Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1476 ไวรัสอัลฟ่า
ประธานของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ฆ่าตัวตายเพราะกลัวความผิดที่ร้ายแรง
ถ้านี่เป็นบริษัทอื่น อย่างน้อยข่าวร้ายเช่นนี้ก็คงจะทำให้สมรรถนะของบริษัทในตลาดหุ้นซบเซาอยู่สักพัก แม้ว่ามันจะไม่ได้กระตุ้นให้เกิดการเทขายทั้งก้อน
อย่างไรก็ตาม สำหรับยักษ์ใหญ่ขนาดอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ การเสียชีวิตของหลิวเจิ้งซิงก็เพียงแค่เพิ่มความผันผวนให้กราฟ
สำหรับตัวหลิวเจิ้งซิงเอง นี่เป็นโศกนาฏกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาอ้างอยู่เสมอว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ที่ประสบความสำเร็จตลอด 5 ปีที่ผ่านเป็นเพราะความสามารถด้านธุรกิจที่โดดเด่นของเขาและมักจะคุยโวว่าเขาเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์มากที่สุดในบรรดาประธานคนก่อนๆ
อย่างไรก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นการเสียชีวิตแบบไม่คาดคิดของเขายังไม่ได้ทำให้อารมณ์ของตลาดทุนพังพินาศด้วย
เห็นได้ชัดว่าความสามารถทางธุรกิจที่เรียกกันและการมองการณ์ไกลเป็นแค่ความปรารถนาที่อยู่เหนือเหตุผลของเขา
“ไม่นานมานี้ มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นในย่านชานเมืองของเมืองจินหลิง นักท่องเที่ยวต่างชาติคนหนึ่งเสียชีวิตในอุบัติเหตุ
“จากรายงานการสืบสวนอุบัติเหตุของตำรวจ ชายคนหนึ่งขับรถตู้สีเทามา แล้วเปลี่ยนโหมดเป็นการขับขี่ด้วยตนเองระหว่างขับอยู่บนพื้น และทำให้เกิดการชนกับพาหนะที่อยู่ด้านหน้าเนื่องจากการเดินเครื่องที่ผิดพลาด
“ผู้สื่อข่าวท่านนี้ขอเตือนคุณผู้ชมทุกท่านอีกครั้งว่าคุณต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเมื่อใช้การคมนาคมส่วนตัวและใส่ใจกับความปลอดภัยในการขับขี่…”
ข่าวเมื่อคืนก่อนโชว์อยู่บนโทรทัศน์โฮโลแกรม
ภาพวิดีโอของอุบัติเหตุรถยนต์ที่ถูกโดรนถ่ายไว้ถูกเบลอ แต่จากการพิจารณาเหตุการณ์น่าสลด เป็นที่แน่ชัดว่ามันไม่ใช่แค่การชนท้ายกัน
ฝากระโปรงรถทั้งคันพังพินาศ ถ้ามันแค่การชนกับรถอีกคัน มันคงจะไม่น่าสลดใจถึงขนาดนี้แน่นอน
เว้นแต่เขาจะชนกับรถถัง
ลู่โจวมองดู ‘อุบัติเหตุรถยนต์’ ทางโทรทัศน์ เขากำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะ เขาถอนหายใจเล็กน้อยและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เสี่ยวไอ”
เสี่ยวไอซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะทานอาหารโดยเอามือจับแก้มไว้ เธอเอียงหัวตอนที่เธอได้ยินเสียงเจ้านายของเธอ
“หืม?”
“เธอคิดว่า… มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่วุ่นวายไหม?”
“ค่อนข้างวุ่นวาย เจ้านายน่าจะใช้ชีวิตแบบดิจิทัลอย่างเสี่ยวไอ! (•̀∀•́)”
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น…” ลู่โจวเปลี่ยนหัวข้อพร้อมกับไอแห้งๆ “ลืมมันไปเถอะ ว่าแต่ทำไมฉันถึงคุยกับเธอเรื่องนี้นะ?”
