Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1607 แผนไปเทาเซติ
อันที่จริงตอนวิจัยช่วงแรกๆ ลู่โจวเองก็เตรียมใจไว้แล้วถึงผลที่น่าจะตามมาหากการทดลองประสบความสำเร็จ
สิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์เล็กๆ คือการที่คนสนใจกันมากเกินกว่าที่เขาคาดไว้ไปหน่อย
แถมความสนใจนี้ยังไปในทางที่เขาไม่คาดคิดอีกด้วย…
ในวันที่งานแถลงข่าวสิ้นสุดลง บัญชีของลู่โจวในฟอรั่ม LSPM ก็เต็มไปด้วยข้อความส่วนตัวจากทั่วทุกมุมโลก คนเขียนข้อความส่วนใหญ่ในนั้นจะอธิบายว่าตัวเองสนใจแผนเดินทางไปเทาเซติ มีการถามแม้กระทั่งว่าตั๋วราคาเท่าไร
แน่นอนว่าพอมีเทคโนโลยีความเร็วกว่าแสง ตั๋วไปดินแดนนอกระบบสุริยะก็ไม่ใช่ตั๋วเที่ยวเดียวอีกต่อไป คนหลายคนสนใจอยากไปทริปโลกนอกระบบสุริยะสักครั้งในชีวิต
ถึงพวกเขาจะไม่พอใจกับชีวิตที่นั่น แต่เทคนิคการเดินทางด้วยการวาร์ปก็จะช่วยให้พวกเขาได้โอกาสครั้งที่สองมาโดยไม่ต้องเสียเวลาติดแหง็กอยู่ที่นั่นไปทั้งชีวิต
นอกจากคนที่สนใจจะเดินทางไปเทาเซติแล้ว ยังมีคนจำนวนมากที่ติดต่อมาเพื่อคุยเรื่องธุรกิจด้วย ในกลุ่มนั้นก็มีอีสต์เอเชียคอมมิวนิเคชั่นที่ลู่โจวเป็นคนก่อตั้งเอง แล้วก็บริษัทนวัตกรรมเทคโนโลยีอีกบางบริษัท
ไอเดียทำธุรกิจส่วนใหญ่ก็จะออกไปในทางแง่บวกเกินไปหน่อย พวกเขาเห็นศักยภาพอันใหญ่ยิ่งในการสร้าง ‘โลกใหม่’ ขึ้นมา
นอกจากนี้ยังมีคนที่ทักมาคุยเรื่องทางวิชาการด้วย
ลู่โจวสัมผัสได้อย่างดีจากคำถามในช่องแชตส่วนตัวว่าทฤษฎีของเขาได้สร้างผลกระทบที่ทำเอานักฟิสิกส์ทฤษฎีและวิศวกรรมการบินและอวกาศช็อกไปตามๆ กัน
การวาร์ปไดรฟ์ในชั่วพริบตาจะเปลี่ยนแปลงแพตเทิร์นของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศในอนาคตไปโดยสิ้นเชิง
หลังจากที่เครื่องยนต์พลาสมาเข้ามาแทนเครื่องยนต์เคมีในหน้าที่หลักของการคมนาคมโดยใช้ยานอวกาศขนาดยักษ์ วาร์ปไดรฟ์จะกลายเป็นวิธีการเดินทางข้ามดาวเคราะห์ของยุคสมัยหน้า ทำให้เทคโนโลยีขับเคลื่อนของอารยธรรมมนุษย์พัฒนาก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง
ในทางกลับกัน แม้แต่ลิฟต์อวกาศที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้นก็ถูกรัศมีของเทคโนโลยีนี้บดบังไปจนหมด…
ณ แมนชั่นแถบชานเมืองจินหลิง
เวร่านั่งประจำโต๊ะ เธออิ่มอร่อยกับอาหารเช้าดังเช่นทุกวัน เธอดูข่าวที่ฉายอยู่บนทีวีโฮโลแกรมและเรียนรู้ ‘สามัญสำนึก’ ของโลกสมัยนี้ผ่านข่าวพวกนั้น
ในขณะที่เธอกำลังจิ้มไข่ดาวชิ้นเล็กๆ เข้าปากนั้นเอง ใบหน้าที่หญิงสาวคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นมาบนจอทีวี
พอเธอเห็นเขาในหน้าจอ รอยยิ้มเรียบๆ ก็ผุดขึ้นมา เธอมองไปทางโซฟาแล้วเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วที่มีความตื่นเต้นเจืออยู่
“ศาสตราจารย์ คุณออกข่าวอีกแล้ว”
ลู่โจวนั่งเช็กอีเมลอยู่บนโซฟาโดยใช้เทอร์มินอลส่วนตัว เขาจิบกาแฟบนโต๊ะแล้วเอ่ยตอบด้วยเสียงเพลิดเพลิน
“ก็ดี ผมชินแล้ว”
ต่อให้เป็นเมื่อร้อยปีก่อน เขาก็ชินกับการเห็นตัวเองในข่าวและสัมภาษณ์แล้ว
ในฐานะที่เขาเป็นชายคนที่เริ่มเก็บตั๋วจากคนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อไปชมบ้านเก่าของเขา ลู่โจวจึงไม่แปลกใจที่ได้เห็นหน้าตัวเองไปปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง
เวร่าวางมีดกับส้อมในมือลงหลังทานเสร็จ ใบหน้าของเธอยิ้มกว้าง เธอมองลู่โจวที่นั่งอยู่ที่โซฟาแล้วถามว่า “จะว่าไปแล้ว คุณวางแผนจะออกไปตอนไหนเหรอ?”
