Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1439 ยินดีต้อนรับบุคคลจากอนาคต
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1439 ยินดีต้อนรับบุคคลจากอนาคต
ลู่โจวไม่เคยคิดว่าเขา คนที่ไม่เคยให้คนนอกนอนในบ้านของตัวเอง คนที่ส่งแขกกลับบ้านในตอนดึกจะคุยกับคนอื่นจนดึกดื่นแบบนี้
หลังจากที่เห็นคนที่มาจากยุคเดียวกันอีกครั้งทำให้เขารู้สึกคิดถึงบ้าน
ลู่โจวเรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานจากหลี่เกาเหลียง รวมไปถึงความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นจากมุมมองของคนที่หลับไปชั่วคราว
“คืนนี้คุณควรจะพักผ่อนนะครับ”
หลังจากที่ดูเวลาบนจอโฮโลแกรม หลี่เกาเหลียงมองลู่โจวและพูด “พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะครับ ผมจะพาคุณไปหาที่อยู่ เดือนนี้ผมมีวันหยุดแค่สองวัน ผมจะต้องกลับไปก่อนวันมะรืน ถ้าคุณต้องการอะไรผมจะพยายามช่วยคุณพรุ่งนี้”
ลู่โจวพูด “คุณมีวันหยุดทั้งหมดแค่นี้เองเหรอ”
ถ้าพูดตามหลักเหตุผลแล้ว วันหยุดน่าจะมีมากกว่าในอดีตใช่ไหม?
หลี่เกาเหลียงยิ้มอายๆ ขณะที่มือใหญ่ๆ ของเขาจับหลังหัวอย่างประหม่า
“เอ่อ…จะพูดว่าอย่างไรดี เทคโนโลยีภาพเสมือนในยุคสมัยนี้ดีมากๆ วันหยุดก็เลยไม่สำคัญสำหรับผม”
ลู่โจว “…”
ฉันว่ากองทัพสหการพาน-เอเชียนต้องปรับปรุงตัวบ้างแล้วล่ะ…
เขาหลับไปทั้งคืน
เช้าวันถัดมา ลู่โจวบอกลาเจ้าหน้าที่กงสุล ขณะที่กำลังเก็บกระเป๋าเดินทางเขายังได้รับการ์ดอวยพรทำมือจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าการ์ดใบนี้เป็นของเด็กน้อยที่เป็นลูกเรือเที่ยวบิน N-177
ชื่อของเธอไม่ได้อยู่ตรงหัวมุมการ์ด ข้อความในการ์ดมีแค่สองบรรทัดเท่านั้น
[ขอบคุณนะคะฮีโร่ของหนู คุณช่วยชีวิตลิลลี่และคนอื่นๆ ไว้]
[ป.ล. ลิลลี่จะเล่าเรื่องราวของคุณให้เทลฟัง! :)]
ด้านหลังของการ์ดคือรูปเด็กผู้หญิงสองคน คนหนึ่งตัวสูงและคนหนึ่งตัวเตี้ย ทั้งสองจับมือกัน พื้นหลังคือดวงอาทิตย์ ท้องฟ้าสีฟ้า เมฆสีขาวและสนามหญ้าสีเขียว
แม้ว่ามันจะไม่ได้ดูสร้างสรรค์อะไร แต่มันก็เต็มไปด้วยจินตนาการของเด็ก
หลี่เกาเหลียงจับคางตัวเองและพูด “ผมไม่คาดคิดว่าจะได้เจอการ์ดกระดาษในยุคนี้”
“ผมจะเก็บไว้อย่างดี”
ลู่โจวเก็บการ์ด เขามองหลี่เกาเหลียงพร้อมรอยยิ้มและพูดต่อ “ได้เวลาไปกันแล้ว พาผมไปชมโลก 100 ปีข้างหน้าหน่อย
“ชีวิตของคนดีขึ้นไหม คนในสมัยของเราได้ตระหนักถึงอนาคตในอุดมคติของพวกเขาหรือเปล่า”
หลี่เกาเหลียงยิ้มยิงฟันและพูดพร้อมรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าทุกคนตระหนักหรือเปล่า แต่ผมพนันได้เลยว่าคุณอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าจะสำรวจยุคนี้หมด”
ลู่โจวมองไปที่ประตูสนามบินที่อยู่ใกล้ๆ ดวงตาของเขาเปล่งประกายและเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไปมหาวิทยาลัยจินหลิง แล้วก็ไปสถานที่ที่ผมเคยเรียนและทำงาน แล้วก็ไปที่อยู่เดิมของผมด้วย…”
แปลกไหมที่จะบอกว่าเป็นบ้านเก่าของฉัน?
