Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1484 สมัยนี้ใครใหญ่!
การประชุมจบลง
เสียงฝีเท้าและเสียงคนบ่นโวยวายดังออกมาจากห้องประชุม
ชายสูงวัยอายุประมาณ 50 ถึง 60 ปีคนหนึ่งมีสีหน้าโกรธเกรี้ยว เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคืองแค้นว่า
“นักวิชาการลู่ทำบ้าอะไรวะเนี่ย?!”
หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนที่อายุประมาณ 30 ถึง 40 ปีอีกคนหนึ่งก็เข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยความโมโหไม่ต่างกัน
“ลดโปรเจกต์วิจัยวิทยาศาสตร์ถึง 50% ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้ว! ฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองอย่างนั้นเหรอ ถ้ามีเงินทุนไม่พอ เราก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นนั่นแหละ!”
“นี่มันไร้เหตุผลที่สุดเลย! ต่อให้เป็นนักวิชาการลู่ก็เถอะ…แต่มันก็ผ่านมามากกว่าร้อยปีแล้ว เขาคิดได้ไงว่าทฤษฎีของเขาจะยังใช้การได้”
ผู้อำนวยการหลิวซือไห่มีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเขาได้ฟังเสียงวิจารณ์ของคนที่อยู่รอบกาย ตั้งแต่เขาก้าวออกมาจากห้องประชุม เขายังไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
ในห้องประชุม งานวิจัยที่ชื่อ ’27 วิธีในการต้มกาแฟที่ส่งผลต่อคุณภาพในการงีบหลับ’ ที่ลู่โจววิจารณ์นั้นเป็นผลงานชิ้นโบแดงของตัวหลิวซือไห่เอง
และก็เป็นเพราะผลงานชิ้นนี้นี่แหละที่ทำให้ลู่โจวพูดออกมาว่า หลิวซือไห่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ทำให้เขาแพนิกขึ้นมาทันที และไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไรไปครู่หนึ่ง
เขาเพิ่งจะอายุสามสิบต้นๆ แถมมีประสบการณ์ด้านวิชาการที่ย่ำแย่มากด้วย ปกติแล้วมันแทบจะเป็นไปได้เลยที่คนอย่างเขาจะมานั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าห้องแล็บ ยังไม่นับว่าตำแหน่งที่ว่ายังเป็นตำแหน่งหัวหน้าห้องแล็บวิจัยแม่เหล็กไฟฟ้าที่สำคัญที่สุดและได้รับเงินทุนอย่างเพียงพอที่สุดอีกด้วย
เหตุผลที่เขามาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้เป็นเพราะภรรยาของเขาที่อายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี พ่อของเธอนั่งอยู่ในเก้าอี้บอร์ดบริหารคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องพวกนี้มันเป็นอดีตไปแล้ว
ในการประชุมบอร์ดเมื่อกี้ ลู่โจวที่นั่งเก้าอี้ประธานได้ปลดซงหยางเหว่ยออกจากตำแหน่งเนื่องจากต้องการปฏิรูปแผนกการวิจัยและการพัฒนาและตัวลู่โจวก็เข้ารับตำแหน่งคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแทน
ถึงแม้ว่ากลุ่มทุนซงของพ่อตาเขาจะยังเป็นผู้ถือหุ้นของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้อยู่ แต่พลังจากผู้บริหารในบอร์ดก็ถูกจำกัดสิทธิ์ไม่ให้มีการโหวตไปเรียบร้อย ถ้าลู่โจวอยากให้เขาหายไปจริงๆ เขาก็ทำอะไรต่อต้านไม่ได้
เขาทำงานหนักมากเลยนะ ในการหา ‘เหตุผล’ มาขอเงินทุนเนี่ย!
หลังจากอ่านสีหน้าความไม่พอใจบนใบหน้าของเจ้านายตัวเองแล้ว หยางเสี่ยวเฟิงก็เหลือบซ้ายแลขวา ก่อนจะร่วมผสมโรงด่าด้วยเช่นกัน
“ลู่โจวคนนี้มันเลวที่สุดจริงๆ ! คนคนนี้ใช่นักวิชาการลู่ตัวจริงเหรอ ผมคิดว่าเขาต้องเป็นตัวปลอมแน่ๆ !”
