Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1424 การเก็บตัวที่ยาวนาน
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1424 การเก็บตัวที่ยาวนาน
ศตวรรษหมายความว่าอย่างไร
สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว มันคือเวลาที่ถูกพูดถึงแค่ในหนังสือประวัติศาสตร์
มีแค่ไม่กี่คนที่อยู่ได้นานขนาดนั้น
และไม่มีใครเขียนในสมุดบันทึกของพวกเขาว่า ช่วงหน้าร้อนเมื่อศตวรรษที่แล้ว มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขา…
ถ้าผู้สังเกตการณ์ไม่มีอยู่จริง ชายที่ชื่อว่าลู่โจว ก็คงเป็นเหมือนนักศึกษาทั่วไปที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ จบการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ยดีเลิศ หลังจากนั้นก็หางานดีๆ ทำที่มีเงินเดือนมากมาย มีชีวิตการแต่งงานธรรมดาและมีลูก เขาก็คงมีชีวิตที่มั่นคง
แม้ว่าโลกหรือจักรวาลจะถูกทำลายในหลายร้อยหลายพันหลายล้านปี แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับผีเสื้อที่มีชีวิตอยู่เพียงสัปดาห์เดียว?
ใช้ชีวิตในปัจจุบันโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ไกลแสนไกล บางทีนี่อาจจะเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้วก็ได้
แม้แต่ตัวลู่โจวเองก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาจะเลือกเส้นทางอื่น
เส้นทางนั้นก็คือยกเลิกภารกิจในระบบและความสงสัยของเขาที่มีต่อจักรวาล หลังจากนั้นก็กลับไปยังโลกและใช้ชีวิตของเขาให้เต็มที่ ทิ้งปัญหาให้คนรุ่นหลังในอนาคต…
แขนกลถูกกดเบาๆ บนพื้นผิวโลหะที่เป็นน้ำแข็ง
เสียงแก๊สรั่วดังขึ้น ราวกับว่าปุ่มเปิดถูกสัมผัสและลูกบาศก์ที่รูปร่างเหมือนโลงศพก็เปิดขึ้นช้าๆ
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดมองทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาอ้าปาก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ตู้สำหรับหลับชั่วคราว…มันคือตู้สำหรับหลับชั่วคราวจริงๆ สิ่งเดียวกันกับที่ศาสตราจารย์เวอร์นัลได้อธิบายไว้ในบันทึกของเขา!”
“ฝักแช่แข็งที่ดูเหมือนศิลาฝังศพอยู่ในถ้ำที่กว้างขวาง พื้นผิวที่แกะสลักเข้าไปในหินนั้นเปรียบเสมือนคาถาที่ผนึกความทรงจำโบราณ มันมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าพีระมิดและกองทัพทหารดินเผา ชาวอังคารหวังว่าจะเข้าสู่ยุคใหม่โดยใช้ฝักนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญพันธุ์ของตัวเอง…”
ริมฝีปากของเขาสั่นระริก
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดจ้องไปที่โลงศพโลหะที่กำลังเปิดช้าๆ
จู่ๆ ชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ที่โด่งดังก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
นั่นเขา!
เขาจำข้อความนี้ในบทที่ 3 ข้อ 14 ของพันธสัญญาเดิมได้
[หลายพันคนกำลังรออยู่ในหุบเขาแห่งการตัดสินใจ วันที่พระเจ้าจะมาถึงในไม่ช้า]
แสงสีฟ้าสาดส่องเข้ามาในถ้ำและขับความมืดออกไป
ตู้โลหะถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์ สารละลายที่มีลักษณะมันอยู่ข้างในและชายที่แช่อยู่ในสารละลายปรากฏขึ้น
เขาลุกขึ้นนั่งช้าๆ พร้อมหมอกสีขาวที่ระเหยเป็นไอ
ราวกับอัศวินที่รอพระราชาเสด็จขึ้นสู่บัลลังก์ หุ่นยนต์ที่รออยู่ด้านข้างส่งมอบชุดอวกาศสำรองให้เขาด้วยความเคารพและช่วยให้เขาสวมมัน
ลู่โจวสูดอากาศจากถังออกซิเจนเข้าไป เขาฟื้นตัวจากความหนาวเย็นและปรับตัวให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาจับตู้สำหรับหลับชั่วคราวด้วยมือขวาและกระโดดลงไปพร้อมความช่วยเหลือของหุ่นยนต์
“คุณ…คุณ…”
ลีโอนาร์ดมองลู่โจวที่ยืนอยู่ตรงตู้สำหรับหลับชั่วคราว เขาจ้องไปที่เขาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อและพูดโพล่งออกมา “คุณ…”
ลู่โจวพูด “คุณมาจากอนาคตเหรอ”
ลู่โจวมองไปที่ชายที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เขาขยับแขนออกแล้วถามสั้นๆ “พลเมืองในอนาคต บอกผมทีว่าตอนนี้ปีอะไร? ผมหลับไปนานแค่ไหนครับ”
ประชากรบนโลกมีปริมาณเท่าไหร่ โลกอยู่ในความสงบสุขหรือเปล่า
มีคำถามมากมายที่ลู่โจวอยากจะถาม
ชายคนนี้จ้องไปที่ลู่โจว เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“ปีนี้เป็นปีค.ศ. 2125…”
“ค.ศ. 2125….”
