Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1469 ผมจะต้องรอด
ทางเข้าและห้องนั่งเล่นถูกระเบิดทำลายจนหมด และระเบียงยังกลายเป็นสีดำเพราะเปลวไฟจากการระเบิด ถึงแม้ลู่โจวจะยังสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ แต่เขาก็คงจะไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ
มันไม่ใช่ว่าเขาอยากจะตายใช่ไหม?
อันที่จริงลู่โจวก็ยังคิดไม่ออกว่าใครที่จะเกลียดชังเขาได้มากขนาดนั้น
ฆาตกรรอจนกระทั่งเขาฟื้นคืนตัวตนขึ้นมาและเปิดเผยหุ้นในบริษัทของเขา อย่างเช่น อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ อีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์ อีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่น และอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้นเขาก็เริ่มทำการพยายามลอบสังหารลู่โจว
เขาเชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องทำร่วมกับสมาชิกคณะกรรมการบริหารของบริษัทเหล่านี้
แน่นอนว่าหลี่กวงหยาก็ยังน่าสงสัยอยู่เล็กน้อย
แต่อย่างไรก็ตามลู่โจวก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน ถ้าผู้ชายคนนั้นอยากจะให้เขาตายจริงๆ เขาก็คงจะไม่ยอมเดินทางจากปักกิ่งเพื่อมาพูดคุยกับเขาเป็นพิเศษ
อีกอย่างคือถ้าเขาถูกฆ่าจริงๆ หลี่กวงหยาก็น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
ไม่เช่นนั้นแล้วผู้ชายคนนั้นก็คงจะไม่ส่งเลขานุการของเขามาทำงานในจินหลิงเพื่อมาเยี่ยมเขาในทันที
ในตอนนี้เองจู่ๆ ลู่โจวก็นึกถึงชื่อหนึ่งขึ้นมา
ผู้จัดการของซอฟต์แบงก์กรุ๊ปที่ชื่อโมรินากะดูเหมือนจะพูดไว้ว่าเขาควรจะระวังคนที่ชื่อหลิวเจิ้งซิงไว้ คนคนนั้นเป็นประธานของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้และเป็นผู้ถือหุ้นส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดถ้าไม่นับตัวเขา
หลังจากได้พิจารณาข้อดีและข้อเสียของเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ลู่โจวก็รู้สึกว่าอาจจะเกิดปัญหาเพิ่มขึ้นได้
“หลิวเจิ้งซิง”
“บอกยาก… เจ้าโมรินากะคนนั้นก็น่าสงสัยอยู่หน่อยๆ”
ด้านในออฟฟิศที่สำนักงานวางแผนที่ดินจินหลิง
ลู่โจวซึ่งกำลังนั่งพักอยู่บนโซฟากับเสี่ยวไอกำลังครุ่นคิดกับตัวเองระหว่างที่รอข่าวจากเหว่ยซง
เขาพักอยู่ที่โรงแรมใกล้ๆ เมื่อคืนก่อนเขามาที่นี่กับเลขานุการเหว่ยเมื่อเช้านี้เพื่อจัดการเรื่องบ้าน
“เจ้านาย คุณโอเคไหม? 0.0”
“ฉันโอเคอยู่ตลอดแหละ” ลู่โจวตอบว่า “ไม่ต้องห่วงฉัน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คงไม่ทำให้ฉันกลัวหัวหดหรอก ฉันแค่กำลังคิดเรื่องบางอย่าง… จะว่าไป หลิงเจออะไรที่นั่นไหม?”
เสี่ยวไอส่ายหัวแล้วพูดท่าทีที่เสียใจเล็กน้อย
“หลิงบอกเสี่ยวไอว่าเขาติดตามสัญญาณและเจอห้องที่หุ่นยนต์ตัวนั้นถูกควบคุมจากทางไกล แต่ของที่อยู่ข้างในนั้นถูกเผาไปแล้ว เป็นไปได้สูงว่านี่จะเป็นการโจมตีแบบฉายเดี่ยว… เจ้านายอยากให้เขากลับมาไหม?”
