Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1423 ล่าขุมสมบัติข้ามศตวรรษ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1423 ล่าขุมสมบัติข้ามศตวรรษ
“นี่คือบัตรตรวจคนเข้าเมืองของคุณ เชิญรับไปด้วยครับ…”
“ขอบคุณครับ”
หลังจากที่ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดรับบัตรจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรและขอบคุณเขา เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็มองไปที่คนข้างหลังเขาด้วยท่าทีที่เฉยเมย
“คนถัดไป”
“…”
สถานีอวกาศแอตแลนติสเป็นสถานีถ่ายโอนวงโคจรพ้องคาบโลกร่วมกับกลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือ
ในฐานะที่เป็นสถานีการเดินทางของวงโคจรที่เจ็ดที่สร้างขึ้นโดยสหพันธ์สัมพันธมิตรมนุษย์ หน้าที่หลักของมันคือการถ่ายโอนบุคลากรและวัสดุไปยังพื้นดินและไปยังดวงจันทร์ และในขณะเดียวกันมันก็เป็นศุลกากรเดียวจากกลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือสู่ภายนอกโลก
ผู้คนหลายหมื่นคนเดินทางไปกลับจากที่นี่ บ้างก็ไปยังอาณานิคมบนดวงจันทร์ บ้างก็ไปยังอาณานิคมของดาวอังคารที่อยู่ห่างไกล หรือด่านหน้าบนจุดเลอเกรนจ์ทุกวัน
เนื่องจากการจราจรที่หนาแน่นขนาดนี้ แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรไม่มีอารมณ์ที่จะคุยกับเขา เจ้าหน้าที่โยนพาสปอร์ตที่ประทับตราแล้วและบัตรลงทะเบียนใส่มือเขา จากนั้นจึงทำตามขั้นตอนแบบเดียวกันกับผู้โดยสารคนต่อไป
เครื่องจักรไม่สามารถทำงานพวกนี้แทนได้เหรอ แต่ถึงอย่างไรพวกมันก็ครอบครองอุตสาหกรรมการบริการส่วนใหญ่ และอย่างน้อยพวกเขาก็ยิ้มให้ฉันได้
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดที่อารมณ์ไม่ค่อยดีได้เอื้อมมือออกไปคลิกที่นาฬิกาของเขา ขยายอินเทอร์เฟซแบบโฮโลแกรม
“พวกคุณอยู่ที่ไหนกันเหรอ”
บนโฮโลแกรมปรากฏใบหน้าที่มีผิวคล้ำในวิดีโอแชทที่ยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ
“เราเผชิญกับปัญหาเล็กน้อยครับ ไม่ต้องกังวลไปหรอก แต่ว่าหลักฐานของคุณได้ผลจริงๆ ใช่ไหม”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดพูดอย่างใจร้อน “นี่คือใบรับรองที่ออกโดยมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เราคือเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือ นี่เป็นครั้งแรกของคุณเหรอ ผมเริ่มจะสงสัยในความเป็นมืออาชีพของคุณแล้วนะ”
“อะแฮ่ม! อย่าสงสัยเราไปเลยครับ เราก็แค่กังวลเล็กน้อยเท่านั้นเอง ท้ายที่สุดคุณเองก็รู้สถานการณ์ปัจจุบันแล้ว สถานการณ์ด้านความปลอดภัยบนอาณานิคมของดาวอังคารแย่มาก… โอเค! ผ่านไปอย่างราบรื่น เราอยู่ที่นี่แล้ว!”
ชายผิวคล้ำตัวใหญ่โบกมือให้เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาและชายหนุ่มสองคนรวมถึงพนักงานหุ่นยนต์เดินตรงมาหาลีโอนาร์ด
“เฮ้เพื่อน! ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ!”