ท้ายที่สุดฉันก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ทุกคนคิดว่าฉันตายไปแล้ว…
แต่ค่อยคิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ทีหลังก็ได้ สิ่งที่กำลังรออยู่ตรงหน้าเขาคืออนาคต!
เขาเดินผ่านประตูหลังที่กว้างขวาง แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านยอดไม้และตกกระทบบนพื้นดิน
ลู่โจวเลิกคิ้วและเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
สิ่งที่มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตาก็ไม่มีอะไรนอกจากอาคารสูงๆ ทางหลวงหกเลนที่กว้างขวางเต็มไปด้วยการจราจรที่ไม่รู้จบราวกับสายรุ้งที่อยู่ระหว่างอาคารสูงๆ
การลอยตัวด้วยแม่เหล็ก!
ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
คนแต่งตัวแปลกๆ เดินทางท้องถนนและภาพโฮโลแกรมที่สว่างไสวอยู่ทั่วไปหมด รถไฟที่แล่นระหว่างอาคารดูเหมือนจะเป็นเส้นทางในการเดินทางหลักของคนส่วนใหญ่ เพื่อชดเชยการขาดแคลนแสงอาทิตย์ที่เกิดจากอาคารสูงเสียดฟ้า ระบบแสงสว่างในหลายๆ พื้นที่จึงเปิดจ้าแม้แต่ในช่วงกลางวันก็ตาม
ศิลปะที่ซับซ้อนมีอยู่ทั่วทุกมุมถนน เช่นเดียวกับเกียร์แต่ละเกียร์ที่มีขนาดต่างกัน มันวิ่งด้วยความเร็วและจังหวะของตัวเอง เพราะความร่วมมือของ AI ทำให้ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
การสวมใส่แว่น AR เหมือนเดินทางอยู่ในเทพนิยาย
ความเหมือนจริงของมันคือไอซิ่งบนเค้ก อาคารทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยป้ายโฆษณาโฮโลแกรม
ผู้คนบนท้องถนนดูเหมือนเอลฟ์และสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์จากภาพยนตร์หรือรายการทีวี…รูปร่างหน้าตาของพวกเขาผ่าน AR เหมือนกับอวตารของพวกเขาในชุมชนภาพเสมือน
“ยินดีต้อนรับสู่ศตวรรษที่ 22! ผมเชื่อว่าคนที่ดาวอังคารคงจะต้อนรับคุณไปแล้ว”
“เปล่าเลย”
แม้ว่าเมืองเทียนกงจะเจริญรุ่งเรือง แต่รูปแบบมินิมัลลิสต์ก็น่าเบื่อเมื่อเทียบกับรูปแบบสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่บนถนนในเมืองจินหลิง
แน่นอนว่ามันเป็นเพราะพื้นที่บนดาวอังคารมีจำกัด
หลี่เกาเหลียงตบไหล่ลู่โจว เขายิ้มและพูด “คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ นี่คืออนาคตที่คุณจินตนาการไว้หรือเปล่า”
หลังจากที่ถอนแว่น AR ออก ลู่โจวเงียบอยู่นานก่อนที่จะพูดขึ้น
“มันยอดมากเลย…”
เขานึกไม่ออกว่าเมืองจะรุ่งเรืองกว่านี้ได้อย่างไรอีก
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลี่เกาเหลียงจึงบอกว่าเขาต้องใช้เวลาตั้งหลายปีในการสำรวจว่ายุคสมัยนี้มีดีอะไรบ้าง…
จู่ๆ ก็มีเสียงทักทายดังมาจากด้านหลังพวกเขา
“นี่ นี่ รอเดี๋ยว…”
ผู้ชายที่แต่งตัวมีสไตล์ไซเบอร์พังค์วิ่งตรงมาที่พวกเขาพร้อมกับโบกมือ เขาเข้ามาขัดจังหวะลู่โจวและหลี่เกาเหลียงที่กำลังเดินอยู่บนถนน
“เดี๋ยวนะ คุณ คุณคือลู่โจวจริงๆ เหรอ”
ลู่โจวมองไปที่ชายหนุ่ม แม้ว่าลู่โจวจะไม่ชอบการแต่งตัวของเขา แต่ลู่โจวก็ยังมองเขาและพูดอย่างเป็นมิตร
“ครับ ทำไมเหรอ”
สีหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่เต้นราวกับตัวเองได้รับรางวัล
“โอ้พระเจ้า! ผมเป็นแฟนคลับตัวยงของคุณ ผม…ผมขอถ่ายรูปกับคุณได้ไหมครับ”
แฟนคลับเหรอ?
