Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1529 หน้าที่ของทหาร
ย้อนไปเมื่อห้าชั่วโมงที่แล้ว
ที่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ริมถนนวงแหวนที่สองของจินหลิง
หวังเผิงมองขึ้นไปบนฟ้าและยืนอยู่หน้าอาคารที่ซึ่งวงล้อมถูกดึงออกมา เขามองขึ้นไปจากนั้นก็ไปที่ห้องยามข้างๆ เขาเดินไปเคาะหน้าต่างเบาๆ
“ขอโทษนะครับ มีใครอยู่ไหมครับ?”
หน้าต่างได้ถูกเปิดขึ้น
ชายคนนั้นโผล่หัวออกมาแล้วถามหวังเผิง “มาเช่าบ้านเหรอ?”
“มาหาคนน่ะครับ” หวังเผิงชี้ไปที่ตึกยูนิตที่มีวงล้อมอยู่ข้างๆ แล้วถามว่า “ขอโทษนะ เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอครับ? ทำไมผมถึงขึ้นไปไม่ได้?”
“ขึ้นไป? คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า? เพื่อนบ้านที่สร้างบ้านย้ายออกไปเกือบหมดแล้วเหลือแค่อาคารหลังนี้ และตำรวจได้อัดเทปเอาไว้ คุณน่าจะเคยได้ยินเรื่องนี้บ้างนะ มันเป็นการระเบิดที่ทำให้กลุ่มเมืองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีมีปัญหากัน อย่าบอกนะว่าไม่ได้ดูข่าว”
“ระเบิด?” หวังเผิงตกใจและถามทันที “ผมขอถามเกี่ยวกับห้อง 10012 ได้ไหม—”
“10012? เลขฟังดูคุ้นๆ นะ” ผู้รักษาความปลอดภัยแตะคางของเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ เขาเคาะโต๊ะแล้วพูดว่า “ผมจำได้แล้ว ที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อตอนนั้น… ผู้เช่าคนนั้นคือเพื่อนของคุณเหรอ?”
“เขาอยู่ที่ไหนเหรอ? เขาเป็นยังไงบ้าง!” หวังเผิงถามอย่างกังวลด้วยมือของเขาที่หน้าต่าง
“เขาสบายดี… ผมได้ยินมาว่าเขาขอให้หุ่นยนต์รับพัสดุให้ โชคดีที่เป็นหุ่นยนต์ที่ไปรับที่ประตู เพราะห้องนั่งเล่นของเขาถูกระเบิดโดยพัสดุนั้น แต่ว่าผมอ่านข่าวแล้วนะ มันไม่ได้บอกว่ามีผู้บาดเจ็บ เขาถูกตำรวจปกป้องอย่างลับๆ หรือไม่ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นแทน”
คนในยุคนี้ไม่ค่อยซื้อบ้านกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะบ้านที่มีความหนาแน่นสูงในเขตเมือง
อสังหาริมทรัพย์ของอาคารอพาร์ตเมนต์ส่วนใหญ่เป็นของสาธารณะและดำเนินการโดยรัฐบาลท้องถิ่น และมอบหมายให้บริษัทให้เช่าที่เกี่ยวข้องให้เช่าแก่ผู้อยู่อาศัยแต่ละราย
ถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นนั้น การย้ายบ้านจะง่ายกว่าการซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับคนยุคนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของอาคารพักอาศัยที่มีความสูงหนึ่งหรือสองร้อยชั้นนี้ อัตราว่างโดยเฉลี่ยในใจกลางเมืองจะสูงถึงสิบเปอร์เซ็นต์จึงไม่มีปัญหาในการหาบ้านเซักเท่าไหร่
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณครับ”
“ด้วยความยินดี ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกนะ คุณควรถามเพื่อนของคุณเองหรือไปที่สถานีตำรวจเพื่อขอคำปรึกษาจะดีกว่านะ”
หวังเผิงขอบคุณอีกครั้ง เขาลากกระเป๋าเดินทางกลับไปที่ถนน เขาเดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมายชั่วครู่
เมื่อเขาลงจากรถไฟที่สถานีจินหลินแมกเลฟ เขาพยายามติดต่อร้อยเอกซิง แต่ไม่มีใครรับสาย เขาคิดว่าร้อยเอกซิงน่าจะกำลังเดินทางไปทำธุรกิจทำให้ไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้
เหมือนกับหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เหลือ…