ลีโอนาร์ดหยิบนามบัตรจากกระเป๋าแล้วอ่านข้อมูลข้างใน เขาเลิกคิ้วและชำเลืองมองชายคนนั้นและพนักงานสามคนที่อยู่ข้างหลัง
“บริษัทแมมมอธ มายนิ่งเหรอ”
“ใช่แล้วครับ ผมชื่อจิม ส่วนสองคนนี้เป็นผู้ช่วยของผม ฮิวจ์จากอเมริกาเหนือและ ชินอิจิ ทานิงาวะจากเอเชียตะวันออก ไม่ต้องห่วงเกี่ยวกับหุ่นยนต์ชีวจักรกล แม้ว่ามันจะดูเก่าไปหน่อย แต่ก็มีฟังก์ชันทั้งหมด”
ชายร่างสูงชาวอเมริกาเหนือและชายเอเชียร่างผอมที่อยู่ข้างๆ เขาพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อทักทาย
หลังจากแนะนำเจ้าหน้าที่ให้รู้จักแล้ว จิมก็มองไปที่ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดและยิ้มกว้าง
“ก็อย่างที่คุณเห็นนะครับ ว่าเราแข็งแกร่งพอๆ กับแมมมอธเลย เราเก่งเรื่องการขุดเจาะ”
ลีโอนาร์ด “…แมมมอธเจาะหลุมไม่ได้นะครับ”
อีกอย่างหน้าที่ในการขุดเจาะเป็นของเครื่องจักร ไม่ใช่มนุษย์
“อะแฮ่ม! นั้นมันไม่ใช่ประเด็น” จิมยกมือหนาๆ ขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ และตบไหล่ของศาสตราจารย์ลีโอนาร์ด “ไปดาวอังคารกันเถอะ เราจะพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพของเราด้วยการช่วยคุณค้นหาสมบัติเหล่านั้นเอง!”
จิมโบกมือและเดินตรงไปทางประตูทางออกขึ้นเครื่อง
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดรู้สึกกังวลกับการเดินทางไปดาวอังคารครั้งนี้…
…
หนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ราวต้นศตวรรษที่ 21 การเดินทางจากโลกไปยังดาวอังคารใช้เวลาอย่างน้อย 2 ถึง 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับช่วงเวลาในการบินอีกด้วย
ลีโอนาร์ด ที่เติบโตในศตวรรษที่ 22 นึกไม่ออกว่าจะมีใครที่สามารถทนกับการเดินทางที่ยาวนานเช่นนี้ได้
ผู้คนในสมัยนั้นมีอายุขัยเฉลี่ยน้อยกว่า 80 ปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระหว่างการเดินทาง ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ จึงไม่มีความบันเทิงในทุกแง่มุม แม้แต่จะอาบน้ำก็ยังเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
หลังจากที่ลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารด้วยลิฟต์โดยสาร ดร.ลีโอนาร์ด เดินลงบันไดพร้อมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นด้วยอาการเจ็บไหล่ ในที่สุดเท้าของเขาก็เหยียบพื้นแข็งเสียที
“… ในที่สุดเราก็มาถึงแล้ว”
สถานีปลายทางของเครื่องบินอวกาศตั้งอยู่ที่ชายขอบเมือง หลังจากผ่านด่านศุลกากรที่เชื่อมต่อกับห้องบัฟเฟอร์แล้ว พวกเขาเข้าไปในเมืองทันทีที่ออกจากด่านศุลกากร
ลีโอนาร์ดเงยหน้าขึ้นมอง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือฟิล์มแอโรเจลครึ่งวงกลมครอบคลุมท้องฟ้าเหนือเมือง
