Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 143 หมื่นคนจากทั่วประเทศ

สำนักข่าวเหรินเหรินรายงานว่ารายการนักศึกษาอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดจะถูกระงับรายการอย่างไม่มีกำหนด แต่ตัวรายการถูกยกเลิกและจัดระเบียบใหม่ ใครๆ ก็รู้ว่าจะออกอากาศอีกครั้งนั้นเป็นไปไม่ได้

มีคนอ้างว่าเห็นทีมฝรั่งเศสอยู่ที่สนามบินเซี่ยงไฮ้

ทีมฝรั่งเศสนั่งอยู่ที่สนามบินรอขึ้นเครื่องกลับบ้าน

เมื่อมาถึงจุดนี้คนที่รอรอบไฟนอลของรายการก็ได้แต่แยกย้ายกันไปก่อน

อันที่จริงต่อให้ไม่มีเรื่องพวกนี้ แค่หลังจากสำนักข่าวเหรินเหรินรายงานข่าว ผู้ชมเกือบทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปแล้ว

มันไม่ใช่แค่การขโมยผลงานวิชาการเท่านั้น

แก้รูบิค หลับตาเล่นซูโดกุ โจทย์ สคริปต์…

การแสดงส่วนใหญ่เป็นการจัดฉาก

ผู้ชมพบแล้วว่าตนเองถูกหลอก ไม่มีอัจฉริยะอะไรทั้งนั้น มันเป็นแค่การแสดง

ดาราดังหลายคนที่ได้รับเชิญในตอนสุดท้ายของรายการก็ยกเลิกสัญญา

ท้ายที่สุดแล้วชื่อเสียงของรายการก็ด่างพร้อยไปแล้ว

ส่วนผู้รับผิดชอบหลัก ผู้กำกับจาง แม้ว่าเขาจะไม่ถูกไล่ออก แต่เขาก็ถูกย้ายไปอยู่ห้องปรินเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ ผู้นำของสถานีโทรทัศน์เป็นคนที่ลดตำแหน่งเขา ผู้กำกับจางที่มีชีวิตชีวาในรายการเหมือนมีอายุขึ้นเป็นสิบๆปีชั่วข้ามคืน

ใครที่โดนผู้นำสถานีโทรทัศน์ลดขั้นต่างก็จบเห่แล้ว

มันไม่ใช่แค่ผู้กำกับจางเท่านั้น

อู๋เหยียนย่ำแย่กว่านั้นอีก แม้ว่าเขาจะไปนิวซีแลนด์และหนีจากการถูกดำเนินคดีทางอาญา แต่ปริญญาของเขาก็ถูกเพิกถอน ชีวิตเขาจบสิ้นแล้ว

แม้จะเป็นแบบนี้ แต่มันก็ไม่เกินความคาดหมายของลู่โจว

นอกจากนี้เขายังแปลกใจกับ…

การคัดเลือกโครงการหมื่นอัจฉริยะ

โครงการหมื่นอัจฉริยะเป็นหนึ่งในสิบสองโปรเจกต์พัฒนาอัจฉริยะที่สำคัญที่ถูกพัฒนาโดยรัฐบาล

ปกติแล้วคนทั่วไปจะต้องรอการประกาศสู่สาธารณะในเดือนสิงหาคมเป็นอย่างน้อย

อย่างไรก็ตามลู่โจวได้รับการตอบกลับแล้ว

มหาวิทยาลัยได้ออกเอกสารและลู่โจวก็เริ่มเตรียมเอกสารแล้ว หนังสือยื่นคำร้องอ้างอิงจากคำแนะนำของศาสตราจารย์ถัง เขาเลือกข้อคาดการณ์ของปอลิญักเป็นโปรเจกต์วิจัยวิทยาศาสตร์

จากนั้น…

เอกสารหมื่นอัจฉริยะก็ถูกอนุมัติอย่างลึกลับ

ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้รับเงินทุนวิจัย 1.6 ล้านหยวนมาด้วยเช่นกัน

แม้ว่าลู่โจวจะเอาเงินก้อนนี้ไปใส่ในบัญชีตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็ใช้มันซื้อตั๋วเครื่องบิน เดินทางไปงานประชุม และจ่ายค่าเล่าเรียนได้

แน่นอนลู่โจวยังเป็นนักศึกษาปริญญาตรี อย่างไรก็ตามเขายังให้เงินเดือนกับตัวเองได้และยังสามารถปรับปรุงชีวิตของตนได้เล็กน้อย เขาแค่ต้องเขียนรายงานค่าใช้จ่ายทุกปีและส่งความคืบหน้างานวิจัยของเขา

นอกจากเงินทุนวิจัย ก็ยังมีการสนับสนุนนโยบายจากแหล่งอื่นๆ

อาจกล่าวได้ว่าการสนับสนุนนโยบายเหล่านั้นคือกุญแจหลัก ส่วนเงินทุนเป็นเรื่องรอง

ท้ายที่สุดแล้วมีไม่กี่คนเท่านั้นที่ยื่นคำร้องขอเงินทุนเพราะมีเงินไม่พอ

ลู่โจวไม่คิดเลยว่าเอกสารยื่นคำร้องจะผ่านการอนุมัติเร็วขนาดนี้

เมื่อเขามองดูเอกสารและใบรับรองที่เขียนว่า’เยาวชนชั้นนำ’ เขาก็รู้สึกพึงพอใจเล็กน้อย

บางทีมันอาจเป็นภาพลวงตา?

