Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1491 ใครบอกกันว่าผมมีแค่บริษัทเดียว?
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1491 ใครบอกกันว่าผมมีแค่บริษัทเดียว?
มันพิสูจน์ได้แล้วว่าซงหยางเหว่ยไม่ได้พูดเล่น
บางทีอาจจะเพราะลู่โจวได้ทำให้แล็บทั้งแล็บร้างผู้คนเรียบร้อย ถึงแม้ว่าเขาจะมองว่านี่เป็นทางเดียวที่จะช่วยอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าตลาดทุนมีความคิดเป็นของตัวเองอีกแบบ
ในวันที่สองหลังจากคำขู่ทางโทรศัพท์ของซงหยางเหว่ย ข่าวด้านลบของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ที่มีรายละเอียดแน่นเอี๊ยดก็แพร่กระจายออกมา ข่าวบางเรื่องก็โผล่ในสื่อใหญ่ๆ บ้าง
ถึงแม้ข่าวลักษณะนี้จะไม่ได้เข้าไปขัดกับการทำงานทั่วไปของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ แต่มันก็ทำให้ผลงานในตลาดหุ้นร่วงระนาว ตอนแรกการที่ลู่โจวกลับมาได้ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่ตอนนี้มันกลับร่วงลงในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
มันแย่ยิ่งกว่าตอนก่อนที่เขาจะได้รับตำแหน่งประธานด้วยซ้ำ
ลู่โจวมองราคาหุ้นของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้อยู่พักหนึ่ง เขาถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
“ฉันคำนวณการเคลื่อนไหวของดวงดาวได้ แต่คำนวณความบ้าคลั่งของคนไม่ได้เลย”
เสี่ยวไอ “เจ้านาย? 0.0”
ลู่โจว “ไม่มีอะไรหรอก แค่หงุดหงิดนิดหน่อย”
จริงๆ แล้วประโยคนี้เป็นประโยคที่นิวตันเป็นคนพูด
ในช่วงหลายปีหลังของชีวิตนิวตัน เขารู้สึกว่าการที่เขาไปรังแกฮุคนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตเขารู้สึกท้าทายเลย เขาจึงย้ายไปทำงานในโรงกษาปณ์ของจักรวรรดิอังกฤษเพื่อรับตำแหน่งผู้ว่าการของธนาคารกลางแล้วจึงเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในวงการการเงิน
ถึงแม้ว่านิวตันจะเป็นอัจฉริยะและได้ช่วยให้จักรวรรดิอังกฤษสามารถปฏิรูปจากมาตรฐานเงินไปเป็นมาตรฐานทองคำได้อย่างหมดจด เขาก็สูญเสียเงินจำนวนมากไปในตลาดหุ้น
ถ้าพูดให้ชัดก็คือ เขาไปเจอกับเหตุการณ์ ‘บริษัททะเลจีนใต้’ ในประวัติศาสตร์ทางการเงินของยุโรปที่อยู่ในระดับพอๆ กับเคสทิวลิปของเนเธอร์แลนด์ นั่นทำให้นิวตันต้องเสียเงินไปถึง 20,000 ปอนด์จากเหตุการณ์นั้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานิวตันก็ไม่สนใจเรื่องหุ้นอีกต่อไป เขาอุทิศตัวเองให้กับการศึกษาเทววิทยาและศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุ
อันที่จริงลู่โจวไม่ได้เสียเงินไปเลย
เงินที่เขาเอาไปซื้อหุ้นของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนแทบจะไม่ได้มีความหมายอะไร เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เขาจะเสียเงินกับการลงทุนของเขา
สิ่งที่ทำให้เขาไม่ชอบใจ เป็นเพราะคำขู่ของผู้ชายคนนั้นตอนวิดีโอคอลมาต่างหาก
ถ้าลู่โจวไม่แสดงการโต้กลับอะไรเลยแล้วปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นชอร์ตบริษัท มันจะไม่ดูเหมือนตัวเขายอมแพ้อีกฝ่ายเหรอ?
