Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 148 พรีเซนต์จบการศึกษา
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 148 พรีเซนต์จบการศึกษา
หลังจากเตรียมตัวนาน ในที่สุดวันพรีเซนต์ก็มาถึง
มีผู้ตัดสินอยู่สี่คน
นอกจากคณบดีฉินจากสาขาคณิตศาสตร์ ศาสตราจารย์ถังก็อยู่เช่นกัน
ปกติแล้วจะมีระบบหลีกเลี่ยงเพื่อความเป็นธรรม แต่สำหรับลู่โจว กระบวนการพรีเซนต์ของเขาแตกต่างจากนักศึกษาทั่วไป เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้จึงไม่สำคัญ
นอกจากทั้งสองคนที่ลู่โจวรู้จัก ก็ยังมีคนอีกสองคน หรูเสินเจียนจากมหาวิทยาลัยจินหลิงและเซี่ยงหัวหนานจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน
สองคนนี้เป็นคนมีชื่อเสียง ลู่โจวเคยได้ยินชื่อของพวกเขามาก่อน
ลู่โจวยืนบนโพเดียมด้วยท่าทางสบายๆ
เขาเตรียมตัวมานาน ดังนั้นจึงไม่กังวลเลย
การพรีเซนต์พาวเวอร์พอยนต์ก็เริ่มขึ้น
ลู่โจวแนะนำตัวแล้วเริ่มพูดถึงวิทยานิพนธ์ของตน เขาพูดถึงประเด็นหลักพอสังเขปแล้วสรุปวิทยานิพนธ์
กระบวนการสั้นมาก มันใช้เวลาราวห้านาทีเท่านั้น
ต่อไปเป็นขั้นตอนการถามตอบที่สำคัญ!
เซี่ยงหัวหนานมองลู่โจว
“หน้าที่ห้าของวิทยานิพนธ์ ฉันสังเกตว่าเธอพูดถึง C เป็นเซตย่อยปิดคอนเวกซ์ของปริภูมิฮิลเบิร์ท… ตรงนี้หมายความว่ายังไง? เธออธิบายรายละเอียดได้ไหม?”
ปกติแล้วผู้ตัดสินวิทยานิพนธ์จบการศึกษาของนักศึกษาปริญญาตรีจะไม่ถามคำถามทางเทคนิคแบบนี้ อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ใช่นักศึกษาธรรมดา และผู้ตัดสินก็ไม่ใช่ผู้ตัดสินธรรมดา
ดังนั้นคำถามจึงไม่ธรรมดาเช่นกัน
ลู่โจวไม่จำเป็นต้องกลับไปอ่านวิทยานิพนธ์ของตน เขาจำที่เขาเขียนหน้าที่ห้าได้
“ลำดับ {xn} ใช้เพื่อพิสูจน์’8’ลู่เข้าอย่างเข้มไปยังจุดตรึง T และจุดนี้เป็นทางออกเดียวสำหรับอสมการการแปรผัน V ผมใช้กระดานได้ไหม? มันอธิบายเป็นคำพูดยาก”
ศาสตราจารย์เซี่ยงหัวหนานยิ้มแล้วกล่าว “ได้สิ”
ปกติแล้วคำขอแบบนี้จะไม่ได้รับการอนุญาต
ลู่โจวหยิบชอล์กแล้วเริ่มเขียนบนกระดานดำ
[x1∈C, x(n+1)=αn·f·xn+βn·xn+γn·T·xn, n≥1 โดยที่ f:C→C …]
เซี่ยงหัวหนานยิ้มแล้วพยักหน้า “ไม่เลว”
แม้จะวัดตามมาตรฐานปริญญาเอก คำตอบนี้ก็ยังสูงพอ
อย่างน้อยเขาก็พึงพอใจกับคำตอบนี้มาก
ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนกล่าว “ฉันขอถามสักสองสามข้อบ้าง”
ลู่โจวตอบ “ศาสตราจารย์ เชิญเลยครับ”
ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนกล่าว “ฉันสังเกตเห็นเธอพูดถึงในวิทยานิพนธ์ว่า ด้วยการใช้เซตอัลกอริทึมแบบทำซ้ำแบบหนืด มันยังใช้ศึกษาวิธีแก้ปัญหาของตัวดำเนินการแบบสุ่มไม่เชิงเส้นในปริภูมิบานาค นี่ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับกลศาสตร์ควอนตัมได้เช่นกัน มันคล้ายกับอัลกอริทึมที่ศาสตราจารย์โคซากิประเทศญี่ปุ่นพูดถึงตอนที่เขาแนะนำภาพแบบไม่ขยายในปี สองศูนย์ศูนย์แปด แต่เธอไม่ได้ขยายหัวข้อพื้นฐานนี้ ทำไมงั้นเหรอ?”