ไม่ว่ายังไงเขาก็นับว่าเป็น’นักวิชาการหนุ่ม’แล้ว

บางทีเขาอาจอายุน้อยที่สุดด้วยซ้ำ

…

หลังจากลู่โจกลับมหาวิทยาลัย เขาก็ยุ่งอยู่กับการยื่นคำร้องโครงการหมื่นอัจฉริยะ เขาหยุดทำวิทยานิพนธ์จบการศึกษาและภารกิจของระบบก็เสร็จไปหนึ่งจากทั้งหมดสิบห้าเท่านั้น

ฉันปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้แล้ว

ลู่โจวมองใบรับรองโครงการหมื่นอัจฉริยะในมือแล้วส่ายหน้า

ฉันต้องขยันให้มากขึ้น

ฉันต้องทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จก่อน

มันดึกเกินไปที่จะไปห้องสมุด ลู่โจวจึงหยิบโน๊ตบุ๊คแล้วเริ่มเขียนวิทยานิพนธ์บนโต๊ะทำงานในหอพัก

ทันใดนั้นเองหวงกวงหมิงก็เปิดประตูห้องเข้ามา

สือช่างที่กำลังจูนเสียงกีตาร์อยู่หันมามองหวงกวงหมิงแล้วถาม “นายเป็นไร?”

หวงกวงหมิงถอนหายใจแล้ววางกระเป๋าลง เขากล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ไม่มีอะไร มันจบแล้ว”

หลิวรุ่ยมีความสุขที่เห็นความทุกข์ของเพื่อน แต่เขาก็ยังถามอย่างเป็นกังวล “เฉียนฮวา?”

หวงกวงหมิงพยักหน้าหนักๆแล้วถอนหายใจ “ใช่ เราไปอ่านหนังสือด้วยกัน แต่ผลลัพธ์ไม่น่าพอใจนัก ฉันเลยกลับมา”

ลู่โจวกระแอมแล้วกล่าว

“มันเป็น…เพราะฉัน?”

หวงกวงหมิงส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ ฉันไม่อาจยอมรับคนที่กล่าวหาเพื่อนฉันลับหลัง แถมยังใช้วิธีกลับขาวเป็นดำ…”

เขายิ้มแล้วกล่าวต่อ “ช่างมันเถอะ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว เราเป็นแค่เพื่อนกัน…ถ้าคบกันจริงๆ มันคงน่ารำคาญที่ได้ยินแฟนเรียกผู้ชายคนอื่นว่าสามีๆตลอดทั้งวัน”

สือช่างถอนหายใจ “โอ้ ฉันคิดว่าสาวคนต่อไปนายต้องประสบความสำเร็จแน่”

หวงกวงหมิงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย “พี่เฟยขอบคุณ นายพูดดีเสมอเลย”

“นายอยากให้ฉันเล่นเพลงให้นายมั้ย?”

หวงกวงหมิงโบกมือเป็นพัลวัน “ไม่ๆๆ ไม่จำเป็นขนาดนั้น”

ในทางกลับกันลู่โจวรู้สึกแย่

เขาคิดมาตลอดว่าเฉียนฮวากับหวงกวงหมิงเหมาะสมกันดี

ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนมองโลกในแง่ดี แม้ว่าทั้งสองจะมีข้อเสีย แต่จะมีใครกันที่สมบูรณ์แบบ?

แต่ถึงกระนั้นถ้าให้เขาเลือกอีกครั้ง เขาก็ไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นมาปกป้องผลการวิจัยของตนเอง เรื่องนี้ไม่อาจประนีประนอมได้ เพราะมันเป็นเรื่องของหลักการในฐานะนักวิชาการ

ลู่โจวกล่าว “งั้น…ฉันเลี้ยงข้าวนายเป็นไง?”

หวงกวงหมิงพยักหน้าทันที “ตกลง”

ความเร็วการตอบของเจ้าหมอนี่เกือบทำให้ลู่โจวตอบสนองไม่ทัน

ตอบตกลงเร็วดีเนอะ…

ลู่โจวรู้สึกเหมือนเขาถูกหลอก…

…………………………