ถึงแม้ว่าจะเขาจะหวังให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่การจะตั้งคำถามว่าลู่โจวคนนี้เป็นคนจริงหรือเปล่าก็เป็นเรื่องที่โง่เขลาอย่างชัดเจนอยู่แล้ว
นักวิจัยแถวนั้นที่บังเอิญเดินผ่านมาพอดีถอนหายใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “จะตัวปลอมหรือตัวจริง อย่างไรสหการพาน-เอเชียนก็ยืนอยู่ข้างเขาเสมอ รวมถึงพวกเอไอไอบี ด้วย…ถึงผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกผู้ถือหุ้นรายหลักถึงเชื่อมั่นนักกับเจ้าไอศกรีมจากร้อยกว่าปีก่อนนั่น แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขามีพลังที่ยิ่งใหญ่เกินไปจริงๆ ”
ถึงแม้ปกติพวกผู้บริหารการวิจัยอาวุโสเหล่านี้จะไม่ได้สนใจเรื่องทางธุรกิจ แต่พวกเขาก็ยังทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกัน และได้ยินเรื่องการโหวตของคณะบอร์ดบริหาร
ลู่โจวสามารถไล่ซงหยางเหว่ยจากคณะบอร์ดบริหารออกได้โดยตรง แถมยังเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เอามาจากอีกฝ่ายได้เลยอีกต่างหาก เหตุผลส่วนใหญ่มาจากที่เขาได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายหลักหลายฝ่ายอย่างเอไอไอบี เป็นต้น
ไม่อย่างนั้นแล้ว การที่ลู่โจวมีเพียงแค่หุ้น 7% และคอนเนกชันกับคณะบอร์ดบริหารอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ในระดับที่ห่วยแตกคงแทบจะไม่มีทางทำให้เกิดเหตุการณ์แบบในปัจจุบันได้
“แล้วเขาจะเข้ามาเป็นคนในบอร์ดบริหารทำไมกัน ไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหน เขาก็หัวเดียวกระเทียมลีบอยู่ดี ถ้าเขาอยากจะทำอะไร อย่างไรเขาก็ต้องให้คนอื่นช่วย” หยางเสี่ยวเฟยพูดต่อโดยมีแววตาเริงร่าด้วยความชั่วร้าย “ผมมีไอเดียแล้ว เราไม่ต้องให้เจ้าไอศกรีมหลงยุคนั่นยอมแพ้หรอก เราปล่อยให้เขามีสถานะแบบปัจจุบันไปเนี่ยแหละ”
หลิวซือไห่กังวลว่าลู่โจวจะหาทางกำจัดเขา เขาจึงพูดขึ้นมาทันทีว่า
“ไอเดียอะไรกัน บอกมาเลย!”
“นักวิชาการลู่มีชื่อเสียงในวงการวิชาการจริง แต่สุดท้าย มันก็เป็นชื่อเสียงจากเมื่อราวร้อยปีก่อน เขาไม่ได้มีคอนเนกชันอะไรในยุคนี้เลย และคุณก็เป็นผู้นำของห้องแล็บวิจัยแม่เหล็กไฟฟ้า ถ้าเขากำจัดคุณออกไป จะไม่มีใครมารับตำแหน่งแทนคุณอีก”
ดวงตาของผู้อำนวยการหลิวซือไห่ค่อยๆ เป็นประกายขึ้นมา หยางเสี่ยวเฟิงยิ้มแล้วพูดช้าๆ ว่า
“ถ้าทั้งแผนกการวิจัยและการพัฒนาตกอยู่ในความวุ่นวายล่ะก็ ลืมเรื่องฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองไปได้เลย ผมเกรงว่าแม้แต่ธุรกิจธรรมดาของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ก็จะได้รับผลกระทบเหมือนกัน เมื่อเห็นว่าความโกลาหลเกิดขึ้นจากเขาแล้ว ต่อให้พวกเอไอไอบีจะเชื่อมั่นในตัวลู่โจว พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่ใช่ผู้บริหารที่ดีเลย แล้วพอถึงเวลานั้นเขาก็จะไม่สามารถรักษาเก้าอี้ประธานได้”
“ฉลาดสุดๆ !”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของหยางเสี่ยวเฟิง ใบหน้าของหลิวซือไห่ก็แสดงท่าทางมีความสุขมากขึ้นมาทันที ดวงตาของเขาเป็นประกายมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่เขาเริ่มพึมพำว่า “พอลู่โจวเสียอำนาจในบอร์ดบริหารไป บอร์ดบริหารจะต้องเชิญผู้อำนวยการซงกลับมาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เจ้าหมอนั่นจะต้องทิ้งไว้แน่ๆ ”
และเมื่อพ่อตาของฉันกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมที่คณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอนาคตของฉันในอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้อีกต่อไป!
ต่อให้ลู่โจวปลดเขาออกจากการเป็นผู้อำนวยการแล็บ ในอนาคต เขาก็มีโอกาสได้ย้ายไปประจำตำแหน่งสูงในแล็บที่อื่นอยู่ดี!
หยางเสี่ยวเฟิงยิ้มประจบ
“คุณฉลาดมากเลยครับ ผู้อำนวยการหลิว!”
“เขาไม่ได้แค่กำลังทำร้ายแผนของพวกเรานะครับ! สิ่งที่พวกเราต้องทำในตอนนี้คือการรวบรวมคนที่ไม่พอใจมาอยู่ด้วยกัน แล้วต่อสู้กับเจ้าคนหลงยุคนั่น!”
แล้วเขาจะได้รู้เสียทีว่าสมัยนี้ใครกันแน่ที่ใหญ่!”
