Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1450 อุตสาหกรรมสีเทา
สถานที่ตั้งของที่อยู่ที่หวังเหวินเฟิงให้มานั้นอยู่ไม่ไกลมากนัก ลู่โจวสามารถเดินมาที่นี่ได้เลย
หลังจากตั้งค่าการนำทางบนแว่นตา AR ลู่โจวก็เดินมาตามถนนประมาณ 200 – 300 เมตร เลี้ยว 2 ครั้ง และไม่นานก็มาถึงตรอกเล็กตรอกหนึ่ง
วินาทีที่เขาก้าวเข้ามาในตรอกเล็กแห่งนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนได้กลับมาสู่ศตวรรษที่ 21 โดยฉับพลัน
ในตรอกเล็กแห่งนี้กว้างไม่เกิน 5 เมตร มีร้านค้าหลายร้อยร้านอัดแน่นอยู่ในตรอกนี้ ร้านค้าเหล่านี้ขายทั้งรองเท้า ฮาร์ดแวร์ ของชำ และของแปลกๆ บางอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
บางคนที่นี่แต่งตัวตามสมัยนิยม บางคนก็แต่งตัวอย่างเรียบง่าย แต่สิ่งที่ไม่มีข้อยกเว้นก็คือทุกคนต่างกำลังรีบ พวกเขาดูเหมือนจะเดินตรงไปยังจุดหมายปลายทางของตัวเอง มีน้อยคนที่เดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนี้
ด้วยเหตุนี้ถนนที่แออัดยัดเยียดนี้จึงดูค่อนข้างวุ่นวาย
เมื่อลู่โจวก้าวเข้ามาในตรอกเล็กแห่งนี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แต่เขาไม่เห็นดวงอาทิตย์ มีเพียงสีเหลืองจางๆ เล็กน้อย
ตึกสูงพวกนั้นดูเหมือนคูเมืองที่แยกท้องฟ้าออกไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากในตอนเที่ยงแล้ว ดวงอาทิตย์ก็คงแทบจะส่องแสงลงมาไม่ถึง
ลู่โจวมั่นใจว่าถ้ามันไม่มีป้ายนีออนส่องแสง ถนนก็คงจะมืดมาก
เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องบุกเข้าไปเยอะ เขาจึงไม่อ้อยอิ่งอยู่บนถนน เขาเดินตามป้ายนำทางในชีวิตจริงและเดินตรงไปยังจุดหมายของเขา
มีส่วนด้านหน้าตึกเล็กๆ ที่ถูกประกบอยู่ระหว่างร้านขายอาหารสไตล์โบราณกับร้านซ่อมแบตเตอรี่รถยนต์ รูปลักษณ์ที่ดูธรรมดาของมันทำให้คนไม่ได้ให้ความสนใจกับมันเลย
นอกจากป้ายนีออนอื่นๆ แล้ว ร้านนี้ก็ไม่ได้ป้ายที่ส่องสว่างใดๆ แต่การตกแต่งส่วนด้านหน้าตึกก็เรียบง่ายมากซึ่งก็มีประตูกันขโมยที่เป็นสนิมอยู่เพียงบานเดียวเท่านั้น
หานหมิง?
ลู่โจวอ่านคำสองคำบนป้าย เขายกมือขึ้นลูบคางตัวเอง
ฉันไม่รู้ว่านี่เป็นชื่อจริงหรือชื่อปลอมกันแน่
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดนี้ก็ไม่เกี่ยวกันแน่ๆ อยู่แล้ว
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่อยู่ในใจ ลู่โจวจึงถอดแว่นตา AR ออก เขายื่นมือออกไปแล้วเคาะประตู
ไม่มีการตอบรับจากด้านหลังประตู ไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย
ขณะที่ลู่โจวกำลังสงสัยว่าบุคคลผู้นี้อยู่ที่บ้านหรือไม่ ในที่สุดก็มีเสียงฝีเท้าที่ได้ยินไม่ถนัดนักดังมาจากหลังประตู
“นั่นใคร?”
เสียงที่แหบห้าวและแห้งดังมาจากหลังประตูผ่านลำโพง เสียงนั้นฟังดูเหมือนมีการผ่านกระบวนการทางดิจิทัล มันถูกดัดแปลงไปเล็กน้อย
ลู่โจวยิ่งรู้สึกสงสัยร้านนี้มากขึ้นเรื่อย เขาพูดอย่างระมัดระวังว่า
“คนที่ชื่อหวังเหวินเฟิง แนะนำที่นี่มาครับ”
หลังจากได้ยินชื่อนี้ในที่สุดประตูเหล็กก็เปิดออกมา ใบหน้าที่ซีดเผือดโผล่ออกมาจากเงา เขามองดูลู่โจวตั้งแต่หัวจรดเท้า
“…ลู่โจวเหรอ?”