ตอนที่ลู่โจวได้ยินว่าเขาเป็นแฟนคลับของลู่โจว เขายิ้มขึ้นทันที
ฉันไม่คิดเลยว่าคนจาก 100 ปีในอนาคตจะยังชื่นชอบฉันอยู่
“ไม่มีปัญหาครับ”
“เยี่ยม! รอเดี๋ยวนะ…”
ชายหนุ่มนำโดรนทรงกลมออกมาจากกระเป๋า เขาค่อยๆ โยนมันขึ้นฟ้า มันกางใบพัดออกและลอยไปในอากาศอย่างคล่องแคล่ว
ลู่โจวมองโดรนลำเล็กนี้ด้วยสายตาแห่งความสงสัย
แต่ดูจากสีหน้าของหลี่เกาเหลียงแล้ว สิ่งนี้น่าจะเป็นเรื่องปกติบนโลกนี้
มือของเขาบนไหล่ของลู่โจว ชายคนนั้นแสดงรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเขา
“มองกล้องหน่อยครับ ยิ้ม!”
ลู่โจว “…?”
โดรนส่งเสียงหึ่งๆ เบาๆ และบันทึกช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้
หลังจากที่ถ่ายรูปกันเสร็จ ชายคนนั้นเอื้อมมือออกไปคว้าโดรนอย่างชำนาญ เขาหันมายิ้มยิงฟันให้ลู่โจวและลูบไหล่ของเขา
“ขอบคุณนะพวก”
เขามองไปที่กล้องโดรนในมือและพูดด้วยความตื่นเต้นขณะที่เดินจากไป
“ทายสิว่าฉันเจอใครบนถนน! ลู่โจวไง มนุษย์แช่แข็งจากเมื่อร้อยปีก่อน! ทุกคน อย่าลืมติดตามและคอมเมนต์ด้านล่าง!”
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอโฮโลแกรม
[บ้าไปแล้ว]
[ให้ตายเถอะ! นายรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร รางวัลวิทยาศาสตร์ลู่โจวถูกตั้งชื่อตามเขา!]
[ฮ่าฮ่าฮ่า มนุษย์แช่แข็งอายุร้อยปี ตลกสิ้นดี! ติดตาม!]
[…(.•ˇ‸ˇ•.)]
“นาย…”
หลี่เกาเหลียงมองชายหนุ่ม จู่ๆ เขาก็รู้สึกโกรธ เขากำลังจะพุ่งตรงไป แต่ลู่โจวรับจับหลังเขาไว้เสียก่อน
เขาหันมามองลู่โจวด้วยความโกรธและพูด “อย่าห้ามผม ผมจะสั่งสอนเขาหน่อย!”
“อย่าใจร้อนสิครับ เขาก็แค่ล้อเล่น” ลู่โจวพูดพร้อมรอยยิ้ม “อีกอย่างผมยอมถ่ายรูปกับเขาเองนะ ปล่อยเขาไปเถอะ”
“คุณล้อเล่นหรือเปล่า?! เวรเอ๊ย! …”
เมื่อรู้ว่าสถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาจึงรีบวิ่งหนีไป
แม้ว่าความโกรธในหัวใจยังอยู่ แต่เขาก็คลายหมัดอยู่ดี
มันคงจะไม่สำคัญถ้าคนที่ถูกเย้ยหยันเป็นตัวเขาเอง
แต่คนคนนั้นเย้ยหยันลู่โจว!
เขาไม่มีทางยอมแน่ๆ
หลี่เกาเหลียงใจเย็นลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“คุณไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น ชายผู้ยิ่งใหญ่จาก 100 ปีที่แล้วคืนชีพ และเขาดันบังเอิญมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีโจรกรรมครั้งใหญ่บนเที่ยวบิน N-177 ตอนนี้คุณคือจุดสนใจของสื่อทั่วโลก เราออกมาจากประตูหลังของสนามบิน ไม่อย่างนั้นคุณต้องโดนขวางทางตรงทางเข้าสนามบินแน่ๆ
“ไม่ว่าอย่างไร เรามาเร่งหาที่อยู่ให้คุณกันดีกว่า ช่วงนี้ก็อย่าออกไปไหนถ้าไม่มีอะไรต้องทำ อย่าไปมหาวิทยาลัยจินหลิงหรือที่อื่น รอให้ความสนใจซาลงกว่านี้หน่อย!”
