Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 160 ผมคัดค้าน
หลังงานประชุม ทีมวิจัยของศาสตราจารย์บรูนอสจากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ก็อดใจประกาศชัยชนะไม่ได้ พวกเขาจึงประกาศข่าวทันที
จากกฎที่ตั้งโดย LHCb รายงานการตรวจสอบจำเป็นต้องยื่นคำร้องล่วงหน้าก่อนสามวันเพื่อให้ LHCb มีเวลาพอให้’ผู้ตรวจสอบ’เผยแพร่ข้อมูลการบรรยาย
เห็นได้ชัดว่าทีมวิจัยของศาสตราจารย์บรูนอสแอบส่งหนังสือยื่นคำร้องเมื่อสามวันก่อน และมันก็พึ่งถูกปล่อยออกมา
ดูเหมือนผลลัพธ์จะถูกกำหนดแล้ว
ชาวอเมริกันเหล่านี้เตรียมปาร์ตี้คืนนี้แล้ว
บนทางเดิน ตึกสองของ CERN…
เหยียนซินเจวี๋ยพาลู่โจวไปห้องจัดงานประชุม
ระหว่างทางเหยียนซินเจวี๋ยก็คุยกับลู่โจว
“การทดสอบกันและกันเพื่อยืนยันความถูกต้องของผลการวิเคราะห์ฟังดูดี แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว CERN ไม่ยอมรับวิทยานิพนธ์สองฉบับจากหัวข้อเดียวกัน ดังนั้น CERN จะยอมรับวิทยานิพนธ์อันที่เสร็จก่อน”
ลู่โจวถาม “แล้วเราต้องบรรยายข้อสรุปไหม? ผมเกือบเสร็จแล้ว”
เขายังสามารถใช้แต้มทั่วไปเพื่อเร่งกระบวนการ
เขาแค่ต้องใช้อีกห้าสิบแต้มเท่านั้น
บัดซบ ถ้าฉันใช้แต้มทั่วไปเร็วกว่านี้ล่ะก็นะ!
เหยียนซินเจวี๋ยส่ายหัว “นายต้องยื่นคำร้องล่วงหน้าสามวัน เราเพิ่งยื่นไปเมื่อวาน มันเลยสายเกินไป”
“ขอโทษครับ”
เหยียนซินเจวี๋ยยิ้ม “ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดของนาย มหาวิทยาลัยซีราคิวส์แข็งแกร่งมาก พวกเขามีนักคณิตศาสตร์มากกว่าเรา เห็นได้ชัดว่านายคุ้นชินกับสถานการณ์คณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจินหลิง…”
ลู่โจวกล่าว “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
เขาไม่มีอะไรให้พูดนัก
สาขาคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจินหลิงกำลังเติบโต แต่มันก็เทียบกับมหาวิทยาลัยชั้นนำสิบอันดับแรกของอเมริกาไม่ได้
ที่มหาวิทยาลัยจินหลิง แม้แต่นักวิชาการคณิตศาสตร์สักคนยังไม่มี
เหยียนซินเจวี๋ยถอนหายใจแล้วตบบ่าลู่โจว “นี่เป็นเรื่องปกติ เราไม่อาจชนะได้ตลอด อย่าท้อเลย อย่างน้อยนายก็ได้สั่งสมประสบการณ์ อนาคตยังมีโอกาสอีกมากมาย ด้วยความรู้คณิตศาสตร์ของนาย ฉันรู้ว่านายคงประสบความสำเร็จในสายงานนี้”
สั่งสมประสบการณ์?
