Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 162 เอ็ดเวิร์ด วิตเตน
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 162 เอ็ดเวิร์ด วิตเตน
เหยียนซินเจวี๋ยมองลู่โจวแล้วกล่าวอย่างตื่นเต้น “เหลือเชื่อ นายรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาคำนวณพลาด?”
เขาคิดว่าพวกเขาคงแพ้แล้ว แต่วินาทีต่อมาอีกฝ่ายดันพลาด
“บางทีผมอาจอ่อนไหวต่อตัวเลขมั้ง? ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนี้ไงเหมือนกัน ผมแค่รู้สึกว่าวิทยานิพนธ์มีจุดผิด ผมเลยอ่านดูแล้วพบจุดผิดพลาด” ลู่โจวกล่าว เขายิ้ม “ผมว่าพวกเขาคงรีบ ถ้าพวกเขาตรวจสอบกราฟซ้ำ พวกเขาคงไม่พลาดแบบนี้…การตรวจสอบของเราเป็นวันมะรืนนี้ใช่ไหม?”
เหยียนซินเจวี๋ยกล่าว “ใช่ ใช่วันมะรืน ฉันแนะนำให้นายพักสักหน่อย”
ลู่โจวส่ายหน้า “ผมจะพักหลังพรีเซนต์เสร็จ เราจะแพ้ให้มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ไม่ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะตรวจสอบซ้ำอีกที”
ศาสตราจารย์บรูนอสจะหาจุดผิดพลาดของพวกเขาแน่นน ดังนั้นลู่โจวจึงต้องทำให้มั่นใจว่าวิทยานิพนธ์ไร้ที่ติ
ลู่โจวไม่อยากแพ้หน้าเส้นชัย
ขณะที่เขาเก็บข้าวของและกำลังออกจากหอประชุม จู่ๆ ก็มีคนเรียกชื่อเขา
“ลู่โจว!”
เมื่อเขาหันหลังกลับไปดู เขาก็ช็อก
“หลัวเหวินเซวียน?”
หลิวเหวินเซวียนเข้ามากอดลู่โจวแล้วยิ้ม “บังเอิญดีนะ นายก็มานี่เหมือนกัน โลกกลมมาก”
“นั่นสิครับ โลกกลมมาก…ท่านนี้คือ?”
ลู่โจวมองดูชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลัวเหวินเซวียน เขาคิดว่าผู้อาวุโสท่านนี้ดูคุ้นๆ
หลัวเหวินเซวียนยิ้ม “ฉันจะแนะนำให้นายรู้จัก ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของฉัน…”
ชายชราเอ่ยขัดจังหวะ “เอ็ดเวิร์ด วิตเตน”
เขายื่นมือแล้วยิ้ม
เอ็ดเวิร์ด วิตเตน!
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ลู่โจวก็ช็อก
เขารู้ว่าหลัวเหวินเซวียนกำลังศึกษาฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์ แต่เขาไม่รู้เลยว่าหลัวเหวินเซวียนจะมีคนดังขนาดนี้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา!
ผู้อาวุโสท่านนี้สุดยอดแค่ไหน?
ในช่วงปี 1980 ทฤษฎีเงื่อนเป็นที่นิยมมาก มีค่าคงที่มากมายที่ถูกคิดค้นขึ้นมา หนึ่งในค่าคงที่ที่มีชื่อเสียงก็คือ Jones Polynomial
เมื่อนักคณิตศาสตร์ยังคงยุ่งอยู่กับการค้นหาแนวคิดใหม่นี้ วิตเตนก็ปรากฏออกมาแล้วบอกทุกคนว่ามันมีรูปแบบการไหลสามแบบ และบางครั้งการคูณที่แตกต่างกันก็สามารถสร้างค่าคงที่ Jones Polynomial ได้
เขาทำให้ปัญหาง่ายขึ้น แต่มันไม่ใช่แค่นั้น
เขายังได้ทำวิธีทอพอโลยีแบบการไหลของแรงเฉือนซึ่งทำให้ทั้งโลกช็อก
เรื่องทำนองเดียวกันก็เกิดขึ้นกับทฤษฎีสตริง
นับตั้งแต่ปี 1960 ทฤษฎีสตริงได้รับความนิยมมากในสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ทุกคนฝันว่าจะบรรลุความฝันของไอน์สไตน์ ดังนั้น ‘ทฤษฎีซูเปอร์สตริง’ เวอร์ชันที่แตกต่างกันจำนวนมากจึงถือกำเนิดขึ้นมา
จากนั้นในปี 1990 วิตเตนก็ปรากฏตัวอีกครั้งแล้วเสนอทฤษฎี M ในตำนาน เขาพิสูจน์ว่าทฤษฎีซูเปอร์สตริงเวอร์ชันที่แตกต่างกันมากมายอันที่จริงถูกจำกัดอยู่ในทฤษฎี M ของเขา
พูดอีกแง่หนึ่ง คนๆ นี้ก็ทำเหมือนกับที่ลู่โจวทำเมื่อครึ่งปีที่แล้ว
ตอนแรกข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝดมีวิทยานิพนธ์ให้พูดถึงอย่างน้อยหนึ่งร้อยยี่สิบวิทยานิพนธ์ แต่ลู่โจวนำเลขสองร้อยสี่สิบหกมาพูดโดยตรง มันจึงทำให้คนอื่นๆ จนใจ
อย่างไรก็ตามน่าเสียดาย แม้ว่าคุณวิตเตนจะเป็นนักฟิสิกส์ แต่เขาก็ได้รับแค่เหรียญฟิลด์ส
ท้ายที่สุดแล้วนักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีสมัยใหม่ก็ยังคงดิ้นรนกันทดสอบแบบจำลองมาตรฐาน แม้แต่โลกสามมิติยังไม่เข้าใจอย่างเต็มที่ สตริงหนึ่งมิติก็ยังเป็นปริศนา
เขาจะต้องรอไปอีกหลายร้อยปีกว่าทฤษฎีของเขาจะได้รับการพิสูจน์ จนถึงตอนนั้นเขาถึงจะได้รับรางวัลโนเบล
ลู่โจวจับมือวิตเตนแล้วกล่าว “ยินดีที่รู้จักครับ!”