“สำหรับตอนนี้บอกให้เขาหาสถานที่ไปรออยู่เฉยๆ ก่อน” ลู่โจวพูดต่อหลังจากนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง “พรุ่งนี้ตอนบ่ายไปเจอกันที่ประตูเวิร์กช็อปเล็กที่ขายอุปกรณ์เสริมหุ่นยนต์”
แม้ว่าการระเบิดในระดับนั้นจะไม่ได้ทำให้หลิงเสียหาย แต่มันก็ระเบิด ‘ผิวหนัง’ ที่ลู่โจวทุ่มเงินไปมากกับการแทนที่มัน
ด้วยเหตุนี้ หลังจากค้นพบว่าห้องนั่งเล่นของเขาถูกระเบิดไปเรียบร้อยแล้ว ลู่โจวก็เรียกตำรวจและขอให้หลิงไล่ตามแหล่งสัญญาณโดยใส่เสื้อกันฝันไปทันที
ไม่ว่าเขาจะสามารถหาเบาะแสใดๆ ได้หรือไม่ เขาก็ต้องซ่อนตัวจากสาธารณชน
เสี่ยวไอจัดการได้ง่ายกว่า หลังจากเปลี่ยนไอดีและผิวหนัง มันก็ไม่ได้ต่างไปจากหุ่นยนต์ประจำบ้านส่วนใหญ่มาก อย่างไรก็ตามเสื้อผ้ากับอาวุธของหลิงที่แขวนอยู่บนตัวเขาอาจจะยากที่จะอธิบายกับตำรวจ
มีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตู
ไม่นานนักเหว่ยซงก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายคนหนึ่งซึ่งใส่ชุดแบบทางการ
“นี่คือหัวหน้าเจิ้งจากสำนักงานวางแผนที่ดิน”
“สวัสดีครับ นักวิชาการลู่”
ลู่โจวมองไปยังชายผู้ซึ่งยื่นมือขวามาให้เขาแล้วเขาก็ลุกขึ้นจากโซฟาและจับมือ
“สวัสดีครับ”
“ผมได้หารือเรื่องค่าชดเชยกับทางเมืองจินหลิงแล้ว” เลขานุการเหว่ยยังกล่าวต่อไประหว่างที่มองมาทางลู่โจวผู้ซึ่งจับมืออยู่กับหัวหน้าเจิ้ง “เดิมทีตามขั้นตอนปกติ เราต้องรออย่างน้อยสามเดือนเพื่อที่จะได้รับค่าชดเชยสำหรับการระเบิด แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติ ผมจะขอให้พวกเขาจ่ายค่าชดเชยให้คุณก่อน”
“ผมได้ยินเรื่องที่คุณประสบมา” หัวหน้าเจิ้งพูดต่อระหว่างที่เขามองมาที่ลู่โจวอย่างจริงใจ “ผมเสียใจที่เรื่องนั้นเกิดขึ้น ทางเมืองจินหลิงไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดนั้นเกิดขึ้นมาก่อนในเวลาสิบปีที่ผ่านมา ตอนนี้ฝ่ายความมั่นคงสาธารณะของกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงทั้งหมดสั่นคลอน และทางเมืองจินหลิงก็ได้จัดกองกำลังตำรวจอย่างเต็มที่ให้ไปทำการสืบสวน ผมเชื่อว่าความจริงของคดีนี้จะได้รับการเปิดเผยออกมาอีกไม่นานนี้!”
“แล้วผมจะตั้งตารอข่าวดีของคุณ” ลู่โจวพูดอย่างสบายๆ เขามองมาที่เหว่ยซงซึ่งยืนอยู่ข้างเขา และพูดว่า “เออนี่ แล้วเมื่อไรผมจะได้เห็นบ้านใหม่ของผมล่ะ?”