“คุณรู้จักผมด้วยเหรอ?”
“ผมดูข่าว” ชายคนนี้ยิ้มนิดๆ เขาเปิดประตูให้กว้างขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ทางเข้านี่ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะจะคุยกัน เข้าไปข้างในก่อนเถอะ”
ทางเข้านั้นมืดมาก
หลังจากผ่านทางเข้าเข้าไป ในที่สุดพื้นที่นี้ก็สว่างยิ่งขึ้น
ลู่โจวมองไปที่ชายคนนั้นซึ่งน่าจะมีชื่อว่า หานหมิง ระหว่างที่เขาเดินตามหลังมา
ในตอนแรกที่เขาได้ยินเสียง เขาคิดว่าคงจะเป็นชายแก่อายุราว 60 ปีที่จะมาเปิดประตู เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นผู้ชายที่ยังดูหนุ่มทีเดียว
“นานแค่ไหนแล้วครับที่คุณไม่ได้ออกไปเจอแสงแดด?”
“ก็สักพัก…” หานหมิงผลักเปิดประตูตรงปลายทางเดิน หลังจากผายมือเชื้อเชิญ เขาก็เดินขึ้นมาก่อน “นี่คือสตูดิโอของผม สภาพออกจะสกปรกไปหน่อย หวังว่าคุณจะไม่ถือสา”
อย่างที่เขาพูด สภาพแวดล้อมในบ้านค่อนข้างสกปรกจริงๆ
มันไม่ใช่แค่สกปรก มันแทบจะรกยุ่งเหยิง
เมนเฟรมของคอมพิวเตอร์โฮโลแกรมสี่เครื่องถูกวางไว้ใต้โต๊ะ รหัสที่ยังจัดการไม่เสร็จอยู่ส่องแสงวาบอยู่ในหน้าต่างที่ลอยอยู่บนโต๊ะ ใกล้กับคอมพิวเตอร์มีโต๊ะผ่าตัดที่ถูกดัดแปลงมาจากเตียงเดี่ยว สิ่งที่นอนอยู่บนโต๊ะผ่าตัดไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นหุ่นยนต์ผู้หญิงที่ถูกแยกชิ้นส่วนออกมาครึ่งหนึ่ง
ขณะที่ลู่โจวมองไปที่ขาและแขนสีขาวที่ห้อยอยู่ใกล้ๆ เขา คิ้วของเขาก็กระตุกอย่างแรง
สายไฟถูกเชื่อมต่อกับอินเตอร์เฟส
ผู้ชายที่ชื่อหานหมิงยิ้มออกมาแล้วถามเขาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “มาที่นี่ครั้งแรกเหรอ?”
ลู่โจวถามว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”
“คนส่วนใหญ่ที่เขาแนะนำมาที่นี่ก็เป็นคนที่เพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก”
รอยยิ้มจางๆ นั่นให้ความรู้สึกที่อึดอัดเล็กน้อย แต่ลู่โจวก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเขา
ถึงจะไม่มีหนังสติ๊กแม่เหล็กสวมอยู่ที่ข้อมือขวาของเขา เขาก็ไม่คิดว่าชายคนนี้จะสามารถตั้งท่าข่มขู่เขาได้ โดยเฉพาะตั้งแต่ความสามารถด้านกีฬาของเขาอยู่เหนือค่าเฉลี่ย
ดวงตาของหานหมิงพินิจดูลู่โจวอย่างละเอียดอยู่สักพัก เขาหยิบถ้วยชามาจากโต๊ะ จิบชาขุ่นๆ แล้วพูดต่อไปอย่างสบายๆ ว่า
“จริงๆ แล้ว มันก็ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจหรอก ถนนแบบนี้จริงๆ ก็ปกติมากๆ ในเมืองนี้ ยิ่งตึกสูงมากเท่าไร เงาก็จะใหญ่ขึ้นมากเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะย้ายร้านตัวเองเข้าไปในย่านธุรกิจสักย่านหรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ โดยเฉพาะสำหรับคนที่เริ่มสูงวัย พวกเขาอยากจะใช้เวลาในบั้นปลายในร้านเดิม”
ลู่โจวพูดว่า “แต่คุณยังดูหนุ่มแน่น”
“จริงเหรอ? คุณก็เหมือนกัน นักวิชาการจากเมื่อร้อยปีที่แล้ว” หานหมิงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยเฉื่อยต่อไป “เอาล่ะ หยุดคุยเล่นเถอะ ผมไม่สนใจภูมิหลังของแขกของผม ผมไม่ได้สนใจเรื่องอดีตของพวกเขาเลย อธิบายจุดมุ่งหมายของคุณมา และผมจะดูว่าเราจะทำธุรกิจด้วยกันได้ไหม ถ้าเราต่างพอใจกันเช่นนั้นเราก็สามารถตกลงกันได้วันนี้เลย””
ลู่โจวพูดว่า “ที่นี่คุณให้บริการธุรกิจแบบไหน?”