ลู่โจวยักไหล่ราวกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ
จริงๆ แล้วมันก็ถูก
ตอนนี้เขาอายุมากกว่า 100 ปี เขาคือคุณตาเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ และเขาไม่ได้สนใจชายที่เรียกร้องความสนใจ
แม้แต่ก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่สนใจมุมมองของคนทั่วไปที่มีต่อเขาขนาดนั้น
คนคนหนึ่งไม่สามารถเป็นตัวแทนของยุคสมัยได้ ไม่ว่าเสียงของคนนั้นจะดังแค่ไหนก็ตาม เวลาจะทำให้การประเมินมรดกของพวกเขาถูกต้องและยุติธรรมอย่างแน่นอน
อีกอย่างความหมายของการพัฒนาทางสังคมคืออะไร
ไม่ใช่เพื่อให้คนรู้สึกพอใจเหรอ
“จริงๆ แล้วอย่าอ่อนไหวไปหน่อยเลยครับ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเที่ยวบิน N-177 เหรอ”
“โจรพวกนั้นคือโจรสลัดอวกาศและมันเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารสหการพาน-เอเชียนที่แถบดาวเคราะห์น้อยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สถานการณ์ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ ผมก็เลยไม่ค่อยมั่นใจเรื่องนั้น…คุณรอดออกมาได้อย่างไร”
ลู่โจวกลอกตาเบาๆ
“ผมไม่อยากจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้นเท่าไหร่ คุณให้เวลาผมหน่อยได้ไหมครับ หรือคุณมาที่นี่เพื่อสอบสวนผม”
หลี่เกาเหลียงรีบพูด “ไม่ๆ ผมก็แค่ถามเฉยๆ ! ถ้าคุณไม่อยากพูด ก็ไม่ต้องพูด อีกอย่างผมอยู่ข้างคุณอยู่แล้ว”
ลู่โจวพยักหน้าและตอบด้วยรอยยิ้มขอบคุณ
“มันก็อธิบายได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่… มันเหมือนกับว่าผมได้รับความช่วยเหลือจากแฮ็กเกอร์”
“แฮกเกอร์เหรอ”
ลู่โจว “ครับ”
“…คาดไม่ถึงเลย” หลี่เกาเหลียงพึมพำด้วยท่าทางแปลก ๆ “ไม่ใช่ว่าไม่มีแฮ็กเกอร์หรอกนะ ก็แค่การเข้ารหัสควอนตัมและเทคโนโลยีการสื่อสารเชิงควอนตัมมีที่นิยมแล้วตอนนี้ การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ด้านความปลอดภัยแทบจะไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน”
“จริงเหรอ?” ลู่โจวไม่ได้อธิบายอะไร เขายิ้มและพูด “บางทีอาจจะมีวิธีอื่นก็ได้นะ”
ผู้ชายที่แต่งตัวมีสไตล์กำลังวิ่งหนีไปจากที่ไกลๆ
ดูเหมือนว่าโดรนถ่ายทอดสดจะเสีย และไม่สามารถควบคุมได้บนท้องฟ้า ในที่สุดก็ตกลงไปข้างๆ
ลู่โจวและหลี่เกาเหลียงยิ้ม พวกเขากำลังจะเดินต่อไป แต่ได้ยินคนเรียกมาจากด้านหลัง
“เดี๋ยวนะ…”
“อีกแล้วเหรอ”
หลี่เกาเหลียงหันหลังและเห็นชายชาวต่างชาติวิ่งตรงมา เขาก้าวเข้าไปขวางลู่โจวทันที
ลู่โจวรีบเอื้อมมือออกไปจับบ่าของหลี่เกาเหลียง
“ไม่ต้องห่วง เขาเป็นคนรู้จักของผมเอง ต้องขอบคุณเขา ผมก็เลยกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย”
จริงๆ แล้วลู่โจวต้องการจะบอกว่าเขาเป็นเจ้าหนี้ แต่เนื่องจากลู่โจวเคยเป็นมหาเศรษฐี เขาต้องการรักษาหน้าก็เลยเปลี่ยนคำพูด
หลังจากที่ได้ยินลู่โจวบอกว่าเขาเป็นคนที่รู้จัก หลี่เกาเหลียงก็วางมือลงในที่สุด แต่เขาก็ยังมองมาที่ลีโอนาร์ดอย่างระมัดระวัง โดยคิดที่จะละสายตาจากเขา
“ไม่ต้องห่วงหรอกพวก ผมไม่ใช่คนเลว ผมชื่อลีโอนาร์ด ศาสตราจารย์ภาคโบราณคดีที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผมก็คือการได้ช่วยศาสตราจารย์ลู่”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดเอามือกุมเข่าพลางหอบ ในที่สุดเขาก็โล่งใจ เขากลอกตาและเงยหน้ามองลู่โจว