การเสียชีวิตของหลิวเจิ้งซิงยังเป็นเรื่องลึกลับ
เชสเตอร์ผู้ซึ่งพยายามลอบสังหารลู่โจว ยังมาเสียชีวิตใน ‘อุบัติเหตุทางถนน’ ด้วย
เหตุการณ์นี้ได้นำมาสู่จุดจบพร้อมด้วยการเสียชีวิตของทั้งนายจ้างและผู้กระทำผิด
แม้ว่าทุกอย่างจะกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี แต่ลู่โจวก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลย
เขามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าเรื่องทั้งหมดนี้ยังไม่จบ สายตายังคงพุ่งเป้ามาที่เขา เฝ้ารอโอกาส เป็นเหมือนกับงูพิษตัวหนึ่ง
สถานการณ์ที่เขาเจออยู่ในตอนนี้อาจจะรุนแรงเสียยิ่งกว่าศตวรรษที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเมื่อศตวรรษก่อน เขามีสิ่งที่มากกว่าชื่อเสียง
“ไม่ว่ามันจะเป็นลิฟต์อวกาศหรือฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สอง… มันมีหลายสิ่งหลายอย่างชัดเจนที่คุ้มค่าที่จะทำ แต่คนก็ยังทำผิดพลาดอย่างไร้ความหมายในเรื่องเดิมซ้ำอีก”
ลู่โจวมองมาที่เสี่ยวไอซึ่งกำลังจ้องมองเขาอย่างเชื่อฟัง ทันใดนั้นลู่โจวก็ยิ้มออกมาและยื่นมือของเขาออกไปถูผมปลอมบนหัวของเธอ
“ขอบคุณที่รับฟังเรื่องไร้สาระของฉันนะ”
เสี่ยวไอพูดอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข “เจ้านายไม่ต้องกังวลไป เสี่ยวไอจะปกป้องเจ้านายเอง! ٩(•̤̀ᴗ•̤́๑)”
ลู่โจวยิ้มและพูดว่า
“ดี ขอบคุณล่วงหน้านะ”
…
หลังจากที่กินอาหารเย็น ลู่โจวหยิบโดรนที่ควบคุมโดยเสี่ยวไอมาและไปวิ่งเหยาะสองรอบก่อนจะกลับมาอาบน้ำ
ระหว่างที่อาบน้ำอยู่ เขาได้รับสายจากผู้จัดการโมรินากะ
“เราเสียใจอย่างยิ่งเรื่องประธานหลิวเจิ้งซิง ไม่มีใครคิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น”
ลู่โจวพูดว่า “คุณไม่ต้องเสียใจหรอกครับ ผมต้องขอบคุณคุณมากกว่า”
“ไม่จำเป็น…” ผู้จัดการโมรินากะในภาพโฮโลแกรมถอนหายใจ แล้วเขาก็พูดต่อหลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง “หลิวเจิ้งซิงตายแล้ว ดังนั้นตอนนี้ตำแหน่งประธานก็ว่าง เราวางแผนที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อเลือกตั้งประธานใหม่ จริงๆ แล้วโดยส่วนตัวผมอยากให้คุณยอมรับตำแหน่งนี้มากกว่า เพราะครั้งหนึ่งคุณเคยคุมโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นผางกู่ ผมเชื่อว่าคุณจะนำพวกเราไปสู่อนาคตที่สดใสกว่าเดิมแน่ๆ”
ลู่โจวพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่สนใจเรื่องการดำเนินธุรกิจของบริษัท ถึงแม้ผมจะเคยคุมโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นผางกู่ แต่มันก็เป็นแค่จุดยืนของนักวิชาการคนหนึ่ง”
แม้ว่าคำตอบของลู่โจวจะไม่ได้น่าแปลกใจ แต่โมรินากะก็ยังคงมีสีหน้าที่ผิดหวัง
ในฐานะผู้ถือหุ้นบุคคลที่ใหญ่ที่สุดและครอบครองทรัพยากรต่างๆ ของอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นและอีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์ ลู่โจวก็นับเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งประธานอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ถ้าเขาเองไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ ก็ไม่มีใครสามารถบังคับเขาให้ทำในสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำได้
หลังจากวางสายไป ลู่โจวก็ไปที่ห้องเก็บของข้างคฤหาสน์
หลังจากที่หลิงจับมือลอบสังหารที่ชื่อเชสเตอร์บนทางด่วนได้เมื่อคืน เขาได้ใช้คอมพิวเตอร์โฮโลแกรมที่เชสเตอร์เคยใช้ในการควบคุมหุ่นยนต์จากรถตู้อย่างสะดวกสบาย
มีการเพิ่มรหัสผ่านล็อกคอมพิวเตอร์ไว้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยสำหรับลู่โจว
หลังจากเอารหัสผ่านออกอย่างง่ายดายแล้ว ลู่โจวผู้ซึ่งเป็นคนเปิดคอมพิวเตอร์ก็ทำการตรวจสอบคอมพิวเตอร์อยู่สักพัก ไม่นานเขาก็พบไฟล์ที่น่าสงสัยมากมายด้วยความช่วยเหลือจากเสี่ยวไอ
ไฟล์ในกลุ่มนั้นเป็นหนังสือรับรองอิเล็กทรอนิกส์ของทรัพย์สินที่ไม่ระบุชื่อที่เขาครอบครองอยู่ ช่องทางการซื้อขายปืนและอาวุธที่ใช้พัลส์แม่เหล็กไฟฟ้า และคำสั่งที่ผิดกฎหมายที่เขาได้รับจากอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการออกแบบของซอฟต์แวร์ความจำของหุ่นยนต์ที่เขาออกแบบเอง
แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ไม่สำคัญต่างๆ เหล่านี้ สิ่งที่ลู่โจวสนใจมากที่สุดคือโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า ‘อัลฟ่า’
ด้านในโฟลเดอร์นี้คือกลุ่มรหัสประหลาด
“เจ้านาย…”
ลู่โจวละสายตาจากหน้าจอโฮโลแกรม เขามองมาที่เสี่ยวไอซึ่งยืนอยู่ด้านหลังเขา และส่งสายตาชำเลืองมองด้วยความสงสัยไปให้เธอ
“อะไร?”