ลู่โจวประหลาดใจกับคำถามนี้
‘ทำไม’หมายความว่ายังไงกัน?
เพราะเป้าหมายของวิทยานิพนธ์นี้ไม่ใช่เรื่องนี้อ่ะสิ!
ลู่โจวกระแอมแล้วกล่าว “เพราะการขยายหัวข้อนี้นับเป็นวิทยานิพนธ์ในตัวของมันเอง วิทยานิพนธ์นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาคณิตศาสตร์เท่านั้น แม้ว่าจะมีการอ้างอิงถึงการประยุกต์ใช้กลศาสตร์ควอนตัม แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก”
ปัญหาทางวิชาการนั้นไม่มีที่สิ้นสุด และทุกอย่างก็ขยายต่อไปได้อีก เขาจึงเอ่ยถึงการประยุกต์ใช้แบบสั้นๆ เท่านั้น
หรูเสินเจียนส่ายหน้าแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำ “นี่ไม่ใช่ความคิดที่นักวิชาการพึงมี เธอควรมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเธอค้นพบความเป็นไปได้นี้ ทำไมเธอถึงไม่ขยายต่อไปล่ะ?”
ศาสตราจารย์เซียงหัวหนานพลันเผยรอยยิ้มออกมา “เฒ่าหรู หยุดทำให้ลู่โจวลำบากใจได้แล้ว คนที่เก่งคณิตไม่จำเป็นต้องเก่งฟิสิกส์ ฉันคิดว่าลู่โจวเหมาะกับการวิจัยคณิตศาสตร์มากกว่า”
หรูเสินเจียนกล่าว “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันหมายความว่าถ้าเขาสนใจ เขามาเป็นศิษย์ฉันได้ การเคลื่อนที่ของอนุภาคขนาดเล็กต้องใช้ปริภูมิฮิลเบิร์ตในการควบคุม ในทำนองเดียวกันการสังเกตอนุภาคขนาดเล็กจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจอย่างมากในสาขาคณิตศาสตร์!”
ศาสตราจารย์เซี่ยงส่ายหน้า “ด้วยความเคารพ ฉันไม่เห็นด้วย ฉันได้ศึกษาทฤษฎีกลุ่มย่อยและสมการ Yang-Baxter แม้ว่าคณิตศาสตร์จะใช้เป็นเครื่องมือวิจัยฟิสิกส์ได้ แต่คณิตศาสตร์ก็เป็นเครื่องมือในตัวของมันเอง ฟิสิกส์และคณิตศาสตร์เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน”
ศาสตราจารย์เซียงยิ้มแล้วมองลู่โจวก่อนจะกล่าว “เหมือนกับที่ศาสตราจารย์หรูกล่าว ถ้าเธอค้นพบความเป็นไปได้ ทำไมเธอถึงไม่ขยายมันต่อล่ะ? ถ้าเธอสนใจ สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนมีโปรเจกต์วิจัยที่คล้ายกัน…”
คณบดีฉินขัดจังหวะ “ในสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนมีอัจฉริยะอยู่มากมายแล้ว อย่าขโมยของเราไป”
ศาสตราจารย์เซี่ยงหัวหนานยิ้ม “ขโมยอะไร? ฉันแค่มอบข้อเสนอ”
ศาสตราจารย์ถังยิ้ม “ยังมีเวลาเหลือ มาโต้แย้งวิทยานิพนธ์ต่อเถอะ”