วิตเตนยิ้ม “ยินดีที่รู้จักเช่นกัน เพื่อนฉันก็เล่าเรื่องที่เธอพรีเซนต์ที่พรินซ์ตันให้ฉันฟัง เสียดายฉันไม่ได้ไป”
ทั้งสองก็เริ่มคุยกัน และพวกเขาก็เข้าเรื่องกันอย่างรวดเร็ว
“เธอสนใจฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์เหรอ?”
ลู่โจวพยักหน้า “ใช่ครับ ฟิสิกส์เชิงทฤษฎีนั้นน่าทึ่งมาก”
วิตเตนหยิบนามบัตรออกมา “ดูเหมือนเราจะมีความสนใจเหมือนกัน ถ้าเธอสนใจทำวิจัยที่พรินซ์ตัน เธอก็พิจารณามาเป็นศิษย์ปริญญาเอกของฉันได้”
ลู่โจวรับนามบัตรจากชายชราแล้วกล่าวอย่างสุภาพ “ผมจะนำข้อเสนอของคุณไปพิจารณา”
แม้ว่าลู่โจวจะอยากคุยกับวิตเตนอีกสักหน่อย แต่วิตเตนมีเรื่องต้องทำ เขาจึงขอตัวไปก่อน
หลัวเหวินเซวียนผ่อนคลายมากขึ้น เขาตบบ่าลู่โจวแล้วกล่าว “คืนนี้ไปดื่มกันหน่อยไหม?”
ลู่โจวตอบ “คืนนี้ผมไปไม่ได้ ผมยังต้องไปจัดการข้อมูลบางอย่าง วันอื่นได้ไหม? ผมจะเลี้ยงเหล้าคุณเอง”
แอลกอฮอล์จะทำให้ความสนใจเขาว้าวุ่น ในตอนนี้ลู่โจวต้องการจิตใจที่แจ่มใส
หลัวเหวินเซวียนตบบ่าลู่โจวแล้วกล่าว “ตกลง ฉันจะรอดื่มกับนาย!” จากนั้นเขาก็จากไป
เมื่อลู่โจวมองกลับไปที่ห้องประชุม เขาก็เห็นว่าศาสตราจารย์หรูเสินเจียนกับเหยียนซินเจวี๋ยหายไปแล้ว
ทั้งสองอาจกลับไปโรงแรมแล้ว เขาจึงหันหลังกลับแล้วเดินไปทางบันได
ขณะที่เขากำลังออกจากอาคาร ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นผู้พรีเซนต์สาวกำลังยืนอยู่ที่ทางออก เธอกอดอกและมีบรรยากาศแปลกๆ
ลู่โจวจำหน้าชาวต่างชาติได้ไม่แม่นนัก
แต่ครั้งนี้เขาจำเธอได้ทันที
เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นเธอและเดินไปทางเดินอีกด้านอย่างเงียบๆ
เขากลัว
เขาสัมผัสถึงความกระตือรือร้นที่เกินขอบเขตของชาวต่างชาติในพรินซ์ตันแล้ว และเขาก็ไม่อยากสัมผัสกับมันอีกครั้ง
เหตุผลมันเรียบง่ายมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะความหล่อเหลาของเขา เขาก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออกแล้วที่ทำให้ผู้หญิงมารอเขาอยู่ตรงนี้
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่อาจหลบหนีไปได้ง่ายขนาดนั้น
พอเขาหันหลังกลับไป เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง
ลู่โจวพยายามเดินให้เร็วขึ้น แต่เธอก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และเธอก็ขวางทางเขาไว้
เธอเร็วมาก!
เขาเตรียมใจตัวเอง เพราะเขาไม่รู้ว่าจะโดนอะไร
ทั้งสองเงียบกันอยู่พักหนึ่ง
ลู่โจวมองเคอเรลล่าแล้วถามเธอเงียบๆ “ขอโทษนะ คุณต้องการเหรอ?”
เคอเรลล่ากอดอกจ้องมองลู่โจว “สนุกไหมที่ทำให้ผู้หญิงอับอายบนเวที?”
ลู่โจวอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็จ้องมองเธอแล้วถาม “ผมแค่ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาด มันเกี่ยวข้องอะไรกับเพศของคุณ?”
อะไรกัน?
ฉันคิดว่าเธอจะทำอย่างอื่นเสียอีก
เมื่อเคอเรลล่ามองดูทัศนคติไม่แยแสของลู่โจว เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง
เธอสูดหายใจเขาลึกๆพลางถลึงตามองลู่โจว จากนั้นเธอก็กล่าว “คุณพรีเซนต์วันมะรืนใช่ไหม? ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอ”
ลู่โจวยิ้ม “ครับ ผมไม่รู้ว่าคุณตั้งหน้าตั้งตารออะไร แต่ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
……………………………….