…
หลังจากการประชุมวิจัยจบลง
ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุม แต่เนื้อหาการประชุมก็ถูกเผยแพร่ออกมาในวันที่มันสิ้นสุดลง
นอกจากจะมีเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองของลู่โจวแล้ว สิ่งที่ทำให้นักวิจัยให้ความสนใจมากที่สุดก็คือโปรแกรมปฏิรูปที่เขาเสนอขึ้นมาในการประชุม
ไม่ว่าจะเป็นการตัดโปรเจกต์วิจัยวิทยาศาสตร์ทิ้งไปถึงครึ่งหนึ่ง หรือจะเป็นการเปลี่ยนกระบวนการในการอนุญาตให้เงินทุนเพื่อวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทุกเรื่องที่นักวิชาการลู่เสนอขึ้นมานั้นสอดคล้องกับความสนใจหลักๆ ของนักวิจัยที่ทำงานในอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้เป็นอย่างมาก
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในสหการพาน-เอเชียนหรือไม่ก็ตาม ทุกหน่วยวิจัยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ต่างก็คุยเรื่องนี้กันทั้งนั้น
“ผู้อำนวยการหลิวที่อยู่แล็บแม่เหล็กไฟฟ้าโดนปลดจริงๆ เหรอ จริงเหรอ”
คนที่เขียนงาน ’27 วิธีในการต้มกาแฟที่ส่งผลต่อคุณภาพในการงีบหลับ’ คนนั้นน่ะนะ ได้ยินว่าเขาได้เงินทุนวิธีมามากกว่าสองล้านแหนะ ฮ่าฮ่า ในที่สุดเขาก็ไปให้พ้นๆ ได้เสียที เขาคือความอับอายของบริษัทเรา!”
“ชู่วว อย่าพูดเรื่องไร้สาระสิ ผู้อำนวยการหลิวเป็นลูกเขยของผู้อำนวยการซง นักวิชาการลู่แค่เตือนเขาในการประชุมเฉยๆ ถ้าสุดท้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ สิ่งที่นายพูดในวันนี้ต้องไปเข้าหูเขาสักวันแน่ๆ นายไม่กลัวเขาหรือไง”
“อะไรวะ ถามจริงเหอะ เขาจะมาตามอะไรฉัน อีกอย่างนะ ไม่ใช่ฉันคนเดียวสักหน่อยที่พูดเรื่องนี้…”
ถังอวิ๋นเกอฟังเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศของเขากำลังคุยประเด็นร้อนกัน เขารู้สึกว่าคนพวกนี้ไม่กลัวคอขาดเลยจริงๆ พวกเขากล้าพูดเรื่องไร้สาระนี่ออกมาได้
แต่ถ้ามีใครมาถามว่าเขาคิดอย่างไร เขาก็จะยังตบมือให้นักวิชาการลู่อยู่ดี ที่อีกฝ่ายกล้าโจมตีนักวิชาการหลิว
เพราะถังอวิ๋นเกอเป็นคนประเภทที่ชอบทำงานของตัวเองอย่างเดียว
ในแล็บวิจัยแม่เหล็กไฟฟ้านั้น พวกนักวิจัยแนวหน้าทำงานที่หนักที่สุดและสำคัญที่สุด แต่สุดท้าย พวกเขาอาจจะไม่ได้มีสิทธิ์ใส่ชื่อตัวเองลงไปบนงานวิจัยที่ตีพิมพ์ออกมาด้วยซ้ำ
พวกเขาต้องยอมทำใจว่าหากเป็นผลงานวิจัยที่ผู้อำนวยการหลิวกับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ กำลังสนใจกันอยู่นั้น มันอาจจะไม่มีชื่อพวกเขาที่เป็นคนทำอยู่ในเครดิต
การได้ใส่ชื่อลงไปบนธีสิสนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็น ‘พรจากสวรรค์’ เลยด้วยซ้ำ
ในอาณาจักรแล็บวิจัยแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดหนึ่งส่วนสามเอเคอร์นี้ ผู้อำนวยการหลิวคือราชา
แต่ตั้งแต่ที่นักวิชาการลู่กลับมา ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป
เมื่อเขาเห็นพิธีฉลองชัยชนะในใจกลางแห่งเอเชียผ่านหมวก VR หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆ เขารู้สึกว่าชายผู้ยิ่งใหญ่จากเมื่อศตวรรษก่อนจะนำความตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ มาให้ชีวิตของคนพาน-เอเชีย
และตอนนี้ สิ่งนั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว
ในขณะที่ถังอวิ๋นเกอมองอีเมลในกล่องข้อความของเขา เขาก็รู้สึกถึงอารมณ์หลากหลายที่หลั่งไหลเข้ามา
เขาไม่รู้ว่านักวิชาการลู่จะสนใจคนไร้ตัวตนอย่างเขาไปทำไม
แต่ลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่า นี่น่าจะเป็นเรื่องดี
“พวก ทำไมนายดูแฮปปี้จัง”
ถังอวิ๋นเกอรีบซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าทันที แล้วแกล้งทำเป็นไอแห้งๆ
“แฮปปี้? จริงเหรอ อย่างไรก็แล้วแต่ ฉันยังมีเรื่องต้องทำตอนบ่ายนี้ เพราะงั้นพวกเราเลื่อนการทดลองไปจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ฉันไม่เชื่อว่านายจะทำได้ด้วยตัวคนเดียว”
เพื่อนร่วมงานของเขาไม่ได้คิดอะไรมากเลย เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “โอเค พรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้”