เขาเป็นคนใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมได้ไม่นาน ดังนั้นเขาจึงไม่มีข้อมูลติดต่อเลย
บางทีซิงเปียนก็คงไม่คิดว่าเขาจะสำเร็จการศึกษาจากฐานฝึกอบรมภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ดูเหมือนจะยุ่งยากนิดหน่อยนะ…”
ขอแค่เขาติดต่อสำนักรักษาความปลอดภัยได้… พวกเขาต้องรู้แน่ว่าลู่โจวอยู่ไหน
แต่ปัญหาในตอนนี้คือเขาไม่สามารถติดต่อกับลู่โจวหรือร้อยเอกซิงได้
“ช่างมันเถอะ… ไปถามผู้เฒ่าหลี่ดีกว่า”
บางทีเขาอาจจะรู้อะไรก็ได้
หวังเผิงชี้นิ้วชี้ไปที่สร้อยข้อมือและมองไปที่หน้าจอโฮโลแกรมแบบป็อปอัป เขากำลังจะเปิดสมุดที่อยู่เพื่อค้นหาชื่อผู้อำนวยการหลี่
แต่ตอนนี้รถแม่เหล็กลอยสีดำค่อยๆ ลงมาจากอากาศและหยุดที่ข้างถนนทำให้เขาต้องละความสนใจจากสมุดไป
ไม่ใช่เพราะสัญลักษณ์พิเศษใดๆ บนตัวรถ
แต่เป็นเพราะคนสี่คนที่ลงจากรถมีออร่าที่อันตรายแผ่ออกมา
ทำให้หวังเผิงนึกถึงคดีวางระเบิดครั้งก่อนที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้ทันที นัยน์ตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
แม้ว่านิ้วชี้ของเขาที่กำลังใช้งานแผงโฮโลแกรมไม่หยุด แต่ความสนใจของเขาได้ติดตามไปกับชายชุดดำสี่คนแทน
ชายชุดดำสี่คนตามผู้หญิงที่อุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ เข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตอัตโนมัติโดยไม่ทราบว่าถูกพบเห็น
เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงสิ่งไม่ดี หวังเผิงจึงเดินตามไปโดยไม่ลังเล
เขาเป็นตัวแทนของสำนักงานความมั่นคงทันทีที่เขาออกจากฐานฝึก
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ตัวเขาก่อนหน้านี้จะไม่ยอมให้อาชญากรรมเกิดขึ้นต่อหน้าแน่ๆ
มันไม่มีเหตุผลอะไร เพราะเขาเป็นทหาร และที่นี่คือแผ่นดินจีน
มันไม่เกี่ยวว่าจะเป็นใคร แต่มันคือความรับผิดชอบของเขา
ทันทีที่เขาเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต เขาเห็นชายชุดดำคนหนึ่งหยิบปืนพกสีดำออกมา
หวังเผิงก็ไม่ลังเลอะไรอีกเมื่อเห็นชายคนนั้นยกปากกระบอกปืนขึ้นแล้วหันไปที่ผู้หญิง เขาพุ่งไปข้างหน้าและผลักชายคนนั้นออกไป ขณะเดียวกันเขาก็คว้าปืนมาไว้ในมือ
ชั้นวางของล้มลงด้วยความแรง มันพังทลายลงเหมือนโดมิโนเรียงเป็นแถวไปเป็นทอดๆ
หวังเผิงหยุดชั่วไปครู่หนึ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแรงของชายคนนั้น สัญชาตญาณบอกเขาว่าคนร้ายอาจไม่ใช่มนุษย์
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าไวรัสอัลฟาคืออะไรตั้งแต่ตอนที่เขามาจากเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว ซึ่งเขาเองก็ไม่เชื่อว่า ‘หุ่นยนต์จะไม่มีวันก่ออาชญากรรม’ ดังนั้นเขาจึงไม่ตกใจในเรื่องที่ว่าคู่ต่อสู้ของเขานั้นอาจจะไม่ใช่มนุษย์
มันไม่เกิดเสียงกรีดร้องหรือมีการวิ่งเกิดขึ้น หญิงสาวกอดเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ เธอเอาไว้หลังจากที่เห็นว่าคนร้ายถูกเล่นงาน เธอพาเด็กสาวไปซ่อนตัวอยู่หลังเคาน์เตอร์ก่อนที่จะปิดตาของเด็กหญิงตัวเล็กๆ ด้วยมือของเธอ
ขณะเดียวกันชายชุดดำอีกสามคนมีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วหลังจากเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของพวกเขาถูกเล่นงาน พวกเขาหยิบปืนพกสีดำออกจากกระเป๋าทันที
แน่นอนว่ามันไม่ใช่อาวุธ EMP แต่มันคือปืนจริง!