“ผมรอคุณทั้งคืนเลย ในระหว่างวันผมกำลังจะไปศุลกากรเพื่อตามหาคุณ แต่เจ้าหน้าที่ที่นั่นบอกว่าคุณหายไปแล้ว ผมก็เลยรีบวิ่งตาม… อึ๋ย คุณยืมเงิน 20,000 เครดิตจากผมและหายไปโดยที่ไม่บอกกันสักคำเลยนะ”
ลู่โจวพูดหลังจากกระแอม
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ผมจะจ่ายคืนคุณ ส่วนสหการพาน-เอเชียน…”
“นี่ 40,000 เครดิต”
หลี่เกาเหลียงขัดจังหวะลู่โจว เขาดึงรหัสการจ่ายเงินจากหน้าจอโฮโลแกรมบนสายรัดข้อมือของเขาและดันมันไปตรงหน้าศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“ผมจะจ่ายเงินที่เขายืมคุณเอง ตอนนี้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแล้ว”
แม้ว่าคะแนนเครดิตของสหการพาน-เอเชียนและกลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือจะเรียกเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วเป็นสกุลเงินสองสกุลที่แตกต่างกัน แต่อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองยังคงอยู่ระหว่าง 1 ถึง 0.9
“ไม่ใช่เรื่องเงินเหรอ ผมก็แค่อยากจะ…”
ลู่โจวเดาว่าศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดกำลังคิดอะไรอยู่ เขาถอนหายใจและเดินรอบๆ หลี่เกาเหลียง หลังจากนั้นเขาลูบไหล่ของเขา
“ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไรเพื่อนยาก ขอบคุณที่ช่วยนะ ผมสามารถเดินทางกลับบ้านเกิดได้หลายสิบล้านกิโลเมตร คุณคือเพื่อนคนแรกที่ผมเจอในยุคนี้ และผมก็ตื้นตันกับมิตรภาพนี้ ถ้าผมมีโอกาสในอนาคต ผมจะไปเยี่ยมคุณ”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดจับมือขวาของเขาแน่น
“ผมจะจำคำนี้ไว้! ลาก่อนเพื่อน จริงๆ แล้วผมมาที่นี่เพื่อบอกลาคุณ! พรุ่งนี้ผมจะบินกลับเกาะอังกฤษแล้ว จริงๆ แล้วผมไม่ได้คาดหวังรางวัลหรืออะไรหรอกนะ ในชีวิตจริงผมไม่ค่อยมีเพื่อนหรอก…ผมแค่หวังว่าคุณจะจำผมได้ในอนาคต”
“อีกอย่างการเดินทางไปดาวอังคารในครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมรู้สึกว่าผมได้เจอสิ่งที่มีความหมายมากกว่าแค่โบราณวัตถุศักดิ์สิทธิ์”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดใช้นิ้วของเขาในการส่งข้อมูลตัวตนของเขาจากแผงโฮโลแกรมไปยังสายข้อมือ เขายื่นมันให้กับลู่โจวและยิ้มยิงฟัน
“ตอนที่คุณสมัครบัตรประจำตัว อย่าลืมเพิ่มบัญชีภาพเสมือนของผมลงไปด้วย ถ้าผมมีโอกาสในอนาคต ผมจะมาที่พาน-เอเชีย หรือคุณจะมาหาผมที่กลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือก็ได้ เราจะได้เจอกันอีกครั้ง”
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดแสดงท่าทางบอกลาลู่โจวแล้วหันหลังเดินจากไป
ลู่โจวยิ้มให้และโบกมือ
แม้ว่าชายคนนี้จะบ่นตลอดการเดินทาง แต่ลู่โจวก็รู้สึกได้ว่าเขาใส่ใจจริงๆ
ลีโอนาร์ดแอบนำบางอย่างใส่กระเป๋าลู่โจวอย่างลับๆ ลู่โจวตื่นเต้นที่ได้เห็นว่ามันคืออะไร
หลี่เกาเหลียงมองเงิน 20,000 เครดิตที่เหลือ เขาพึมพำ “ช่างเป็นคนที่แปลกจริงๆ ”
จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปรับเงินค่าโฮโลแกรมที่จ่ายไปครึ่งหนึ่ง