อันที่จริงมันไม่มีอะไรถามแล้ว
ระดับของวิทยานิพนธ์สูงเกินไปสำหรับวิทยานิพนธ์ปริญญาตรี
การพรีเซนต์และโต้แย้งวิทยานิพนธ์เป็นแค่การทดสอบระดับของนักศึกษา ซึ่งในครั้งนี้เห็นได้ชัดว่ามันไม่จำเป็น
“ถามอะไรอีก? ช่างพิธีการพวกนั้นเถอะ!” ศาสตราจารย์เซี่ยงกล่าวด้วยรอยยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน
เขามองลู่โจวแล้วพยักหน้า “ผลงานของเธอในเรื่องการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชันทำให้ฉันประหลาดใจ ฉันไม่ค่อยได้เห็นนักศึกษาปริญญาตรีที่ตอบได้ดีแบบนี้มากนัก”
ลู่โจวกล่าวอย่างจริงใจ “ขอบคุณครับศาสตราจารย์”
ศาสตราจารย์เซี่ยงหัวหนานกล่าว “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน การพรีเซนต์จบลงแล้ว เธอไปได้แล้ว”
ลู่โจวมองศาสตราจารย์ถัง
ศาสตราจารย์ถังพยักหน้าแล้วกล่าว “เธอไปได้แล้ว เราจะแจ้งผลให้เธอทราบในไม่ช้า”
หลังจากจบการพรีเซนต์ ปกตินักศึกษาจะรอผู้ตัดสินแลกเปลี่ยนความเห็นแล้วมอบคะแนนให้จากร้อยคะแนน
และลู่โจวก็ผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าเขาไม่ผ่าน งั้นก็คงไม่มีใครในมหาวิทยาลัยผ่านแล้วแหละ
ลู่โจวสงสัยว่าเขาจะได้คะแนนเท่าไหร่
เมื่อลู่โจวออกไป ห้องเรียนก็เงียบ
ศาสตราจารย์เซี่ยงมองศาสตราจารย์ถังแล้วยิ้ม “เฒ่าถัง ฉันไม่ได้รับศิษย์มาหลายปีแล้ว ฉันกำลังจะเกษียณ และฉันก็อยากหาคนมาสืบทอดวิชา…เรามาทำข้อตกลงกันไหม?”
ศาสตราจารย์ถังยิ้มแล้วมองเพื่อนเก่า “ถามฉันก็ไม่มีประโยชน์ ฉันไม่สนว่าเด็กคนนี้จะไปไหน ไปถามเฒ่าฉินสิ”
คณบดีฉินยิ้มแล้วขัดจังหวะ “อย่าแม้แต่จะคิด!”
ศาสตราจารย์เซี่ยงหัวหนานส่ายหน้า “เห็นแก่ตัว”
เขาแค่พูดเล่น มันคงเป็นปาฏิหาริย์แล้วที่มหาวิทยาลัยจินหลิงจะปล่อยลู่โจวไป
แต่อย่างน้อย เขาก็เติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของตนแล้ว
ศาสตราจารย์หวังอี้ผิงโม้ให้เขาฟังว่ามหาวิทยาลัยจินหลิงมีเด็กอัจฉริยะอยู่คนนึงที่อาจได้เหรียญฟิลด์
ตอนแรกเขาไม่เชื่อ
แต่พอมาถึงวันนี้เขาก็มั่นใจ
ศาสตราจารย์เซี่ยงอดคิดไม่ได้ ‘นักวิชาการหนุ่มแบบนี้ โชคดีมาก’
อันที่จริงต่อให้ลู่โจวปฏิเสธข้อเสนอเขา มันก็ไม่สำคัญนัก
ด้วยอายุของเขา เขาจึงไม่แยแสอะไรหลายอย่าง
และส่วนเรื่องที่เขารู้สึกแยแสนั้น…
เขาเชื่อว่าจะมีโอกาสได้เห็นมัน
………………………………..