Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1483 กำจัดหนอน
ขณะที่ทั้งฝ่ายบรรณาธิการ ‘ฟิวเจอร์’ และนักวิชาการจางซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบได้กังวลเรื่องบทความวิจัยของลู่โจว แผนกการวิจัยและการพัฒนาของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ก็เจออุปสรรคคล้ายๆ กันจากการที่นักวิชาการลู่ขึ้นมามีอำนาจ
ผู้อำนวยการซงหยางเหว่ยจากคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งคณะกรรมการบริหารถูกปลด เหล่าผู้บริหารอาวุโสของแผนกการวิจัยและการพัฒนาทั้งหมดเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตามด้วยการปฏิรูปโครงสร้างที่ได้รับอนุมัติสำหรับเงินทุนเพื่อวิจัยทางวิทยาศาสตร์
มีข่าวลือมากมายว่าลู่โจวกำลังตรวจสอบประวัติทางวิชาการของผู้บริหารอาวุโสของแผนกการวิจัยและการพัฒนาทั้งหมดและใช้ทัศนคติการอดทนต่อการทุจริตเป็นศูนย์กับผู้จัดการโปรเจกต์ที่ไม่ประสานกัน แผนกการวิจัยและการพัฒนาทั้งแผนกกำลังหวั่นวิตก
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่วิตก
สำหรับพวกที่ขยันหมั่นเพียรในการทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มาตรการต่างๆ ที่ลู่โจวได้ตั้งขึ้นหลังจากที่เขาครองอำนาจก็ยังค่อนข้างเป็นที่ต้องการ สำหรับคนกลุ่มนี้ พวกเขาเบื่อหน่ายกับผู้บริหารของแผนกเหล่านั้นซึ่งพึ่งพาการเล่นพรรคเล่นพวกและพวกหัวหน้าโปรเจกต์เหล่านั้นที่ไม่ได้ตีพิมพ์บทความวิจัยแต่ยังได้รับเงินทุนมาเป็นเวลานานแล้ว
“ผลกระทบของฮวงจุ้ยต่อความปลอดภัยของแกนเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้… นี่มันโปรเจกต์วิจัยขยะประเภทไหนกัน? พวกเขากล้าดียังไง!”
กากบาทสีแดงอันใหญ่ถูกเขียนลงบนเอกสาร ลู่โจวซึ่งกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด ยื่นนิ้วชี้ออกไปและปัดหน้าจอโฮโลแกรมอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนไปที่เอกสารฉบับถัดไปโดยไม่ได้หยุด
หลังจากที่มีการพัฒนามาเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ ขนาดของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ก็ใหญ่ขึ้นและขยายมากขึ้น
เบื้องหลังความสามารถในการหากำไรอันมหาศาลและขนาดของบริษัททำให้สูญเสียความสร้างสรรค์และวัฒนธรรมองค์กรระบบราชการไปหมด
แม้ว่าต้นไม้ใหญ่ต้นนี้จะแตกกิ่งก้านสาขาไปทั่วทุกพื้นที่ มันก็ยังมีรูโหว่ปริศนาที่ถูกพวกหนอนกัดกิน
ถ้าไม่ใช่เพื่อคนจากศตวรรษที่แล้วที่ทำงานกันอย่างหนัก ลู่โจวก็คงจะขายหุ้นของเขาไปโดยตรงและเริ่มต้นใหม่กับเงิน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังที่จะถูกผลักดันให้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งประธานหลังจากที่เขาให้ความเห็นที่ฉุนเฉียว
แม้ว่าในความเห็นของเขา อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้กำลังจะตาย แต่มันก็ไม่ได้สิ้นหวัง
ถึงแม้คนในอนาคตจะทำให้เขารู้สึกผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า…
ลู่โจวมองไปที่การศึกษาอีกอันหนึ่งที่ชื่อว่า “27 วิธีในการชงกาแฟและผลกระทบของมันต่อคุณภาพการงีบหลับ” คิ้วของลู่โจวกระตุกอย่างแรงอีกครั้ง
“นี่มันโปรเจกต์บ้าอะไรกัน?!”
นี่เป็นแผนลวงอะไรหรือเปล่า?
บริษัทนี้จำเป็นต้องปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ
ลู่โจวมองไปที่ชื่อของผู้ยื่นโปรเจกต์และดูว่าผู้อำนวยการซงยอมให้เงินไปสองล้านเครดิตกับโปรเจกต์ขยะนี้ได้ยังไง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาทำเครื่องหมายไว้ข้างชื่อของผู้เขียนบทความ
เขาน่าจะขอให้เลขานุการประจำออฟฟิศของเขากำจัดพวกหนอนวิจัยอ่อนปวกเปียกพวกนี้ซะ
ในตอนแรกเริ่มเขาแค่อยากจะยกเลิกโปรเจกต์ของพวกเขา อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นบิดาผู้ก่อตั้งของพวกเขา แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าถ้าเขาไม่ถอนรากถอนโคนคนพวกนี้ พวกเขาก็จะแพร่กระจายไปทั่วบริษัท!