เหว่ยซงตอบทันทีว่า “ผมได้ทำตามระเบียบแบบแผนของที่นี่เรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่กับคุณเลยครับว่าจะย้ายออกตอนไหน”
“โอเคครับ” ลู่โจวพยักหน้าและมองไปที่หัวหน้าเจิ้งที่อยู่ข้างๆ “ผมคงจะไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”
…
อันที่จริงลู่โจวไม่ได้หวังอะไรมากนักว่าคดีจะได้รับการสะสางในอนาคตอันใกล้นี้
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อในวิธีการจัดการคดีของตำรวจ แต่เขารู้สึกอยู่เสมอว่าตัวตนของคนที่โจมตีเขาอาจจะไม่ใช่มือสมัครเล่น อย่างน้อยนี่ก็ไม่ใช่คดีที่ตำรวจธรรมดาจะสามารถรับมือได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเหว่ยซงบอกเขาว่าหน่วยงานความปลอดภัยของพาน-เอเชียนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการสืบสวน ลู่โจวก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย
ในช่วงเวลาระหว่างนี้ เขาอาจจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก และเสี่ยวไอก็น่าจะยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปถึงระดับสูงสุด
หลังจากจัดการตั้งถิ่นฐานของบ้านเสร็จเรียบร้อย เขาก็จะตั้งกับดักง่ายๆ ไว้ใกล้บ้านของเขา
ถ้ามือลอบสังหารมาที่ประตูบ้านของเขาอีกครั้ง พวกมันคงจะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีสักเท่าไร
หลังจากเหว่ยซงออกมาจากสำนักงานวางแผนที่ดิน ลู่โจวก็พาเสี่ยวไอขึ้นรถ
หลังจากขับรถมา 20-30 นาที ทุกคนก็มาถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
อสังหาริมทรัพย์ที่ชดเชยให้แก่ลู่โจวในเมืองจินหลิงนั้นตั้งอยู่ข้างๆ เขตไฮเทคจินหลิง ซึ่งน่าจะเป็นที่ดินชานเมืองที่ใกล้ที่สุดกับเมืองจินหลิง
แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะไม่ได้น่าพึงใจเท่ากับบนเพอร์เพิล เมาน์เทน แต่มันก็มีเขตติดต่ออยู่ใกล้เขตพื้นที่และมหาวิทยาลัย ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้นทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต
แน่นอนว่าถ้าเทียบกับการวางแผนจัดสรรบ้านพัก ที่ทำงาน และความบันเทิงที่หนาแน่นในพื้นที่เขตเมือง ที่นี่ก็ดูมีชีวิตชีวาน้อยกว่านิดหน่อย
แต่สำหรับลู่โจวแล้ว สภาพแวดล้อมที่นี่เหมาะกับเขามากกว่า
เขาไม่ใช่คนประเภทที่ชอบความวุ่นวาย นอกจากการศึกษาปัญหาที่เขาสนใจแล้ว เขาก็ไม่ได้มีงานอดิเรกใดที่ทำให้เขามีความจำเป็นต้องอยู่ในเมือง
“บ้านพักแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร รวมสนามด้านหน้า สนามด้านหลัง โรงรถ สระว่ายน้ำ และสนามหญ้า ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของนายทุนท้องถิ่นคนหนึ่ง แต่ต่อมาอสังหาริมทรัพย์ก็ถูกจำนองไว้กับธนาคารท้องถิ่นเนื่องด้วยปัญหาหนี้สิน ตามขั้นตอนแบบปกติทรัพย์สินควรจะต้องผ่านการขายทอดตลาด แต่เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ทางเมืองจินหลิงจึงทำข้อตกลงกับเขาและธนาคารเพื่อที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์จากเขาโดยตรงในรูปแบบของการหักล้างหนี้”
เลขานุการเหว่ยหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็มองมาที่ลู่โจว
“และตอนนี้มันก็เป็นของคุณแล้วครับ”
สไตล์การตกแต่งของบ้านพักทั้งหมดค่อนข้างจะเป็นแบบโพสต์โมเดิร์น โรงรถที่อยู่ไม่ไกลจากสนามหญ้าหันหน้าชนกับถนนที่ใช้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าด้านนอก
จากที่เลขานุการเหว่ยบอก หลังคาของโรงรถยังสามารถพับออกไปข้างนอกได้ด้วย
ฟังก์ชันนี้ส่วนใหญ่จะมีไว้สำหรับรถหรูพวกนั้นที่มีฟังก์ชันระบบพลังงานไอพ่นและการออกตัวและจอดในแนวดิ่งของตัวเอง
หลังจากเดินดูรอบสนาม ลู่โจวก็ตามเลขานุการเหว่ยเข้าไปในห้องและดูรอบๆ
ถ้ากล่าวโดยทั่วไป เขาค่อนข้างพอใจกับที่นี่ ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือว่าแผนเดิมของเขาที่จะสร้างตึกของเขาเองนั้นเป็นอันต้องล้มเหลว
“ไม่มีที่ดินว่างในละแวกนี้แล้วเหรอครับ?”
เหว่ยซงพูดพร้อมกับกระแอมเบาๆ “นี่เป็นกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง ที่ซึ่งผมควรจะหาที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาให้กับคุณ… แน่นอนว่าถ้าคุณยังไม่พอใจ เราก็สามารถช่วยรื้อถอนมันให้คุณได้ แต่เศษเหลือทิ้งและขยะที่เกิดขึ้นอาจจะต้องอยู่ในความรับผิดชอบของคุณ”
ลู่โจวส่ายหัว “การรื้อถอนสิ้นเปลืองเกินไป แค่นี้ก็พอแล้ว”
คิ้วของเหว่ยซงกระตุกอย่างแรง
แค่นี้ก็พอแล้ว…
คฤหาสน์ขนาด 5,000 ตารางเมตร นี่มันใหญ่กว่ากลุ่มอาคารอพาร์ทเมนท์ที่ออกแบบมาอย่างอัดแน่นกันเสียอีก
ตลกสิ้นดี!
