Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 156 ฝึกงาน LHCb
เมื่อศาสตราจารย์หรูเสินเจียนเห็นลู่โจวหยุดเขียน เขาก็ยิ้ม “เธอตอบคำถามไปสองข้อแล้ว ทำไมถึงตอบข้อนี้ไม่ได้ล่ะ?”
ลู่โจวเงยหน้า “ศาสตราจารย์เคยวิจัยทฤษฎีสตริงมาก่อนเหรอครับ?”
ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนยิ้ม “ฉันกำลังถามความเห็นเธอ ต่อให้ฉันเคยวิจัยมาก่อนแล้วมันสำคัญยังไงล่ะ? เธออยากเขียนอะไรเธอก็เขียนไปเถอะ”
ลู่โจวยิ้ม “งั้นผมพูดแทนได้ไหม?”
ศาสตราจารย์ยิ้ม “ได้ เชิญเลย”
ลู่โจวคิดชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจตอบคำถามนี้จากสองมุมมอง
“นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผม ผมเห็นด้วยกับมุมมองของคุณหยางในการพัฒนาทฤษฎีสตริง ฟิสิกส์คือวิทยาศาสตร์ที่อาศัยการทดลอง และทฤษฎีก็ไม่สามารถยืนยันแค่จากการแทนค่าทางคณิตศาสตร์”
“แนวคิดหลักของทฤษฎีสตริงคือหน่วยพื้นฐานของธรรมชาติที่ไม่ใช่อนุภาคที่มีลักษณะคล้ายจุดอย่างอิเล็กตรอน โฟตอน นิวทริโนหรือควาร์ก แต่เป็นสตริงมิติเดียวที่มีขนาดเล็กมาก และอนุภาคพื้นฐานทั้งหมดในธรรมชาติเกิดจากการสั่นสะเทือนของสตริง แต่จนถึงตอนนี้ความเข้าใจของเราที่มีต่อสสารยังอยู่ในระดับไมโคร และไม่มีใครเห็นการมีอยู่ของสตริงได้จริงๆ ข้อสมมติฐานเดียวที่สนับสนุนสมมติฐานเหล่านี้ก็คือสูตรคณิตศาสตร์ที่ดูสวยงามเหล่านั้น”
ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนยิ้ม “แล้วเธอคิดว่าการพัฒนาทฤษฎีสตริงไรประโยชน์ไหม?”
ลู่โจวส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ ทฤษฎีสตริงไม่ได้ไร้ประโยชน์”
ศาสตราจารย์รู้สึกสนใจ “ทำไมล่ะ?”
“มีหลายทฤษฎีที่อ้างอิงจากข้อคาดการณ์ อย่างการสร้างแบบจำลองมาตรฐาน เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า ทฤษฎีเหล่านี้ก็จะถูกทดสอบในสักวัน เราแค่รอจนกว่าทฤษฎีสตริงจะถูกทดสอบ”
ลู่โจวหยุดแล้วยิ้มก่อนจะพูดต่อ “นอกจากนี้มนุษย์ต้องมีมุมมองระยะยาว ไม่ใช่ว่ามีการวิจัยควอนตัมโครโมไดนามิกส์และแม้แต่เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนขนาดใหญ่ในยุโรปที่ถูกสร้างเพื่อทดสอบแบบจำลองมาตรฐานหรอกเหรอ? ตอนนี้เราอาจยังไม่สังเกตเห็น แต่สักวันหนึ่งอาจมีคนเห็นสตริงก็ได้”
ในห้องเงียบไปชั่วครู่
ศาสตราจารย์หรูเคาะนิ้วบนโต๊ะ หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้า “ไม่เลว”
ไม่เลวแปลว่าผ่านใช่ไหม?
ดังนั้นลู่โจวจึงเอ่ยถาม
“ศาสตราจารย์ ผมผ่านโจทย์สามข้อนี้แล้วใช่ไหม?”
ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนยิ้มแล้วออกความเห็น “แน่นอน สองข้อแรกถูกต้อง ดูเหมือนช่วงสองเดือนมานี้ ฉันจะสอนเธอมาดี”
ลู่โจว “???”
เดี๋ยวนะ ศาสตราจารย์สอนผมเหรอ?
ศาสตราจารย์ไม่ได้สังเกตสีหน้าลู่โจว เขากล่าวต่อ “ส่วนโจทย์ข้อสุดท้าย มันเป็นโจทย์แจกคะแนน การหารือประเด็นทางวิชาการไม่มีถูกผิด ไม่ว่าเธอจะตอบยังไง ฉันก็ยอมรับคำตอบ”
ลู่โจวยิ้ม “งั้นศาสตราจารย์จะพาผมไปสวิสด้วยใช่ไหมครับ?”
ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนยิ้มแล้วพยักหน้า “แน่นอน ฉันจะเตรียมเอกสารที่จำเป็นให้เธอ เธอก็ไปขอวีซ่าให้เร็วที่สุด”
“ขอบคุณครับศาสตราจารย์!”
ศาสตราจารย์หรูยิ้ม “ด้วยความยินดี เพราะยังไงฉันก็สัญญากับเธอไว้ เอ้อมีอีกเรื่อง”
ลู่โจวถาม “เรื่องอะไรครับ?”
ศาสตราจารย์หรู “กลุ่มวิจัย LHCb จีนยังต้องการเด็กฝึกงานอยู่ เธอสนใจไหม?”