ลู่โจวกลั้นหายใจอยู่สักพัก
ความทรงจำพรั่งพรูจากความคิดของเขาราวกับสายน้ำ ไหลเข้าไปในหัวของเขา
เขาสูดลมหายใจเข้าและหลับตา
เวลาผ่านไปนาน เขาถอนหายใจเบาๆ
“การเก็บตัวในครั้งนี้…
“ค่อนข้างยาวนาน”
…
ชีวิตของมนุษย์มีจุดจบเสมอ
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้ทำตามคำแนะนำของผู้สังเกตการณ์ในการเดินทางไปยังดาวอังคารและไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของซากปรักหักพัง สุดท้ายเขาก็ต้องแก่และตายในที่สุด
ความแตกต่างเดียวก็คือเขาจะตายช้าหรือเร็วแค่นั้นเอง
บางทีมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่เลือกยีนผู้พิทักษ์
ตามคำกล่าวของนายพลเรนฮาร์ท มนุษย์ยังคงห่างไกลจากการพยายามทำยาทั้งสามชนิดด้วยเทคโนโลยีของพวกเขาเอง
แม้จะมีระดับการดัดแปลงพันธุกรรมของคาลานเอ็มไพร์ พวกเขาก็ยังห่างไกลจากระดับที่สามารถทำให้บุคคลเป็นอมตะได้ การใช้เลือดของเขาเองเพื่อเอาชนะปัญหาระดับโลกถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แทนที่จะต้องเห็นคนรอบๆ ตัวเขาแก่และตายกันไปเรื่อยๆ บางทีวิธีที่สุดที่สุดก็อาจจะเป็นการเดินทางสู่อนาคต
และถ้ามีคนนำคำพูดสุดท้ายของเขากลับมา…
อย่างน้อยเขาก็มีโอกาสได้บอกลา
เขาไม่อยากคิดถึงโชคชะตาและความรู้สึกของเขามากขนาดนั้นในตอนนี้
เขาไม่ใช่คนที่มีนิสัยเวทนาตัวเอง มันไม่มีเหตุผลที่จะมองหาความเป็นไปได้อื่นๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
บางทีสักวันหนึ่งถ้าเขาเกิดเมาขึ้นมาแล้วเขาหวนนึกถึงอดีต เขาก็อาจจะระบายอารมณ์ออกมา…
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะทำแบบนั้น
การเดินทางในช่วงเวลานี้คือส่วนหนึ่งของแผนการของผู้สังเกตการณ์ มันคงใช้เวลาไม่นานกว่าที่เขาจะรู้สึกถึงคำชี้นำจากวอยด์
เขาต้องเข้าใจสถานการณ์โดยรอบโดยเร็วที่สุด…
ตอนที่เขาเดินไปข้างๆ ร่างไร้วิญญาณของชายที่ชื่อจิม คิ้วของลู่โจวกระตุกขณะที่มองเลือดไหลออกมาจากสมองของจิม
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นศพ แต่ศพนี้เป็นศพที่นองเลือดที่สุด…
“เขามีโทรศัพท์หรือเปล่า หรือว่าคอมพิวเตอร์ข้อมือก็ได้”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดอึ้งไปเล็กน้อย เขาตอบทันที “โทรศัพท์เหรอ เราไม่ใช่โทรศัพท์กันแล้ว…แต่คุณลองดูที่ข้อมือของเขาเผื่อว่าจะมีสายข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ลี้ภัยต่างชาติแบบเขาไม่น่าจะมีชิปในสมอง…”
ผู้ลี้ภัยเหรอ
ลู่โจวเลิกคิ้วขึ้น
เขาหยิบมีดที่อยู่บนพื้นและตัดชุดอวกาศที่อยู่บนแขนขวาของจิม
ลู่โจวพยายามเก็บอาการคลื่นไส้และถอดสายข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ที่หนาประมาณหนึ่งมิลลิเมตรจากมือของเขา
“สิ่งนี้ ผมควรจะใช้มันอย่างไร…”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดอ้าปาก เขากำลังจะบอกว่ามันอาจจะลำบากในการปลดล็อก แต่เขาเห็นหุ่นยนต์ที่ยืนใกล้ๆ เขาก้าวเข้ามาและนำสายข้อมือที่อยู่ในมือของลู่โจวไปเชื่อมต่อกับช่องเสียงตรงหน้าอกของมัน
กระแสข้อมูลสีเขียวเข้มส่องผ่านรูม่านตา และในไม่ช้า แผงโฮโลแกรมก็ถูกฉายต่อหน้าลู่โจว
[ปลดล็อก]
“…แค่นี้เองเหรอ เทคโนโลยีตอนนี้นี่สะดวกจริงๆ นะ”
ลีโอนาร์ด “…???”