ลู่โจวขอให้เสี่ยวไอลงบิดในตลาดหุ้นไปหลักร้อยในชื่อตัวเขาเอง เป็นการใช้เงินทั้งหมด 9 ล้านเครดิตที่สายการบินพาน-เอเชียนชดใช้ให้เขา
แต่หลังจากลงบิดเสร็จ ลู่โจวก็รู้สึกเสียใจในทันที
เขาทำให้ตัวเองใจเย็นลงแล้วคิดดีๆ เขารู้สึกว่าเขาบ้าระห่ำไปหน่อย
9 ล้านเครดิตในพูลของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ไม่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
ต่อให้เขาอยากเพิ่มจำนวนโฮลดิ้ง เขาก็ไม่ควรทำในตอนนี้
อย่างน้อยเขาก็น่าจะรอจนกว่างานจ๊อบแฟร์จะเสร็จ
“ฉันชักจะเริ่มเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองซะแล้วสิ”
“… W(゚Д゚)w”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่โทษเธอหรอก” ลู่โจวมองอีโมจิที่โผล่ที่ม่านตาของเสี่ยวไอ เขาส่ายหัวแล้วพูดกับตัวเอง “น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้มีเงินเยอะอะไร เงินไม่กี่ล้านเครดิตก็ไม่ได้ช่วยให้มีอะไรเปลี่ยนเลย”
ถ้านี่เป็นเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน เขาคงไม่ต้องกู้เงินเลยสักนิด
เขาเอาเรื่องตลาดหุ้นไปเก็บก่อน
ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือ
จากนั้นเขาก็ปิดหน้าเบราว์เซอร์ที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้า แล้วเปลี่ยนไปมองแบบจำลองที่ยังทำไม่เสร็จในมือแทน
สิ่งนี้คือแบบจำลองโฮโลแกรมของเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นล่าสุดของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้
เมื่อเปรียบเทียบกับดีไซน์ของมันเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน เห็นได้ชัดว่ามันมีการปรับปรุงพัฒนาอะไรต่างๆ ขึ้นเยอะ หลายสิ่งหลายอย่างที่เมื่อก่อนเขาไม่ได้วางแผนจะเอาไปทำอะไร พอเป็นช่วงร้อยปีที่ผ่านมา พวกมันก็มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ระดับสมบูรณ์แบบในปัจจุบัน
ประสิทธิภาพของพลังงานเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นแรกไม่เหลือพื้นที่ให้เทคโนโลยีนี้สามารถพัฒนาได้มากนัก หลังจากเข้าใจข้อเท็จจริงตรงนี้ ลู่โจวก็ตัดสินใจว่า
ฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สอง หรือก็คือดิวเทอเรียม-ฮีเลียม ไตรฟิวชั่น จะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า!
เพื่อจะก้าวผ่านปัญหาของเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สอง จะต้องมีการแก้ปัญหาหลักสองข้อเสียก่อน ข้อแรกคือเรื่องการอิกนิชั่นเครื่องปฏิกรณ์ อีกข้อคือตัวเครื่องปฏิกรณ์เอง
หรือถ้าพูดให้เฉพาะเจาะจงเลยก็คือ เขาต้องไปหาภาชนะที่สามารถทนและบีบอัดพลาสมาอุณหภูมิสูงหลายพันล้านองศาได้
การจะไปคาดหวังให้วัสดุทั่วไปสามารถทนทานพลังงานระดับนี้ได้ก็เป็นไปได้ยากอยู่แล้ว ดังนั้น ‘ภาชนะ’ ที่ลู่โจวเลือกจึงยังคงเป็นสนามแม่เหล็กอยู่
ถึงแม้ว่าผลการคำนวณทางทฤษฎีตัวเลข 10,000 เทสลาจะฟังดูน่ากลัวนิดหน่อยก็เถอะ…
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับวิธีทางเทคนิควิธีอื่นแล้ว วิธีนี้เชื่อถือได้มากกว่า
“คำถามอยู่ตรงที่ว่าพวกเราจะไปหาสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่เท่านั้นมาจากไหนกัน?”