หลังจากยื่นเอกสารเพื่อลงนามและกุญแจให้กับลู่โจว เลขานุการเหว่ยก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อนานนัก เขาบอกว่าเขายังมีหลายอย่างที่ต้องจัดการและเขาก็รีบกลับออกไป
หลังจากเดินดูรอบๆ บ้านหลังใหม่ ลู่โจวก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่นที่ชั้นหนึ่ง เขามองไปที่เสี่ยวไอซึ่งอยู่ข้างๆ เขาและพูดว่า
“ทำลายสวนพฤกษศาสตร์ในสนามด้านหลังให้ราบแล้วเปลี่ยนเป็นห้องปฏิบัติการ แบบแปลนจะต้องเหมือนกับห้องเก่าของฉัน ส่วนจุดอื่นๆ ไม่ต้องเคลื่อนย้าย ฉันส่งรายชื่อของอุปกรณ์ที่ต้องซื้อไปให้เธอแล้ว… คิดว่าจะทำได้ไหม?”
“ไม่มีปัญหา เสี่ยวไอเข้าใจแล้ว! มีอย่างอื่นที่เจ้านายต้องการเพิ่มเติมไหม? (๑•̀ᄇ•́)و✧”
ลู่โจวครุ่นคิดในเรื่องนั้นแล้วตอบว่า “เตาผิงในห้องนั่งเล่น… เท่านี้แหละสำหรับตอนนี้”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน โดรนสองตัวที่เสี่ยวไอซื้อไว้ก็บินเข้าจากด้านนอก ประตูไฟฟ้าเปิดออก และหุ่นยนต์ทำความสะอาดจำนวนมากกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ถูกลากเข้ามาจากประตูก็เข้ามาพร้อมกับพวกมันด้วย
เสี่ยวไอทำการสร้างแบบจำลองของพื้นที่ด้านในของบ้านพักทั้งหมดและออกแบบแผนการทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก อุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านั้นก็เริ่มทำงานภายใต้คำแนะนำของเธอ
ลู่โจวรู้สึกโล่งใจที่เห็นเสี่ยวไอทำงานแล้ว
“ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการทำความสะอาดและการเอาของออกมา ฉันมีเรื่องอื่นต้องไปทำ”
เสี่ยวไอ: “เจ้านายต้องการให้เสี่ยวไอไปเป็นเพื่อนไหม? ข้างนอกมันอันตรายนะ ∑(゚Д゚)”
“ไม่ต้องหรอก” ลู่โจวชี้ไปที่สร้อยคอบนคอของเขา “มีเจ้าสิ่งนี้ก็คงไม่มีใครจำฉันได้”
ทันใดนั้นเสี่ยวไอก็นึกอะไรออก เธอประสานฝ่ามือเข้าด้วยกันแล้วรีบวิ่งไปที่กระเป๋าเดินทางของเธอ
ไม่นานเธอก็ดึงลูกบอลโลหะสีเงินออกมาจากกระเป๋าเดินทาง เธอกลับมาแล้วมอบมันให้ลู่โจว
ลู่โจวมองไปยังลูกบอลโลหะสีเงินในมือของเขา เขาอึ้งไปเล็กน้อย
“นี่คืออะไร?”
เขารู้สึกว่าสิ่งนี้ดูคุ้นตานิดหน่อย
“โดรนขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 22 เหมาะมากที่จะพกพาไปด้วย เผื่อว่าเจ้านายจะพาเสี่ยวไอไปด้วยตอนที่เขาไปข้างนอก! (⃔*`꒳ ́*)⃕↝”
ถ้าเช่นนั้นมันก็คือโดรนตัวหนึ่ง…
“เธอพูดถูก”
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เขาคิดว่าเสี่ยวไอมีเหตุผล
ลู่โจวใส่โดรนไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขา แล้วเขาก็เอื้อมมือออกไปแล้วแตะที่ระบบการฉายภาพโฮโลแกรมที่สวมใส่ได้บนใบหน้า เขาเลือกภาพบุคคลทั่วไปเพื่อปกปิดใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก่อนจะเดินออกไปนอกประตู