Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1472 ทางเลือกที่ดีที่สุด
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1472 ทางเลือกที่ดีที่สุด
เหตุระเบิดอาคารอพาร์ทเมนท์ที่ขอบวงแหวนที่สองของเมืองจินหลิงทำให้คนทั้งพาน-เอเชียตกใจสุดขีด หลิวเจิ้งซิง ซึ่งแอบหลบอยู่หลังที่เกิดเหตุเพื่อรอคอย ‘ข่าวดี’ อย่างโง่ๆ เกิดรู้สึกกลัว
แม้ว่าตัวตนของผู้อยู่อาศัยของอพาร์ทเมนท์จะไม่ได้ถูกเปิดเผยในข่าวด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว เขาก็ยังใช้เบาะแสในข่าวและปฏิกิริยาของบุคคลอื่นๆ ในการตัดสินว่าใครคือมือลอบสังหาร
เพราะเพียงแค่ชั่วโมงเดียวหลังจากที่เขาเห็นข่าว เขาก็ได้รับสายอย่างน้อยสามสายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
หนึ่งในนั้นมาจากออฟฟิศของประธานสหการพาน-เอเชียน และอีกสายมาจากสำนักงานความมั่นคงสาธารณะของกลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง และสายสุดท้าย… ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจและโมโหมากที่สุดมาจากสำนักงานความมั่นคงสหการพาน-เอเชียน
สายอื่นๆ ไม่ได้พูดอะไรมากนัก ในสายนั้นพูดอยู่ไม่ถึง 2 นาที พวกเขาแจ้งแค่เพียงว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยสำคัญและออกประกาศเพื่อจำกัดการเดินทางของเขา และพวกเขาหวังว่าเขาจะให้ความร่วมมือกับการสืบสวนในช่วงระยะเวลานี้
มันไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์ที่ตกเป็นเป้าหมายของหน่วยงานข่าวกรองระดับพันธมิตรภูมิภาคประเภทนี้ โดยเฉพาะสำหรับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
ในตอนนี้หลิวเจิ้งซิงไม่สามารถจะพรรณนาความโกรธและความหวาดกลัวในใจของเขาออกมาได้ด้วยซ้ำ
บุคคลที่สามารถจะชิงตำแหน่งของเขาในคณะกรรมการบริหารอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ได้เพิ่งจะคลานออกมาจากโลงศพ นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขารู้สึกกังวลได้แล้ว และตอนนี้ ‘พวกพันธมิตร’ ที่โง่เขลาของเขาก็ทำการลอบสังหารจริงๆ!
คนโง่พวกนี้!
ถ้าเขาทำได้ เขาจะฆ่าฆาตกรนิรนามนี่ทันที!
“คุณทำให้เกิดระเบิดใช่ไหม?!”
ภายในห้องประชุมโฮโลแกรม
ระหว่างที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประชุม ดวงตาของหลิวเจิ้งซิงก็กลายเป็นสีแดง เส้นเลือดดำบนหน้าผากของเขากำลังเต้นตุบๆ เขาจ้องมองไปที่บุคคลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะประชุม
อันที่จริงในตอนนี้เขายังมีความหวังเล็กๆ อยู่ในใจ
เขาอยากจะได้ยินคนคนนั้นปฏิเสธทุกอย่าง
ด้วยหนทางนี้ นอกจากเขาแล้ว อย่างน้อยก็จะมีผู้ต้องสงสัยสามคนที่อยู่ในคณะกรรมการบริหาร โมรินากะที่น่ารำคาญคนนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
อย่างไรก็ตามชายไร้ตัวตนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะประชุมก็ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังด้วยประโยคเพียงประโยคเดียว
“ทำนองนั้น”
“คุณหมายความว่ายังไงที่ว่าทำนองนั้น?!” หลิวเจิ้งซิงวางมือลงบนโต๊ะ เขาถ่มน้ำลายอย่างโกรธเกรี้ยว “ผมแค่ขอให้คุณช่วยผมตรวจสอบข้อมูลของเขา คุณกล้าทำเรื่องไม่จำเป็นโดยไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้ได้ยังไง! ตำรวจทุกนายรู้ว่าการโจมตีต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับผม! จนถึงตอนนี้ผมได้รับสายอย่างน้อย 3 สาย ทุกสายแย่ๆ ทั้งนั้น!”