ลู่โจวเอาชิ้นส่วนแม่เหล็กไฟฟ้าออกจากแบบจำลองโฮโลแกรมของเครื่องปฏิกรณ์ ซูมเข้าไป แล้วขยับมันมาใกล้ๆ จากนั้นเขาก็วางมันไว้ตรงหน้าเพื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
ในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยหรืองานออฟฟิศ กระดาษก็เป็นสิ่งที่แทบไม่ใช้กันแล้ว
แบบจำลองโฮโลแกรมสามมิติสามารถแสดงภาพรายละเอียดในดีไซน์ได้เห็นชัดกว่า และยังสามารถทำให้นักออกแบบแก้ไขส่วนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงได้อีกด้วย
หลังจากลองผิดลองถูกมาพักหนึ่ง ลู่โจวก็เข้าใจความมีประโยชน์ของเครื่องมือวิจัยวิทยาศาสตร์ชิ้นนี้ได้ในไม่ช้า
ยิ่งมีการร่วมมือทางออนไลน์แล้ว เครื่องมือนี้ยิ่งทำให้คนหลายคนสามารถร่วมมือกันทำผลงานชิ้นเดียวกันได้ ส่วนกับนักวิจัยให้ทีมโปรเจกต์ การที่เครื่องมือนี้ทำให้พวกเขาสามารถออกแบบได้ในขณะที่พูดถกประเด็นกันไปด้วยนั้นทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องมือก่อนๆ เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันจะเป็นเครื่องมือวิจัยที่ทรงพลังมากแค่ไหน มันก็ยังไม่สามารถหนีปัญหาของตัวการวิจัยออกไปได้พ้น
ในขณะที่ลู่โจวกำลังคิดถึงคำตอบของคำถามก่อนหน้า งานวิจัยที่เขาเคยอ่านเมื่อนานมาแล้วก็แวบเข้ามาในหัว
“…การบีบอัดพายุแม่เหล็ก”
เขายังจำทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยมอสโกที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้สนามแม่เหล็กโดยการวางระเบิดข้างๆ ขดลวดเหนี่ยวนำแม่เหล็ก จากนั้นก็บีบสนามแม่เหล็กจนมันระเบิดออกมา
เมื่อดูจากผลลัพธ์การวิจัยแล้ว พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัย ในยุคสมัยที่การสร้างสนามแม่เหล็กที่มีความแข็งแกร่งมากกว่า 100 เทสลานั้นทำได้ยากมาก แต่พวกเขากลับสามารถทำสนามแม่เหล็กที่มีความแข็งแกร่งถึง 700 เทสลาได้!
ถึงแม้ผลลัพธ์ของการวิจัยนี้จะมีอยู่แค่ 10 ไมโครวินาที ทีมวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์มาซาจิโระ ทาเคยามะจากมหาวิทยาลัยโตเกียวก็ได้ทำการทดลองนี้ซ้ำอีกรอบ และพวกเขาก็ทำด้วยอุปกรณ์ทดลองครบเซ็ตบวกกับประตูเหล็กอีกหนึ่งบาน ทำให้ความแข็งแกร่งของสนามแม่เหล็กเพิ่มขึ้นถึง 1,300 เทสลาในเวลา 100 ไมโครวินาทีสั้นๆ
ถึงแม้ว่าไอเดียการทดลองอันรุนแรงแบบนี้จะฟังดูเชื่อถือไม่ได้ แต่มันก็เป็นวิธีที่ฟังดูใช้ได้ที่สุดแล้วในตอนนี้
ถ้าหากสามารถใช้วิธีที่มั่นคงในการบีบอัดพายุแม่เหล็กกับพลังงานฟิวชั่นที่ควบคุมได้ให้สำเร็จขึ้นมา สนามแม่เหล็กความเข้มข้นสูงก็สามารถประสานเข้ากับปฏิกิริยาฟิวชั่นในระดับความถี่ที่สามารถสร้างขึ้นมาได้…
มันอาจได้ผล!