ราวกับโดมของเรือนกระจก ชั้นของฟิล์มแอโรเจลที่มีความหนาหลายเมตรนี้ล้อมรอบพื้นดินของทะเลทรายที่กว้างใหญ่เป็นวงกลม มันช่วยปิดกั้นรังสีพลังงานสูงจากอวกาศและมีบทบาทชั้นบรรยากาศ มันคอยรักษาอากาศบริสุทธิ์ในเมืองและทำหน้าที่เป็นท้องฟ้าสีฟ้าให้กับผู้อยู่อาศัยในเมือง
การตกแต่งภายในของเมืองนั้นน่าทึ่งเข้าไปอีก ดูเหมือนว่านักออกแบบนำทุกจุดมาใช้ประโยชน์สูงสุด เค้นคุณค่าจากทุกตารางนิ้วของที่ดิน
ท่อแต่ละท่อที่ปูด้วยโลหะผสมเหล่านี้เชื่อมต่อกับอาคารเสาเพื่อสร้างเครือข่ายถนนที่ซับซ้อนของเมืองทั้งเมือง
ในช่องว่างระหว่างตึกสูงๆ มีภูมิทัศน์สีเขียวที่ออกแบบโดยใช้พันธุวิศวกรรม ซึ่งเติบโตบนดินแดนที่แปลกใหม่แห่งนี้
เป็นการยากที่จะสรุปความยิ่งใหญ่ของเมืองนี้ด้วยประโยคเดียว
เป็นเหมือนโอเอซิสในทะเลทราย ดวงประทีปที่กระจายหายไปในคืนให้ความมืด
อันที่จริงนี่เป็นเรื่องจริง ในฐานะเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนดาวอังคารที่สร้างโดยสหการพาน-เอเชียน อาณานิคมบนดาวอังคารที่เรียกว่าเมืองเทียนกง ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ที่พัฒนาแล้วและมีราคาแพงที่สุดบนดาวอังคารเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดบนดาวอังคารอีกด้วย
เพราะอะไรจึงต้องเน้นย้ำถึงเรื่องความปลอดภัย…
เหตุผลจะถูกพูดถึงในภายหลัง
“เราจะพักที่นี่หนึ่งคืน หลังจากที่สินค้าถูกขนออกจากยานอวกาศขนส่งเราจะออกเดินทางไปยังแหล่งโบราณคดีทันที”
“ตกลง คุณเป็นหัวหน้า คุณบอกเรา เราแค่ขุด”
ชายผิวสีชื่อจิมยิ้มมุมปากและทำท่าทางเจาะรู ท่าทางของเขาไม่เพียงแค่ทำให้ลีโอนาร์ดคิ้วขมวด แต่ยังดึงดูดความสนใจของตำรวจแพนเอเชียที่ยืนอยู่ข้างเขาขณะปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย
ลีโอนาร์ดเบาเสียงลงและกระซิบข้างหูว่า “ผมหวังว่าคุณสร้างความเดือดร้อน อาณานิคมที่ใกล้ที่สุดของกลุ่มพันธมิตรทะเลเหนืออยู่ห่างออกไป 100 กิโลเมตร! หากเราถูกส่งกลับไปที่นั่น แผนการทั้งหมดของเราจะพังทลาย!”
การกระทำของพวกเขาเป็นที่รู้จักเฉพาะในกลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือและไม่ได้รับการอนุมัติจากสหการพาน-เอเชียน พวกเขาไม่ได้ส่งใบสมัครเป็นลายลักษณ์อักษรเลยด้วยซ้ำ! หากชาวเอเชียพบว่าพวกเขาไม่ใช่กลุ่มสืบสวนของบริษัทเหมืองแร่และพวกเขามาที่นี่ภายใต้ชื่อโบราณคดีเพื่อขุดซากอารยธรรมดาวอังคาร พวกเขาจะถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน
“ครับ ครับ ได้ครับ” จิมรีบแสดงรอยยิ้มขอโทษอย่างรวดเร็ว เขากล่าว “วางใจเถอะ คนเอเชียพวกนี้ไม่รบกวนเรากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอกครับ ไปกันเถอะ ไปหาโรงแรมกันก่อน”
“ผมจองโรงแรมออนไลน์ไปแล้ว”
แม้ว่าเครือข่ายบนดาวอังคารและเครือข่ายบนโลกจะเป็นอิสระเนื่องจากความล่าช้า แต่ข้อมูลของทั้งสองฝ่ายยังคงเชื่อมต่อกัน
ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วหรือช็อปปิง ทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านจุดบริการอินเทอร์เน็ต