เมื่อเป็นไปตามที่คาดเอาไว้หวังเผิงก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เล็งมาที่เขา เขากลิ้งไปข้างหน้าและกระโจนหลบหลังชั้นวางของ
เขาถูกยิงทะลุเข้ามาแต่มันไม่โดนเขา มันทิ้งรอยกระสุนเอาไว้ ทั้งกำแพงและพื้น
หวังเผิงซ่อนตัวอยู่หลังชั้นวาง เขากำลังจะสวนกลับด้วยปืนพก EMP แต่ทันใดนั้นสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นในซูเปอร์มาร์เก็ต
มันเกิดจากผู้หญิงที่ซ่อนตัวอยู่หลังเคาน์เตอร์ไปกดสัญญาณเตือนภัย
ไม่ถึงนาทีโดรนของตำรวจสองตัวก็ได้บินไปที่ด้านหน้าของหน้าต่างซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างรวดเร็ว พวกเขาเล็งกล้องไปที่ชายสามคนในชุดดำและส่งสัญญาณเตือน
“พวกคุณถูกล้อมแล้ว! กรุณาวางอาวุธ การกระทำของคุณละเมิด… กฎหมาย หากคุณยังคงต่อต้านคุณจะถูกลงโทษตามกฎหมายทันที”
หลังจากได้ยินคำเตือน ชายสามคนในชุดดำก็หยุดทันที
พวกเขาไม่ได้วิ่งหนี พวกเขามองหน้ากันก่อนที่จะวางมือลงกับพื้น
เมื่อหวังเผิงเห็นการกระทำของพวกนั้น รูม่านตาของเขาก็หดตัวเล็กน้อยจากลางสังหรณ์ที่วิ่งผ่านเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างรวดเร็ว
เขายกปืนพก EMP ขึ้นและยิงกระสุนที่หน้าอกของหุ่นยนต์ที่อยู่บนพื้น และตะโกนเสียงดังใส่ผู้หญิงสองคนหลังเคาน์เตอร์
“ก้มลง! ก้มหัวลงหาที่กำบัง!”
ยังไม่ทันขาดคำก็เกิดการระเบิดขึ้น
คลื่นความร้อนกระทบชั้นวาง ผลักเขาและชั้นวางน้ำแร่ที่สต๊อกไว้อย่างรุนแรง
ควันหนาทึบลอยออกมาจากหน้าต่างร้านค้าที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
คนเดินถนนสองสามคนก็ได้วิ่งหนีไป
ตำรวจรีบเร่งไปยังที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุดท่ามกลางเสียงกริ่งสัญญาณเตือนภัยรุนแรง
นักผจญเพลิงมาพร้อมอุปกรณ์หนักมาถึงพร้อมกันและรีบเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตนี้
โชคดีที่มีสองคนที่ยังมีชีวิตอยู่และไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการระเบิดครั้งนี้…