จู่ๆ ลู่โจวก็รู้สึกไม่พอใจ
งานวิจัยวิทยาศาสตร์ของเขาโดนคนอื่นขโมยไปแล้ว
เขาสงสัยว่าระบบจะประเมินภารกิจของเขาออกมายังไง
มีคนมากมายที่อยู่ในห้องจัดประชุม ไม่ใช่แค่’ผู้ตรวจสอบ’จาก LHCb เท่านั้น แต่มีนักวิจัยคนอื่นที่มาฟังด้วยเช่นกัน
แม้ว่า CERN จะเป็นสถาบันวิจัย แต่มันก็มีการบรรยายมากมาย ไม่ว่ามันจะเป็นฟิสิกส์หรือฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ การบรรยายที่นี่ก็เป็นระดับโลก
ผู้คนที่ทำงานที่นี่มักมีกันสามบทบาท พวกเขาเป็นทั้งนักวิจัย ศาสตราจารย์และนักเรียนในเวลาเดียวกัน
เมื่อลู่โจวเข้ามาในห้อง เขาก็เห็นศาสตราจารย์หรูเสินเจียนกำลังคุยกับผู้อาวุโสท่านหนึ่ง
ผู้อาวุโสท่านนั้นเปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงของเขาดังจนลู่โจวได้ยินแต่ไกล
“ความสามารถในการวิจัยของมหาวิทยาลัยจินหลิงนั้นน่าประทับใจ ฉันมีความสุขมากที่ได้ทำงานกับคุณ ฉันหวังว่าคุณจะสามารถเผยแพร่รายงานโดยเร็วที่สุด ผลลัพธ์ของเรายังคงขึ้นอยู่กับรายงานของคุณ”
เขาพูดด้วยสำเนียงอเมริกันมาตรฐาน ที่เขาจะสื่อก็คือคุณแข็งแกร่งมาก แต่เขาแข็งแกร่งกว่า สุดท้ายก็ไม่ลืมล้อว่างานวิจัยของคุณเป็นแค่การยืนยันความถูกต้องของงานวิจัยของเรา
อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์หรูเสินเจียนยังมีทัศนคติที่ดี ดังนั้นเขาจึงยิ้ม
เหยียนซินเจวี๋ยชี้ไปที่ศาสตราจารย์คนนั้นแล้วกระซิบบอกลู่โจว “นั่นคือศาสตราจารย์บรูนอสจากสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีของมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ เขาศึกษาด้านควอนตัมโครโมไดนามิกส์”
ลู่โจวกระดากใจเล็กน้อยที่จะไปเผชิญหน้ากับคณบดีหลู่ ท้ายที่สุดแล้วคณบดีก็คาดหวังในตัวเขาอย่างสูง แต่เขาดันทำตามที่คาดหวังไม่ได้
“เราควรไปหาไหม?”
เหยียนซินเจวี๋ยดูนาฬิกาแล้วกล่าว “ไปสิ มันจะเริ่มแล้ว”
…
มีคนมากมายที่อยู่ในห้องประชุม เกือบสองในสามของที่นั่งเต็มหมด
ลู่โจวนั่งข้างศาสตราจารย์หรูเสินเจียน เขาคิดว่าศาสตราจารย์คงพูดอะไรบางอย่างที่แพ้ แต่ศาสตราจารย์กลับบอกให้เขาสนใจกับการบรรยายเพื่อเรียนรู้จากคนอื่น
นอกจากซาบซึ้ง ลู่โจวก็อดละอายใจไม่ได้ เขาไม่รู้จะพูดอะไร
ผู้ชมส่วนใหญ่เข้ามาในห้องประชุมแล้ว บรรยากาศในห้องก็ค่อยๆสงบลง
โปรเจคเตอร์เปิดอยู่ และพาวเวอร์พอยนต์ก็กำลังถูกฉายบนผ้าใบสีขาวเทา
ลู่โจวหยิบสำเนาวิทยานิพนธ์จากเจ้าหน้าที่ เขาไม่อยากให้ศาสตราจารย์ผิดหวัง เขาหยิบปากกาจากกระเป๋าแล้วรอการพรีเซนต์เริ่มอย่างอดทน
นักศึกษาสาวปริญญาเอกอายุราวสามสิบยืนอยู่บนโพเดียม เธอสวมชุดนักธุรกิจ
ผู้พรีเซนต์ชื่อเคอเรลล่า เธออาจเป็นศิษย์ของศาสตราจารย์บรูนอส
การมีนักศึกษาเป็นผู้พรีเซนต์ไม่ได้หาได้ยากอะไร ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็จำเป็นต้องฝึกทักษะการพรีเซนต์
ถ้าฝ่ายศาสตราจารย์หรูเสินเจียนทำรายงานเสร็จก่อน คนพรีเซนต์ก็อาจเป็นลู่โจวเหมือนกัน
ลู่โจวนั่งอยู่ในห้องประชุมรอให้การพรีเซนต์เริ่ม ทันใดนั้นเขาก็คิดว่า ถ้าเกิดเหตุผลที่พวกเขาส่งสาวสวยมาพรีเซนต์เพื่อเอาคะแนนพิศวาสจากผู้ตัดสินล่ะ?
