Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1521 คอมพิวเตอร์บนดาวเคราะห์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1521 คอมพิวเตอร์บนดาวเคราะห์
ณ แมนชั่นแถบชานเมืองจินหลิง
ลู่โจวอยู่ในห้องอ่านหนังสือ เขากำลังเขียนและวาดภาพบนกระดาษ ในขณะเดียวกันก็วิดีโอคอลกับร้อยเอกซิงจากกองความมั่นคงไปด้วย
ถึงปกติคนในวงการวิจัยวิทยาศาสตร์สมัยนี้เขาจะไม่ใช้กระดาษกันแล้ว แต่นิสัยติดตัวบางอย่างมันก็เปลี่ยนยาก
ยิ่งเวลาคำนวณทฤษฎีอะไรสักอย่าง ต่อให้มีเครื่องมือที่แสนสะดวกอย่างแบบจำลองโฮโลแกรม แต่สำหรับลู่โจวแล้ว กระดาษกับปากกาก็ยังเป็นตัวช่วยที่ขาดไม่ได้อยู่ดี
“คุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าพวกเราเจออะไรบนดาวซีรีส”
แม้จะได้ยินเสียงตื่นเต้นของร้อยเอกซิง สีหน้าของลู่โจวก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เขาถามกลับด้วยท่าทีไม่เป็นเดือดเป็นร้อน “คุณเจออะไรล่ะครับ?”
“คอมพิวเตอร์ควอนตัม! ใหญ่ขนาดสิบเอเคอร์ได้…หรืออาจจะมากกว่านั้นหน่อย”
ปากกาของเขาหยุดขยับ
ลู่โจวมองร้อยเอกซิงที่อยู่ในอินเตอร์เฟสโฮโลแกรม เขาอดถามย้ำขึ้นมาไม่ได้
“คุณแน่ใจนะ?”
“แน่นอน ตอนนี้ผมอยู่แนวหน้าแล้ว…” ซิงเปียนเหลือบมองรอบๆ ตัวเองแล้วลดเสียงลงให้ต่ำก่อนจะพูดต่อ “พวกเราไม่ควรจะเป็นคนที่ต้องมาจัดการเรื่องนี้เลย…แต่กองทัพชุดแรกคิดว่าการพัฒนาของสิ่งนั้นมันมากเกินขอบเขตของหน้าที่พวกเขาแล้ว”
ลู่โจว “เพราะอย่างนั้นคุณก็เลยโดนโบ้ยงานมาเหรอ?”
“ก็ไม่เชิงหรอก…สรุปสั้นๆ ก็คือ ทุกอย่างที่นี่มันแปลกจริงๆ นะคุณ! มีคอมพิวเตอร์ถูกทิ้งไว้ที่นี่ เป็นคอมฯที่มนุษย์ต่างดาวหรือไม่ก็มนุษย์นี่แหละใช้รันโปรแกรมที่เราไม่เข้าใจอะไรเลย นี่เป็นครั้งแรกหลังจากทำงานให้กองความมั่นคงมาตั้งหลายปีเลยนะที่ผมได้เจอเรื่องพิสดารขนาดนี้ ” ซิงเปียนเอ่ยถามต่อ “คุณคิดว่าองค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาล…จะติดต่อกับพวกมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่า?”
ลู่โจวไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เขาเลยทำหน้าไม่เชื่อแล้วถามอีกฝ่ายกลับไป “ทำไมคุณคิดอย่างนั้นล่ะ?”
ซิงเปียนว่า “คุณคิดจริงๆ เหรอว่า แค่เงินของพวกโจรสลัดอวกาศจะทำให้เจ้าคอมพิวเตอร์นี่เกิดขึ้นมาได้? ผมเคยต่อกรกับพวกนั้นมาแล้วก็รู้เรื่องสถานการณ์ทางการเงินของพวกนั้นเป็นอย่างดี พวกเขาสร้างศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหญ่ขนาดนั้นขึ้นมาไม่ไหวหรอก เรื่องติดตั้งปืนแม่เหล็กไฟฟ้า 1,200 กระบอกบนดาวซีรีสก็ทำไม่ได้เหมือนกัน!”
ลู่โจวใช้นิ้วชี้เคาะโต๊ะเบาๆ เขาคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงแสดงความคิดเห็นออกมา
“การศึกษาเรื่องอารยธรรมนอกโลกนั้นก็เกินขอบเขตความชำนาญของผมเหมือนกัน แต่สัญชาตญาณของผมบอกว่าถ้าพวกเราสามารถหาคำตอบได้ว่าคอมพิวเตอร์นั้นมันคำนวณอะไรอยู่ บางทีพวกเราอาจจะเข้าใจต้นกำเนิดของมันก็ได้…รวมไปถึงความลับของไวรัสอัลฟ่าด้วย”
“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ผมก็เลยส่งรายงานไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจากสหการพาน-เอเชียนกำลังมา…ถ้าคุณสนใจ คุณก็ตามมาก็ได้ จะว่าไปแล้วคุณถอดรหัสเสร็จหรือยังนะ?”