ดวงตาของลู่โจวเริ่มเป็นประกายขึ้นมา
ถ้าทีมของเขายังอยู่ที่นี่ก็ดีสิ
ด้วยประสิทธิภาพทางเทคนิคของศตวรรษที่ 22 ถ้าหากหลี่เจี้ยนกัง เชิ่งเซี่ยนฟู่ และทีมที่เหลือของเขายังอยู่ตรงนี้ล่ะก็ เขามั่นใจถึง 80% ว่าเขาสามารถสร้างเครื่องปฏิกรณ์ทดลองขึ้นมาได้
“เจ้านาย มีคนรอเจ้านายอยู่ข้างนอก ( ́・ω・`)ノ”
ลู่โจวมองจออิเล็กทรอนิกส์ของโดรนลำเล็กที่อยู่ตรงมุมโต๊ะ
“ใครมาเหรอ?”
“เขาบอกว่าเขาเป็นประธานของธนาคารหัวเซี่ย 0.0″
ประธานของธนาคารหัวเซี่ย?
ลู่โจวยืนแข็งทื่อไปชั่วครู่ ในไม่ช้า เขาก็จำเรื่องปัญหาในการกู้เงินที่เขาคุยกับผู้จัดการธนาคารไปเมื่อวานได้
เขาพูดขึ้นมาทันทีว่า
“ให้เขาเข้ามาสิ”
“ได้เลยเจ้านาย (๑•̀ᄇ•́)و✧”
หลังจากที่เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างๆ ให้เป็นชุดสบายๆ แล้ว ลู่โจวก็เดินลงบันไดไปยังห้องนั่งเล่น
พอเขาเดินลงบันไดมา ประตูหน้าบ้านก็เปิดออก เขาเห็นชายสูงวัยแต่งตัวหรูในชุดทางการยืนอยู่ตรงหน้าประตู บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเป็นมิตร
“ผมเข้าไปได้ไหมครับ?”
ลู่โจวตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรเช่นดัน
“เข้ามาได้เลยครับ ทำตัวตามสบาย”
ลู่โจวบอกเสี่ยวไอให้ชงชาให้แขกด้วย จากนั้นเขาก็เชิญชายสูงวัยไปนั่งที่โซฟา แล้วจึงมองอีกฝ่าย
เมื่อมองจากหย่อมสีขาวที่ขมับของเขาแล้ว คนตรงหน้าน่าจะอายุมากกว่าที่เขาคิด เพราะอายุขัยทั่วไปของคนในยุคนี้นั้นนับว่าค่อนข้างยืนยาว คนในวัย 50 ปีจึงดูเหมือนคนสมัยก่อนที่อายุ 30 ปี
ถึงจะพูดแบบนั้นไป แต่ชายสูงวัยตรงหน้าก็อาจจะอายุมากกว่า 80 ปีแล้ว ซึ่งนั่นก็ไม่ทำให้เขารู้สึกอะไรหรอก
ในขณะที่ลู่โจวกำลังคิดว่าตัวเองควรจะพูดอะไรออกมาดี ประธานซุนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาก็พูดออกมาด้วยอารมณ์อย่างเต็มที่ว่า “ช่างหนุ่มเหลือเกิน”
ลู่โจว “…?”