ลีโอนาร์ดสวมแว่น AR และพบโรงแรมแคปซูลที่เขาจองไว้อย่างรวดเร็วเพราะป้ายบนท้องถนน
คนทั้งหมดพักผ่อนกันหนึ่งคืน แล้วมาที่ประตูทางออกในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่พิสูจน์เรียบร้อยแล้ว พวกเขาสวมชุดอวกาศแบบเบาและเดินผ่านห้องบัฟเฟอร์ที่ชายขอบเมือง
รถสำรวจและรถขุดของบริษัทขุดแมมมอธจอดอยู่ที่นี่
ลีโอนาร์ดมองดูอุปกรณ์วิศวกรรมทั้งสองชิ้นและป้ายบอกทาง เขารู้สึกว่าอุปกรณ์เหล่านี้ดูไม่เหมือนอุปกรณ์ของคนพวกนั้นเลย ดูเหมือนของที่เช่ามามากกว่า
“คุณแน่ใจหรือว่าอุปกรณ์พวกนี้เป็นของพวกคุณจริงๆ”
“เอ่อ แน่นอน… มีปัญหาอะไรเหรอครับ”
ลีโอนาร์ดจ้องไปที่ชายผิวคล้ำตัวใหญ่ครู่หนึ่ง แม้ว่าลีโอนาร์ดต้องการบังคับให้เขาพูดความจริงมากขนาดไหน แต่ก็สายเกินไปที่จะจ้างทีมก่อสร้างอื่น
อีกอย่างคณบดียังได้ถอนโปรเจกต์วิจัยของเขา การดำเนินการทางโบราณคดีนี้เขาจึงต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด เขาไม่สามารถจ้างทีมก่อสร้างที่แพงกว่าและน่าเชื่อถือกว่านี่ได้แล้ว
ลีโอนาร์ดถอนหายใจและวางมือบนไหล่ของจิม เขาลดเสียงลงแล้วพูด
“โอเค ผมหวังว่าพวกคุณจะเป็นมืออาชีพนะครับ เราต้องการขุดซากปรักหักพังจากเมื่อหลายพันล้านปีก่อน เพราะฉะนั้นเราต้องระวังให้มาก หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา มันจะเป็นการสูญเสียพื้นที่โบราณคดีทั้งหมด!”
จิมยิ้มยิงฟันและให้คำตอบ
“อย่ากังวลไปเลยครับ ผมรับประกันว่าโบราณวัตถุของอารยธรรมดาวอังคารจะถูกขุดออกมาในสภาพเดียวกับตอนที่ฝังไว้เลย!”
แม้ว่าจะมีความกังวลหมื่นอย่างอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีเวลาให้มองย้อนกลับไปอีกแล้ว
คนทั้งหมดขึ้นรถ โดยใช้แผนที่ที่ลีโอนาร์ดได้รับจากพนักงานบริษัทฮิดเดลล์ มายนิ่ง พวกเขาขับรถไปที่ด้านข้างของหุบเขาที่รอยแตกและหยุดที่หน้าเหมืองร้างแห่งหนึ่ง
ตรงทางเข้าเหมือง มีป้ายบอกทางและสิ่งกีดขวางบนถนนที่บริษัทฮิดเดลล์ มายนิ่งทิ้งไว้ แต่เมื่อพิจารณาจากระดับการสึกหรอและฝุ่นบนที่เกาะอยู่ ดูเหมือนว่ามันถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน
“คุณแน่ใจว่าอยู่ที่นี่จริงๆ”
ลีโอนาร์ดคลิกบนแผนที่โฮโลแกรมบนนาฬิกาและเปรียบเทียบคุณลักษณะของภูมิประเทศใกล้เคียงอย่างรอบคอบ เขามองไปที่เหมืองที่ดูไม่ชอบมาพากล
“มันควรจะอยู่ตรงนี้นะ”
ตามข้อตกลงระหว่างเขากับชาวเน็ตที่อ้างว่าเป็นดร.ซี ทั้งคู่ควรพบกันที่เมืองเทียนกงก่อนแล้วจึงดำเนินการร่วมกัน
แต่…
เพราะความเห็นแก่ตัวและความมั่นใจในความสามารถของตัวเอง เขาจึงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
วงการวิชาการเต็มไปด้วยการแข่งขัน ถ้าคนโง่เอาเรื่องต่อรองราคาออกมาแบบนี้ ลีโอนาร์ดรู้สึกว่าเขาต้องสอนบทเรียนให้กับดร.ซีเสียบ้างแล้ว