ลู่โจวมองดูเวลาตรงมุมขวาบนของหน้าจอโฮโลแกรม เขาสูดลมหายใจลึกและลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานเมื่อเห็นว่าเกือบจะถึงเวลาพักเที่ยงแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความอยากอาหารใดๆ แต่เขาก็ทำงานในออฟฟิศมาตลอดทั้งเช้าแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไปยังพื้นที่พักผ่อนของชั้นเพื่อดื่มกาแฟและสูดอากาศที่สดชื่น
ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าการดำเนินธุรกิจนั้นยากขนาดไหน
แม้ว่าธุรกิจนี้จะอยู่ในสาขาที่เขาเชี่ยวชาญ
นอกจากเงินทุนเพื่อวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ฉันสงสัยว่ามีปัญหามากมายแค่ไหนที่อยู่เบื้องหลังอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้…
ลู่โจวถือแก้วกาแฟกระดาษไว้ในมือระหว่างที่เขามองดูเมืองที่อยู่ด้านนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเฉินยู่ซานซึ่งสนับสนุนเขาอย่างเงียบๆ มาตลอดเวลาหลายปี เขาอดที่จะรู้สึกเศร้านิดๆ ไม่ได้
แม้ว่าเขาจะควบคุมตัวเองอยู่เสมอไม่ให้นึกถึงสิ่งต่างๆ จากศตวรรษที่แล้วอย่างตั้งใจ แต่เขาก็ยังรู้สึกเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง
อันที่จริงนับตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมา เขาก็เร่งเร้าให้เสี่ยวไอช่วยเขาขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับเฉินยู่ซานจากเมื่อศตวรรษที่แล้วออกมา
อย่างไรก็ตามเบาะแสทั้งหมดก็หายไปสามปีหลังจากที่เธอหายตัวไป เบาะแสทางอ้อมเพียงอย่างเดียวแสดงให้เห็นว่าเธอไปที่ปักกิ่งหลังจากลาออกจากการเป็นซีอีโอและไปพบพ่อแม่ของเธอ
หลังจากนั้นเธอก็หายตัวไปในกลุ่มคนมหาศาลและไม่มีใครเห็นเธอเลยนับแต่นั้น…
“ยังตรวจโปรเจกต์อยู่อีกเหรอ?”
ลู่โจวได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง เขาจึงหันไป
เขาเห็นชายสวมแว่นตากรอบทองคนหนึ่งถือแก้วกาแฟไว้ในมือ เดินมาอยู่ข้างเขาพร้อมกับยิ้ม
เทคโนโลยี AR ของยุคนี้ค่อนข้างสะดวก ถึงแม้คนจะไม่สามารถจำชื่อของอีกฝ่ายได้ แต่ถ้าพวกเขาอยู่ในสมุดที่อยู่อิเล็กทรอนิก พวกเขาก็สามารถจะจำชื่อของอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็วผ่านฟังก์ชันการจดจำใบหน้าของแว่นตา AR สิ่งนี้ช่วยลดความอับอายในการลืมชื่อกันและกันในการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมได้
ด้วยฟังก์ชันนี้ ลู่โจวจึงเห็นว่าชื่อของชายคนนี้คือจงจื้ออวี่
“ทำนองนั้นครับ มีอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่าหรอกครับ แค่สงสัย” จงจื้ออวี่ยิ้มระหว่างที่ยืนอยู่ข้างลู่โจว เขาพูดต่อในลักษณะชวนคุย “ห้าปีแล้วนับตั้งแต่เอไอไอบีมอบหมายให้ผมมาที่อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ จากประธานสามคนที่ผมได้เจอมา คุณน่าจะเป็นคนที่กล้าหาญที่สุด”
“ขอบคุณที่ชมครับ”
“นั่นไม่ใช่คำชมครับ มันเป็นแค่การกล่าวถึงความจริง” หลังจากที่จิบกาแฟ เขาก็จ้องมองไปที่แม่น้ำหวงผู่ เขายิ้มและพูดต่อว่า “ทุกคนรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แต่คุณคือคนแรกที่ยืนหยัดและพยายามจะแก้ไขมัน”
ลู่โจวพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ถ้าพวกคุณแก้ปัญหาได้ อย่างนั้นผมก็คงจะไม่มายืนอยู่ที่นี่ตอนนี้หรอก”
“มันไม่ใช่ว่าเราไม่อยากจะแก้มันหรอกครับ แต่ปัญหามันซับซ้อนไปไกลเกินกว่าที่คุณเข้าใจ” จงจื้ออวี่ถอนหายใจเบาๆ เขาพูดต่อไปว่า “อีกอย่างคือจริงๆ แล้วไม่ว่าบริษัทไหนก็เหมือนกัน มันมักจะมีคนที่ทำงานและคนที่ไม่ทำงานอยู่เสมอ ทั้งสองฝ่ายไปถึงจุดสมดุลที่จุดวิกฤตจุดหนึ่งและรักษาประสิทธิภาพขององค์กรไว้ร่วมกัน”
ลู่โจวพูดว่า “แต่นี่มันไม่ยุติธรรมกับคนที่ทำงานเลยจริงๆ”
“ไม่มีความยุติธรรมอยู่ในโลกนี้ครับ”
“แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่จะหยุดการไขว่คว้าหาความยุติธรรม…” ลู่โจวขมวดคิ้วนิดๆ และพูดว่า “ผมรู้สึกว่าคุณมีบางอย่างที่อยากจะพูด”
“ทำไมเหรอครับ? ผมแค่แปลกใจนิดหน่อย…” จงจื้ออวี่พูดพร้อมกับยิ้ม “ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณเป็นนักอุดมคติหรอกครับ”
ลู่โจวถามว่า “แล้วยังไงครับ?”