ลู่โจวมองร้อยเอกซิงแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ “นี่คุณคิดว่าผมเป็นใครกัน…ปัญหาระดับนี้ ผมแก้ได้ตั้งแต่ตอนผมกลับจากร้านแล้ว คุณแค่ไม่ได้ถามผมต่างหาก ผมก็เลยลืมไปเลย”
ร้อยเอกซิงยิ้มอายๆ “ผมก็มัวแต่ยุ่งอยู่แนวหน้า…แล้ว คำตอบของรหัสคืออะไรเหรอ?”
“97,796 หลังจากถอดรหัสได้ก็ปรากฏว่ามันกลายเป็นตัวเลขเสียอย่างนั้น บางทีอาจจะเป็นรหัสผ่านเอาไว้เปิดอะไรสักอย่างก็ได้”
“97,796?” ร้อยเอกซิงขมวดคิ้วเล็กๆ เขาพยักหน้าขอบคุณแล้วเอ่ย “อย่างนั้นเองสินะ ขอบคุณคุณจริงๆ …ถ้าเกิดมีความคืบหน้า ผมจะติดต่อคุณไปให้เร็วที่สุด”
ลู่โจวพยักหน้า
“ผมหวังว่าคราวหน้าคุณจะไม่ติดต่อมาให้ผมทำงานที่มีปัญหาเพิ่มแล้วนะ”
ร้อยเอกซิงยิ้มเจื่อนๆ หลังจากคุยเรื่องสัพเพเหระกันนิดหน่อย เขาก็วางสายไป
…
งานวิจัยเรื่องฟิวชั่นที่ควบคุมได้ตอนนี้ดูจะคงที่แล้ว หลังจากเริ่มโปรเจกต์เครื่องปฏิกรณ์ทดลอง แต่ละไอเดียของเขาจะถูกทดสอบทีละเรื่องว่าทำได้จริงไหม
สิ่งที่ทำให้เขากังวลในตอนนี้คือภารกิจที่ระบบมอบหมายให้เขา ซึ่งก็เป็นโปรเจกต์จบการศึกษาของสิ่งที่เรียกว่า ‘วัสดุที่สมบูรณ์แบบ’
เมื่อเลเวลวัสดุศาสตร์ของเขาพุ่งขึ้นถึงเลเวล 10 จะเรียกว่าเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของระบบแล้วก็ได้
“…ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปอยู่เลยแฮะ”
ลู่โจวถอนหายใจ เขาลุกขึ้นจากโต๊ะ ขยำกระดาษดราฟต์บนโต๊ะเป็นก้อนกลมๆ แล้วขว้างลงตะกร้าขยะที่อยู่ข้างๆ
ลำแสงสีฟ้าข้างๆ เขาลอยเด่นขึ้นมา แล้วเอไอตัวขนาดเท่าฝ่ามือ หน้าตาคล้ายเอลฟ์ ก็ปรากฏขึ้นจากหลังม่านแสง
“ไม่เป็นไรหรอกเจ้านาย เสี่ยวไอเชื่อว่าเจ้านายทำได้แน่ๆ ! (๑•̀ᄇ•́)و✧”
“ขอบใจนะ” ลู่โจวยิ้มแล้วเอื้อมนิ้วชี้ไปแตะภาพโฮโลแกรมนั้นไปมาเบาๆ “ฉันก็ว่าฉันต้องหามันเจอได้แน่นอน…ช่วยเตรียมอาหารกลางวันให้ทีสิ”
“ได้เลยเจ้านาย! (〃>▽<〃)/*” ลู่โจวเปิดทีวีตอนกินอาหารกลางวันเหมือนที่ทำประจำทุกวัน เขากระตือรือร้นอยากจะฟังข้อมูลของโลกใบนี้ เขาแทบจะไม่พลาดข่าวไหนเลย บนหน้าจอทีวีนั้น ข่าวของเมืองก่วงฮั่นกำลังฉาย หากเปรียบเทียบกับความโกลาหลเมื่ออาทิตย์ก่อนแล้วก็เห็นได้ชัดว่าเมืองก่วงฮั่นกลับมามีระเบียบอีกครั้ง ตำรวจติดอาวุธหลายคนในชุดเอ็กโซสเกลเลตันเดินตรวจตราตามถนนด้วยปืนกับกระสุนจริง กล้องสลับอย่างรวดเร็วไปที่การแถลงข่าวซึ่งจัดโดยหลี่กวงหยา ประธานสภาพาน-เอเชียนที่ประกาศกฎอัยการศึก “… เมื่อสองวันก่อนพวกเราถูกโจมตีจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบนดาวซีรีส พวกเรามั่นใจว่าการโจมตีครั้งนี้เกินขอบเขตของการก่อการร้าย" หลี่กวงหยาหันหน้าให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ เขากล่าวต่อด้วยเสียงจริงจัง "จนถึงตอนนี้นั้นตัวตนของกองกำลังไม่ทราบฝ่ายนี้ยังอยู่ในช่วงสืบสวนต่อไป ถ้าหากมีข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม พวกเราจะนำมาเปิดเผยให้เร็วที่สุด" ผู้สื่อข่าวถามคำถาม "ก่อนหน้านี้สื่อท้องถิ่นของเมืองจินหลิงได้รายงานว่ากองกำลังบนดาวซีรีสอาจจะได้รับเงินทุนจากองค์กรที่มีชื่อว่า 'จิตวิญญาณแห่งจักรวาล' ไม่ทราบว่าข้อมูลนี้ถูกต้องหรือไม่คะ?" หลี่กวงหยาให้คำตอบ "พวกเราถูกระรานจากองค์กรอาชญากรรมข้ามชาตินี้จริงๆ ครับ และกลุ่มชั่วร้ายที่กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้กลับให้เมืองก่วงฮั่นเมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นพวกเขาเช่นกันครับ" เสียงกระซิบกระซาบดังไปทั่วบริเวณสัมภาษณ์ การที่มีคนกล่าวโทษองค์กรที่ไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลนั้นไม่ใช่เรื่องที่เห็นได้บ่อย “… พวกเราจะสืบสวนคดีนี้อย่างสุดความสามารถ และปลดกฎอัยการศึกที่เมืองก่วงฮั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” “…ดังนั้น ได้โปรด ให้เวลาพวกเราเพิ่มอีกสักนิดด้วยครับ!"” ผู้สื่อข่าวถามต่อ "ขอโทษนะคะ แล้วสถานการณ์ที่เมืองหนี่วาเป็นอย่างไรบ้าง?" หลี่กวงหยา "เมืองหนี่วาเป็นแค่การทดสอบครับ สหการพาน-เอเชียนต้องการเขตแดนที่อยู่ภายใต้รัฐบาลกลางเพื่อดำเนินการตามแผนได้อย่างสมบูรณ์" ผู้สื่อข่าว "แต่ก็มีข่าวลือว่านี่เป็นไฟเขียวที่ฝั่งพาน-เอเชียนมอบให้อีสต์เอเชียเอเนอร์จี้..." “… เรื่องนั้นไม่อยู่ในขอบเขตของการแถลงข่าวครั้งนี้ ถ้าคุณมีหลักฐาน ช่วยนำหลักฐานนั้นมาในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมด้วยครับ" หลี่กวงหยารับมือกับปัญหาได้ค่อนข้างดี ในเวลาเพียงไม่กี่วัน เขาก็จัดการปัญหาในเมืองก่วงฮั่นได้ แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ลู่โจวก็รู้สึกว่าตัวเขาเองต้องคิดดีๆ ว่าไอเดียของเขามันอาจจะไม่ค่อยเข้ากับโลกนี้อยู่หน่อยๆ " ในระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเอง กำไลบนข้อมือซ้ายก็เรืองแสงขึ้น ลู่โจวเดาได้ว่าต้องเป็นหลี่กวงหยาที่โทรมาแน่นอน เขาเอื้อมมือไปกดที่กำไลเพื่อเปิดหน้าต่างคอลโฮโลแกรมขึ้นมา แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันพูดอะไร หลี่กวงหยาก็เป็นฝ่ายเปิดประเด็นก่อน “ ผมทำตามสัญญาแล้ว ต่อไปก็ตาคุณ" ลู่โจวพยักหน้าแล้วพูดอย่างซื่อตรง "ผมสัญญากับคุณแล้วว่าถ้าคุณต้องการ ผมก็รับตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาแผนกการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ของพาน-เอเชียนได้" หลี่กวงหยาเผยรอยยิ้มยินดีในขณะที่อ้าแขนโชว์ให้ลู่โจวดู “ขอบคุณ ผมนี่อยากจะกอดคุณจริงๆ เลยเพื่อน!" ลู่โจวเอ่ย "ไว้เราเป็นเพื่อนกันจริงๆ ค่อยคุยเรื่องนี้นะครับ" หลี่กวงหยายิ้มแล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก สักวันหนึ่งเดี๋ยวก็ได้เป็น! จะว่าไป อย่าลืมเรื่องลิฟต์อวกาศเสียล่ะ เวลาผมที่จะได้อยู่ในตำแหน่งนี้มันสั้นนะ เพราะอย่างนั้นก็รีบๆ เข้าแล้วกัน" ลู่โจวพยักหน้าแล้วตอบไปว่า "โอเค...แต่ต้องเป็นช่วงหลังจากฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองเสร็จก่อนนะ"