“ผู้ชายที่ชื่อหวังเหวินเฟิงนั่นไม่ได้บอกคุณเหรอ?” หานหมิงพูดอย่างหงุดหงิดว่า “การดัดแปลงอุปกรณ์เสริมหุ่นยนต์ การปรับแต่งรูปลักษณ์พิเศษตามต้องการ การดัดแปลงตรรกะที่ซ่อนอยู่ใน AI… น่าจะประมาณนั้น”
ลู่โจวขมวดคิ้วนิดๆ
“การดัดแปลงตรรกะที่ซ่อนอยู่ใน AI? คุณทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?”
“วิธีการหลักๆ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ และผมก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยหุ่นยนต์คนหนึ่ง… บางทีลูกค้าบางคนก็มีความรู้สึกกับชีวจักรกลของพวกเขาและอยากจะเปลี่ยนตัวแบบที่ทำงานบ้านให้เป็นแบบอื่นเพื่อให้เข้ากับความต้องการทางกามารมณ์ของพวกเขา บางคนถ่ายรูปคนรักในฝันของพวกเขา นักร้องชื่อดัง หรือไอดอลเสมือนจริง และอยากจะให้สร้างหุ่นยนต์จำลองขึ้นมา”
“นี่เป็นเรื่องธรรมดามากในศตวรรษที่ 22 ไม่มีอะไรต้องประหลาดใจ”
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของหานหมิง ลู่โจวก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเลย
จากข้อมูลที่เขาพบในออนไลน์ แม้ว่าหุ่นยนต์ในยุคนี้จะเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง แต่การใช้งานและขอบเขตในการใช้งานพวกมันก็ยังถูกจำกัดอยู่
อย่างแรกคือ หุ่นยนต์แต่ละตัวจะมีรหัสที่สอดคล้องของมันเอง และรหัสนี้มีการติดต่อแบบหนึ่งต่อหนึ่งพร้อมกับการใช้งานของมัน วันที่ผลิต หมายเลขของผลิตภัณฑ์ และประเภทของ AI
จาก ‘มาตรการการบริหารจัดการ AI’ ของสหการพาน-เอเชียน หลังจากที่หุ่นยนต์ที่ปล่อยออกมาจากโรงงานจะไม่ได้รับอนุญาตให้มีการดัดแปลงระบบความทรงจำของหุ่นยนต์ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม มันเป็นข้อห้ามอย่างเคร่งครัดสำหรับผู้ใช้ในการจัดหาใบอนุญาตของนักพัฒนาผ่านช่องทางนอกระบบและดัดแปลงตรรกะที่ซ่อนอยู่ใน AI
อย่างไรก็ตามในวันนี้และยุคนี้หุ่นยนต์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของหลายครอบครัวและแม้แต่สังคมทั้งหมด อันตรายที่ซ่อนอยู่ที่เกิดจากการดัดแปลงระบบร่างกายของหุ่นยนต์ที่ผิดกฎหมายเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็สามารถจะมองเห็นได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
บางคนอาจจะแค่ต้องการให้หุ่นยนต์ของพวกเขาได้เรียนรู้คำบางคำที่ดีกว่านี้หรือเรียนรู้การวางท่าที่เหมาะสม แต่อาชญากรรมก็เป็นสิ่งไม่สามารถจะตัดออกไปได้ พวกเขาสามารถที่จะเขียนข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อาวุธลงในความทรงจำของมัน หรือแม้แต่เปลี่ยนร่างของมันให้เป็นเครื่องมือสังหารได้เลย
เมื่อการดัดแปลงเกี่ยวข้องกับตรรกะที่ซ่อนอยู่ของ AI อย่างเช่น การลบ ‘ข้อห้ามในการทำร้ายมนุษย์’ ออกไป พฤติกรรมที่ผิดกฎหมายและเป็นอาชญากรรมทั้งหมดก็จะกลายเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้