จงจื้ออวี่ตอบว่า “โปรดอย่าเข้าใจผมผิดไป ผมเพียงแต่ชื่นชมความคิดของคุณ สำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเรา เราไม่ได้สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่น… บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เราก็เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์”
“มันไม่เกี่ยวกับว่าผมเป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่ ผมเพียงแต่ทำในสิ่งที่ผมควรจะทำ”
ลู่โจวโยนแก้วกระดาษว่างเปล่าลงถังขยะรีไซเคิลข้างๆ เขา เขามองมาที่จงจื้ออวี่และพูดต่อว่า “เราจะมีประชุมกันตอนบ่าย ช่วยแจ้งแผนกการวิจัยและการพัฒนาทั้งหมดให้ผมหน่อย หัวหน้าทีมโปรเจกต์วิจัยทุกคนต้องเข้าร่วม”
จงจื้ออวี่พยักหน้าและตอบอย่างยินดีว่า “ผมจะแจ้งให้คุณทราบครับ”
…
ช่วงพักเที่ยงจบลง
เวลาบ่ายสองโมง
ลู่โจวมาถึงห้องประชุมที่ชั้นหนึ่งของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ตรงเวลา
ตอนที่เขามาถึงที่นี่ ห้องประชุมก็เต็มไปด้วยผู้คน สถาบันการวิจัยต่างๆ ของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้กระจายออกไปทั่วภูมิภาคพาน-เอเชียน ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกคนที่มาปรากฏตัวด้วยตัวเอง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นผ่านระบบการประชุมแบบโฮโลแกรม
ลู่โจวกวาดตามองพวกนักวิจัยที่กระวนกระวายใจและผู้ควบคุมดูแลของทีมโปรเจกต์ต่างๆ เขากล่าวเปิดสองสามบรรทัดและมุ่งตรงเข้ายังหัวข้อหลัก
“ตอนที่ผมตรวจสอบบัญชี ผมค้นพบว่าอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ได้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสาขาใหม่ๆ ไปเป็นจำนวนมาก แต่โชคไม่ดีที่ผลลัพธ์แทบจะไม่ได้อะไรเลย
“แล้วเมื่อผมตรวจสอบต่อไปว่าเงินทุนเพื่อวิจัยทางวิทยาศาสตร์แต่ละส่วนนั้นใช้ไปกับอะไร สุดท้ายผมก็พบว่าปัญหาอยู่ตรงไหน”
“การค้นพบนี้ทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง”
ลู่โจวมองห้องประชุมที่เงียบสนิทและใบหน้าที่รู้สึกตื่นเต้น กังวล เกลียดชัง และเปี่ยมด้วยความหวัง เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“การแก้ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่เร่งด่วน การอนุมัติเงินทุนเพื่อวิจัยทางวิทยาศาสตร์และแผนกการวิจัยและการพัฒนาของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ทั้งหมดจำเป็นต้องมีการปฏิรูปตั้งแต่ระดับบนสู่ระดับล่าง!
“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ระบบการอนุมัติเงินทุนแบบไม่จำกัดจะเลิกใช้ การจัดเก็บเอกสารของโปรเจกต์ทั้งหมดจะต้องมีลายเซ็นจากผู้อำนวยการการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งคณะกรรมการบริหาร ทุกอย่างจะได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“สำหรับโปรเจกต์ที่มีอยู่ ผมจะตัดออกไป 50% ผมจะชำระบัญชีโปรเจกต์ที่น่าสงสัยว่ามีการใช้เงินทุนในทางที่ผิดอย่างรุนแรงและส่งมอบโปรเจกต์เหล่านั้นให้กับแผนกกฎหมายเพื่อทำการรับผิดชอบ!”
ลู่โจวมองไปยังฝูงชนที่เงียบสนิท แล้วเขาก็พูดช้าลงเล็กน้อยและกล่าวต่อไปว่า “เอาล่ะตอนนี้ มาโฟกัสไปที่หัวข้อหลักสำหรับการประชุมวันนี้กันเถอะ
“มาพูดถึงโปรเจกต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองกัน”