Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 144 ส่งวิทยานิพนธ์
เมื่อลู่โจวคิดว่าในที่สุดเขาก็กลับมาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยตามปกติ วิทยานิพนธ์ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดก็ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารคณิตศาสตร์ประจำปีฉบับล่าสุด
การตีพิมพ์วิทยานิพนธ์นี้ในที่สุดก็ทำให้ความพยายามของเขาจบลง
จากนั้นไม่นานชื่อของเขาก็ออกข่าว
มันเป็นสำนักข่าวหัวกั๋วชิงเหนียนที่รายงานข่าวนี้
แค่หัวข้อก็เต็มไปด้วยข้อมูลแล้ว
[นักวิชาการหนุ่มลู่โจวได้รับรางวัล Best Young Speaker Award ที่งานประชุมทางวิชาการพรินซ์ตันและได้แก้ไขปัญหาระดับโลกข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝด]
มันเป็นปาฏิหาริย์ที่ผู้เขียนข่าวคิดหัวข้อได้โดดเด่นสะดุดตาแบบนี้
[นี่เป็นความสำเร็จที่โดดเด่น ตอนนี้เราพูดได้อย่างมั่นใจแล้วว่าจำนวนเฉพาะคู่แฝดมีจำนวนเป็นอนันต์ – ปิแยร์ เดอลีงย์]
นอกจากนี้ในข่าวยังพูดถึงว่าลู่โจวถูกคัดเลือกให้เป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของโครงการหมื่นอัจฉริยะ
เมื่อรวมกับความวุ่นวายเรื่องขโมยผลงานเมื่อไม่นานมานี้ ข่าวนี้ก็ทำให้อินเทอร์เน็ตเดือดพล่านทันที
[เชี่ย โครงการหมื่นอัจฉริยะไม่ใช่ว่าต้องปริญญาเอกเป็นอย่างต่ำงั้นเหรอ?]
[แต่มีดอกเตอร์กี่คนเชียวที่สุดยอดเท่าลู่โจว?]
[คณิตศาสตร์เป็นสาขาของอัจฉริยะ…]
[ฉันหวังว่าฉันจะเข้าโครงการได้…]
[ท่านเทพแห่งการศึกษาคนนี้สุดยอดมาก!]
[พี่ลู่โค่นล้ม ‘นักศึกษาอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุด’!]
[อย่าพูดถึงดาราที่ตายแล้ว…]
ไม่เพียงแต่ในเว่ยป๋อเท่านั้น เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยใหญ่ๆก็กำลังคุยเรื่องนี้เช่นกัน
ณ เว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยเยี่ยน
[ฉันพึ่งเรียนคลาสทฤษฎีจำนวน และอาจารย์ก็พูดถึงชายคนนี้ ฉันอยากวาร์ปไปอยู่ที่นั่นดูเขาแก้ข้อคาดการณ์จริงๆ…]
[คุณสมบัตินี้เพียงอย่างเดียวก็เท่ากับปริญญาเอกแล้วมั้ง]
[ถูกต้อง แค่วิทยานิพนธ์ SCI หลักๆสองฉบับ ไม่ต้องพูดถึงผลการวิจัยก็สามารถจบปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยในประเทศจีนได้ทุกที่แล้ว แต่เขาเด็กเกินไป เราไม่อาจส่งมอบวุฒิปริญญาเอกเหมือนแจกลูกอมใช่ไหมล่ะ?]
[อัจฉริยะ!]
[แม้แต่อัจฉริยะก็ต้องเรียนรู้ แต่เขาไม่ได้เรียนวิธีเดียวกับคุณ ฉันได้ยินว่ามหาวิทยาลัยจินหลิงทำโปรแกรมฝึกอบรมอัจฉริยะให้เขาเป็นพิเศษเพื่อให้เขาได้ปริญญาเอกคู่ภายในสามปี]
[ฉันละอิจฉาจริงๆ]
[ชายคนนี้อาจได้รับเหรียญฟิลด์ในปี 2018 ไม่มีประโยชน์ที่จะอิจฉา อัจฉริยะแบบนี้ถูกปฏิบัติเหมือนเป็นสมบัติอยู่แล้ว ถ้าคุณอัจฉา ลองเปลี่ยนจากคณิตศาสตร์การเงินไปเรียนคณิตศาสตร์บริสุทธิ์สิ ตายอย่างเดียว]
[…]
…..
นอกจากสื่อใหญ่ๆ สื่อท้องถิ่นก็เขียนข่าวเรื่องลู่โจวเช่นกัน
[ช็อก! ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดถูกเขาพิสูจน์!]
[เขาไปเพื่อพรีเซ้นต์ แต่เขาได้แรงบันดาลใจและทำให้โลกตกตะลึง!]