จิมมองไปที่ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดที่กำลังเปรียบเทียบแผนที่ เขาและเจ้าหน้าที่อีกสองคนมองหน้ากันด้วยสีหน้าแปลกๆ
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดขมวดคิ้ว
“อะไร”
“ไม่มีอะไร…” จิมยักไหล่ด้วยรอยยิ้มที่ไม่เป็นธรรมชาติ จากนั้นเขาก็มองย้อนกลับไปที่เจ้าหน้าที่สองคนของเขา เขาปรบมือและพูดว่า “ทุกคน ได้เวลาทำงานแล้ว”
การก่อสร้างบนดาวอังคารไม่เหมือนกับบนโลก เนื่องจากความแตกต่างของสภาพแวดล้อมทางแรงโน้มถ่วงและความหนาแน่นของอากาศ เทคนิคหลายอย่างที่ใช้ได้บนโลกจึงไม่จำเป็นกับที่นี่
เป็นไปไม่ได้ที่จะอาศัยแท่นขุดเจาะขนาดเล็กที่บรรทุกอยู่ด้านหลังรถสำรวจในการขุดอะไรก็ตาม
โชคยังดีที่ไม่ว่าบริษัทฮิดเดลล์ มายนิ่งจะล้มละลายหรือย้ายที่ตั้ง แต่พวกเขาได้ขุดเหมืองลึกลงไปใต้ดินหนึ่งกิโลเมตร และทิ้งรางแม่เหล็กธรรมดาไว้ลึกลงไปในเหมือง ซึ่งสามารถแก้ปัญหาส่วนใหญ่ให้กับพวกเขาได้
ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำจึงเป็นเรื่องง่ายมาก นั่นคือการขยายเหมืองให้เป็นไปตามทิศทางที่ระบุไว้บนภาพวาด
รถขุดเจาะถูกนำออกจากด้านหลังของรถสำรวจ ด้วยความร่วมมือของหุ่นยนต์ขับรถ เจ้าหน้าที่มืออาชีพทั้งสามคนที่เขาจ้างมาจึงเริ่มทำงานกันอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าคนเหล่านี้จะดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็ค่อนข้างมีประสิทธิภาพเมื่อทำงาน
หลังจากไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดของเหมืองร้างแล้ว ดอกสว่านที่ส่วนหน้าของแท่นขุดเจาะก็เริ่มขยับ
รถบรรทุกดินจำนวนมากถูกขนย้ายออกจากทางเข้าถ้ำ และในเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว เส้นทางที่หมุนเป็นเกลียวขยายถ้ำของเหมืองที่ถูกทิ้งร้างให้มีความลึกหลายสิบเมตร
จิมเดินไปข้างๆ ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ด เขาเช็ดฝุ่นออกจากหน้ากากแล้วถามว่า “คุณแน่ใจหรือว่ามีสมบัติของอารยธรรมดาวอังคารอยู่ที่นั่นจริงๆ”
“สมบัติเหรอ” ลีโอนาร์ดขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำนี้ “ผมจำไม่ได้ว่าเคยพูดว่ามีสมบัติอยู่ที่นั่น แต่มีโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าอยู่สองสามอย่าง… คุณควรจะขุดด้วยความระมัดระวังนะครับ ถ้าคุณมาถึงโครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้น ก็อย่าลืมหยุดและโทรหาผมด้วยนะ”
“โอ้ ผมรู้ครับ… ไม่ต้องห่วง” ชายผิวดำตัวใหญ่ชื่อจิมหัวเราะคิกคัก “ถ้าเราขุดเจอสมบัติ เราจะบอกให้คุณมาดูอย่างแน่นอน”
จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนออกมาจากช่องทางการสื่อสาร
“หัวหน้าครับ! พบอุโมงค์แล้ว! ดูเหมือนจะไม่ได้เกิดจากบริษัทฮิดเดลล์ มายนิ่งด้วย น่าจะเป็นซากอารยธรรมดาวอังคารที่หลงเหลืออยู่นะครับ?”
