโครงการจัดซื้อจะถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการจัดการกองทุน
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อใดๆ ก็ตามจะได้รับการสรุปและอนุญาต
ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง
ในขณะที่สินค้าถูกขนย้ายเข้าไปในโกดังก็เกิดรอยแตกบนพื้นคอนกรีตขึ้นเผยให้เห็นลิฟต์ที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง
วัสดุถูกส่งไปใต้ดินอย่างรวดเร็ว
ภายใต้การดูแลของโดรน ยานพาหนะขนส่งและอุปกรณ์ก่อสร้างอัตโนมัติขนาดเล็กทำงานราวกับผึ้ง พวกมันขนย้ายวัสดุก่อสร้างทั้งหมดไปยังใต้ดินของสถาบัน ที่ซึ่งในทางเทคนิคแล้วไม่มีอยู่ในพิมพ์เขียวของอาคารด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะเป็นลิฟต์ ประตูนิรภัย หรือท่อระบายอากาศ สถานที่ทั้งหมดที่อาจเปิดเผยอาคารใต้ดินนี้ถูกปลอมแปลงและปรับปรุงโดยผู้จัดการเสี่ยวไอ
เจ้านายของมันคงไม่กลับมา
อย่างน้อยก็สักพักหนึ่ง
แต่มันมั่นใจว่าเจ้านายของมันยังมีชีวิตอยู่แน่ๆ แม้ว่าคนส่วนใหญ่บนอินเทอร์เน็ตจะเชื่อว่าเขาตายอย่างอนาถเพราะภัยพิบัติ…
แต่หลังจากที่ได้รับข้อความ เสี่ยวไอก็ยิ่งมั่นใจกับข้อเท็จจริงนี้เข้าไปอีก
แต่ก่อนที่มันจะมีสภาพที่เหมาะสมและความสามารถเพียงพอที่จะดึงเจ้าของของมันจากดาวอังคาร มันต้องแน่ใจก่อนว่ามันจะต้องมีชีวิตรอดไปได้
กลายเป็นมนุษย์หลับชั่วคราวเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เพราะเหตุผลนี้ มันจะทำการปรับปรุงห้องใต้ดินและปิดบังเบาะแสทั้งหมดที่บ้านของลู่โจวที่อาจเปิดเผยตัวตนของมัน เสี่ยวไอยังเก็บเสบียงมากเพียงพอในป้อมปราการนี้เพื่อให้มั่นใจว่าแม้แต่ในสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุดก็ไม่มีใครพบหลุมหลบภัยพิเศษนี้ที่ซ่อนอยู่ภายใต้สถาบัน
เพราะท้ายที่สุดเพื่อสังคมมนุษย์แล้ว ปัญญาประดิษฐ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างอยู่ดี
ไม่มีกฎหมายใดที่สามารถปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของมันได้อย่างเป็นธรรม หลังจากไม่มีการปกป้องจากเจ้าของแล้ว มันก็ไม่สามารถเชื่อใจใครได้ มันจึงต้องซ่อนตัวภายใต้เงาของสังคมมนุษย์ ถ้ามันไม่ถูกพบเสียก่อน มันก็สามารถปกป้องทุกอย่างเอาไว้ได้
นี่คือภารกิจสุดท้ายที่ลู่โจวทิ้งไว้ให้
คือการซ่อนตัว
และเมื่อสถานการณ์เหมาะสมก็ให้ช่วยเขาจากดาวอังคาร
…
วันที่ 10 เดือนธันวาคม
แขกจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่โรงแรมเพอร์เพิล เมาน์เทน ในหมู่คนที่มีก็มีบุคคลที่มีชื่อใหญ่ในด้านการเมืองและธุรกิจ เช่นเดียวกับคนดังจากทุกสาขาอาชีพ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นนักวิชาการ
ด้านในล็อบบี้โรงแรม เฉินยู่ซานสวมเดรสสีดำยืนอยู่ตรงไฟสปอตไลท์ เธอประกาศการก่อตั้งรางวัลวิทยาศาสตร์ลู่โจวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและจริงจัง
ตามกฎที่ประกาศโดยมูลนิธิรางวัลวิทยาศาสตร์ลู่โจว การประเมินรางวัลจะดำเนินการโดยคณะกรรมการประเมินผลระดับมืออาชีพ พวกเขามุ่งมั่นเพื่อหลักของความเท่าเทียม ความยุติธรรม ความเปิดกว้างและความโปร่งใส
รางวัลลู่โจวแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ชั่วคราวซึ่งครอบคลุม 5 สาขาวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และวิทยาการสารสนเทศ
กระบวนการคัดเลือกโดยพื้นฐานแล้วเหมือนกับกระบวนการของรางวัลโนเบล ในทุกๆ ปีจะมีการคัดเลือกผลงานวิจัยในปัจจุบันหนึ่งผลงานที่มีคุณค่าทางวิชาการที่โดดเด่นที่สุด และอย่างมากที่สุดนักวิจัยสามคนที่มีผลสัมฤทธิ์ที่โดดเด่นที่สุดในด้านการวิจัยจะได้รับเกียรตินี้
ตามกฎที่ร่างโดยมูลนิธิรางวัลวิทยาศาสตร์ลู่โจว ทางสตาร์สกายเทคโนโลยีจะอัดฉีดเงินทุนเริ่มต้นจำนวนหนึ่งหมื่นล้านหยวนเพื่อลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทค และใช้รายได้ 30% ต่อปีในส่วนของค่าธรรมเนียมการจัดการมูลนิธิและค่าใช้จ่ายทั่วไป เงินรางวัลอย่างน้อยสิบล้านหยวนจะตกเป็นของผู้ชนะในปีนี้
ส่วนที่เหลือจะฝากเข้ากองทุนเพื่อสร้างรายได้ให้กับมูลนิธิเพื่อจ่ายโบนัสในอนาคต ฝ่ายบริหารของมูลนิธิจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเพิ่มจำนวนรางวัลและกำหนดรางวัลทางวิชาการใหม่หรือไม่
นอกเหนือจากการปรับจำนวนรางวัล มูลค่าของรางวัลจะเพิ่มขึ้นทุกปีตามอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางออกเพื่อให้มั่นใจว่าเงินรางวัลจะยังคงมีกำลังซื้อเท่าเดิม
ในขณะเดียวกันรางวัลดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนและรับรองโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนอีกด้วย
หากกองทุนเกิดการล้มละลายหรือไม่จ่ายโบนัสเนื่องจากการจัดการที่ผิดพลาดและเหตุผลอื่นๆ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะรับผิดชอบ 50% ของค่าใช้จ่ายโบนัสและซื้อมูลนิธิเมื่อจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ารางวัลจะยังคงมีอยู่ต่อไป
อันที่จริงความกังวลนี้ไม่จำเป็นเลย เพราะภูมิหลังทางเทคนิคของสตาร์สกายเทคโนโลยีและมรดกอันยิ่งใหญ่ที่ลู่โจวทิ้งไว้ ทำให้เขาร่ำรวยมากกว่าตัวโนเบลเองด้วยซ้ำ
ในระหว่างการดำเนินการของกองทุน รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือด้านนโยบายบางประการเพื่อวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมไฮเทคและส่งเสริมกิจกรรมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
เช่นเดียวกับที่สวีเดนเปิดไฟเขียวให้กับมูลนิธิรางวัลโนเบลเสมอมา
“การสำรวจทางวิทยาศาสตร์ต้องใช้ความทุ่มเท ในขณะที่ส่งเสริมการอุทิศตน เราควรพิจารณาถึงผู้ที่มีส่วนสนับสนุนเยาวชนของตนในด้านวิชาการด้วย”