“คุณหมายถึงมหาวิทยาลัยจินเหรอ? ผมขอลาหยุดแล้วล่ะ คงไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกสักสองสามวันนั่นแหละ” ลู่โจวคิดอยู่แป๊บหนึ่งก็พูดต่อ “เครื่องสั่นอนุภาคซีก็ต้องพัฒนาเพิ่มอีก แล้วบังเอิญผมมีไอเดียที่น่าสนใจมากๆ อยู่…”
“ฉันหมายถึงเทาเซติน่ะ” เวร่ากะพริบตาถี่ๆ เธอมองลู่โจวแล้วพูดต่อ “ตอนนี้ใช้เวลาแค่ 10 ปีในการเดินทางไปเทาเซติใช่ไหม?”
มันอาจจะไม่ใช่ 10 ปีก็ได้
“ไทม์เฟรมของช่องทางไฮเปอร์สเปซเอามาคำนวณแบบนี้ไม่ได้หรอก” ลู่โจวว่าพลางส่ายหัว “ระยะเวลาแบบเป๊ะๆ ในการเดินทางก็ขึ้นอยู่กับช่องทางที่พวกเราเลือกกับความแข็งแกร่งระหว่างพันธะแรงโน้มถ่วงระหว่างระบบสุริยะกับเทาเซติ ตามสูตรที่ผมพัฒนามาในทฤษฎีไฮเปอร์สเปซ พวกเราต้องใช้เวลาประมาณ 11.7 ปีถึงจะใช้ยานฉินหลิ่งที่ดัดแปลงแล้วในการเดินทางไปถึงได้”
อย่างไรก็ตามถ้าเขาเลือกช่องทางที่สั้นพอได้ ตัวเลขที่ว่าก็สามารถลดลงได้อย่างไม่มีขีดจำกัด มันเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่จะลดลงภายในเวลาหนึ่งปี
แต่ทฤษฎีไฮเปอร์สเปซนี่แหละที่เป็นปัญหา
ก่อนจะเปิดช่องทาง ไม่มีใครรู้ว่ามันจะใช้เวลาเท่าไรในการเดินทาง
“แต่ต่อให้ต้องใช้เวลา 11.7 ปีจริง ฉันว่ามันก็ยังดีมากๆ อยู่ดี” เวร่าว่าต่อ “ถ้าใช้วิธีแบบเดิม ต่อให้เป็นเครื่องยนต์พลาสมาที่มีความล้ำหน้ามากที่สุดยังต้องใช้เวลาเป็นแสนปีเลยนะคะ”
“ก็ถูกนะ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างให้นำมาคิดร่วมด้วย” ลู่โจวเอ่ยต่อหลังจากเว้นจังหวะไป “ก่อนอื่นเลย พวกเราต้องสร้างยานอวกาศที่มีขนาดใหญ่พอ จากนั้นก็ต้องคำนวณทรัพยากรคนหลายร้อยคน เรื่องพวกนี้ต้องทำไปทีละขั้นตอน…แต่มันไม่น่าใช้เวลามาก อย่างไรส่วนที่ยากที่สุดผมก็แก้เสร็จไปแล้ว”
ถ้าเขาแค่จะไปที่เทาเซติเพื่อปักธงประกาศว่าฉันมาถึงแล้ว หรือแค่ไปดูภาพทิวทัศน์บนดาวเคราะห์เพื่อเฉินยู่ซาน มันก็จะไม่มีความหมายอะไร
เขายังจำสัญญาดั้งเดิมของเขาได้ แต่เขาสัญญาแล้วว่าเขาจะมอบดาวเคราะห์อันอุดมสมบูรณ์ให้กับเธอ ไม่ใช่แค่ดินแดนอันไร้ซึ่งผู้คน
แต่ชีวิตมันต่างออกไป
ผู้คนจำได้
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีแค่บางอย่าง อย่างอารยธรรมเท่านั้นที่จะสามารถเล่าเรื่องราวของพวกเขาตลอดไปได้…
เวร่าแอบมองหน้าของลู่โจว ดวงตาของเธอฉายแววอิจฉา แต่เธอไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากพูดว่า “ฉันจะไปกับคุณ” เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
พระเจ้าได้มอบสมบัติล้ำค่าให้เธอแล้ว
สำหรับเธอ การได้พบกับเขาอีกรอบหลังผ่านไปหนึ่งศตวรรษก็ถือว่าเป็นโชคดีมากแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญอีกต่อไป
อีกอย่าง ช่วงเวลาหลังจากนี้ก็เป็นของเธอแล้ว
เธอรอในความฝันมาหนึ่งศตวรรษแล้ว เธอจึงไม่รีบอะไร…
ข่าวถัดไปกำลังจะฉายบนจอโฮโลแกรมแล้ว
เสี่ยวไอในชุดผ้ากันเปื้อนเดินกระโดดเหยงๆ ออกมาจากห้องครัว
“เจ้านาย มีแขกมารอข้างนอกนะ (๑•̀ᄇ•́)و✧”
ไม่ต้องถามอะไรให้มากความ ลู่โจวเดาได้เรียบร้อยว่าใครคือแขกของเขา เลยพูดออกมาว่า
“เข้าใจแล้ว ให้เขาเข้ามาได้เลย”
เสี่ยวไอถาม “หืม? รู้เหรอคะว่าเขาเป็นใคร? (゚Д゚)”
ลู่โจวเอ่ย “นอกจากผู้อำนวยการคนนั้นแล้วจะเป็นใครไปได้อีกล่ะ?”
เสี่ยวไอถาม “แล้วเจ้านายรู้ได้ไงอะ…(•̀∀•́)”
ลู่โจววางจอโฮโลแกรมในมือลง เขาเอ่ยพลางถอนหายใจ
“นี่ อย่าปล่อยให้แขกรอข้างนอกนานเกินไปสิ ให้เขาเข้ามาเร็วๆ ”
………………………………………………………..