ก่อนที่จิมจะทันได้ตอบอะไร ลีโอนาร์ดก็กระโดดออกมาจากกระโปรงหน้ารถสำรวจ
“อุโมงค์เหรอ กว้างเท่าไหร่ เดี๋ยวก่อน พวกคุณหยุดก่อน… ผมขอไปดูก่อน!”
เขาไม่สนใจสีหน้าประหลาดใจของจิม เขารีบเข้าไปในเหมืองเพียงลำพังและเดินตามทางคดเคี้ยวไปที่ด้านล่างของเหมือง
ชาวอเมริกันชื่อฮิวจ์กระโดดลงจากที่นั่งนักบินและเดินไปหาเขา
“… เราขุดลึกพอหรือยังครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าควรไปต่อดีไหม”
ลีโอนาร์ดก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเดินไปที่ปากทางเข้าถ้ำ เขานั่งลงและคลำไปตามขอบทางเข้าอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ความตื่นเต้นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“เร็วเข้า ขุดต่อเลย! เราเจอแล้ว!”
ชาวอเมริกันชื่อฮิวจ์พยักหน้าอย่างรวดเร็ว เขากำลังจะหันหลังกลับไปและสั่งให้หุ่นยนต์ที่นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับเริ่มเจาะ แต่สว่านเคลื่อนที่ไปเองราวกับไม่สามารถควบคุมได้
กำแพงหินแข็งพังทลายลงทันที แท่นขุดเจาะขนาดใหญ่พุ่งตรงลงไปตามทางลาดแล้วพุ่งชนกำแพงที่เชื่อมต่อกับฝั่งตรงข้าม หุ่นยนต์หนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องนักบินทรุดตัวลงบนพวงมาลัยราวกับว่าหุ่นยนต์ตัวนั้นพังแล้ว
“บ้าเอ๊ย ทำไมมันถึงทำงานผิดปกติ! ซื้อของมือสองแบบนี้นี่มันไม่ดีเลยนะ!”
หลังจากที่สว่านที่ไม่สามารถควบคุมได้ชนเข้าไปในถ้ำ ประตูห้องนักบินก็พังจนไม่สามารถเปิดได้ หุ่นยนต์หนุ่มยังคงทรุดตัวลงบนพวงมาลัยแบบนั้น ฮิวจ์สบถแล้วเหลือบมองไปข้างหลังศาสตราจารย์ลีโอนาร์ด
“ดูสิ่งที่พวกคุณทำสิ!” ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดเดินเข้าไปในถ้ำแล้วบ่นด้วยความโกรธเคือง “ดูนี่สิ เสียหายมาก ผมก็แค่หวังว่าพวกคุณจะไม่ได้ชนเข้ากับโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าหรือตัวอย่างหลักฐาน! ห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด! ไม่อย่างนั้นเราจะถูกดำเนินคดี!”
ฮิวจ์ยืนอยู่ข้างๆ รถสำรวจ ส่วนจิมก็กำลังไล่ตามจากด้านหลัง ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดเปิดไฟฉายในมือแล้วเดินไปที่ถ้ำเพื่อสำรวจเส้นทางในอดีตต่อไป
อุโมงค์นั้นลึกมากจนเขามองไม่เห็นว่ามันจะสิ้นสุดที่ตรงไหน แต่เขารู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา
หลังจากพลิกกองหิน ในไม่ช้าเขาก็เห็นโลหะสี่เหลี่ยมสีขาวเงินที่มีความสูงประมาณสองเมตรและกว้างหนึ่งเมตรวางอยู่ด้านข้างของกำแพง
“… นั่นมันอะไรกัน!”