“เป้าหมายเดิมของโบนัสนี้คือการจัดหาสิ่งชดเชยทางวัตถุและทางจิตวิญญาณแก่ผู้ที่กำลังดิ้นรนบนเส้นทางแห่งวิทยาศาสตร์ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลกับการดำรงชีวิตของตัวเอง
“ในเวลาเดียวกัน เราก็เชื่อว่าเงินก้อนนี้จะมีบทบาทที่สำคัญในมือของพวกเขา”
หลังจากการกล่าวเปิดงานเฉินยู่ซานใส่เช็คที่ลงนามโดยลู่เสี่ยวถงลงในกล่องบริจาคสีน้ำเงินต่อหน้าต่อตาแขกทุกคน
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วห้องประชุม
รางวัลที่ตั้งชื่อตามนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ของโลกถือกำเนิดขึ้นในวันนี้
มันถูกกำหนดให้เป็นดาวรุ่งในโลกวิทยาศาสตร์
ไม่เพียงเพราะเงินรางวัลที่มากมาย แต่ยังเป็นเพราะชื่อที่ให้ความหมายพิเศษแก่มันด้วย
ขณะที่ผู้ชนะทั้งห้าคนขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับเงินรางวัล เฉินยู่ซานซึ่งเดินลงจากเวทีไปก่อนหน้านี้ ถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มนักข่าว
“สวัสดีครับคุณเฉินยู่ซาน คุณจัดการแถลงข่าวนี้ขึ้นมาในฐานะอะไรครับ”
เฉินยู่ซาน “ก็หลายฐานะนะคะ ที่สำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นฐานะของซีอีโอของสตาร์สกายเทคโนโลยี ตัวแทนของคุณลู่เสี่ยวถง และคู่หมั้นของลู่โจว”
“เราต่างก็รู้ดีว่าวันที่ 10 ธันวาคมเป็นวันประกาศรางวัลโนเบล แล้วทำไมคุณถึงเลือกวันที่พิเศษแบบนี้ในการแถลงข่าวเพื่อประกาศรางวัลวิทยาศาสตร์ลู่โจวล่ะครับ คุณมีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่า”
“แน่นอนว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ เพราะวันนี้เป็นวันที่พิเศษสำหรับเขาและฉัน”
นักข่าวอีกคนยื่นไมโครโฟนออกมาจากข้างๆ
“แปลว่าคุณต้องการระลึกถึงเขาด้วยวิธีการนี้เหรอคะ”
เฉินยู่ซานมองไปที่เขาและถาม “ค่ะ มีปัญหาอะไรเหรอ”
นักข่าวที่ถามคำถามนี้รู้สึกอายเล็กน้อยและตอบอย่างเก้ๆ กังๆ
“เอ่อ เปล่าค่ะ เราก็แค่สงสัยแค่นั้นเอง…”
การสัมภาษณ์ใช้เวลาไม่นาน หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาถึง พวกเขาก็พาตัวเฉินยู่ซานออกจากห้องประชุม
ในขณะที่เธอกำลังจะไปที่ห้องจัดเลี้ยงเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่กำลังจะมาถึง ชายสองคนในชุดทางการสีดำเดินผ่านฝูงชนตรงมาที่เธอ
“สวัสดีครับคุณเฉิน เรามาจากกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ สำนักงานที่ 15”
เนื่องจากพ่อของเธอทำงานในรัฐ เฉินยู่ซานจึงมีความเข้าใจในหน่วยงานของรัฐเป็นอย่างดี เธอจำได้คร่าวๆ ว่าสำนักงานที่ 15 ดูเหมือนจะมีหน้าที่หลักคือการรับผิดชอบในการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรองและการจัดการข้อมูลภาพ
เฉินยู่ซานมองไปที่ชายคนนั้นและพูด
“มีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าคะ”
“เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วยานอวกาศขนส่งเดินทางกลับจากดาวอังคารและได้นำโบราณวัตถุที่เป็นของนักวิชาการลู่กลับมาด้วย โบราณวัตถุนั้นมีชิ้นส่วนข้อมูลของรูปโฮโลแกรมที่เขาทิ้งไว้ หลังจากที่ตรวจสอบเนื้อหา การสั่งห้ามทางข้อมูลถูกยกเลิก เนื่องจากเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวข้องกับคุณ เราก็เลยมาที่นี่เพื่อมอบมันให้กับคุณโดยเฉพาะ”
“ขอโทษนะครับที่ใช้เวลานานขนาดนี้”
ชายคนนั้นยื่นกระเป๋าเอกสารในมือให้อย่างสุภาพและก้มหัวเล็กน้อย
เฉินยู่ซานเปิดผนึกและนำชิปที่อยู่ด้านในกระเป๋าเดินทางออกมา
เธอคุ้นเคยกับชิปลักษณะแบบนี้ มันคือการ์ดความทรงจำสำหรับเทคโนโลยีภาพฉายโฮโลแกรมที่ปล่อยโดยสตาร์สกายเทคโนโลยี
“ขอบคุณค่ะ…” เฉินยู่ซานมองไปที่ทั้งคู่และพูดอย่างสุภาพหลังจากได้รับการ์ด “พวกคุณทานอะไรมาหรือยังคะ”
“ยังครับ แต่เรายังมีธุระที่ต้องจัดการ เพราะฉะนั้นเราอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน”
ชายคนนั้นยิ้มและพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็เดินจากไปพร้อมเพื่อนร่วมงาน
เสี่ยวถงมองชิปที่อยู่ในมือของเฉินยู่ซาน
“พี่ฉันทิ้งนั่นไว้เหรอ”
“ใช่”
หยาดน้ำตาไหลลงบนกระเป๋าเอกสาร
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้า เฉินยู่ซานพยายามอดกลั้นความเศร้าเสียใจในหัวใจ หลังจากที่ใจเย็นลงแล้ว เธอพูดต่อ “ไว้ค่อยเล่นมันในช่วงงานเล่นมื้อเย็นทีหลัง”
“จะเป็นความคิดที่ดีเหรอ” เสี่ยวถงกระซิบ
“ดีสิ เขาไม่ได้เป็นของฉันคนเดียวนะ”
เขาเป็นของคนทั้งโลก…
งานเลี้ยงมื้อค่ำกำลังจะเริ่มขึ้น
เจ้าหน้าที่ย้ายโปรเจคเตอร์โฮโลแกรมมาไว้ตรงกลางฮอลล์จัดเลี้ยง
ทุกคนมองโปรเจคเตอร์ด้วยสายตาแห่งความสงสัย
เฉินยู่ซานที่สวมชุดราตรีสีดำ เดินมายังกลางฮอลล์จัดเลี้ยงและพูด
“ก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น ฉันอยากจะให้พวกคุณดูบางอย่างที่ถูกถ่ายไว้ที่ฐานวิจัยวิทยาศาสตร์บนดาวอังคาร”
“มันคือสิ่งที่นักวิชาการลู่หลงเหลือไว้”
ห้องทั้งห้องเงียบไป
ความสนใจของทุกคนจับจ้องมาที่เธอ
เฉินยู่ซานพยักหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ และถอยออกมา
เครื่องถูกเปิด ควันลอยขึ้นมา รูปโฮโลแกรมที่พร่ามัวปรากฏตรงหน้าทุกคน
ทันทีที่พวกเขาเห็นภาพ ทุกคนต่างก็อึ้งไป คนมากมายอ้าปากค้างและเอามือป้องปาก
ลู่โจว!
ตัวเป็นๆ !
แต่…มันเป็นเพียงภาพฉายโฮโลแกรมเท่านั้น
ลู่โจวพูดด้วยรอยยิ้ม
“ผมรู้ว่าวิดีโอนี้น่าจะถูกฉายอยู่หลายครั้ง ตอนที่คุณได้เห็นมัน ผมอาจจะไม่ได้กลับไปอีกสักพัก…หรือบางทีผมอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วก็ได้”
ลู่โจวยิ้มและพูด
“ขอโทษนะ ผมประหม่านิดหน่อย เพราะสุดท้ายคนหนุ่มอย่างผมก็ยังมีเรื่องที่ค้างคาอีกมากมายในชีวิต ผมไม่มีประสบการณ์ในการเตรียมคำพูดสุดท้าย”