ลู่โจวไม่สนใจผู้ชายที่นั่งคุกเข่าด้วยความตกตะลึงอยู่ เขาเอื้อมมือขวาออกไปและใช้นิ้วชี้ปัดหน้าจอสองครั้ง
ต้องขอบคุณอดีตที่น่าละอายของชายคนนี้ เขาเก็บความลับมากมายไว้กับตัว แทนที่จะจัดเก็บไว้ในคลาวด์
จากอีเมลในกล่องจดหมายของเขา ลู่โจวได้รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่อยู่ภายใต้หน้ากากของบริษัทแมมมอธ มายนิ่ง แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นผู้ลี้ภัยที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมและการขายสินค้า เนื่องจากตำรวจสากลกำลังจับตาดูพวกเขาอยู่ พวกเขาจึงพบกับชายที่ชื่อลีโอนาร์ดและได้รับใบรับรองการกวาดล้างภายใต้กิจกรรมทางโบราณคดี
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ผู้หลบหนีเหล่านี้ดูเหมือนจะมีข้อตกลงทางธุรกิจบางอย่างกับโจรสลัดทางอากาศที่ทำงานอยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวพฤหัสบดีและดาวอังคาร
หลังจากที่เข้าใจสาเหตุและผลกระทบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลู่โจวมองไปยังชายที่อยู่ข้างๆ เขาที่ดูเหมือนจะเป็นศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดด้วยสีหน้าแปลกๆ
ชายที่น่าสงสาร เขาอาจถูกเสี่ยวไอหลอกให้มาที่นี่และเกือบถูกอาชญากรยิงตาย
ขณะที่ลู่โจวกำลังจะปิดอีเมล จู่ๆ เขาก็พบอีเมลพิเศษ
มันคือรายการสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันอาจจะช่วยให้โจรสลัดทางอากาศที่อยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยซื้อเสบียงและจัดการกับสินค้าที่ขโมยมา
สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับอีเมลนี้ไม่ใช่เนื้อหาการซื้อขายทั่วไป สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของลู่โจวก็คือรหัสของผู้ส่ง
[องค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาลเหรอ]
ลู่โจวนึกถึงความล้มเหลวของทะเลบอลติกเมื่อหนึ่งศตวรรษก่อน และเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
ดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่…
“สวัสดี…”
เสียงทักทายดังมาจากช่องทางสื่อสาร ลู่โจวปิดแผงโฮโลแกรมและมองศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดที่อยู่ข้างๆ เขา
ลีโอนาร์ดถูกจับตาดูโดยหุ่นยนต์ที่กำลังถือปืนไรเฟิลในมือ เขายกมือขั้นอย่างสั่นเทาและพูดอ้อนวอน “คุณปล่อยผมไปได้ไหม ผมเป็นแค่เหยื่อ…แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของผมที่ขุดซากปรักหักพังโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตจากสหการพาน-เอเชียน แต่เพื่อเห็นกับการที่ว่าผมขุดคุณขึ้นมา คุณให้อภัยผมไม่ได้เหรอ”
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร เขาเดินตรงไปที่เขา
สายตาของศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดแฝงไปด้วยความสิ้นหวัง เขาต้องการที่จะต่อต้าน แต่เมื่อเห็นปืนในมือของหุ่นยนต์ เขาไม่สามารถรวบรวมความกล้าที่จะทำแบบนั้นได้ เขาหลับตาอย่างคนขี้ขลาด
เขาไม่น่ามาดาวอังคารเลย แผ่นดินที่โหดร้ายนี้เต็มไปด้วยอาชญากรรม คนชั่วช้า และโจรสลัดที่ไร้คุณธรรม…
ตอนที่เขาลืมตา เขาเห็นลู่โจวเอื้อมมือขวาออกมา
“ลุกขึ้นเถอะ”
“แม้ว่าเราจะมาจากคนละประเทศ คุณกับผมต่างก็เป็นนักวิชาการกันทั้งคู่ เราน่าจะมีภาษาที่เหมือนกัน”
“มันเกิดขึ้นเร็วมากจนมาต้องการคนแนะนำ… และเงินอีกเล็กน้อยเพื่อเดินทางกลับบ้าน”
ลู่โจวมองศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดและพูด
“ไม่ว่าพวกเขาจะใช้เงินตราอะไรก็ตามบนโลก มันคงจะดีถ้าคุณให้ผมยืมสักเล็กน้อย แล้วตอนที่ผมกลับโลก ผมจะมอบรางวัลให้อย่างงามเลย”