ลีโอนาร์ดเบิกตากว้างและมองไปยังสิ่งประดิษฐ์โลหะที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างเหลือเชื่อ
สัญชาตญาณของเขาบอกว่านี่ไม่ใช่อุปกรณ์ที่บริษัทฮิดเดลล์ มายนิ่งทิ้งไว้แน่ๆ นับประสาอะไรกับคนอื่นๆ
เขามั่นใจว่าพวกเขาเป็นคนแรกที่ก้าวเท้าเข้ามายังที่แห่งนี้อย่างแน่นอน!
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ…
“สมบัติของอารยธรรมดาวอังคาร!”
เสียงที่คุ้นเคยและไม่น่าพอใจของจิมดังมาจากช่องทางสื่อสาร ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดขมวดคิ้วและแก้ไขคำพูดของเขา
“มันเป็นมรดกทางวัฒนธรรม! คุณมันโง่ ทำไม”
เขาพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง
เพราะเมื่อเขาหันกลับมา มีปืนกำลังจ่อมาที่เขา
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดกลืนน้ำลาย จู่ๆ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากความไม่พอใจเป็นความตึงเครียดและความกลัวแทน
เขาไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมีปืนอยู่ในมือ คงไม่ต้องพูดต่อว่าเขาต้องการจะทำอะไร
เขารู้แค่ว่าถ้าไอ้โง่คนนั้นเหนี่ยวไก ต่อให้มันขูดแค่ผ้าบนชุดอวกาศของเขา อย่างไรเสียเขาก็ต้องตาย
จิมที่มีปืนพกแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่ในมือ ยิ้มอย่างขี้เล่น
“ผมทำอะไรได้บ้างนะ”
“ที่ผมกำลังพูดคือ ผมมันโง่ ช่วยดูหน่อยได้ไหมว่านี่คืออะไร”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดตัวสั่นเทา หลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้แต่ระบบควบคุมอุณหภูมิของชุดอวกาศก็ไม่สามารถทำให้เขาเย็นลงได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกปืนจ่อหัว
อย่างไรก็ตามคำอธิบายนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้จิมพอใจเลย
ชายผิวสียิ้มและพูดต่อ “ฟังดูเหมือนเป็นคำสั่งนะ”
“ได้โปรด…” ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดคุกเข่าลง เขาวางมือบนศีรษะแล้วขอร้องอ้อนวอน “ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจจะสั่งพวกคุณเลย…”
“อย่าทำแบบนี้เลยนะเพื่อน”
จิมเดินไปหาศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดแล้วนั่งยองๆ ลง เขาตบหน้ากากเบา ๆ ด้วยปากกระบอกปืนพร้อมรอยยิ้มที่โหดร้ายแล้วพูดว่า “พวกของผมและตัวผมเองต้องขอบคุณคุณนะ ถ้าไม่ใช่เพราะการรับรองทางโบราณคดีของคุณ เราก็ไม่สามารถออกจากโลกผ่านด่านศุลกากรของสถานีอวกาศแอตแลนตาได้”
ใบหน้าของศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดซีดเผือด
หมายความว่าพวกเขาเป็นผู้ลี้ภัยบนโลกหรือโจรสลัดทางอากาศที่หลบหนีระหว่างดาวอังคารกับแถบดาวเคราะห์น้อยของดาวพฤหัสบดีนี่เอง
แม้ว่าเขาเคยได้ยินมาโดยตลอดว่าดาวอังคารเป็นสวรรค์สำหรับอาชญากร แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ เกิดขึ้นกับนักวิชาการอย่างเขา…
“เราวางแผนไว้ว่าจะบอกลาคุณที่เมืองเทียนกง เราแค่ต้องการใช้คุณเพื่อหนีจากองค์การตำรวจสากลและเริ่มต้นชีวิตใหม่บนดาวอังคาร แต่ไหนๆ จากคุณก็พูดถึงโบราณวัตถุของอารยธรรมดาวอังคาร มันต้องมีสิ่งที่มีค่าอยู่ในนั้นแน่ๆ แล้วเราดันเกิดต้องการเงินทุนในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่” จิมพูดด้วยรอยยิ้ม เขาภูมิใจในความเฉลียวฉลาดของตัวเอง เขามองไปที่โลหะทรงลูกบาศก์ที่วางอยู่บนพื้นและพูดว่า “ผมไม่คิดจริงๆ นะว่ามันจะได้ผล”