“คุณไม่กังวลเหรอว่านี่อาจจะก่อให้เกิดสิ่งคุกคามทางความปลอดภัย?” ลู่โจวขมวดคิ้ว “ยกตัวอย่างเช่น… เป็นเหตุให้หุ่นยนต์ที่ถูกดัดแปลงสูญเสียการควบคุมหรือจิตสำนึกอัตโนมัติ”
“สูญเสียการควบคุม? คุณต้องดูหนังไซไฟมากเกินไปหรือไม่ก็ถูกคนบ้องตื้นพวกนั้นล้างสมองแน่” หานหมิงพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “หุ่นยนต์พวกนั้นใช้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และวิธีการเรียนรู้ของระบบเพื่อเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ และให้บริการที่เป็นมาตรฐานสำหรับมนุษย์ พวกมันไม่มี ‘จิตสำนึก’ ใดๆ เลย เพราะโปรแกรมไม่เคยยินยอมให้พวกมันทำเช่นนั้น นี่ไม่ใช่ข้อจำกัดของรหัสที่ซ่อนอยู่ มันคือข้อจำกัดของ AI เองต่างหาก”
หลังจากจิบชาขุ่นๆ หานหมิงก็นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่ออย่างไม่สบอารมณ์ว่า “สำหรับเรื่องสิ่งคุกคามทางความปลอดภัยที่คุณบอก ผมรู้ว่าคุณต้องการจะพูดอะไรออกมา แต่ผมก็ได้บอกไปแล้วว่าผมจะไม่ทำธุรกิจที่อาจก่อให้เกิดปัญหา ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไรก็ตาม บอกผมมาตรงๆ เลย ผมไม่อยากจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไร้สาระ”
ถึงแม้ลู่โจวจะรู้สึกว่าทัศนคติตามอารมณ์ของคนคนนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ แต่เมื่อเขานึกถึงการกระทำที่น่าสงสัยของตัวเขาเอง มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะวิจารณ์ตลาดมืดได้
หลังจากครุ่นคิดอยู่ว่าจะแสดงความต้องการของตัวเองออกมาอย่างไร ลู่โจวก็พูดขึ้นว่า
“ผมมีหุ่นยนต์อยู่ตัวหนึ่ง… มันไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่ดี และมันอาจจะเป็นปัญหาถ้าเกิดจะนำมันมาเดินบนถนน ถ้าคุณทำได้ ผมอยากจะให้คุณช่วยออกแบบรูปลักษณ์ของมันใหม่”
หานหมิงเจอแท็บเล็ตล้าสมัยที่มีจอ เขาหยิบปากกาหมึกซึมและเขียนตัวหนังสือไม่กี่บรรทัดลงไปบนนั้น แล้วถามว่า
“พื้นที่ใหญ่แค่ไหน? แค่ส่วนใบหน้าเหรอ? หรือว่าส่วนหัวทั้งหมด? หรือรวมส่วนอื่นๆ ของลำตัวด้วย? คุณต้องการจะเพิ่มหรือลดอวัยวะชีวจักรกลล่ะ?”
“ต้องเปลี่ยนทั้งตัวเลย” ลู่โจวกระแอมเบาๆ แล้วพูดเสริมว่า “มีแค่ตรงส่วนผิวหนัง ที่เหลือนั่นไม่จำเป็น”
“จะดีที่สุดถ้าคุณเอารูปอ้างอิงให้ผมหรือสร้างแบบจำลอง 3 มิติของคุณเอง หลังจากนั้นก็เอาหุ่นยนต์มาให้ผม”
ลู่โจวลังเลอยู่นิดหน่อยก่อนจะพูดว่า “เอามันมาให้คุณที่นี่เหรอ?”
“ใช่สิ!” หานหมิงพูดไปตามนิสัย “คุณต้องการให้ผมย้ายสตูดิโอนี่กับอุปกรณ์ทั้งหมดของผมไปที่บ้านของคุณเหรอ?”
หานหมิงหยิบเสื้อคลุมพลาสติกมาจากด้านข้างแล้วโยนมันใส่มือลู่โจว
“นี่คืออะไร?”
“แขกคนล่าสุดทิ้งเอาไว้ ถ้าคุณคิดว่ามันไม่สะดวก ก็แค่เอาเสื้อนี่คลุมหุ่นยนต์ซะ” หานหมิงตบบ่าลู่โจวและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร ผมสามารถจัดการหุ่นยนต์ได้ทุกประเภท”
“คุณแค่ต้องทิ้งเงินมัดจำไว้ แล้วไปเอามันมาที่นี่!”