“ขอบคุณ ผมจะจ่ายเงินคืนทีหลัง”
หลี่เกาเหลียงพูดจริงจัง “คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายคืนผม โลกทั้งใบคือการตกผลึกของปัญญาของคุณ ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถให้ทรัพย์สินทั้งหมดกับคุณก็ยังได้”
“คุณก็ชื่นชมกันเกินไปแล้ว ไม่เคยมียุครุ่งเรืองที่สามารถบรรลุได้ด้วยความแข็งแกร่งของคนเพียงคนเดียวหรอก” ลู่โจวพูดพร้อมยิ้ม “ไม่ต้องกังวลเรื่องของผมขนาดนั้นหรอก ผมเป็นมหาเศรษฐี แม้จะผ่านไปร้อยปี ผมก็จะไม่จนถึงขั้นต้องอยู่ตามท้องถนนหรอกครับ”
หน้าที่ของหลี่เกาเหลียงในเช้านี้ก็คือช่วยลู่โจวหาที่อยู่อาศัย หลี่เกาเหลียงสอนให้เขาใช้เทอร์มินอลส่วนตัวในการเชื่อมต่อกับคลาวด์ของเมือง และวิธีใช้คลาวด์ของเมืองเพื่อค้นหาที่พักใกล้เคียงที่มีให้เช่าอยู่ตอนนี้
แม้ว่าในยุคสมัยนี้จะมีตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ แต่ความต้องการของพวกเขาก็น้อยนิด
ข้อมูลส่วนใหญ่สามารถหาได้ในชุมชนเสมือน
การบริการแบบจุดต่อจุดที่สร้างโดย AI ช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้แต่ละคนในการหาข้อมูล และอัตรากำไรในการใช้ช่องว่างข้อมูลเพื่อให้ได้ราคาส่วนต่างก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่สลักสำคัญ หน่วยงานด้านอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ดำเนินการด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์เป็นหลัก และมูลค่าของการชำระเงินของพวกเขาสะท้อนให้เห็นการบริการสนับสนุนที่มีคุณภาพสูง แทนที่จะใช้ข้อได้เปรียบด้านข้อมูล
ลู่โจวได้เรียนรู้จากหลี่เกาเหลียงว่า ตั้งแต่ปี 1970 อาคารที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดในเมืองหลวงยังไม่ถูกขายให้กับเอกชน แต่ได้รับการพัฒนาและดำเนินการโดยบริษัทลีสซิ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลท้องถิ่น อาคารเหล่านั้นคือที่อยู่อาศัยให้เช่าสาธารณะในรูปแบบแฝง
ท้ายที่สุดอาคารก็สูงขึ้นเรื่อยๆ และสูงไปจนถึงหนึ่งร้อยหรือสองร้อยชั้น เนื่องจากการรื้อถอนบ้านและการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก ปัญหาทุกประเภทมาจากสิทธิในทรัพย์สินแบบดั้งเดิม
การที่จะคาดหวังว่ามือที่มองไม่เห็นของตลาดจะจัดสรรทรัพยากรได้อย่างสมบูรณ์เป็นเรื่องเพ้อฝัน สหการพาน-เอเชียนได้เรียนรู้บทเรียนนี้โดยการลบส่วนนี้ออกจากธุรกรรมในตลาด
อย่างน้อยก็ในภูมิภาคพาน-เอเชีย
นอกจากนี้บางครอบครัวที่ใส่ใจในคุณภาพชีวิตในยุคนี้ก็จะเลือกซื้อที่ดินที่อยู่อาศัยหมุนเวียนในเขตชานเมืองเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยของตนเอง
อย่างไรก็ตามคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะอาศัยอยู่ในใจกลางเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะที่สมบูรณ์ เช่าอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ปานกลาง และให้ความสำคัญกับโลกทางจิตวิญญาณอย่างชุมชนเสมือนจริงมากขึ้น
อย่างที่หลี่เกาเหลียงพูด เทคโนโลยีภาพเสมือนในโลกนี้อยู่ระดับที่เกินจินตนาการแล้ว
จินตนาการของผู้คนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่กว้างขึ้นได้เติมเต็มความคิดสร้างสรรค์ที่มีประสิทธิภาพในคอมพิวเตอร์ที่ขาดแคลนได้อย่างสมบูรณ์ และในขณะเดียวกันก็ตอบสนองความต้องการทางจิตวิญญาณของผู้คน