มีข่าวบนอินเทอร์เน็ตมากมาย เขากวาดสายตาดูคร่าวๆก่อนจะตัดสินใจขังตัวเองอยู่ในห้องนอนแล้วทำวิทยานิพนธ์จบการศึกษา
เขาคิดว่าถ้าเขาไปห้องสมุด คนอื่นๆรอบตัวเขาคงไม่มีสมาธิ
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ เขาจึงเรียนในห้องตัวเองแทน
เขาวางแผนไปห้องสมุดหลังทำวิทยานิพนธ์เสร็จ เวลานี้เขายุ่งเกินกว่าจะไปทำภารกิจของระบบ
อย่างไรก็ตามตลอดสามวันมานี้เขาก็ไม่ได้อยู่แต่ในห้อง เขาไปบ้านของคุณนายหยางวันอาทิตย์เพื่อสอนหานเมิ่งฉีแก้ปัญหาคณิตศาสตร์
เขาไม่ได้ไปเพื่อเงินแล้ว แต่การไปคิดโจทย์คณิตศาสตร์ง่ายๆก็เหมือนเป็นการพักสมองมากกว่า
แน่นอนเขาไม่ปฏิเสธการขึ้นค่าจ้างของคุณนายหยาง
เหตุผลอื่นนอกจากคลายสมอง อาจเป็นความรู้สึกของการประสบความสำเร็จ
นักเรียนของเขาเปลี่ยนจากนักเรียนโง่ไปเป็นอัจฉริยะ มันเหมือนกับเธอเป็นต้นไม้ที่เขาคอยรดน้ำทุกวัน
แน่นอนนี่เป็นเพราะพรสวรรค์ของหานเมิ่งฉีเช่นกัน ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ก้าวหน้าได้เร็วขนาดนี้
ก่อนหน้านี้ลู่โจวคิดว่าเด็กคนนี้แพ้ทางวิทยาศาสตร์กับตรรกะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะคิดผิด
อย่างน้อยในหนึ่งเทอมเมิ่งฉีก็ได้ทำแบบฝึกหัดทั้งหมดแล้วตามการสอนของอาจารย์ทัน เธอผลักดันตัวเองจากคะแนนคาบเส้นจนได้ร้อยสามสิบห้าคะแนนได้ไม่ยากเลย
ถ้ามันไม่ใช่เพราะระบบ พรสวรรค์ตามธรรมชาติของตัวลู่โจวเองคงประมาณเด็กคนนี้
โดยไม่สนใจที่สื่อพูดถึง ลู่โจวมองตนเองเสมอว่าเป็นคนขยัน ไม่ใช่อัจฉริยะ
เหตุผลที่เขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจินหลิงได้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับที่เขาเป็นอัจฉริยะหรือไม่ แต่มันเป็นเพราะหยาดเหงื่อ เลือดและน้ำตา
หลังจากสอนพิเศษจบ ลู่โจวก็สวมผ้ากันเปื้อนแล้วไปทำอาหารในครัว เขาทำเนื้อผัดพริกหยวกและเต้าหู้มาโฝของโปรดของเด็กคนนี้ นี่นับเป็นรางวัลที่เด็กคนนี้สอบได้ดี
คุณนายหยางยังไม่กลับจากทำงาน ดังนั้นทั้งคู่ทานด้วยกันสองคน
ลู่โจวก็เริ่มคุยเรื่องการเรียนกับเธอ
“ผมตรวจหนังสือคณิตกับฟิสิกส์เธอแล้ว ผมจะบอกหัวข้อที่เธอต้องเรียนเพิ่ม ผมสอนเธอได้ไม่มากนัก เดือนมิถุนา เธอคงไม่ต้องการผมแล้วมั้ง”
เธอต้องเรียนรู้ด้วยตนเองและเสริมสร้างความรู้เพิ่ม
หานเมิ่งฉีกระซิบ “นายจะไปเรียนต่อต่างประเทศ?”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วกล่าว “อาจเป็นปีหน้า มหาวิทยาลัยมีแผนส่งผมไปเรียนปริญญาเอกที่พรินซ์ตัน เพื่อให้ผมไปอยู่บนเวทีวิทยาศาสตร์ที่สูงขึ้น”
ปีหน้าเขาก็จะได้รับปริญญาโท มหาวิทยาลัยจินหลิงไม่มีอะไรสอนเขามากนัก
มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องส่งเขาไปอยู่ในเวทีการศึกษาที่สูงขึ้น
หานเมิ่งฉีดูเศร้าเล็กน้อย “โอ้ เข้าใจแล้ว แล้วนายจะกลับมาไหม?”
ลู่โจวพูดติดตลก “กลับมาสิ ผมอาจกลับมาในฐานะศาสตราจารย์”
หานเมิ่งฉีเงยหน้า “จริงๆนะ? งั้นตอนฉันเรียนมหาวิทยาลัย ฉันเป็นนักเรียนปริญญาโทของนายได้ไหม?”
คณิตศาสตร์บริสุทธิ์ไม่ใช่วิชาที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมือถือ
อย่างไรก็ตาม…
ครอบครัวของเธอร่ำรวย ดังนั้นมันจึงไม่สำคัญนัก
หานเมิ่งฉีพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น “ใช่! ฉันชอบคณิตศาสตร์บริสุทธิ์!”
“เธอแน่ใจเหรอ?”
“ฉันแน่ใจ!”
ลู่โจววางตะเกียบลง “ตกลง แต่ผมต้องบอกเธอก่อน จะมาเป็นศิษย์ผมไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างน้อยเธอก็ต้องเข้ามหาวิทยาลัยด้วยคะแนนสี่สิบอันดับแรก”
หานเมิ่งฉีกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด!”
………………………………….