แต่พอมาคิดอีกที ผู้ตัดสินต่างเป็นชายชรา พวกเขาอาจไม่สนใจหญิงสาวก็ได้
เดี๋ยวนะ…
เป็นชายชราทุกคนเลยงั้นเหรอ?
จู่ๆ ลู่โจวก็นึกถึงข่าวซุบซิบฟิสิกส์บางอย่าง สีหน้าเขาค่อนข้างซับซ้อน
เคอเรลล่ายืนอยู่ตรงหน้าผ้าใบที่ฉายภาพโปรเจคเตอร์ด้วยสีหน้าราบเรียบ เธอกระแอมแล้วกล่าว “งั้น เรามาเริ่มกันเลย…”
การพรีเซนต์พาวเวอร์พอยนต์ก็เริ่มขึ้น
บรรยากาศของผู้พรีเซนต์ดูแข็งแกร่ง เมื่อรวมกับรูปโฉมที่สดใส เธอก็ควบคุมการพรีเซนต์ได้อย่างง่ายดาย รูปแบบรายงานที่เรียบง่ายและชัดเจนก็ดึงดูดความสนใจของผู้ชม
อย่างไรก็ตามความสนใจของลู่โจวไม่ได้อยู่ที่พาวเวอร์พอยนต์ แต่อยู่ที่วิทยานิพนธ์ในมือ
เขาเริ่มอ่านตั้งแต่หน้าสุดท้ายของวิทยานิพนธ์
แม้ว่าข้อสรุปจะไม่มีปัญหา แต่ข้อมูลที่ระบุในหน้ากระดาษทำให้ความรู้สึกที่ไวต่อตัวเลขของเขาสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง
ฉันรู้สึกเหมือน…
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง?
จู่ๆลู่โจวก็ตื่นตัว สีหน้าเขาดูจริงจังขึ้นเรื่อยๆ…
…
บนเวที…
หลังผ่านไปสามสิบนาที รายงานก็จบลง
เคอเรลล่าดันกรอบแว่น เธอถามคำถามที่เตรียมไว้ล่วงหน้าโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน
“คุณมีคำถามอื่นอีกไหม?”
ไม่มีผู้ชมคนไหนที่ถามอะไร
คนส่วนใหญ่รวมถึงเจ้าหน้าที่ LHCb ทั้งสองที่รับผิดชอบตรวจสอบรายงานต่างกำลังจ้องมองวิทยานิพนธ์ในมือ ทุกคนกำลังตรวจสอบวิทยานิพนธ์
ตามเหยียนซินเจวี๋ยกล่าว การค้นพบเพนตาควาร์กได้รับการยืนยันแล้ว ไอ้งานตรวจสอบขั้นสุดท้ายก็แค่การสร้างผลลัพธ์การวิจัยวิทยาศาสตร์เพิ่มและมอบเงินทุนแก่ประเทศสมาชิกเพิ่ม
ข้อสรุปถูกต้องเก้าสิบเก้าจุดเก้าเปอร์เซ็นต์จะมีอะไรผิดพลาดไปได้เหรอ?
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
กระบวนการคิดของผู้พรีเซนต์ก็ถูกต้องสมบูรณ์ตั้งแต่แวบแรก มันไม่มีอะไรผิดเลย
เคอเรลล่ายิ้มมุมปาก เธอกำลังเดินลงจากเวที แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชมคนหนึ่งยกมือขึ้น
“ผมมีคำถาม”
“คุณช่วยอธิบายรายละเอียดในหน้าที่สี่บรรทัดที่สามสิบหกได้ไหม?”
………………………………..