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 22 งานศิลปะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากระเบิดออกมาในรูปแบบของการระเบิด ในขณะที่ความเจริญรุ่งเรืองของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้พื้นที่อยู่อาศัยของผู้คนกว้างขึ้น มันก็ยังมีส่วนอย่างมากต่อความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมของอารยธรรมมนุษย์เช่นกัน
และสะท้อนให้เห็นในหลายๆ ด้าน
หลังจากที่ฟังข่าว ลู่โจวรู้สึกตื้นตัน
เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าอินเตอร์เฟสสมองคอมพิวเตอร์ที่เขาสร้างในตอนนั้นจะมีผลกระทบต่อโลกขนาดนี้
มากจนคนในอนาคต ไม่ว่าจะในเรื่องชีวิตหรือค่านิยม จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปอย่างสิ้นเชิงภายใต้อิทธิพลอันละเอียดอ่อนของเทคโนโลยีใหม่
หลังจากเปรียบเทียบอยู่หลายที่ ในที่สุดลู่โจวก็ตัดสินใจเลือกอพาร์ตเมนต์ขนาด 200 ตารางเมตรบนชั้น 100 ใกล้ถนนวงแหวนรอบที่สองในเมือง
สไตล์ที่ทันสมัยและเรียบง่ายช่วยให้เขาได้หลีกหนีจากสีโฮโลแกรมนีออน
ค่าเช่าไม่รวมค่าน้ำและค่าไฟ ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000 เครดิตต่อเดือน ตามกำลังซื้อของเครดิต ค่าเช่าราคานี้ถือว่าค่อนข้างแพง
แต่เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกและทำเลที่ตั้งทำให้ราคานี้ต่อรองได้
เดิมทีลู่โจวต้องการจ่ายด้วยตัวเอง แต่หลี่เกาเหลียงปฏิเสธและยืนกรานที่จะจ่ายค่าเช่ารายปีและเงินมัดจำสองเดือน
ลู่โจวต้องยอมรับความเมตตานี้ แต่เขาวางแผนที่จะตอบแทนในอนาคต
เนื่องจากการกลับมายังโลกของหลี่เกาเหลียงเป็นเพียงการลาชั่วคราว เขาต้องรีบกลับไปที่ฐานอวกาศลากรางจ์เพื่อกลับไปหาทีมก่อนวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ เขาทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้และตกลงที่จะเจอกันครั้งหน้า จากนั้นเขาก็ไปที่สนามบินอวกาศจินหลิง
ลู่โจวมองอพาร์ตเมนต์ทันสมัย เขานั่งลงบนโซฟาและจู่ๆ ก็รู้สึกถึงความว่างเปล่าในหัวใจ
เขากลับมาโลกแล้ว
แต่ก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป
เขารู้ว่ามันเป็นเพราะเขาไม่มีครอบครัวอยู่ด้วย แต่เขาไม่อยากจะคิดเรื่องนั้นตอนนี้
ไม่เหมือนทหารอย่างหลี่เกาเหลียง คนธรรมดาไม่มีเหตุผลที่จะต้องทิ้งพี่น้อง ทิ้งเพื่อน และทิ้งความสุขในปัจจุบันเพื่อเดินทางไปยังยุคสมัยที่ไม่รู้จัก
พูดตรงๆ ก็คือถ้าพวกเขาไม่เจอตู้สำหรับหลับชั่วคราวของเขา เขาก็คงตายไปแล้ว
ภายในห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่า ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าและภาวนาเงียบๆ ในหัวใจ
“ผมหวังว่าทุกๆ คนจะมีชีวิตที่สงบสุข…”
“ไม่ว่าคุณจะภูมิใจกับชื่อของผมหรือไม่ก็ตาม…”
“ผมจะรักคุณเสมอ”
หลังจากที่สูดน้ำมูก ลู่โจววางมือลง
ส่วนเรื่องที่ว่าจะไปเยี่ยมลูกหลานของเขาหรือไม่นั้น จริงๆ แล้วเขาค่อนข้างลังเลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ถ้าพวกเขาอยากจะเจอเขา ตอนที่พวกเขาได้ยินข่าวว่าเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็สามารถติดต่อเขาเข้ามาก่อนได้