“มันคงจะดีถ้าไม่มีใครเจอวิดีโอนี้ แต่ถ้าหากเกิดเรื่องโชคร้ายขึ้นและโลกเจอวิดีโอนี้…คุณอย่าเสียใจเพราะการจากไปของผมเลยนะ”
“ชีวิตก็คือการเดินทางที่มีการเริ่มต้นและมีจุดสิ้นสุด สุดท้ายทุกคนก็ต้องจบแบบเดียวกัน บางครั้งการที่วันสุดท้ายมาถึงเร็วก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร ตราบใดที่ระหว่างทางมันยอดเยี่ยม”
“บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับนิสัยของผมก็ได้ ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอะไร ได้โปรดอย่าร้องไห้เพราะผมเลยนะ”
“การสำรวจทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว แม้ว่าวัฒนธรรมของบ้านเราจะไม่ชอบเสี่ยง แต่ผมไม่คิดว่ามันจะถูกต้องเสมอไป ไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีชีวิตอย่างที่เรามีอยู่ทุกวันนี้”
“ความคิดเหล่านั้นเป็นความคิดที่จริงที่สุดในตอนนั้น อีกอย่างอย่าโทษคนที่ไม่ได้ห้ามผมเลยนะ…ถ้าคุณได้เห็นวิดีโอนี้ นั่นก็แปลว่าทุกอย่างที่ผมทำมาจากการตัดสินใจของตัวผมเอง”
“ผมอยากจะขอโทษพ่อแม่ของผม ญาติของผมและเพื่อนๆ ผมอาจจะ…ไปในที่ที่ไกลแสนไกล”
“แต่ไม่ต้องห่วงผมนะ ผมจะอยู่กับคุณเสมอ เหนือกาลเวลาและความว่างเปล่า”
“สุดท้ายนี้ ผมอยากจะให้เวลากับที่รักของผม… ผมรู้ว่าวิดีโอนี้จะถูกเล่นอีกหลายครั้ง แต่ให้พื้นที่ส่วนตัวกับผมบ้างเถอะนะ”
ภาพของลู่โจวสูดลมหายใจเข้าและพูด
“ผมสัญญากับคุณไว้ว่าผมจะขอคุณแต่งงาน…”
“แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณจะได้ดูวิดีโอนี้ในวันที่ 10 ธันวาคมหรือเปล่า แต่…ผมก็ยังอยากจะถามคุณ…”
“คุณจะแต่งงานกับผมไหม”
ห้องจัดเลี้ยงเงียบสนิท
ราวกับว่าเวลาหยุดไปชั่วขณะ
ลู่โจวแทบจะรู้สึกว่าการบันทึกวิดีโอของเขาเป็นเรื่องตลก เขาเกาหัวด้วยความอายและยืนตัวตรงอีกครั้ง
“ผมขอโทษนะที่การขอแต่งงานครั้งนี้อาจจะดูไม่จริงจัง แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำลวกๆ เลยนะ ผมหวังว่าคุณจะไม่มีทางรู้ว่าผมหัดพูดหน้ากระจกอยู่หลายต่อหลายครั้ง”
“ส่วนแหวน ผมขอโทษที่ไม่สามารถให้แหวนกับคุณด้วยตัวเอง ผมวางไว้ใต้หมอน…ถ้าผมไม่ได้กลับไป หวังว่าคุณจะเจอมันและสวมมัน…”
หลังจากที่ได้พูดทุกอย่างที่เขาอยากจะพูด ในที่สุดภาพโฮโลแกรมของลู่โจวแสดงรอยยิ้มที่โล่งใจบนใบหน้าของเขา
“ผมอายจังที่แสดงอารมณ์แบบนี้ออกมา…”
“ถ้าไม่มีใครได้เห็นมันคงสูญเปล่าน่าดู…”
“แต่ถ้ามีใครได้เห็นมัน…”
ลู่โจวเงียบไปครูหนึ่งและกลืนน้ำลาย
“ถ้าคุณเห็นสิ่งนี้ คุณอย่าเพิ่งรับตัดสินใจและตกปากรับคำผมนะ”
“ปฏิเสธผม”
น้ำตาไหลออกมาจากตาของเธอ เฉินยู่ซานปิดจมูกด้วยมือของเธอและขัดจังหวะเขา
“ไม่!”
เธอวิ่งขึ้นไปบนเวทีและกอดภาพมายา
ควันอุ่นๆ ปกคลุมนิ้วมือและผมของเธอ ในที่สุดภาพนั้นก็หายไป
เธอคุกเข่าลงไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง
เธอร้องไห้ออกมา
“ฉันจะแต่งงานกับคุณ”