ลู่โจวช็อกกับคำถามของศาสตราจารย์
เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้…
…
LHCb เป็นตัวย่อของเครื่องตรวจจับควาร์กล่างมันเป็นองค์กรวิจัยระหว่างประเทศ นักวิจัยนานาชาติหลายคนเข้าร่วมเพื่อร่วมกันทำโปรเจกต์วิจัยวิทยาศาสตร์ให้เสร็จ
ส่วนตอนนี้เป้าหมายวิจัยหลักๆ ของ LHCb คือการค้นหาอนุภาคเพนตาควาร์ก Pc+
แม้ว่าจะมีการวิเคราะห์เชิงคำนวณมากมาย แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าอนุภาคนี้คืออะไร อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกคนรู้ก็คือการวิเคราะห์สเปกตรัมมวลนิ่งคือ J/ψp และมวลของอนุภาคนี้มีอยู่ประมาณ 4.5 GeV
อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่กลุ่มการร่วมมือระหว่างประเทศ Beslll ที่นำโดยประเทศจีนใช้เครื่องชนอิเล็กตรอนบวก สนามพลังระหว่าง 1-4.5 GeV ซึ่งอยู่นอกขีดจำกัดของ Pc+
เพื่อสร้างอนุภาค Pc+ เราต้องใช้พลังงานอย่างน้อย 6GeV
ดังนั้นนักวิจัยจีนจึงต้องทำการวิจัยที่ประเทศจีนเพื่อค้นหาอนุภาคที่ลึกลับอันนี้
กลุ่มการร่วมมือจีนที่ส่วนใหญ่รับผิดชอบโดยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ แต่มหาวิทยาลัยจีนทุกแห่งก็สามารถเข้าร่วมได้ ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนเป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มการร่วมมือจีนเช่นกัน วัตถุประสงค์หลักของพวกเขาคือการวิจัยฟิสิกส์ของอนุภาค
ลู่โจวจะเข้าไปเป็นเด็กฝึกงานของกลุ่มวิจัยจีน แม้ว่ามันจะเป็นบทบาทเล็กๆ แต่เขาก็ยังมีส่วนร่วมกับประวัติศาสตร์
ลู่โจวตื่นเต้นมากที่จะได้เป็นสักขีพยานแห่งประวัติศาสตร์
แน่นอนเขาตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงรางวัลแต้มประสบการณ์ของภารกิจ
แน่นอนว่านี่มันน่าตื่นเต้นกว่างานประชุมคณิตศาสตร์พรินซ์ตันเสียอีก เขาสงสัยว่าเขาจะได้รับแต้มประสบการณ์มากแค่ไหน
ห้าหมื่น?
หนึ่งแสน?
เขาหวังว่าเขาจะเพิ่มระดับฟิสิกส์เป็นระดับ 3 ได้
ทันใดนั้นเองสือช่างก็ขัดจังหวะความคิดเขา
“โจว นายยิ้มทำไม?”
ลู่โจวที่กำลังยื่นหนังสือขอวีซ่าบนคอมกระแอมแล้วกล่าว “ฮ่าๆ ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดถึงเรื่องบางอย่างที่น่าสนใจ”
หวงกวงหมิงเดินมาหาแล้วดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นเขาก็ถามด้วยความประหลาดใจ “พาสปอร์ต? นายจะไปต่างประเทศอีกแล้ว?”
ลู่โจวพยักหน้า “ใช่ ประมาณต้นเดือนพฤษภา ฉันจะไปสวิสกับศาสตราจารย์หรูเสินเจียน”
หลิวรุ่ยถามขณะกำลังทำการบ้าน “สุดยอด”
เขาชินกับความสุดยอดของลู่โจวแล้ว
แต่ถึงกระนั้นบางครั้งเขาก็รู้สึกหมดหวัง เขาล้าหลังมาก
หวงกวงหมิงช็อก “เชี่ย คราวนี้ไปยุโรป? งานประชุมคณิตศาสตร์เหรอ?”
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน “ไม่ใช่คณิตศาสตร์ คราวนี้เป็นฟิสิกส์ ฉันแค่ไปกับเถ้าแก่ ฉันทำงานจิปาถะเท่านั้น”
หวงกวงหมิงไม่เชื่อ
จู่ๆ สือช่างก็กล่าวด้วยน้ำเสียงอายๆ “ลู่โจว นายช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
ลู่โจวตอบอย่างใจกว้าง “ช่วยอะไร ว่ามาเลย”
สือช่างยิ้ม “นายช่วยซื้อของบางอย่างจากสวิสมาให้ฉันได้ไหม?”
ลู่โจว “ของอะไรอ่ะ?”
สือช่าง “เครื่องสำอางของวาลมงต์…ฉันคิดว่ามันน่าจะชื่อวาลมงต์นะ”
หวงกวงหมิงประหลาดใจ “เชี่ย นายใช้เครื่องสำอางเหรอ?”
“ไปไกลเลย! ฉันเอาให้แฟน…อ๊ะ ฉันจะคืนเงินให้นาย”
ลู่โจวพยักหน้า “ได้สิ ถ้าฉันเจอ ฉันจะซื้อมาให้”
ลู่โจวมีความสุขที่ได้ช่วยเพื่อน
จะว่าไป ฉันควรซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากยุโรปมาบ้างไหม?
ที่สวิสมีอะไรบ้างนะ? มีดทหารสวิส? ฉันสงสัยว่าฉันจะเอาขึ้นเครื่องได้ไหมนะ…
ลู่โจวคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไร
ฉันว่าฉันซื้อพวกนมผงดีกว่า เสี่ยวถงจะขึ้นมัธยมศึกษาปีที่หกแล้ว เธอจำเป็นต้องได้รับสารอาหารดีๆ
ในฐานะพี่ชาย นี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำให้เธอได้
…………………………………