เขาสาบานได้ว่าเขาไม่เคยคิดจะส่งนักฆ่าไปสร้างปัญหากับลู่โจวเลย แม้ว่านี่จะดูเป็นทางเลือกสุดท้ายที่น่าเย้ายวนใจจริงๆ
เขาแค่อยากจะมอบความรับผิดชอบให้ชายไร้หน้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาในการตรวจสอบเครือข่ายความสัมพันธ์ของลู่โจวในยุคนี้ผ่านองค์กรของพวกเขาและใช้มันเพื่อขุดหาจุดอ่อนของเขาหรือตรงไหนที่เขาจะสามารถร่วมมือได้อย่างเชื่อฟัง
แต่เขาไม่เคยจะจินตนาการว่าคนหน้าโง่นี่จะส่งนักฆ่าไปและเขาถึงกับใช้วิธีระเบิดที่เรียกร้องความสนใจด้วย
ที่นี่มันคือโลก!
พาน-เอเชีย!
ไม่ใช่สังคมป่าเถื่อนบนดาวอังคาร!
พฤติกรรมแหกกฎนี้ไม่เพียงแต่จะบังคับให้เขาต้องอยู่ในสถานะที่ไม่มั่นคงแต่ยังทำให้ผู้สนับสนุนเขาในคณะกรรมการบริหารลังเลใจอีกด้วย
หลังจากได้ฟังการบ่นของหลิวเจิ้งซิงอย่างเงียบๆ ชายไร้หน้าที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะประชุมก็มองมาที่เขาอย่างเฉยเมย ราวกับว่าเขาไม่ได้ซึมซับความโกรธของหลิวเจิ้งซิงลงไปในจิตใจเลย ชายผู้นั้นพูดด้วยน้ำเสียงเฉื่อยๆ
“องค์กรของเราได้ทำการพิจารณาแล้วว่าการดำรงอยู่ของเขาอาจจะนำตัวแปรที่ไม่แน่นอนมาสู่แผนของเราได้ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือให้เขากลับไปนอนอยู่ในโลงศพอีกครั้ง”
“ทางเลือกที่ดีที่สุดเหรอ? คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน! คุณรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญกับอะไร?” หลิวเจิ้งซิงหัวเราะอย่างฉุนเฉียว “สำนักงานความมั่นคงสหการพาน-เอเชียนลงมือแล้ว! ตอนนี้หน่วยงานข่าวกรองที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกบนอินเทอร์เน็ตสงสัยผมแล้ว คุณคิดว่าผมจะสามารถหนีรอดไปได้งั้นเหรอ? ผมยอมเสี่ยงมาพูดกับคุณ หยุดความพยายามลอบสังหารที่โง่เขลาซะ!”
หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง หลิวเจิ้งซิงมองไปยังชายไร้หน้า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบมาพากลคือ ชายผู้นี้ดูเหมือนจะไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดเลย เขาไม่ได้ซึมซับคำเตือนของเขาเข้าไปในจิตใจเลย
เขากำหมัดแน่น แล้วค่อยคลายออกช้าๆ
หลังจากเกิดความลังเลในจิตใจ ในที่สุดหลิวเจิ้งซิงก็ตัดสินใจและหายใจเข้าลึก
“ผมเตือนคุณแล้ว คุณนั่นแหละที่แหกกฎก่อน!”
คางของชายไร้หน้าเชิดขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะมองมาที่เขาอย่างสนใจ
“โอ้ จริงเหรอ?”
“ผมขอยอมจำนนและจะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้” หลิวเจิ้งซิงจ้องชายคนนั้นและพูดต่อว่า “ไม่ว่าคุณจะต้องการทำอะไร ผมก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณแล้ว! ผมไม่เคยจ้างมือลอบสังหาร ไม่เคยมีความคิดที่จะปล่อยให้มีคนตาย! ทุกอย่างมันจบเพราะการตัดสินใจของคุณเอง!”
ด้วยการพูดเป็นนัยเสียดสีในน้ำเสียงของเขา ชายไร้หน้าจึงยิ้มนิดๆ
“แต่ใครจะเชื่อคุณล่ะ?”