“…”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดไม่โต้ตอบอะไรเลย เขาก้มศีรษะลงต่ำ
เขารู้ว่าอย่างไรเสียเขาก็คงไม่รอด อาชญากรพวกนี้ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยเขาไป
จิมชื่นชมสีหน้าของศาสตราจารย์ลีโอนาร์ด เขาใช้นิ้วชี้แตะไกปืนแม่เหล็กไฟฟ้าและพูดอย่างเป็นกันเองว่า “ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ด ถ้าคุณสามารถใช้ความรู้ของคุณบอกผมว่ากล่องเหล็กนี้คืออะไรและสามารถขายได้ราคาเท่าไหร่ ผมอาจจะปล่อยคุณไปก็ได้”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดกลืนน้ำลาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตอบอะไร
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบสนอง จิมก็ถอนหายใจและลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“อ้อ ดูเหมือนคุณจะเลือกแล้วสินะ”
เขาหยิบมีดที่ใช้ตัดเชือกจากเอวของเขา
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดหลับตาอย่างสิ้นหวัง แต่เมื่อเขาพร้อมที่จะตาย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืน
กระสุนปืนดูเหมือนมาจากที่ไกลๆ
จากนั้นก็มีเสียงดังกระหึ่ม มีบางอย่างตกลงบนพื้น
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดลืมตาขึ้นช้าๆ และพบว่าจิมเป็นคนที่ล้มลงกับพื้น
เขาสงสัยว่าชายคนนี้ถูกเพื่อนร่วมทีมทรยศหักหลังหรือไม่ เมื่อเขาเห็นหุ่นยนต์ชีวจักรกลที่ตัวเปื้อนเลือดเดินจากทางเข้าถ้ำอย่างช้าๆ
ความสั่นเทาไล่ขึ้นมาจนถึงหลังศีรษะของเขา ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดตัวสั่นและนั่งลงกับพื้นราวกับว่าเพิ่งจะเห็นผี
หุ่นยนต์…
โจมตีมนุษย์เหรอ?!
เขาไม่เคยได้ยินเรื่องที่คาดไม่ถึงเช่นนี้มาก่อน
มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ
หากมีอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บจากชีวจักรกล บริษัทที่ผลิตหุ่นยนต์ชีวจักรกลไม่เพียงจะถูกดำเนินคดีเท่านั้น แต่การผลิตทั้งหมดจะถูกยกเลิก และบุคลากรที่เกี่ยวข้องอาจถูกจำคุก!
“คุณคือใคร?”
หุ่นยนต์หนุ่มสะบัดเลือดที่แขน
มันเดินไปข้างศพของจิมและหยิบปืนพกแม่เหล็กไฟฟ้าที่ตกลงมา หลังจากที่ดูปืนนั่น มันก็ปักไว้ที่เอว
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่เยือกเย็นดังมาจากช่องทางการสื่อสาร
“อันตราย กำจัด”
ความรู้สึกกลัวแล่นเข้ามาในหัวใจของเขา
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดนึกถึง ‘ดอกเตอร์ซี’ ที่เขาไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ มาก่อน จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนตกหลุมพรางตั้งแต่อ่านกระดาษแผ่นนั้น
เขามองดูหุ่นยนต์หนุ่มที่กำลังเดินอยู่และถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “เจ้านายของคุณ… คือใคร”
“ใช่ดอกเตอร์ซีหรือเปล่า”
เดิมทีเขาคิดว่าชีวจักรกลหนุ่มจะไม่สนใจเขา แต่จริงๆ แล้วมันตอบสนอง
ด้วยประโยคสั้นๆ เพียงประโยคเดียว…
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”