แต่ถ้าพวกเขาไม่อยากจะเจอเขา เขาก็ไม่ควรไปรบกวนชีวิตของพวกเขา
เพราะสุดท้ายก็ไม่มีต้องการชีวิตที่ปกติสุขของตัวเองถูกทำลายโดยบรรพบุรุษที่โผล่มาจากไหนไม่รู้
“มีประชุมตอนบ่าย… ฉันคิดว่ามูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็ง”
ลู่โจวควบคุมแผงโฮโลแกรมด้วยการออกแบบ UI ที่แปลกประหลาด เขาส่งที่อยู่ของเขาไปให้คุณเค คนที่รับผิดชอบเรื่องขั้นตอนการกู้คืนข้อมูลประจำตัวที่ประธานหลี่กวงหยาเป็นคนจัดหามาให้
หน้าต่างข้อความก็ปรากฏขึ้นบนแผงโฮโลแกรมโดยที่เขาไม่ต้องรอนาน
[เจอกันบ่ายสามโมง]
ช่างเป็นคำตอบที่กะทัดรัดจริงๆ
ฉันชอบ
ลู่โจวไม่ชอบเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของงาน ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าได้ดีกับยุคนี้
ลู่โจวตอบ [โอเค] จากนั้นเขาก็รูดนิ้วชี้และปิดแผงโฮโลแกรม
เห็นได้ชัดว่ามูลนิธิพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแช่แข็งรวมบริการทางกฎหมายฟรี ตามรายงานของสหการพาน-เอเชียน ทนายความของมูลนิธิสามารถช่วยให้เขาได้รับเงินล่วงหน้าจากสายการบินพานเอเชียก่อนที่เขาจะสัญชาติคืน
กองทุนมรดกของลู่โจวที่เขาเตรียมไว้สำหรับอนาคตได้ถูกนำมาใช้กับตัวเขาเอง ทำให้เขารู้สึกตื้นตันเล็กน้อย
บางทีกรรมอาจจะมีจริงก็ได้
สักวันหนึ่งความดีที่เขาได้ทำในอดีตจะกลับมาหาเขา
ลู่โจวรู้สึกหิวเล็กน้อย เขากำลังจะลุกขึ้นและเข้าไปในครัวเพื่อหาอะไรทาน แต่จู่ๆ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
“มาถึงแล้วเหรอ?”
ลู่โจวเดินไปตรงทางเข้าและเปิดประตูด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
แต่สิ่งที่เห็นกับเหนือความคาดหมาย
คนที่ยืนอยู่ตรงประตูไม่ใช่ทนายความหรือพนักงานขายในชุดทางการ แต่เป็นเด็กสาวที่หน้าตาสวย
เธอสวมเสื้อโค้ทขาวยาวถึงหัวเข่า และมีบัตรประจำตัวสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงติดอยู่ตรงหน้าอก
สายตาของลู่โจวจับจ้องไปที่หน้าของเธอ เขาพยายามนึกว่าเธอคือใคร แต่หลังจากที่นึกอยู่นาน เขาก็จำไม่ได้จริงๆ ว่าหน้าของเธอเหมือนใครในความทรงจำของเขา
มันมีความสัมพันธ์ที่อธิบายไม่ได้ หน้าของเธอช่างสมบูรณ์แบบ จนดูไม่เหมือนมนุษย์ มันทำให้เขาสงสัยว่าเธอคือมนุษย์หรือภูตในเทพนิยายกันแน่
แต่ลู่โจวไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้
ดวงตาที่เหมือนไข่มุกเต็มไปด้วยน้ำตา
เขาไม่มีเวลากล่าวคำทักทายเธอด้วยซ้ำ หญิงแปลกหน้าวิ่งพุ่งเข้ามาใส่เขา
“เจ้านาย!!!”
“???”
ลู่โจวที่กองไปอยู่กับพื้น ดูตกตะลึงและสับสน
หรือว่าจะเป็นนักต้มตุ๋นที่พุ่งเป้ามาที่มนุษย์แช่แข็ง
หรือจะเป็นคนประเภทเดียวกับผู้ชายคนนั้น คนที่ชอบเรียกร้องความสนใจ
พระเจ้า เธอแข็งแรงจัง!
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้สูงเท่าเขา ตัวของเธอค่อนข้างเล็กด้วยซ้ำ แต่เขารู้สึกราวกับตัวเองโดนรถบรรทุกชน เขาขยับตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ
ตอนที่ซิลิกาเจลอุ่น ๆ กดลงบนใบหน้าของเขา ลู่โจวก็เริ่มคิด
แต่แม้ว่าเขาเกือบจะเป็นลม แต่เขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้น…