“คุณคิดว่าผมจะไม่หาทางออกให้ตัวผมเองเหรอ?” หลิวเจิ้งซิงยิ้มอย่างเย็นชาและพูดต่อไปว่า “ผมบันทึกวิดีโอการประชุมและได้เก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว”
อันที่จริงตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมาก็ยังคงมีร่องรอยความหวังอยู่ในใจของเขา เขาหวังว่าจะสามารถบังคับให้คนบ้าตรงหน้าเขายอมรับได้ อย่างไรก็ตามการยอมจำนนเป็นแค่ที่พึ่งพิงสุดท้ายนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
แต่ความหวังของเขาก็หายไปอีกครั้ง
ชายไร้หน้าที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะประชุมค่อยๆ เชิดคางของเขาขึ้นแล้วเบนสายตาไปที่ประตู
“ฟังดูน่าสนใจ… คุณหมายถึงเจ้านั่นน่ะเหรอ?”
หลิวเจิ้งซิงตะลึงไปเล็กน้อย แล้วเขาก็หันคออันแข็งทื่อไปตามทิศทางที่คางของชายไร้หน้าชี้ไป เขามองไปยังประตูห้องประชุม
ประตูยังคงปิดอยู่อย่างไม่น่าสงสัย
แต่ทว่าหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่สวมชุดเครื่องแบบทำความสะอาดกำลังยืนอยู่ข้างใน ในมือซ้ายของเขา หุ่นยนต์กำลังถือกระเป๋าเดินทางสีดำไว้ใบหนึ่ง
ทันทีที่เขาเห็นกระเป๋าเดินทาง ลูกตาหลิวเจิ้งซิงก็หดลงเล็กน้อย
ไม่นานเขาก็สงบลง เขาไปยังชายไร้หน้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะประชุมและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “คุณต้องการอะไร?”
มีเสียงหัวเราะที่ผ่อนคลายเป็นนัยๆ
เมื่อหลิวเจิ้งซิงได้ยินเสียงหัวเราะ ด้วยเหตุผลบางอย่างมันทำให้เขารู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
“ผมไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น ผมแค่ต้องการคืนมันให้คุณและขอยืมอะไรอีกสักอย่างจากคุณ”
หลิวเจิ้งซิงมองไปที่หุ่นยนต์ที่เดินมาข้างเขาแล้ววางกระเป๋าเดินทางลงตรงหน้าเขา เขาขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่มั่นใจว่า “นี่มันอะไร?”
“ชีวิต”
เมื่อเขาได้ยินคำนี้ หลิวเจิ้งซิงถึงกับตะลึงไปเล็กน้อย
เขารู้สึกชาที่คอนิดหน่อยแล้วเขาก็หมดสติไป ลูกตาของเขาตกลงต่ำและหัวของเขาก็ห้อยลง
เมื่อถอนกระบอกฉีดยานาโนในมือลง หุ่นยนต์ก็หยิบปืนพกสีดำออกมาจากแขนของเขาแล้ววางมันลงในมือของหลิวเจิ้งซิง
จากนั้นมันก็จับมือขวาของหลิวเจิ้งซิง ชี้ปากกระบอกปืนไปที่หัวของเขา แล้วดันนิ้วชี้ของเขาไปที่ไกปืน
ปัง!
มีประกายไฟวูบวาบ ควันปืนกระจาย
เลือดและชิ้นส่วนของสมองสาดกระเซ็นไปทั่วพื้น
หุ่นยนต์ปล่อยมือขวาของเขาลงและปล่อยให้แขนของเขาที่ถือปืนไว้ตกไปบนเก้าอี้
หุ่นยนต์ได้ทำการปรับเปลี่ยนให้เป็นฉากการเสียชีวิตอย่างมีระเบียบและอำพรางให้เหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย หุ่นยนต์มองด้วยสายตาว่างเปล่าไปยังชายไร้หน้าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประชุมและโค้งคำนับให้เขา จากนั้นเขาก็ฟอร์แมตข้อมูลที่เก็บไว้ของการประชุมโฮโลแกรมและปิดพลังงานของโต๊ะประชุม
หลังจากชายไร้หน้าหายไปในแสงสีฟ้า หุ่นยนต์ก็หันไปและออกจากห้องประชุมไปด้วย ปล่อยทิ้งไว้เพียงกระเป๋าเดินทางสีดำและศพที่พิงอยู่บนเก้าอี้
ในท้ายที่สุดเมื่อคนในอาคารชุดพบว่าประธานของพวกเขาฆ่าตัวตายในห้องประชุม มันก็ผ่านมา 7 ชั่วโมงแล้ว
เชสเตอร์ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ที่ชานเมืองของเมืองจินหลิงก็ยังทำการเคลื่อนไหวไปยังเป้าหมายของเขาด้วย…