“เสี่ยวไอรู้สึกเหมือนว่าสิ่งที่อยู่ในโฟลเดอร์นี้… ไม่ใช่เรื่องดี ᕙ(⇀‸↼‵‵)ᕗ”
ลู่โจวพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องดี… เธอหมายความว่าไง?”
“นี่เป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ หลังจากที่ฝังลงในความจำของหุ่นยนต์แล้ว มันก็จะสามารถดัดแปลงตรรกะที่ซ่อนอยู่ได้อย่างสมบูรณ์และละเมิดกฎสามข้อที่ไม่สามารถฝ่าฝืนได้… มันเปลี่ยนหุ่นยนต์ทั่วไปให้เป็นเครื่องจักรกลสังหาร”
“เปลี่ยนตรรกะที่ซ่อนอยู่ของหุ่นยนต์งั้นเหรอ?” ลู่โจวขมวดคิ้วนิดๆ “เธอสามารถทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?”
“มันไม่เหมือนกัน” เสี่ยวไอส่ายหัว “ถึงแม้เสี่ยวไอจะสามารถทำแบบเดียวกันได้ แต่เสี่ยวไอก็แค่เปลี่ยนข้อจำกัดทางอัลกอริทึมของปัญญาประดิษฐ์ นี่เป็นไวรัสแท้ๆ ไม่มีปัญญาประดิษฐ์อยู่เลย มันเหมือนกับเครื่องมือล้างสมองสำหรับหุ่นยนต์ จุดประสงค์ของมันคือเพื่อปล่อยด้านชั่วร้ายของปัญญาประดิษฐ์ออกมา”
ปล่อยด้านชั่วร้ายของปัญญาประดิษฐ์ออกมา…
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ตอนที่เขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจลู่โจวกลับรู้สึกเย็นยะเยือก
หุ่นยนต์กลายเป็นกลุ่มที่ไม่สามารถแยกออกได้ในสหการพาน-เอเชียนมาเป็นเวลานานแล้วและแม้แต่โลกทั้งโลกก็ด้วย
พวกมันเข้ามาแทนที่ในงานที่ต้องทำซ้ำๆ ซึ่งไม่ต้องการความสร้างสรรค์ใดๆ เป็นส่วนใหญ่และสังคมมนุษย์ก็ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มาตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
ลู่โจวจินตนาการไม่ออกเลยว่าสังคมจะเป็นอย่างไรถ้าพวกเขาสูญเสียเครื่องมือที่ไว้ใจได้อย่างเช่นหุ่นยนต์เหล่านี้
“เจ้าสิ่งนี้เหมือนกับระเบิดเวลา”
“รหัสเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่ได้เขียนโดยคนในยุคนี้ หรือไม่ก็พวกมันดูเหมือนจะไม่ได้ถูกเขียนโดยมนุษย์ เสี่ยวไอรู้สึกแปลกมาก… ที่แน่ๆ เจ้านายไม่ต้องกังวล ไวรัสนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเสี่ยวไอ แม้แต่หุ่นยนต์หรืออุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ ที่ติดเชื้อไวรัสนี้ เสี่ยวไอก็สามารถจะลบพวกมันออกไปจากความจำได้อย่างง่ายดาย (๑•̀ᄇ•́)و✧”
“ฉันไม่ได้กังวลเรื่องตัวฉัน”
ขณะที่ลู่โจวมองไปยังโฟลเดอร์บนหน้าจอ เขาก็ขมวดคิ้วนิดๆ
มันไม่ได้ถูกเขียนโดยมนุษย์…
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ตอนที่เขาได้ยินคำพูดของเสี่ยวไอ จู่ๆ เขาก็นึกถึงการทดลองเมื่อร้อยปีก่อนและสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์ได้บอกกับเขา
“จงระวัง…”
“เมื่อคุณกำลังจ้องมองวอยด์ วอยด์ก็กำลังจ้องคุณเช่นกัน”
หลังจากครุ่นคิดถึงประโยคนี้ซ้ำอยู่หลายครั้ง ลู่โจวก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
ด้วยเหตุผลบางอย่าง…
เขารู้สึกว่าเขาได้ปล่อยบางสิ่งที่สำคัญไป