“ขอโทษด้วย ผมไม่ได้อยากจะทำให้คุณโกรธหรอก แค่อารมณ์พาไปนิดหน่อย” ประธานซุนยิ้มขอโทษและพูดต่อ “ผมได้ยินเรื่องประวัติของคุณมาแล้ว คุณมักจะถูกหนังสือประวัติศาสตร์ชื่นชมอยู่เสมอว่าคุณเป็นนักวิชาการหนุ่มที่มองการณ์ไกล ผมมักจะสับสนตลอดกับเรื่องนี้ แต่พอผมได้เห็นคุณ ความสับสนนั้นก็หายไปแล้ว”
ลู่โจวมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดอะไรต่อ
หลังจากเว้นจังหวะไป ประธานซุนก็พูดต่อ
“นวัตกรรมคือเลือดเนื้อของบริษัท ผมเห็นรายงานวิเคราะห์ที่คนหลายคนเขียนขึ้นมาแล้ว มีเพียงมาตรการขั้นเด็ดขาดเท่านั้นที่จะสามารถช่วยอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ได้ ซึ่งตอนนี้ตัวบริษัทเองก็กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงในทางนวัตกรรมอยู่อย่างช้าๆ บอร์ดผู้บริหารไม่กล้าทำอะไร แต่คุณ ซึ่งเป็นผู้ที่หลับไปชั่วคราวเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน กลับเป็นผู้ที่ตัดสินใจ ผมไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้”
ลู่โจวแอบรู้สึกเขินเล็กๆ ถึงเขาจะรู้ว่าประธานซุนพูดถูก แต่ได้มารับคำชมแบบนี้ก็…ทำให้เขาหน้าแดงเลย
“ขอบคุณนะครับ” ลู่โจวพูดพร้อมกับกระแอมเบาๆ “ผมแค่ทนพวกหนอนแมลงไร้แรงบันดาลใจพวกนั้นไม่ไหวน่ะครับ”
“อย่างไรนั่นก็เป็นผลงานของคุณที่มอบไว้ให้กับคนพาน-เอเชียน ผมหมายถึงของขวัญน่ะ ผมเข้าใจดี” ประธานซุนยิ้มแล้วพูดต่อ “เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ผมได้ยินจากผู้จัดการว่าคุณอยากจะยืมเงินไปลงทุนกับตัวเองเหรอ?”
ลู่โจวพยักหน้า
“ประมาณนั้นครับ”
ประธานซุนมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ “แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจเลย…ถ้านี่คุณทำเพื่อฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองล่ะก็ ไม่ใช่ว่าเงินนี้ควรจะมาจากอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้หรอกเหรอ? ทำไมคุณต้องเป็นฝ่ายยืมเงินด้วยตัวเองล่ะ?”
ลู่โจว “มันไม่เกี่ยวอะไรกับการทดลองหรอกครับ”
ประธานซุน “แล้วอย่างนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ?”
“เพื่อจะขยายสิทธิของผมในการพูดในบอร์ดผู้บริหาร…” ลู่โจวพูดต่อหลังจากเว้นจังหวะไปนิดหนึ่ง “ผมต้องการขอกู้เงินเพื่อที่ผมจะได้ซื้อหุ้นในตลาดหุ้นของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ คุณพอจะประเมินค่าให้ได้ไหมครับ?”
“หุ้นของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้เป็นหุ้นที่มีคุณภาพสูง ไม่มีปัญหาเรื่องการกู้เงินหรอก เรื่องสำคัญมันอยู่ที่ว่าคุณต้องการเท่าไรล่ะ”
“เริ่มที่หนึ่งหมื่นล้านเหรียญก็แล้วกันครับ”
“แค่กๆๆ !”
ประธานซุนที่กำลังดื่มชาแทบจะสำลักน้ำ
เขาไอแค่กๆ หลังจากใจเย็นลงได้ เขาก็หันไปมองลู่โจวด้วยสีหน้าผิดหวังแล้วเอ่ยถามด้วยความมึนงงว่า “คุณหมายความว่าอะไร…เริ่มด้วยหนึ่งหมื่นล้านเหรียญ?”
ลู่โจวขมวดคิ้ว
“ขนาดหนึ่งหมื่นล้านเหรียญผมก็กู้ไม่ได้เหรอ?”
“ไม่หรอก ด้วยหุ้นที่คุณมีคุณสามารถขอกู้เงินได้ถึงหนึ่งแสนล้านเหรียญเลย ปัญหาอยู่ตรงที่คุณไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนว่าคุณต้องการเงินมากเท่าไร…”
ในขณะที่ประธานซุนกำลังตำหนิถึงมุมมองทางการเงินของลู่โจว นาฬิกาที่ข้อมือซ้ายของชายสูงวัยก็สั่น
เมื่อเขาเห็นชื่อผู้โทรจากหน้าจอโฮโลแกรม ชายสูงวัยก็ผงะไปเล็กน้อย สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังในทันที
“ขอโทษที ผมต้องรับสายนี้”
ประธานซุนลุกขึ้นจากโซฟา เขาเดินไปอีกอีกฟากหนึ่งของห้องนั่งเล่นแล้วกดปุ่มรับสาย
ลู่โจวไม่ได้รีบอะไร เขาดื่มชาอย่างเงียบๆ รอให้อีกฝ่ายให้คุยโทรศัพท์เสร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาก็สังเกตเห็นได้ในทันทีถึงสีหน้าเปลี่ยนไปของประธานซุน ราวกับชายสูงวัยเพิ่งได้ยินข่าวช็อกอะไรสักอย่าง ความดันโลหิตของเขาพุ่งสูงในทันที
“อะไรนะ?!”
“กลุ่มทุนหยางเหว่ยส่งรายงานการขายชอร์ตอย่างนั้นเหรอ? แน่ใจนะว่าไม่ได้เข้าใจผิด?”
“โอเค เข้าใจแล้ว…”
การโทรศัพท์จบอย่างรวดเร็ว
หลังจากปิดหน้าต่างวิดีโอคอล ประธานซุนก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกลับมานั่งที่โซฟา
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เอ่อ นักวิชาการลู่”
ลู่โจว “ครับ”
“ถ้าคุณอยากจะขอกู้เงินล่ะก็ ผมไม่แนะนำให้คุณไปซื้อหุ้นของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้นะ” ประธานซุนบอกด้วยน้ำเสียงจริงใจกับสีหน้าเชิงขอโทษ “ถ้าคุณยังต้องทำแบบที่บอกไปเมื่อกี้ล่ะก็ ผมต้องบอกว่าพวกเราไม่สามารถให้เงินตามจำนวนที่คุณต้องการได้ง่ายๆ แล้ว”
ลู่โจวถามกลับว่า “ทำไมล่ะ?”
“มันเป็นเรื่องของความเสี่ยงน่ะ…คุณน่าจะลองดูตลาดหุ้นตอนนี้นะ”
ลู่โจวมีสีหน้าแปลกใจ นิ้วชี้ของเขาคลิกไปในอากาศ เปิดอินเตอร์เฟสโฮโลแกรมขึ้นมา แล้วกดเข้าไปในหน้าตลาดหุ้น
ทันทีที่เขาเปิดบัญชีตัวเองขึ้นมา ข่าวก็เด้งมาทันที
[กลุ่มทุนหยางเหว่ยปล่อยรายงานวิจัยชิ้นล่าสุดของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ โดยให้ราคาขาย]
ลู่โจวมองดิป 5% ของราคาหุ้น จากนั้นก็หันไปมองประธานซุนที่นั่งอยู่ข้ามโต๊ะกาแฟด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“อะไรคือรายงานวิจัยครับ?”
“ตัวรายงานวิจัยมันไม่ได้สำคัญหรอก ส่วนที่สำคัญอยู่ตรงที่พวกเขาเปิดเผยในรายงานวิจัยเรื่องการสำรวจความวุ่นวายของการจัดการอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้” ประธานซุนมองลู่โจวที่ยังดูยืนงงๆ แล้วพูดต่อว่า “สรุปแล้วก็คือพวกเราแนะนำให้คุณซื้อหุ้นตัวอื่น เอ่อ…คุณยังต้องการเงินกู้ไหม?”
“ต้องการสิครับ ทำไมจะไม่ต้องการล่ะ?” ลู่โจวพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติว่า “ผมขอกู้เงินห้าหมื่นล้านก่อนเลย”
ประธานซุนคิดว่าตัวเองได้ยินอะไรผิดไป เขามองลู่โจวด้วยสีหน้ามึนงง แล้วก็พูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “ห้า…ห้าหมื่นล้านเหรอ?”
“ครับ คุณทำได้ไหมล่ะ?”
“ก็ได้ แต่นี่ต้องได้รับการการันตีว่า…”
“ผมรู้แล้ว และคุณก็ใช้หุ้นอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?” ลู่โจวยิ้มเล็กๆ เขาปาดนิ้วชี้ลงไปเบาๆ บนอากาศ และแคปหน้าจอภาพบัญชีของเขาไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ ยื่นมันไปให้ประธานซุนดูแล้วบอกว่า “ใครบอกกันล่ะครับว่าผมมีแค่หุ้นในอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้?”
เขาพูดต่อ “คุณเลือกบริษัทที่คุณชอบได้เลย”